Skip to content

King of Gods 1008

King Of Gods

บทที่ 1008 ร่างแยกวิญญาณ

จากการคาดเดาของจ้าวเฟิง วิญญาณที่แยกตัวออกมา ในระดับหนึ่งแล้วก็คล้ายเป็นร่างแยกของจ้าวเฟิง

ร่างแยกของเซียนทั่วๆ ไปจะมีพลังมากกว่าสามส่วนของร่างจริง ขึ้นอยู่กับระดับขั้นของเคล็ดวิชาแบ่งร่าง

จ้าวเฟิงไม่รู้ว่าในยามที่วิญญาณของเขาแบ่งร่างจนสำเร็จ จะมีกำลังรบเป็นอย่างไร

เมื่อเตรียมทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้ว จ้าวเฟิงจึงโคจร ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ดำดิ่งลงไปในโลกวิญญาณ

นี่คือวิชาวิญญาณที่อันตรายอย่างยิ่งเล่มหนึ่ง วิญญาณของจ้าวเฟิงสงบนิ่ง ค่อยๆ เข้าไปเป็นลำดับ

สามวันต่อมา!

วิญญาณของจ้าวเฟิงรู้สึกเจ็บปวด

กายวิญญาณอัสนีของเขาขยายออกไปเล็กน้อย ขนาดของกายวิญญาณเหนือกว่าร่างกายจ้าวเฟิง จึงเผยออกมาภายนอก และบนกายวิญญาณอัสนีก็ยังมีสายฟ้าหลายเส้นปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว

หลายวันต่อมา กายวิญญาณของจ้าวเฟิงขยายออกไม่หยุด จนปกปิดร่างกายของเขาเอาไว้จนมิด

ภายในมนตราอากาศ จ้าวเฟิงที่มีรูปร่างสีม่วง จับตัวรวมกันอย่างถึงที่สุด ตราอัสนีเทวะนับไม่ถ้วนหมุนวนภายใน นี่ก็คือวิญญาณของจ้าวเฟิงที่เกาะกลุ่มกันจนปกคลุมกายเนื้อของเขาไป

หากว่าคนอื่นเห็นวิญญาณของจ้าวเฟิงในตอนนี้ จะต้องตื่นตกใจเป็นแน่

กายวิญญาณของจ้าวเฟิงเสมือนกลายร่างเป็นสิ่งประหลาด เป็นรูปเป็นร่างมากกว่าขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง แถมยังราวกับมีชีวิต ในร่างยังมีพลังสายฟ้าอีกด้วย

ทุกคนต่างรู้กัน หลังจากแตะขั้นจักรพรรดิไปแล้ว คิดจะสังหารอีกฝ่ายก็ต้องสังหารให้หมดจดยันวิญญาณ

แต่วิญญาณของจ้าวเฟิงในตอนนี้ ต่อให้เป็นขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นก็ยังไม่สามารถจะสังหารเขาได้ อย่างมากก็ทำได้เพียงกักขังดวงวิญญาณเอาไว้ แล้วทำลายลงไปช้าๆ จนสูญสลายไป

เวลาค่อยๆ เคลื่อนคล้อยไป

การฝึกฝนขั้นแรกของ ‘วิชาแยกวิญญาณ’ จ้าวเฟิงฝึกฝนได้เชื่องช้าอย่างยิ่ง เขาเกรงว่าหากลงมือรีบร้อนเกินไปจนทำให้ดวงตาเทพเจ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงจะยุ่งยากเอา

สตินึกคิดทั้งหมดของจ้าวเฟิงหยุดอยู่บนวิญญาณ สังเกตทุกการเปลี่ยนแปลงของกายวิญญาณ

ขอแค่มีภัยอันตรายที่อยู่เหนือการคาดเดา จ้าวเฟิงอาจจะหยุดการฝึกฝน ‘วิชาแยกวิญญาณ’

ในตอนนี้ กายวิญญาณของจ้าวเฟิงขยายออกจนเปลี่ยนรูปร่าง มองไม่เห็นรูปร่างเดิม เสมือนเป็นปีศาจชั่วร้าย

แซ่ด! ในวิญญาณ ตราอัสนีเทวะเต้นระเร่าอย่างบ้าคลั่ง จากจุดนี้ทำให้มองออกได้ว่าพลังวิญญาณของจ้าวเฟิงกำลังขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงของวิญญาณก็ส่งผลต่อความคิดจิตใจของจ้าวเฟิงตลอดเวลา

“ก้าวหนึ่งที่สำคัญ!”

จ้าวเฟิงตึงเครียด ไม่กล้าเลินเล่อแม้แต่น้อย

วิ้ง แซ่ด!

ใจกลางกายวิญญาณสีม่วงหม่นของจ้าวเฟิง ปรากฏพื้นที่สีม่วงอ่อนจาง เมื่อตราสายฟ้าวาบผ่านบริเวณนี้ไปจะชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น เสมือนสิ่งมีชีวิตสายฟ้าที่เป็นรูปธรรม

ความเจ็บปวดแทบทนไม่ไหวเกิดขึ้นในจิตและวิญญาณของจ้าวเฟิง รูปลักษณ์ของกายวิญญาณบิดเบี้ยวจนน่ากลัวเหมือนภูติผีดุร้าย

ในเวลานี้เอง วิญญาณของจ้าวเฟิงเริ่มแบ่งตัวออกมา

พื้นที่สีม่วงอ่อนเส้นนั้นก็คือจุดที่เกิดการแบ่งแยก

วิญญาณเป็นรากฐานของทุกสรรพสิ่ง ทำให้พอจะคาดเดาความเจ็บปวดจากการแบ่งจากหนึ่งเป็นสองได้

จ้าวเฟิงโคจร ‘วิชาเทพคืนวิญญาณ’ และ ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ รักษาและฟื้นฟูทั้งหมดอย่างรวดเร็วคลายอาการเจ็บปวดของวิญญาณ

นี่ก็เป็นสิ่งที่จ้าวเฟิงเพิ่งจะค้นพบ เมื่อรวมวิชาทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ในการรักษาจะน่าตื่นตะลึงอย่างมาก

แซ่ด แซ่ด!

ใจกลางกายวิญญาณของจ้าวเฟิง พื้นที่สีค่อนข้างอ่อนบริเวณนั้นขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ตราอัสนีเทวะจำนวนมากเหมือนจะทะลักออกมา

เมื่อเป็นแบบนั้น ในทุกช่วงระยะหนึ่ง จ้าวเฟิงจะโคจร ‘วิชาแยกวิญญาณ’ เชื่อมดวงวิญญาณของเขาทั้งสองฝั่ง หลังจากนั้นจึงโคจร ‘วิชาเทพคืนวิญญาณ’ และ ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ รีบร้อนทำการรักษาฟื้นฟู

สลับสับเปลี่ยนเช่นนี้จนผ่านไปหนึ่งเดือน

จ้าวเฟิงยังอยู่ในขั้นตอนที่วิญญาณแบ่งร่าง

เวลานี้เขาคุ้นชินกับความเจ็บปวดจากการแบ่งวิญญาณแล้ว ดวงตาเทพเจ้าก็เชื่อฟังนัก ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร

ในมนตราอากาศ จะสามารถมองเห็นได้

วิญญาณของจ้าวเฟิงเกือบแบ่งจากหนึ่งออกเป็นสอง!

ใจกลางของดวงวิญญาณทั้งสอง ยังมีกายเนื้อวิญญาณและตราอัสนีเทวะจำนวนมากเชื่อมโยงกัน

บริเวณที่วิญญาณแบ่งร่าง วิญญาณสีม่วงหม่นราวกับมีชีวิตค่อยๆ กระดิกตัว นี่คือการโคจร ‘วิชาเทพคืนวิญญาณ’ เพื่อทำการรักษาของจ้าวเฟิง

วิญญาณที่แบ่งออกเป็นสองร่าง แต่ละร่างมีใบหน้าของจ้าวเฟิงอยู่กึ่งหนึ่ง มองดูไปแล้วเหมือนกันอย่างยิ่ง

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่มีก็คือดวงตา

วิญญาณฝั่งขวาที่แยกออกมาไม่มีดวงตาเทพเจ้า

“ช่วงอันตรายผ่านไปแล้ว!”

จ้าวเฟิงโล่งอกได้ในที่สุด วิญญาณที่แยกออกมาทั้งสองร่างต่างก็มีใบหน้ากึ่งหนึ่งของจ้าวเฟิง แสดงอารมณ์แบบเดียวกันออกมา

ในตอนที่วิญญาณใกล้แบ่งออกเป็นสองส่วน แต่มีสตินึกคิดของจ้าวเฟิง ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ขั้นแรกก็ประสบความสำเร็จไปมากกว่าครึ่งแล้ว

“ดูเหมือนดวงวิญญาณที่แยกออกมาก็เป็นกายวิญญาณอัสนี!”

จ้าวเฟิงตื่นเต้นเล็กน้อย

ประโยชน์ของกายวิญญาณอัสนีไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย

จุดที่ง่ายดายที่สุด จ้าวเฟิงไม่เพียงแต่สามารถใช้ ‘วิชาเทพคืนวิญญาณ’ ฟื้นฟูและรักษาอาการบาดเจ็บ ยังรักษาดวงวิญญาณผ่านการดูดซึมพลังสายฟ้าได้ด้วย นี่คือสิ่งที่วิญญาณธรรมดาไม่สามารถมีได้

“ถัดจากนั้น แค่ต้องแยกวิญญาณสองร่างออกจากกันอย่างสิ้นเชิง”

จ้าวเฟิงทำทุกขั้นขั้นตอนอย่างช้าๆ เพื่อความปลอดภัย

เวลาเดียวกัน เขาก็พยายามตรวจตราขั้นตอนเหล่านี้ได้ ทำความเข้าใจในคุณลักษณะของวิญญาณอย่างละเอียด ยังมีจุดสำคัญในเรื่องต่างๆ ของวิญญาณที่แบ่งออกมา เพื่อจะได้เตรียมตัวสำหรับการฝึกฝน ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ขั้นที่สองในภายหลัง

ในขั้นที่สองของ ‘วิชาแยกวิญญาณ’ เขียนไว้เพียงครึ่งหนึ่ง ทั้งหมดต่อจากนั้นจ้าวเฟิงก็ต้องพึ่งพาตนเอง

สิบวันต่อมา กายวิญญาณทั้งสองของจ้าวเฟิงแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง

กายวิญญาณทั้งสองร่างต่างมีใบหน้าครึ่งหนึ่งของจ้าวเฟิง ร่างกายอีกครึ่งหนึ่งยังมีแขนขาด้วย!

กายวิญญาณแบบนี้ดูน่าเกลียดไปแล้ว

“น่าจะสามารถรักษาได้อย่างช้าๆ ฟื้นฟูกลับไปยังสภาพเดิม!”

ในใจจ้าวเฟิงครุ่นคิด โคจร ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ และ ‘วิชาเทพคืนวิญญาณ’

ภายในมนตราอากาศ

วิญญาณแบ่งครึ่งสองร่างลอยอยู่กลางอากาศ ประจันหน้ากันจากไกลๆ

อีกฟากหนึ่งของวิญญาณที่แบ่งครึ่งเริ่มขยับ และค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น

สิ่งที่งอกออกมาเป็นอย่างแรกคือร่างกาย กะโหลกศีรษะ หลังจากนั้นคือมือ เท้า แต่ก็ยังเป็นเพียงโครงร่างคร่าวๆ

สิบวันต่อมา

พวกมือ เท้า ร่างกายที่งอกขึ้นในภายหลังเหล่านี้ ก็เป็นรูปร่างเสียที

กายวิญญาณสองร่าง ในที่สุดก็ไม่ใช่เพียงครึ่งร่างเท่านั้น กลายเป็นร่างกายมนุษย์ที่สมบูรณ์

ฟู่! กายวิญญาณม่วงหม่นสองร่างลอยลงมา

ท่าทางของพวกเขา เหมือนกับร่างหลักของจ้าวเฟิงทุกประการ

หนึ่งในกายวิญญาณที่มีดวงตาซ้ายสีทองกลับเข้ามารวมในร่างของจ้าวเฟิง

“ก่อนอื่น ใช้รากบัวหิมะหลอมกายาช่วยเจ้าสร้างร่างกายชั่วคราวก่อน!”

จ้าวเฟิงพึมพำกับตนเอง

สภาพของเขาในตอนนี้แปลกประหลาดยิ่ง ถึงแม้ว่ากายวิญญาณสองร่างจะแยกออกจากกัน แต่ก็ต่างมีสตินึกคิดของจ้าวเฟิง

สิ่งที่จ้าวเฟิงรู้สึกคือ ตอนนี้เขามีสองชีวิต ต่อให้กายวิญญาณที่มีดวงตาซ้ายสูญสลาย เขาก็จะไม่ตายไป แต่อยู่ได้ด้วยกายวิญญาณอีกร่าง

แน่นอนว่าจ้าวเฟิงยังคงครอบครองวิญญาณที่มีดวงตาเทพเจ้าเป็นร่างหลักของตนเอง

ร่างกายที่เกิดจากรากบัวหิมะหลอมกายาร่างหนึ่งสำเร็จอย่างรวดเร็ว กายวิญญาณที่แบ่งแยกออกมาเข้าไปในร่างกายนี้

“แบ่งร่างออกมาแบบนี้ ดูมีประโยชน์กว่าเคล็ดวิชาแบ่งร่างของเซียนมาก!”

จ้าวเฟิงตื่นเต้นเล็กน้อย

เซียนต่างก็ใช้กายศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมสร้างร่างแยกออกมา จากนั้นตีตราพลังวิญญาณลงไปในนั้น

ถึงแม้ว่าร่างแยกจะฟังคำสั่งร่างหลัก แต่ระหว่างร่างทั้งสองก็มีความคิดเป็นของตนเอง

หากร่างแยกแข็งแกร่งเกินไป เมื่อร่างหลักเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ร่างแยกอาจจะอยู่เหนือการควบคุม

ในราชวงศ์ดินแดนทวีปก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ร่างแยกของเซียนผู้หนึ่งหลุดจากการควบคุม หลายพันปีถัดมาจึงย้อนกลับมาสังหารร่างหลัก และเข้าแทนที่

แต่ร่างแยกในตอนนี้ของจ้าวเฟิง เป็นวิญญาณและความคิดของเขาทั้งหมด นับได้ว่าเป็นตัวเขาเอง สถานการณ์เฉพาะเช่นนี้ เขาก็พูดได้ไม่ชัดเจนเหมือนกัน

จ้าวเฟิงทำได้เพียงยืนยันว่า กายวิญญาณที่สร้างขึ้นจาก ‘วิชาแยกวิญญาณ’ จะไม่มีวันทรยศเขา

“จากนี้ไป เจ้าจงมีนามว่าจ้าวหวาง!”

จ้าวเฟิงตั้งชื่อให้กับร่างแยกของเขา เพราะในภายหน้าจ้าวเฟิงสามารถเอาเนตรมรณะหลอมรวมเข้าไปในร่างนั้น

ระหว่างจ้าวเฟิงและจ้าวหวาง ใช้ประสาทสัมผัสตาร่วมกัน ทั้งหมดที่จ้าวหวางเห็น จ้าวเฟิงก็จะเห็นด้วย

หนำซ้ำการสื่อสารระหว่างจ้าวเฟิงและจ้าวหวางไม่ต้องส่งเนื้อความด้วยซ้ำไป เพราะความคิดของจ้าวเฟิงก็คือความคิดของจ้าวหวางนั่นเอง

จู่ๆ จ้าวเฟิงก็รู้สึกได้ว่า ‘ร่างแยก’ ที่เกิดจาก ‘วิชาแยกวิญญาณ’ อยู่เหนือกว่าที่คาดหวังเอาไว้จริงๆ

“แต่ก็ด้อยกว่าเคล็ดวิชาแบ่งร่างของเซียนอยู่เล็กน้อย!”

จ้าวเฟิงมองทั้งหมดด้วยตรรกะเหตุผล

หลังจากแบ่งวิญญาณแล้ว พลังวิญญาณที่ใกล้จะทะลวงขั้นเซียนชั้นต้นของจ้าวเฟิง เกือบถึงขั้นปฐมเซียนแล้ว

แต่พลังวิญญาณของจ้าวหวางอยู่เพียงขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงขั้นแรกเริ่ม ร่างกายที่เกิดจากรากบัวหิมะหลอมกายา มีระดับขั้นชีวิตของขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงสุดยอดอยู่แล้ว

พูดได้ว่า พลังยามนี้ของจ้าวเฟิงลดลงไป แต่พลังของร่างแยกอย่าง ‘จ้าวหวาง’ ยังอ่อนแอเกินกว่าจะลงไปต่อสู้ในตอนนี้

แต่หลังจากที่เซียนแบ่งร่างออกไปแล้ว กายศักดิ์สิทธิจะได้รับผลกระทบไปด้วยพอควร แต่พลังวิญญาณไม่ลดลงไป ดังนั้นกำลังรบที่ร่างแยกมีจึงแข็งแกร่งพอจะส่งลงไปต่อสู้ได้

“จะปลาหรืออุ้งตีนหมี ข้าคงต้องเลือกสักอย่างหนึ่ง!”

จ้าวเฟิงไม่มีท่าทีผิดหวังแม้แต่น้อย

ร่างแยกที่เกิดขึ้นจากเซียน ระยะในการเติบโตมีจำกัด นอกเสียจากร่างแยกหลุดพ้นจากการควบคุมของร่างหลัก ร่างแยกจะไม่อาจอยู่เหนือร่างหลักได้ตลอดชีวิต

ทว่าจ้าวหวางที่เป็นร่างแยก ด้วยประสบการณ์การฝึกฝนในสองชีวิตของจ้าวเฟิง บวกกับเคล็ดวิชาและสมบัติจำนวนมาก สามารถจะฝึกฝนให้กำลังรบเทียบเท่าร่างหลัก หรือกระทั่งยอดฝีมือชั้นเลิศที่อยู่เหนือร่างหลัก และจะไม่ทรยศจ้าวเฟิง

เมื่อเป็นแบบนี้ จ้าวเฟิงจึงไม่ได้ศึกษาร่างแยก ‘จ้าวหวาง’ มากนัก ทั้งสองต่างคนก็ต่างเข้าสู่สภาวะฝึกตน

ถึงแม้ว่าการแบ่งวิญญาณจะสำเร็จ แต่อาการบาดเจ็บของวิญญาณสองร่างยังไม่ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์

อาการบาดเจ็บของดวงวิญญาณจะต้องดูแลรักษาอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

“หืม! นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

จ้าวเฟิงอุทาน พลันลืมตาขึ้น

“หรือว่าจะเป็น?” จ้าวเฟิงตะลึง พลันมองไปยังจ้าวหวาง เข้าใจในที่สุด

เพราะสายตาและจิตสำนึกของคนทั้งสองมีร่วมกัน ความเข้าใจที่จ้าวหวางได้มาจากการฝึกฝน ก็จะส่งมาที่ร่างของจ้าวเฟิงเช่นกัน

แน่นอนว่า จ้าวเฟิงจะได้เพียงแค่ประสบการณ์และความเข้าใจในการฝึกตนเท่านั้น พลังไม่สามารถจะแบ่งกันได้

ไม่เช่นนั้นแล้ว จ้าวเฟิงก็สามารถทำให้พลังของจ้าวหวางเลื่อนขึ้นไปอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิทันที

“ในจุดนี้เหมือนยามที่โคจร ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ แล้ว!”

หลังจากโคจร ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ จ้าวเฟิงสามารถใช้จิตใจหนึ่งทำหลายเรื่องในเวลาเดียวกันได้

แต่ในตอนนี้ จ้าวเฟิงคล้ายแบ่งหนึ่งจิตใจทำสองอย่างพร้อมกัน แต่กลับทำเรื่องเดียวกัน เช่นนี้แล้วจะทำให้สัดส่วนที่ได้รับเพิ่มมากขึ้น

“ผ่านไปช่วงหนึ่งก่อน ค่อยเอาเนตรมรณะหลอมรวมเข้าไป!”

จ้าวเฟิงวางแผนไว้

ยิ่งขอบเขตวิญญาณของผู้ช่วงชิงกับเนตรมรณะใกล้กันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งหลอมรวมได้ง่ายมากเท่านั้น แต่แก่นแท้วิญญาณของจ้าวเฟิงและจ้าวหวางเหมือนกันจนไร้ข้อแตกต่าง ไม่จำเป็นต้องขัดเกลาแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ต่อให้ขอบเขตพลังของทั้งสองแตกต่างกันมาก ก็ยังสามารถหลอมรวมเข้าไปได้ทันที

หลังจากที่หลอมรวมเนตรมรณะในขอบเขตพลังปฐมเซียนแล้ว มีแต่จ้าวหวางที่อยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำขั้นสุดยอด ที่แทบจะไม่เจออันตรายถึงชีวิตเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version