Skip to content

King of Gods 1213

King Of Gods

บทที่ 1213 เนตรชีวิต

“สังหารทุกคนที่นี่ให้หมด!” ผู้นำของกลุ่มเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งเฉย

กลุ่มนี้มีกันทั้งหมดหกคน คนที่เป็นผู้นำกลุ่มเป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสาม ส่วนคนที่เหลือเป็นเทพแท้จริงขั้นหนึ่ง

จ้าวเฟิงกวาดตามองขั้วอำนาจที่ตนเดินทางมาถึง ในตอนนี้เหลือเทพแท้จริงไม่กี่คน ครึ่งเทพขอบเขตเทวาเร้นลับจำนวนน้อยนิด ทั้งยังมีพวกพิการอ่อนแอและคนชราที่ขอบเขตพลังต่ำกว่าเทวาเร้นลับ

“ดูแล้วนี่คงไม่ใช่การรบของขั้วอำนาจสี่ดาวธรรมดาเสียแล้ว คงจะเป็นศึกของขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง!”

จ้าวเฟิงคาดเดาในใจ

ศึกของขั้วอำนาจสี่ดาวธรรมดา คนกลุ่มเดียวจะมีผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงจำนวนมากเช่นนั้นได้อย่างไร

หนำซ้ำขนาดของศึกที่อยู่ไกลๆ นั้นสะเทือนเลื่อนลั่น น่าจะมีขั้นเทพแท้จริงอย่างน้อยๆ จำนวนยี่สิบสามสิบคนเข้าร่วมรบด้วย

“หากเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งแล้วละก็ ที่นี่คงจะเป็นพื้นที่ของ ‘สำนักรากฐานเทพ’!”

จ้าวเฟิงลงมือสังหารสามพี่น้องเจ้าเกาะเทียนอวี่ เขาจึงได้รับแผนที่ใหม่มา ทำให้เข้าใจในขั้วอำนาจรอบๆ อ่าวทะเลคราม

ในเมื่อเป็นการรบของขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง แปลว่าขั้วอำนาจสี่ดาวในสังกัดของพวกเขาจำเป็นต้องเข้าร่วมศึกด้วย

ขั้วอำนาจสี่ดาวที่จ้าวเฟิงเดินทางมาถึงนี้ ก็คือหนึ่งในสมาชิกร่วมรบของขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งที่น่าหวาดกลัว ผู้แข็งแกร่งที่นี่น่าจะเดินทางไปถึงสนามรบกันหมดแล้ว

พรึ่บ! ในมือผู้นำกลุ่มปรากฏเข็มทิศสำริดชิ้นหนึ่งขึ้น

ผู้นำทาบมือหนึ่งลงไป เกิดม่านแสงสีเหลืองโปร่งใสชั้นหนึ่งจากในเข็มทิศ พุ่งทะลวงขึ้นฟ้า

ในตอนที่ม่านแสงสีเหลืองไปจนถึงระดับสูงสุด ก็พลันแตกกระจายไปทั่วบริเวณ จนสุดท้ายกลายเป็นเกราะแสงสีเหลืองอ่อนปกคลุมขั้วอำนาจนี้เอาไว้ด้านใน

ฟิ้ว! จากนั้นทั้งกลุ่มพุ่งเข้าไปขั้วอำนาจแห่งนี้ ก่อนจะเริ่มลงมือสังหาร

“บุก สังหารเจ้าสารเลวพวกนี้!”

สมาชิกที่เหลืออยู่ในขั้วอำนาจแห่งนี้พุ่งออกมา คนทั้งหมดมีท่าทีไม่กลัวตายแม้แต่น้อย แต่พลังของพวกเขาอ่อนแอจนเกินไป ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกลุ่มนี้ บุกเข้าไปก็เป็นการรนหาที่ตายเท่านั้น

“เฮ้อ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก!”

จ้าวเฟิงถอนหายใจ ถอยไปอย่างเงียบเชียบ

เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นถึงเขาอยากจะยุ่งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง ในนั้นยังมีเทพโบราณเฝ้าดูแลด้วย

“หืม? ที่นั่นยังมีครึ่งเทพอยู่คนหนึ่ง!”

เทพแท้จริงขั้นหนึ่งในกลุ่มนั้นยิ้มลิงโลด ขณะตรงดิ่งไปหาจ้าวเฟิง

การสู้รบของขั้วอำนาจทั้งสองนับผลงานการรบตามหัวคน สำหรับเทพแท้จริงขั้นที่หนึ่ง ครึ่งเทพเป็นเหยื่อที่ดีที่สุด

“ข้าเพียงบังเอิญใช้ค่ายกลส่งข้ามมาที่นี่พอดี ไม่ใช่คนของขั้วอำนาจแห่งนี้!”

จ้าวเฟิงรีบอธิบายกับเทพแท้จริงขั้นหนึ่งผู้นี้

“ฮ่าๆ อย่าคิดจะหลอกข้า เจ้าเป็นคนของ ‘สำนักรากฐานเทพ’ แน่!”

เทพแท้จริงขั้นหนึ่งอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

จ้าวเฟิงปรากฏตัวขึ้นแถวค่ายกลส่งข้ามจริง อีกอย่างกลิ่นอายและลักษณะพิเศษบนร่างเขาก็ไม่เหมือนคนของขั้วอำนาจศัตรู

แต่ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นแค่ครึ่งเทพผู้หนึ่งเท่านั้น สังหารเขาแล้วก็ยังแลกผลงานการรบได้ จะโทษก็ต้องโทษที่เขาโชคไม่ดีนัก ไม่สืบหาข่าวก็ใช้ค่ายกลส่งข้ามมายังอาณาเขตของขั้วอำนาจสำนักรากฐานเทพ

“สังหาร!”

เทพแท้จริงขั้นหนึ่งผู้นี้กวัดแกว่งหอกยาวในมือ ตวัดไปทางจ้าวเฟิง

เงามังกรสีเหลืองเข้มตัวยักษ์บดบังไปทั้งผืนฟ้า ส่งเสียงร้องคำรามออกมาหลายหน พุ่งตรงมาทางจ้าวเฟิง

“มีแบบนี้ที่ไหน!” จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา

ต่อให้ตนเองอาจเป็นคนของ ‘สำนักรากฐานเทพ’ แต่ฝ่ายตรงข้ามตรวจสอบสถานะให้ดีก่อนค่อยลงมือก็ได้ แต่คนผู้นี้กลับทำร้ายตนเองทันที ไม่ได้สนใจเลยว่าจ้าวเฟิงจะอยู่ในขั้วอำนาจใดกันแน่

เงามังกรสีเหลืองเข้มตัวเขื่องตรงหน้ากำลังจะกลืนกินจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงยื่นฝ่ามือออกมา กำไว้หลวมๆ

ตูม! เสวียนอ้าวห้าธาตุผสานเข้าไปในฟ้าดิน บวกกับพลังเจตจำนงของจ้าวเฟิง กลายมาเป็นพลังมหาศาลที่เขย่าฟ้าดินกลุ่มหนึ่ง

ทันใดนั้น ทั้งฟ้าดินเหมือนยืนเคียงข้างจ้าวเฟิง พลานุภาพในฟ้าดินที่น่ากลัวเกาะกลุ่มรวมตัวกลายเป็นฝ่ามือห้าสีคู่หนึ่ง คว้าเงามังกรสีเหลืองเข้มตัวนั้นเอาไว้

บึ้ม! เสียงระเบิดดังขึ้น เงามังกรถูกจ้าวเฟิงระเบิดจนกลายเป็นผุยผง

“อะไรกัน…” เทพแท้จริงขั้นหนึ่งผู้นี้ค้างแข็งกับที่ นิ่งเป็นท่อนไม้

คิดไม่ถึงเลยว่าการโจมตีของตนเองจะถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายไปอย่างง่ายดาย

ต้องเป็นปฐมเทพขั้นที่สองแน่ ไม่เช่นนั้นแล้วจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!

ปฐมเทพขั้นสองในขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะชั้นเลิศแล้ว!

“ข้าเคยบอกแล้ว ข้าเพียงแค่ผ่านมาทางนี้เท่านั้น!”

จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างเย็นชาขณะมองไปที่เทพแท้จริงขั้นหนึ่งผู้นั้น

จากนั้นจึงหมุนกายจากไป

“ช้าก่อน!” และในเวลานี้เอง เสียงคำรามเสียงหนึ่งพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิง

เงาร่างสีน้ำตาลหอบเอาแรงกดดันแก่นแท้พลังที่หนักหน่วงโถมไปหาจ้าวเฟิง

“นี่พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

จ้าวเฟิงมองเงาร่างสีน้ำตาลดังกล่าว ฝ่ายตรงข้ามคือผู้นำกลุ่มนี้ เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสาม

“ในบรรดาปฐมเทพขั้นสองทุกคนในขั้วอำนาจทั้งหมดแถวนี้ ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน!”

เทพแท้จริงขั้นสามมองจ้าวเฟิงด้วยสายตาเป็นประกาย

ในสำนักรากฐานเทพและขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งสองแห่งแถวนี้ เขาไม่เคยเห็นปฐมเทพขั้นสองแบบจ้าวเฟิงมาก่อน

“ใต้หล้านี้กว้างใหญ่ไพศาล เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเรียบๆ

“เหอะ ตามข้ากลับไปก่อน หากเจ้าไม่ใช่คนของ ‘สำนักรากฐานเทพ’ ‘หอมังกรเหลือง’ ถึงจะปล่อยให้เจ้าจากไป!”

เทพแท้จริงขั้นสามผู้นี้ตะโกนกร้าว

ใบหน้าจ้าวเฟิงเคร่งขรึมลง สถานะของตนไม่อาจจะสืบหาได้อย่างละเอียดอยู่แล้ว

อนึ่ง จ้าวเฟิงเชื่อว่าขอแค่ฝ่ายตรงข้ามสืบเจอว่าตนเองไม่ใช่คนของขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง ก็จะไม่มีทางปล่อยไปอย่างง่ายดายแน่

“ตามข้ามา!” เมื่อเห็นจ้าวเฟิงไม่ตอบ เทพแท้จริงขั้นสามผู้นี้จึงลงมือทันที

โครม! เขาปล่อยเกราะเกล็ดมังกรเหลืองเข้มออกทั่วร่าง กระตุ้นพลังธาตุดินในฟ้าดิน ประหนึ่งภูเขาขนาดมโหฬาร ตั้งตระหง่านที่เบื้องหน้าจ้าวเฟิง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันแก่นแท้พลังที่น่ากลัวเช่นนี้ เทพแท้จริงขั้นหนึ่งที่อยู่ด้านข้างกระอักเลือด ก่อนจะถอยจากไปอย่างรวดเร็ว

“ในเมื่อต้องการสู้ ก็มาสู้เสียสิ!” จ้าวเฟิงเองก็หมดความอดทนแล้ว

ในกลุ่มนี้มีเทพแท้จริงขั้นสามเพียงแค่คนเดียว ทำอะไรตนไม่ได้ทั้งสิ้น

เพียงแต่ถ้ายั่วโทสะขั้วอำนาจนี้แล้ว เกรงว่าจ้าวเฟิงจะต้องเดินทางอ้อมหนีไปมาเสียแล้ว แต่ถึงจะไม่มีปัญหาด้วย ขั้วอำนาจทั้งสองแห่งนี้กำลังสู้รบกัน จ้าวเฟิงก็ยากที่จะใช้ค่ายกลส่งข้ามของพวกเขาอยู่ดี

วู้ม แซ่ด! ร่างของจ้าวเฟิงพลันขยายใหญ่ขึ้นอีกหลายส่วน ปลดปล่อยแสงอัสนีห้าสีชั้นหนึ่งออกมา พลังอัสนีห้าสีที่น่ากลัวปั่นป่วนทั่วร่างจ้าวเฟิง

ฝึกฝนร่างกายเหมือนกัน แต่ตอนที่จ้าวเฟิงเผยกายออกมา พลานุภาพในฟ้าดินตรงไปรวมที่เขาอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นเพราะพลังอัสนีห้าสีของจ้าวเฟิงแฝงเสวียนอ้าวห้าสายเอาไว้ จึงสอดประสานกับธรรมชาติมากกว่า

“ตายซะ!”

เมื่อเทพแท้จริงขั้นสามเห็นว่าจ้าวเฟิงเป็นผู้ฝึกฝนร่างกายเช่นเดียวกัน อีกทั้งความสำเร็จจากการฝึกร่างกายเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าตนเองระดับหนึ่ง สีหน้าก็ย่ำแย่ลงทันที

“มังกรพิชิตสวรรค์!”

หมัดสองข้างของเทพแท้จริงขั้นสามส่งมังกรสีเหลืองตัวเขื่องที่ประหนึ่งมีกายเนื้อจริงๆ ออกมา มันโหดเหี้ยมน่ากลัว ทรงพลานุภาพ

“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”

จ้าวเฟิงโคจรพลังเทพห้าธาตุ สะบัดมือเรียกภูเขาอัสนีห้าสีออกมา

โครม! พลังอัสนีของภูเขาห้าสีน่าตื่นตะลึง แฝงพลังทำลายล้างเอาไว้ ทะลวงผ่านร่างมังกรเหลืองตัวนั้น โจมตีไปยังทรวงอกเทพแท้จริงขั้นสาม

ตุบ! เทพแท้จริงขั้นสามผู้นี้ถอยร่นไปหลายก้าว นิ่งอึ้งอยู่กับที่

“เป็นไปได้อย่างไร?”

เทพแท้จริงขั้นสามเกิดคำถามขึ้นในใจ

ถึงแม้เขาไม่ได้ปล่อยพลังออกมาทั้งหมด แต่เหตุใดปฐมเทพขั้นสองจึงทำลายกลยุทธ์การต่อสู้ของเขาได้อย่างง่ายดาย

หรือว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นปฐมเทพขั้นสาม?

โดยปกติแล้ว ปฐมเทพขั้นสามเป็นอัจฉริยะชั้นยอดที่ขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดเท่านั้นถึงจะมี เหตุใดอีกฝ่ายจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่?

อีกอย่าง หากฝ่ายตรงข้ามเป็นปฐมเทพขั้นสามแล้วละก็ ไม่มีทางจะเป็นคนของ ‘สำนักรากฐานเทพ’ ไปได้

“ข้าน้อยคงเข้าใจผิดแล้ว ท่านไม่ใช่คนของสำนักรากฐานเทพจริงๆ เป็นข้าน้อยที่ตาบอดจริงๆ!”

เทพแท้จริงขั้นสามผู้นี้ขอโทษขอโพยจ้าวเฟิงในทันที

เพราะเป็นไปได้อย่างยิ่งที่เบื้องหลังของจ้าวเฟิงจะเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดหรืออาจทรงพลังกว่านั้น

ส่วนหอมังกรเหลืองเบื้องหลังเขาเป็นก็เพียงแค่ขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งที่แข็งแกร่งเล็กน้อย ยังห่างไกลจากขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดอีกมาก

“หืม? นี่คือ?”

แววตาเทพแท้จริงขั้นสามทอดมองจุดลึกๆ ใต้ดิน

การประมือที่รุนแรงเมื่อครู่ระหว่างเขาและจ้าวเฟิงทำให้พื้นดินราบเป็นหน้ากลอง

ยามนี้ จุดหนึ่งในส่วนลึกใต้ดิน ปรากฏแผ่นหินแข็งที่ด้านบนเหมือนสลักลายค่ายกลต่างๆ เอาไว้แผ่นหนึ่ง

“ฮ่าๆ ที่แท้ก็ซ่อนอยู่ที่นี่นี่เอง!”

เทพแท้จริงขั้นสามมองยังส่วนลึกๆ ใต้ดิน ในมือปรากฏป้ายส่งข่าวแผ่นหนึ่ง แล้วรีบส่งข่าวไปทันที

“ใต้เท้า ข้าเข้าใจท่านผิดแล้ว ในวันหน้าหอมังกรเหลืองจะมาขออภัยด้วยตนเองถึงที่แน่นอน วันนี้ข้าหอมังกรเหลืองกำลังสู้รบกับสำนักรากฐานเทพ หากท่านไม่มีธุระอะไร รีบเดินทางจากไปจะดีกว่า พยายามอย่าเข้าใกล้พื้นที่ที่สู้รบแล้วกัน!”

เทพแท้จริงขั้นสามเอ่ยกับจ้าวเฟิงพร้อมระบายยิ้ม

หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้ระหว่างเขาและจ้าวเฟิงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจนเป้าหมายเผยตัวออกมา เกรงว่าเขาคงจะพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าใต้ดินแห่งนี้มีห้องลับพิเศษอยู่ห้องหนึ่ง รอบๆ ห้องลับปกคลุมด้วยกลิ่นอายของค่ายกลศาสตร์ลวงตา ประสาทสัมผัสเทพและอุปกรณ์ทั่วไปไม่สามารถตรวจสอบหรือสำรวจได้

ขอแค่ครั้งนี้จับเป้าหมายได้ เขาจะทำผลงานครั้งใหญ่ทีเดียว!

“เฮ้อ!” ลึกลงใต้ดิน มีเสียงถอนหายใจของคนแก่ดังลอดออกมา

ทันใดนั้นเอง เงาคนสองคนพุ่งขึ้นบนฟ้า พลานุภาพที่แกร่งกล้าทำให้สีหน้าจ้าวเฟิงตื่นตะลึงไปเล็กน้อย

คนหนึ่งในนั้นเป็นชายชราชุดเขียวสีมรกต กลิ่นอายมหาศาลทรงพลัง เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสี่

ข้างกายเขายังมีสตรีชุดเขียวอีกนางหนึ่ง เรือนผมสีเขียวราวก้านหลิว ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดวงตาสีเขียวสองข้าง วิญญาณก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

มองจากไกลๆ รอบตัวสตรีนางนี้ปกคลุมไปด้วยพลังธรรมชาติที่หนาแน่น เสมือนว่าเป็นองค์หญิงแห่งพงไพร

จู่ๆ สตรีชุดเขียวนางนั้นก็มองมาที่จ้าวเฟิงด้วยใบหน้าเศร้าสลด

จ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย ใบหน้าของหญิงนางนี้ประหนึ่งปะติมากรรมที่สมบูรณ์แบบของธรรมชาติ แต่กลับไม่ทำให้เกิดความหลงใหลแต่อย่างใด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ประสานสายตากับนาง ใจจ้าวเฟิงสงบลงในทันที

“หึ!” ชายชราชุดเขียวผู้นั้นมองจ้าวเฟิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารเย็นชา

หากจ้าวเฟิงไม่พลันโผล่ออกมาต่อสู้กับเทพแท้จริงขั้นสาม บางทีพวกเขาอาจจะยังพอหลบหนีจากการตรวจค้น และยังฉวยโอกาสหนีไปได้

จ้าวเฟิงเองก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

เหตุที่คนกลุ่มนี้ตรวจค้นอย่างละเอียด ไม่ยอมปล่อยตนเองไป ที่แท้ก็เป็นเพราะมี ‘เป้าหมายสำคัญ’

และเหมือนว่าตนเองยังช่วยเหลือพวกเขา ทำให้ ‘เป้าหมายสำคัญ’ นี้ปรากฏขึ้นด้วย

“ผู้อาวุโสอย่าเข้าใจผิด ผู้เยาว์มิได้มีเจตนา…”

จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างลุแก่โทษ นี่เป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน

“ไป หนิงเอ๋อร์!”

ถึงแม้ผู้อาวุโสจะเกลียดชังจ้าวเฟิง แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายเขา หนำซ้ำยังพาสตรีนางนั้นจากไปอย่างรวดเร็ว แต่ช่วงเวลานี้เอง ฟากฟ้าไกลลิบก็มีแรงกดดันมหาศาลปรากฏขึ้น

ตูม! เมฆหนาสีเหลืองเข้มชั้นหนึ่งตรงดิ่งมา จนเหมือนว่าทั้งโลกตกอยู่ในความมืดมิด ทุกคนที่อยู่ภายในนั้นต่างสัมผัสได้ถึงแรงกดดันและความกระวนกระวายบางอย่าง

“ฮ่าๆ พวกเจ้าคิดจะหนีไปไหน!”

ชายชราที่มีหางยาวผิวเหลืองผู้หนึ่งยืนอยู่บนก้อนเมฆ

“เทพแท้จริงจ้งถู่ (พสุธาหนักแน่น)!”

ผู้อาวุโสชุดเขียวเห็นยอดฝีมือขั้นเทพแท้จริงที่เดินทางมา หน้าเปลี่ยนสีไปในทันที

จ้งถู่เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นห้าของหอมังกรเหลือง

“เจ้าไม่มีทางให้ย้อนกลับแล้ว ‘เนตรชีวิต’!”

แววตาเทพแท้จริงจ้งถู่หยุดลงบนร่างของสตรีชุดเขียวนางนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version