บทที่ 1330 แมวขโมยพ้นเคราะห์
ในตอนที่พวกเทพโบราณเสวียนหมัวเข้าไปในโถงลับ จ้าวเฟิงก็เห็นทุกอย่างผ่านครรลองสายตาของพวกเขา
“เทพโบราณขั้นเก้า!”
จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงพลังฝึกตนที่แท้จริงของเทพโบราณโยวเฉวียน กายก็สั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้ หากเขาบุ่มบ่ามบุกเข้าไป เกรงว่าจะถูกจัดการในทันที
“ท่าทางตอนนี้จะยังลงมือไม่ได้!”
แววตาของจ้าวเฟิงเคร่งเครียด ปล่อยให้พวกเทพโบราณเสวียนหมัวยืนอึ้งอยู่ภายในนั้น
เทพโบราณโยวเฉวียนคือทายาทเนตรสังสารวัฏ เป็นไปได้มากว่ายังมีกายวัฏสงสารขั้นเก้าอื่นๆ อีก
หากจ้าวเฟิงหุนหันพลันแล่น ไม่เพียงแต่ยากจะช่วยแมวขโมยน้อยออกมาได้ ฐานะของตัวเองยังจะถูกเปิดเผยออกไปอีก ไพ่ตายอย่างพวกเทพโบราณเสวียนหมัวก็จะสูญเสียไปด้วย ดังนั้นจ้าวเฟิงจำเป็นต้องรอเวลาก่อน
“กระบี่วิญญาณแหวกสวรรค์”
“วิญญาณร้ายทลายพสุธา!” ร่างของคู่เทพเซียนปีศาจฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ก่อนทำการโจมตีไปยังเทพโบราณลั่วหลิงอย่างโหดเหี้ยม กลิ่นอายเทพปีศาจที่บ้าคลั่งล้นฟ้าทะลักพวยพุ่ง ทำเอาจ้าวเฟิงที่อยู่ไกลรู้สึกกดดัน ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างอดไม่ได้
การปะทุพลังเต็มแรงของเทพโบราณขั้นแปดสุดยอด ฟ้าดินจะต้องครวญคร่ำแน่นอน
“มิติเพียงพริบตา!”
เทพโบราณลั่วหลิงรีบสำแดงท่าร่างประเภทมิติล้ำลึกอีกชนิดทันที กายเคลื่อนไหวกลับไปมาในอากาศ ลอยล่องไปเร็วรี่ ทำให้คนยากจะคาดการณ์ได้ อีกทั้งทุกครั้งที่เคลื่อนไหว เทพโบราณลั่วหลิงจะใช้ดาบโค้งวงพระจันทร์สีเงินในมือสำแดงการโจมตีประเภทมิติกระบวนท่าหนึ่ง
“เด็กน้อย ถึงแม้พวกเราจะทำอะไรเจ้าไม่ได้ในตอนนี้ แต่การโจมตีประเภทมิติก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้เช่นกัน!”
คู่เทพเซียนปีศาจพากันยิ้มพูด
สิ่งที่สามารถสร้างอาการบาดเจ็บให้กับพวกเขาได้ก็คือพลังอัสนีเทวะที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมาเมื่อครู่ แต่ระดับขั้นของจ้าวเฟิงต่ำเกินไป พลังอัสนีเทวะก็อ่อนแอไม่น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่แยแส
“งั้นรึ? ท่าทางพวกเจ้าจะโง่เง่าจริงๆ สินะ!”
มุมปากของเทพโบราณลั่วหลิงยิ้มเย็นเล็กน้อย ฟันประกายแสงเลือนรางอันคมกริบออกไปสายหนึ่งอีกครั้ง
“เอ๋?” คิ้วของคู่เทพเซียนปีศาจขมวดเล็กน้อย
ที่จริงพวกเขาก็สังเกตถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง แต่ไม่ได้สนใจ เพราะร่างของพวกเขาคือกายสังสารวัฏ ไม่มีความรู้สึกใดๆ บนร่างกายมานานแล้ว กระทั่งยังใช้กายเป็นโล่เนื้อต้านการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตให้เทพโบราณโยวเฉวียนอยู่บ่อยๆ
ฉัวะ ฉึก! ประกายแสงเลือนรางคมกริบสายนั้นฟันโดนชายสูงใหญ่คนนั้น ทิ้งรอยแผลใหญ่เอาไว้ที่หน้าอกของเขา
แต่ไม่นานนักรอยแผลก็สมานตัว
“ไม่สิ ร่างของพวกเขาไม่ได้ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แบบ!”
แววตาของจ้าวเฟิงตะลึง
ที่จริงแล้ว ในยามที่การโจมตีของเทพโบราณลั่วหลิงทำลายกายวัฏสงสาร ก็ใช้พลังมิติกลุ่มหนึ่งย้ายส่วนประกอบร่างกายบางส่วนที่บาดเจ็บไปอีกมิติหนึ่ง มองไปเผินๆ เหมือนจะฟื้นฟูแล้ว แต่กลับไม่ได้ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แบบ
ในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดคู่เทพเซียนปีศาจก็สังเกตได้ถึงจุดนี้
ทุกครั้งที่เทพโบราณลั่วหลิงโจมตีโดนพวกเขา กายวัฏสงสารก็จะลดพลังลงไปเล็กน้อย
“มิน่าเล่าข้าถึงรู้สึกว่าร่างร่างนี้ไม่อาจสำแดงพลังของข้าได้ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง!”
สีหน้าของชายสูงใหญ่เคร่งเครียด
ถึงแม้เขาจะไม่สนใจร่างนี้ แต่พวกเขาสองคนร่วมมือกัน หากแพ้ให้กับเทพโบราณลั่วหลิงจะไม่อับอายขายหน้าแย่รึ
“เยี่ยม คิดไม่ถึงว่าเทพโบราณลั่วหลิงมีหวังที่จะเอาชนะกายวัฏสงสารสองร่างนี้ได้!”
ในใจของจ้าวเฟิงแอบยินดี
ต้องรู้ว่า กายวัฏสงสารสองร่างนี้ล้วนเป็นขั้นแปดสุดยอด คือร่างที่เป็นอมตะ นี่แสดงให้เห็นว่าเทพโบราณลั่วหลิงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติแข็งแกร่งเพียงใด
“นางคือกุญแจสำคัญของข้าที่จะช่วยแมวขโมยน้อย!”
สายตาของจ้าวเฟิงเพ่งมอง แล้วโคจรเสวียนอ้าวมิติ
วู้ม พรึ่บ! ชุดคลุมมิติของเขาพลันสะบัดขึ้น เสี้ยวขณะต่อมาแสงกึ่งโปร่งใสก็ทับซ้อนเป็นชั้นๆ ครอบไปยังคู่เทพเซียนปีศาจ
“ฉากกั้นมิติ!”
ฉากกั้นมิติเดิมคือวิชาป้องกันของชุดคลุมมิติ ในยามที่ศัตรูหรือการโจมตีเข้าใกล้ก็จะถูกผลกระทบจากเสวียนอ้าวมิติ พลังอ่อนแรงลง ความเร็วช้าลง
แต่ในตอนที่ฉากกั้นมิติปกคลุมไปยังร่างของใครคนหนึ่งก็เท่ากับเป็นกลวิธีกุมขัง คล้ายกับวิชาดวงตามิติพันธนาการของจ้าวเฟิงเป็นอย่างมาก
“มาได้เวลาดีมาก!” เทพโบราณลั่วหลิงรีบให้ความร่วมมือกับวิชามิติของจ้าวเฟิง เพิ่มพลังให้กับวิชานี้ ในขณะเดียวกัน ดาบโค้งวงพระจันทร์สีเงินในมือของนางฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง
ฉัวะ ฉึก ฉึก! ประกายคมที่เลือนรางวาววับดุจผีเสื้อโบยบินทั่วท้องนภา พากันบินออกมาห้อมล้อมคู่เทพมารปีศาจเอาไว้
ในยามที่ประกายคมทั้งหมดสลายไป จ้าวเฟิงก็เห็นร่างของคู่เทพมารปีศาจแหลกลาญ อีกทั้งไม่อาจฟื้นคืนสภาพเดิม เป็นเพราะรอยแผลพวกนี้ล้วนถูกเทพโบราณลั่วหลิงย้ายไปมิติอื่นแล้ว มีเพียงใช้พลังเนตรสังสารวัฏที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงสามารถเรียกคืนมาได้ แต่เห็นชัดแล้วว่าเทพโบราณโยวเฉวียนไม่คิดจะทำเช่นนั้น
“ดี ดี เจ้าทำลายกายวัฏสงสารสองร่างนี้ของข้า นี่เป็นเจ้าที่รนหาที่เอง!”
คู่เทพเซียนปีศาจปากคำรามก้อง เห็นได้ชัดว่านี่คือสิ่งที่เทพโบราณโยวเฉวียนอยากจะพูด
“เมื่อครู่เจ้ายังมีโอกาสหนี แต่ตอนนี้ ข้าจะฝังเจ้าเอาไว้ที่นี่!”
คู่เทพเซียนปีศาจพูดออกมาอีกครั้ง
ในโถงลับ เทพโบราณโยวเฉวียนโคจรเนตรสังสารวัฏ ในท้องฟ้าก่อแสงมืดมิดขึ้น ราวกับวงแสงที่นำทางไปสู่ขุมนรก
ฟุ่บ! ข้างในมีเงาร่างสีแดงร่างหนึ่งกระโดดออกมา ตัวเป็นคนหัวเป็นมังกร หางมังกร ที่หลังมีปีกคู่หนึ่ง
“กายวัฏสงสารขั้นเก้า!”
จ้าวเฟิงมองทุกสิ่งผ่านครรลองสายตาของเทพโบราณเสวียนหมัว แต่ทว่าจ้าวเฟิงที่เห็นฉากนี้กลับไม่ถอยหนี กลับยังค่อนข้างจะตื่นเต้นด้วยซ้ำ
ฟิ้ว! กายวัฏสงสารขั้นเก้าทะยานออกไปจากโถงลับ
“โอกาส!”
ตาซ้ายของจ้าวเฟิงทะลักคลื่นพลังดวงตาที่น่าหวาดกลัวออกมาทันที ขณะเดียวกัน ในมิติเนตรเทพเจ้า ผนึกบนลูกทรงกลมสีเงินมายาก็คลายออก พลังดั้งเดิมในนั้นแฝงด้วยกลิ่นอายเนตรเทพเจ้า ง่ายต่อการถูกคนสังเกตเห็น
ในเวลาปกติจ้าวเฟิงล้วนผนึกพลังดั้งเดิมกลุ่มนี้ไว้
“กลิ่นอายกลุ่มนี้!” สีหน้าของเทพโบราณลั่วหลิงตื่นตะลึง
เมื่อครู่นี้เนตรมิติของนางสั่นสะท้านรุนแรง
กลิ่นอายที่ทำให้เนตรมิติของนางสั่นสะท้าน ทำให้นางสัมผัสถึงความคุ้นเคย ซึ่งคล้ายกับกลิ่นอายที่นางเผชิญหน้ากับเงาข้ามมิติของผู้ครอบครองมิติตอนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์มิติเป็นอย่างมาก
ในโถงลับตอนนี้เอง
“เอ๋?” เทพโบราณโยวเฉวียนจู่ๆ รู้สึกเหมือนกับเทพสูงสุดจ้องมองลงมา อีกทั้งกลิ่นอายกลุ่มนั้นยังทำให้เนตรสังสารวัฏของเขาสั่นสะท้านขึ้นอย่างอดไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้น?”
เทพโบราณโยวเฉวียนหันหลังกลับไปมอง ก่อนตะลึงไปในทันที เห็นเพียงเหนือโถงลับนั่นมีเนตรสีเงินที่ส่องแสงหลากสีสะท้อนลงเบื้องล่าง
ดวงตาสีเงินมายาขนาดใหญ่โตมหึมาแผ่กลิ่นอายบรรพกาลอย่างหยิ่งทะนง ราวกับผืนฟ้าของโถงลับอย่างไรอย่างนั้น
“สวรรค์! นั่นคืออะไรน่ะ?”
“ดวงตาข้างนี้ประหลาดยิ่งนัก!”
สมาชิกที่ควบคุมเครื่องกลไกที่นี่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
พวกเขาคุ้นเคยกับสายเลือดดวงตาแปดเนตรเทพเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงตกใจกับเนตรสวรรค์สีเงินที่เห็นในตอนนี้
“เจ้าเป็นใครกัน?”
เทพโบราณโยวเฉวียนใจสั่นสะท้านเล็กน้อย นี่คือเนตรสีเงินมายาที่ทำให้สัญชาติญาณของเนตรสังสารวัฏหวาดกลัว เขากระทั่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเนตรเทพเจ้ามาจากในนั้นด้วย
ก่อนหน้านี้ เทพโบราณโยวเฉวียนคิดกระทั่งว่าเป็นพลังของผู้ครอบครองเนตรเทพเจ้าคนหนึ่งข้ามมิติมาเยือน แต่ดวงตาสีเงินดุจความฝันข้างนี้กลับไม่ใช่หนึ่งในแปดเนตรเทพเจ้าที่เขาคุ้นเคย
วู้ม เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
เสี้ยวขณะที่ดวงตาสีเงินดุจความฝันปรากฏขึ้น ข้างในก็ทะลักแสงอัสนีแปลบปลาบหลากสีนับไม่ถ้วนขึ้น
“หึ การโจมตีอ่อนแอเช่นนี้ สลายไปเสีย!” หลังจากตกใจ เทพโบราณโยวเฉวียนก็หัวเราะเสียงเย็นแล้วโจมตีทันที
ดวงตาสีเงินดุจความฝันนั่นถึงแม้จะมีพลังท่วมท้น กลิ่นอายแข็งแกร่ง แต่เจตจำนงดวงตาที่แผ่กระจายออกมาไม่ได้แข็งแกร่งนัก พลังการโจมตีของวิชาดวงตาดูไปแล้วก็ธรรมดา
พลังดวงตาในตาทั้งสองของเทพโบราณโยวเฉวียนแผ่ระลอกออกมา จากนั้นลูกสีดำมืดก็ถูกยิงออกมาจากในนั้น
“แย่แล้ว!” ทันใดนั้น สีหน้าของเทพโบราณโยวเฉวียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เพราะเขาพบว่าเป้าหมายการโจมตีของดวงตาสีเงินไม่ใช่เขา แต่เป็นกล่องผลึกแก้วที่บรรจุน้ำสีเงินทองเอาไว้เต็มเปี่ยม
เมี้ยว! แมวขโมยตัวน้อยลืมดวงตาที่ล้ำลึกดำขลับขึ้น พร้อมเผยรอยยิ้มได้ใจ
คลื่นวนพลังดวงตาลอยอยู่บนกล่องผลึกแก้ว
ฉัวะ ฉึก!
เสี้ยวขณะต่อมา คมมีดอัสนีที่หุ้มด้วยหมอกแสงมายาก็ฟันออกมาจากข้างใน พลังอัสนีทำลายล้างรวมกับพลังดั้งเดิมเนตรเทพเจ้า ฟันกล่องผลึกแก้วออกเป็นรูได้อย่างง่ายดายยิ่ง
หลังจากสำแดงกระบวนท่านี้เสร็จสิ้น ดวงตาสีเงินดุจความฝันก็หายไปทันที
ฟิ้ว! เพียงชั่วพริบตาเดียว แมวขโมยน้อยในกล่องผลึกแก้วก็หายวับไป
แต่นอกกล่องผลึกแก้ว แมวขโมยตัวน้อยที่รูปร่างปราดเปรียวเพรียวบางคึกคักกระปรี้กระเปร่า เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ราวกับภูต
“แมวความลับสวรรค์!”
เทพโบราณโยวเฉวียนหน้าเปลี่ยนสี
สำหรับเรื่องของแมวความลับสวรรค์ เขารายงานเบื้องบนไปแล้ว หากปล่อยให้แมวความลับสวรรค์หนีไป โทษของเทพโบราณโยวเฉวียนก็หนักหนาเป็นแน่
“ผู้อาวุโสโยวเฉวียน คุณสมบัติสายเลือดของแมวความลับสวรรค์ตัวนี้ถูกกระตุ้นขึ้นแล้ว…”
สมาชิกที่ควบคุมคนหนึ่งพูดขึ้นทันใด
“ต่อให้เป็นเช่นนี้ มันติดปีกก็หนีไม่พ้น!” สีหน้าของเทพโบราณโยวเฉวียนตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงแค่นเสียงเย็น
ในด้านความเร็วและการต่อสู้ เนตรสังสารวัฏไม่ค่อยชำนาญนัก
ยิ่งเมื่อนึกถึงความสามารถของแมวขโมยน้อยในตำนาน เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เทพโบราณโยวเฉวียนจึงเรียกหุ่นเชิดกลไกของตนออกมา
ฟุ่บ! ทหารองครักษ์กลไกร่างดำเย็นเยือกที่ถือกระบี่คู่แสงสีทองปรากฏกายขึ้นทันที หุ่นเชิดกลไกของเทพโบราณโยวเฉวียนก็มีพลังเทพโบราณขั้นเก้าเช่นกัน
เขาลงมือพร้อมกับหุ่นเชิดกลไก ต่อให้แมวขโมยน้อยเจ้าเล่ห์ยังไง มีอุบายมากเพียงใด ก็อย่าคิดฝันว่าจะหนีไปได้
แต่ในตอนนี้เอง เทพโบราณโยวเฉวียนพลันรู้สึกถึงพลังที่น่าหวาดกลัวและกลิ่นอายเนตรเทพเจ้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง มองไปยังอีกด้านหนึ่ง
เห็นเพียงพวกเทพโบราณเสวียนหมัวเริ่มสำแดงวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งนานแล้ว
“พวกเจ้าทำได้ดีมาก ช่วยข้าจับแมวความลับสวรรค์!”
เทพโบราณโยวเฉวียนคำรามขึ้นทันที
เมื่อครู่เพราะการปรากฏขึ้นอย่างเฉียบพลันของดวงตาสีเงินมายานั่น รวมกับที่แมวความลับสวรรค์ทำลายกล่องออกมา
เทพโบราณโยวเฉวียนเลยลืมพวกเทพโบราณเสวียนหมัวมาโดยตลอด
ในตอนนี้พบว่าพวกเขาเตรียมสำแดงเนตรเทพเจ้ารวมเป็นหนึ่ง เทพโบราณโยวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะลิงโลด พลังที่พวกเขาทั้งสี่สำแดงสามารถควบคุมวิชาของแมวขโมยน้อยได้พอดี
“ขอรับ!” พวกเทพโบราณเสวียนหมัวทั้งหมดพูดขึ้นทันที
ในขณะเดียวกัน ประกายแสงเลือนรางกลุ่มนั้นบนหัวของพวกเขาพลันส่งโซ่เลือนรางขนาดใหญ่สองเส้นออกมา
โซ่นี้หนากว่าโซ่ที่อยู่ในซากปรักหักพังเมืองความลับสวรรค์กว่าสิบเท่า เสี้ยวขณะที่โซ่สองเส้นปรากฏขึ้นก็โจมตีเทพโบราณโยวเฉวียนทันที
“อะไร? พวกเจ้า..” เทพโบราณโยวเฉวียนคิดไม่ถึงเลยว่าสมาชิกของหอมารสวรรค์ของเขาจะโจมตีตนมาอย่างฉับพลัน ต่อให้เขาเป็นเทพโบราณขั้นเก้า ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกโซ่เส้นใหญ่สองเส้นพันธนาการทันที
ในขณะเดียวกัน ที่ที่ร่างของเทพโบราณโยวเฉวียนถูกโซ่สัมผัสเข้าปรากฏเป็นรอยปริแตก ราวกับจะแหลกอย่างไรอย่างนั้น
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าทั้…” สมาชิกคนอื่นที่นี่ต่างหน้าเปลี่ยนสี
“จับแมวความลับสวรรค์ไว้!” เทพโบราณโยวเฉวียนคำรามอย่างโกรธแค้น
ถึงแม้เขาจะถูกวิชาเนตรเทพเจ้ารวมเป็นหนึ่งที่พวกเทพโบราณเสวียนหมัวสำแดงออกมาตรึงเอาไว้ชั่วขณะ แต่ยังสามารถบัญชาหุ่นเชิดกลไกตัวนั้นได้
ฟุ่บ หุ่นเชิดขั้นเก้าถือกระบี่คู่ แปลงเป็นประกายแสงสีดำเข้าประชิดแมวขโมยน้อยทันที