Skip to content

King of Gods 1347

King Of Gods

บทที่ 1347 เสียการควบคุม

ในตอนที่คนทั้งแปดควบคุมให้พลังดั้งเดิมผสานกัน รัศมีอำนาจสะท้านฟ้าก็ไม่ใช่สิ่งที่เขตพลังอำพรางจะสามารถปิดซ่อนได้อีก

“วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง!”

“ที่แท้ผู้อาวุโสโยวเฉวียนมีแผนชั้นยอดไว้นานแล้ว!”

สมาชิกหอมารสวรรค์บางคนที่ไม่รู้เรื่องราวมาก่อนเผยสีหน้าตื่นเต้นทันใด

ความแข็งแกร่งของวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง ทุกคนรู้กันเป็นอย่างดี หากคนทั้งแปดรวมพลังโฉมใหม่ได้ ผู้บุกรุกพวกนี้ก็จะตายโดยไร้ที่ฝัง แต่เคล็ดวิชาลับนี้มีข้อด้อยข้อใหญ่อยู่ก็คือ ในยามที่สำแดงจะถูกขัดจังหวะไม่ได้

ทว่าตอนนี้สำเร็จไปส่วนใหญ่แล้ว จ้าวเฟิงไล่ตามไปก็ไม่อาจขัดขวางพวกเขาทั้งแปดได้ แต่กลับเหมือนคนที่ไปตาย!

“แย่แล้ว!” สีหน้าของเทพโบราณลั่วหลิงตื่นตระหนก

นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกถึงอันตรายหลังจากทะลวงขั้นเก้ามาได้ นางก็เคยมีประสบการณ์กับเคล็ดวิชานี้ จึงรู้สึกหวาดกลัวมันอยู่ลึกๆ หากเคล็ดวิชานี้สำเร็จ ก็แทบจะเป็นผู้ครอบครองชัยชนะ

ความคิดของเทพโบราณลั่วหลิงตกอยู่ในความสับสน ตอนนี้นางหนีไปยังทัน แต่จ้าวเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ หากนางพุ่งไปสกัดมังกรโบราณอัสนีเพลิง ยืดเวลาให้กับจ้าวเฟิง ถ้าล้มเหลวตนก็อาจจะตายอยู่ที่นี่

ฟุ่บ! เทพโบราณลั่วหลิงลังเลอยู่เพียงชั่วขณะก็พุ่งออกไป

“หยุดนะ!”

ร่างของนางเดี๋ยวเลือนรางเดี๋ยวปรากฏ ราวกับผสานเป็นหนึ่งเดียวกับอากาศ ไล่ตามมังกรโบราณอัสนีเพลิงไป

“สะบั้นวิญญาณลวง!”

ระยะห่างของเทพโบราณลั่วหลิงและมังกรโบราณอัสนีเพลิงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดาบโค้งสีเงินในมือนางฟันประกายจันทร์เสี้ยวออกมาสายหนึ่ง แต่ทว่าอีกฝ่ายมีร่างอมตะ มังกรโบราณอัสนีเพลิงไม่สนใจเลยสักนิด ตั้งหน้าตั้งตาไล่ตามจ้าวเฟิงไป

ฟุ่บ! จ้าวเฟิงบินอยู่หน้าสุด ร่างกะพริบวูบไหวติดๆ กัน แต่มังกรโบราณอัสนีเพลิงก็ตามติดมาข้างหลัง ประหนึ่งแค่จ้าวเฟิงหยุดพักก็จะถูกไล่ตามได้ทัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีโอกาสได้สำแดงเคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตาเลย

ตอนนี้ พลังดั้งเดิมที่แปดคนนั้นปลดปล่อยออกมาค่อยๆ ผสานเข้าด้วยกัน ตาซ้ายของจ้าวเฟิงโคจรจนถึงขีดสูงสุด จากนั้นลองใช้วิชาดวงตา แค่เพียงสามารถทำร้ายสองสามคนในนั้นให้บาดเจ็บสาหัส แล้วขัดจังหวะการใช้เคล็ดวิชาลับนี้ก็ได้แล้ว

ในทายาทแปดเนตรเทพเจ้าทั้งแปดคนนี้ มีเทพโบราณขั้นแปดแค่สองคนเท่านั้น ที่เหลือล้วนอยู่ประมาณขั้นเจ็ด

ถึงแม้จ้าวเฟิงสัมผัสได้ว่าข้างกายทั้งแปดคนนั้นยังมีเทพโบราณขั้นแปดสุดยอดคนหนึ่งปกป้องอยู่ แต่วิชาดวงตาของตนปลดปล่อยไปในชั่วพริบตา เชื่อว่าอีกฝ่ายยากที่จะตั้งตัวได้

แต่ในตอนที่เตรียมสำแดงวิชาดวงตา จ้าวเฟิงกลับพบว่าวิชาของตัวเองไม่อาจเล็งที่คนทั้งแปดนั้นได้!

“ฮ่าๆ วิชาดวงตาของเจ้าพวกเราล้วนกระจ่างแจ้งดี รอบด้านนี้ไม่เพียงแต่มีค่ายกลอำพราง ยังมีค่ายกลที่รบกวนมิติอีกด้วย…”

ในแปดคนนั้น ทายาทเนตรมิติสัมผัสได้ว่าจ้าวเฟิงจะสำแดงวิชาดวงตา แต่กลับใช้ออกมาไม่ได้ จึงหัวเราะลั่นทันใด

“แย่แล้ว เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”

เทพโบราณลั่วหลิงมีสีหน้าเคร่งเครียด

“ฮี่ๆ!” สมาชิกหอมารสวรรค์ทั้งหลายเผยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ โดยเฉพาะเทพโบราณโยวเฉวียนที่ภาคภูมิใจกับแผนที่ตนวางเอาไว้

“เป็นเช่นนี้นี่เอง!” สีหน้าจ้าวเฟิงคร่ำเคร่ง

ต้องยอมรับว่าแผนของเทพโบราณโยวเฉวียนรอบคอบเป็นอย่างมาก เหตุปัจจัยทุกด้านล้วนคิดไตร่ตรองครบถ้วน ต่อให้ตอนนี้จ้าวเฟิงโจมตีระยะไกล เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดที่อยู่ข้างๆ แปดคนนั้นก็มีวิธีมากมายที่จะต้านทานเอาไว้

“หรือจะไม่มีวิธีใดแล้ว?” จ้าวเฟิงเจ็บใจเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าเคล็ดวิชาลับของอีกฝ่ายสำแดงออกมาได้สำเร็จ เขาคิดอยากจะจัดการกับอันตรายก็ทำได้แค่อาศัยเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตเท่านั้นแล้ว

เขายังไม่รู้ว่าพลังที่เกิดจากเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งน่ากลัวถึงเพียงใด ไม่แน่ว่าอาจต้องให้เผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตทั้งหมดเคลื่อนไหวถึงจะจัดการกับอันตรายได้

ในช่วงขณะที่จ้าวเฟิงกำลังครุ่นคิด ในมิติเนตรเทพเจ้า ความเร็วในการหมุนของลูกทรงกลมสีเงินเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน พลังดั้งเดิมที่ปลดปล่อยออกมายิ่งสว่างไสวพร่างพรายขึ้น

“ไม่ น่าจะยังมีวิธีอีก!” จ้าวเฟิงเพ่งมอง จ้องเขม็งไปยังหน้าผากของคนทั้งแปดที่ใกล้จะผสานไปกับพลังดั้งเดิม

“พลังดั้งเดิมในดวงตาเทพเจ้าของข้าสามารถควบคุมพลังของพวกเขาได้ บางทีอาจจะหาจุดอ่อนได้…”

จ้าวเฟิงจำภาพของเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งครั้งแรกได้อย่างชัดเจน ตอนนั้นราชาเซียนสังสารวัฏควบคุมพลังลึกลับนั่น แต่เพราะการปรากฏขึ้นของพลังเนตรเทพเจ้าดั้งเดิม จ้าวเฟิงจึงกลายเป็นผู้ควบคุมและผู้นำ

เนตรเทพรวมเป็นหนึ่งครั้งที่สองคือที่ซากปรักหักพังเผ่าความลับสวรรค์ ตอนนั้นจ้าวเฟิงผสานพลังดั้งเดิมเข้าไปในวิชาดวงตา สร้างการโจมตีประเภททำลายล้างให้กับพลังที่เกิดจากเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งของพวกเทพโบราณเสวียนหมัว สุดท้ายก็ทำให้พวกเขาเสียหายแสนสาหัส

หากพูดว่ามีวิธีอะไรที่สามารถข่มวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งได้ นั่นคือพลังของเนตรเทพเจ้าแน่นอน

“สู้สุดกำลัง!” จ้าวเฟิงเผยสีหน้าตื่นเต้นบ้าคลั่ง

เสี้ยวขณะต่อมา พลังดั้งเดิมทั้งหมดในมิติเนตรเทพเจ้าก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมารวมไว้ที่ตาซ้ายทั้งหมด

ทันใดนั้น ตาซ้ายของจ้าวเฟิงสาดประกายแสงพร่างพรายเหนือสิ่งอื่นใดออกมา ราวกับส่องทุกสีสันบนโลกออกมา

“กลิ่นอายเนตรเทพเจ้า!”

เพียงชั่วพริบตาเดียว ทายาทเนตรเทพเจ้าทั้งหมดรับรู้ถึงกลิ่นอายเนตรเทพเจ้าบนร่างของจ้าวเฟิงอย่างชัดเจนอีกครั้ง แต่ตอนนี้พวกเขาแน่ใจ จ้าวเฟิงน่าจะเคยสัมผัสกับเนตรเทพเจ้ามาก่อน หรือเคยได้รับของล้ำค่าที่เกี่ยวกับเนตรเทพเจ้ามา

“มันจะทำอะไร?”

มังกรโบราณอัสนีเพลิงที่ตามติดอยู่ข้างหลังจ้าวเฟิงเผยสีหน้าตื่นตระหนกทันที

เขาอยู่ใกล้กับจ้าวเฟิงมากที่สุด ตอนนี้สีสันหลากสีที่สาดออกมาจากหมอกแสงทำให้ใจของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เกิดความรู้สึกไร้แรงต้านทาน

“ดาราทลายผืนดิน!”

จ้าวเฟิงเคลื่อนพลังดั้งเดิมทั้งหมดออกมา แล้วสำแดงวิชาดวงตาที่แข็งแกร่ง

ดาราทลายผืนดินเดิมก็เป็นพลังที่รวมทุกประเภทเข้าด้วยกัน ใช้การปะทะกันของพลังที่ผสมปนเปก่อเป็นแรงระเบิดอันแข็งแกร่งในชั่วพริบตา

แต่ตอนนี้ ในดาราทลายผืนดินกระบวนท่านี้มีเพียงพลังดั้งเดิมของเนตรเทพเจ้าจ้าวเฟิงเท่านั้น

ครืน!

ลูกทรงกลมแสงดาราที่ราวกับความฝันปรากฏขึ้นบนร่างของจ้าวเฟิงทันที จากนั้นเขากะพริบไหววูบแล้วหายวับไป ก่อนเข้าประชิดยังคนทั้งแปดที่กำลังสำแดงเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งทันที

ในขณะเดียวกันนี้เอง เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดที่อยู่ข้างๆ คนทั้งแปดก้าวออกมาโดยพลัน ภารกิจของพวกเขาคือใช้ฝีมือทั้งหมดที่มีปกป้องคนทั้งแปดที่สำแดงเคล็ดวิชาลับ

“นี่คือการโจมตีอะไร?”

คนทั้งแปดที่กำลังสำแดงเคล็ดวิชาลับ มองไปยังดวงดาวมายาที่ลอยมาอย่างรวดเร็วจากไกลๆ ในใจเกิดความรู้สึกว่าไม่อาจต้านทานได้

ในตอนนี้ หนึ่งในคนทั้งแปดตะโกนขึ้นว่า “แย่แล้ว การผสานเกิดสภาพไม่มั่นคง!”

ขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ที่เหลือก็สัมผัสได้ถึงจุดนี้เช่นกัน

พลังดั้งเดิมรูปแบบใหม่ที่ใกล้จะผสานเข้าด้วยกันสั่นไหวขึ้นทันใด ไม่รู้ทำไม จู่ๆ พวกเขาก็ยากที่จะควบคุมพลังดั้งเดิมของตนเอง

“พยายามเข้า จะต้องผสานให้ได้!” เทพโบราณขั้นแปดที่แข็งแกร่งที่สุดในแปดคนตะโกนขึ้นทันที

มีเพียงคนที่ไม่ชำนาญเคล็ดวิชานี้แล้วสำแดงมันเท่านั้นจึงจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่พวกเขาแทบจะเป็นคนที่เทพโบราณโยวเฉวียนคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน คุ้นเคยกับเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งอย่างมาก ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ หากล้มเหลว พวกเขาจะมีหน้าไปเผชิญหน้ากับผู้นำระดับสูงของหอมารสวรรค์ได้อย่างไร

คนทั้งแปดพยายามควบคุมพลังดั้งเดิมที่ปลดปล่อยออกมา และผสานเข้าหากันแต่พวกเขากลับพบว่า พลังที่ปะทะและขัดแย้งกันกลุ่มนั้นยิ่งรุนแรงขึ้นจนยากที่จะควบคุม

“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?” ทายาทเนตรเทพเจ้าคนหนึ่งค่อนข้างตกใจ

“หรือว่า…เป็นดาวดุจความฝันดวงนั้น!” คนผู้หนึ่งร้องออกมาอย่างตกใจ

ยิ่งดาวดุจความฝันที่จ้าวเฟิงปลดปล่อยออกมาเข้าใกล้้เท่าไร พวกเขาก็ยิ่งควบคุมพลังดั้งเดิมได้ยาก ความยากในการผสานพลังก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น

“มีเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” ผู้แข็งแกร่งคนนั้นมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งไม่มีวิธีแก้ พลังที่เกิดจากเคล็ดวิชาลับก็ไม่เคยแพ้ทางอะไรมาก่อน

แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องประหลาดเช่นนี้

ครืน! ดวงดาวดุจความฝันพุ่งมาอย่างรุนแรง

เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดที่อยู่เบื้องหน้าเผาผลาญพลังเทพทันที พร้อมกระตุ้นอาวุธเทพป้องกันและกลวิชาป้องกันอื่นๆ

ในยามนี้เอง ทายาทเนตรเทพเจ้าแปดคนข้างหลังร้องขึ้นอย่างตกใจ

“แย่แล้ว เสียการการควบคุม…”

“ไม่อาจควบคุมได้!” สีหน้าของทายาทเนตรเทพเจ้าทั้งแปดเปลี่ยนไปพร้อมกัน

ในตอนที่การโจมตีวิชาดวงตาของจ้าวเฟิงโจมตีมา พลังดั้งเดิมของพวกเขาก็หลุดจากการควบคุม นี่เท่ากับว่าในตอนที่สำแดงวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งได้รับการโจมตีที่น่าหวาดหวั่น เคล็ดวิชาถูกขัดจังหวะ

ครืน ตูม ตูม!

พลังดั้งเดิมที่เสียการควบคุมระเบิดออกจนเกิดพลังทำลายล้างกลุ่มหนึ่ง

เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดที่กำลังเตรียมตัวรับมืออยู่ด้านหน้า จะอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าเบื้องหลังของเขาจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

“หนี!” ขีดสูงสุดขั้นแปดคนนั้นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หนีไปทันที

ส่วนทายาทเนตรเทพเจ้าทั้งแปดคนนั้น ในตอนที่วิชาเนตรเทพเจ้าล้มเหลวก็หนีไปทันทีเช่นกัน

ครืน ตูม บึ้ม! ดวงดาวดุจความฝันรวมทั้งพลังดั้งเดิมแปดกลุ่มปะทะเข้าด้วยกัน

สิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงก็คือ พลังดั้งเดิมแปดกลุ่มนั้นสลายหายไปชั่วพริบตา

ราวกับว่าเปลวเพลิงพบกับน้ำเย็น เปลวเพลิงที่กำแหงหายไปในชั่วพริบตาโดยไร้ร่องรอย

หลังจากทำลายพลังดั้งเดิมแล้ว ดวงดาวดุจความฝันนั่นก็ระเบิดออก เกิดเป็นลมพายุคลั่งพลังที่น่าหวาดกลัวทำลายทุกสรรพสิ่ง

หลังจากลมพายุคลั่งพัดผ่านไป ที่นั่นก็ปรากฏหลุมใหญ่มหึมาขึ้น ข้างในว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งอื่นใด

ทายาทแปดเนตรเทพเจ้ารวมทั้งขั้นแปดสุดยอดคนหนึ่งหายไปโดยไร้กระดูก!

“สำเร็จแล้ว!”

จ้าวเฟิงอึ้งไปชั่วครู่ แล้วจึงยิ้มเอ่ยอย่างดีใจ

เขาก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าพลังดั้งเดิมมากมายเพียงนั้นที่ตนเองเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาจะทำให้วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งเกิดความวุ่นวายขึ้น จนสุดท้ายสูญเสียการควบคุม

เช่นนี้แล้วตนมิกลายเป็นสิ่งที่แก้ทางของวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งได้หรอกหรือ

แค่เพียงหอมารสวรรค์สำแดงเคล็ดวิชาลับนี้ จ้าวเฟิงก็จะทำให้มันสูญเสียการควบคุมไปในทันที สร้างการระเบิดโกลาหลวุ่นวาย กระทั่งสังหารผู้สำแดงวิชาให้สิ้น

นอกจากจ้าวเฟิง สมาชิกทั้งหมดของหอมารสวรรค์กลายเป็นซากไปในทันที สีหน้าหวาดหวั่นนั้นราวกับว่าจะไม่หายไปตลอดกาล

หลังจากนั้นชั่วขณะ ที่นั่นก็ฮือฮากันไปทั่ว

วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งจู่ๆ ก็ถูกทำลาย อีกทั้งผู้ที่สำแดงวิชาและผู้ปกป้องยังสิ้นชีพทั้งหมด นี่คือผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายของทุกคน

“นี่เป็นไปได้อย่างไร? วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งที่ใกล้จะสำเร็จแล้ว อยู่ๆ ไยจึงเกิดเหตุการณ์นี้ได้?”

เทพโบราณโยวเฉวียนพลันคำรามอย่างโกรธแค้น

ทั้งหมดนี้ช่างยากจะเข้าใจจริงๆ

ใกล้จะได้รับชัยชนะอยู่แล้ว แต่กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ขึ้น ก็เหมือนกับเป็ดที่ต้มสุกแล้วกลับบินหนีไป

“พวกเจ้ามีความสามารถอะไรอีก? เอาออกมาให้หมดสิ!”

จ้าวเฟิงพลันหมุนกายไป ยืนเอามือไพล่หลังด้วยท่าทางหยิ่งทะนง เขาทำลายไพ่ตายที่หอมารสวรรค์เตรียมไว้อย่างตั้งอกตั้งใจลงราบคาบ

ตอนนี้ขวัญกำลังใจของหอมารสวรรค์หดหาย หากพูดถึงกำลังรบก็ไม่ใช่คู่มือของฝั่งจ้าวเฟิง

“บัดซบ…เจ้าทำลายวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งได้อย่างไร?”

เทพโบราณโยวเฉวียนจ้องไปยังจ้าวเฟิงด้วยใบหน้าหวาดผวา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version