บทที่ 1349 พลังของจอมเทพ
ภายในหอมารสวรรค์ จ้าวเฟิงและพวกเทพโบราณโยวเฉวียนหนึ่งไล่หนึ่งตาม ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านในฉับพลัน ทุกคนล้วนรู้สึกราวกับมีพลังที่ทำให้หวาดกลัวแขวนอยู่เหนือหัวของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้น? กลิ่นอายพลังกลุ่มนี้มาจากข้างนอก!”
เทพโบราณลั่วหลิงหน้าเสีย ส่งเสียงร้องอย่างตกใจ
เพียงแค่กลิ่นอายพลังก็แทรกซึมผ่านค่ายกลปกป้องข้างนอกเข้ามาข้างในหอมารสวรรค์ ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว ยากจะจินตนาการได้ว่าผู้แข็งแกร่งที่แผ่กระจายกลิ่นอายนี้ออกมาจะแข็งแกร่งเพียงใด
“กลิ่นอายกลุ่มนี้ ฮ่าๆ พวกเจ้าจบเห่แล้ว!” เทพโบราณโยวเฉวียนที่กำลังหลบหนีอยู่หยุดลงทันที จากนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
พลังที่สามารถทำให้เขาที่เป็นเทพโบราณขั้นเก้ารู้สึกหวาดกลัวได้เพียงนี้ และยังมีกลิ่นอายมรณะกับการตอบสนองของดวงตา เทพโบราณโยวเฉวียนมั่นใจ ผู้แข็งแกร่งขั้นจอมเทพจากเบื้องบนมาถึงหอมารสวรรค์แล้ว!
ในตอนนั้นที่จับแมวความลับสวรรค์ได้ หอมารสวรรค์ก็ส่งข่าวออกไป
แมวความลับสวรรค์สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เบื้องบนจึงให้บุคคลขั้นจอมเทพมาด้วยตนเอง แน่นอน อีกฝ่ายยังถือโอกาสนี้นำของล้ำค่าที่หอมารสวรรค์สะสมไว้และผลการค้นคว้าทั้งหมดไปด้วย
“เกิดอะไรขึ้น?”
จ้าวเฟิงใจกระสับกระส่าย แต่ตอนนี้เขาใช้เจตจำนงดวงตามากเกินไป คิดอยากจะมองทะลุหอมารสวรรค์และหุบเขาเย็นยะเยือกหลายหมื่นจั้งเพื่อสอดส่องดูสถานการณ์ด้านนอกก็เป็นไปไม่ได้เลย
“ฮ่าๆ ใต้เท้าจอมเทพมาเยือนแล้ว พวกเจ้าก่อความวุ่นวายจะมีทางรอดรึ?”
เทพโบราณโยวเฉวียนพูดอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด
เขาอยากจะเห็นท่าทางหวาดกลัวของพวกจ้าวเฟิง
“จอมเทพ!” เทพโบราณลั่วหลิงตื่นตะลึง รู้สึกว่าเรื่องราวไม่สู้ดีแล้ว
กองกำลังของพวกเขาที่มาครั้งนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือเทพโบราณชื่อเซียว
แต่ว่าพวกเขาคือคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ จอมเทพผู้นี้น่าจะไม่สร้างความลำบากให้แก่พวกเขา
“จอมเทพมาแล้ว!” จ้าวเฟิงสั่นสะท้านทั่วร่าง
ในดินแดนเทพรกร้าง ผู้เฝ้าดูแลที่ปรากฏอยู่ภายนอก โดยทั่วไปแล้วคือเทพโบราณ
จอมเทพ คือผู้แข็งแกร่งผู้สูงส่งที่หลายหมื่นหรือกระทั่งหลายแสนปีก็ยากที่จะได้เจอ เล่าลือกันว่าจอมเทพพิโรธ ฟ้าดินพินาศ
จ้าวเฟิงที่ใจเย็น เสี้ยวขณะนี้ก็ยังลนลาน
เขาไม่เหมือนเทพโบราณลั่วหลิงที่มีแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคุ้มครอง
เบื้องหลังของเขาคือเผ่าพันธุ์วิญญาณ พลังอำนาจเทียบกับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพไม่ได้เลย อีกทั้งจ้าวเฟิงยังทำลายหอมารสวรรค์จนกลายเป็นเช่นนี้ สมาชิกที่สังหารไปก็นับไม่ถ้วน
จอมเทพคนนั้นไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยตนเองไป
จ้าวเฟิงในตอนนี้ ต่อให้ใช้ไพ่ตายทั้งหมดก็ทำร้ายจอมเทพไม่ได้สักกระผีก กระทั่งว่าหากเปิดเผยความลับพวกนี้ออกไปอาจจะถูกจอมเทพเพ่งเล็งเอาได้
ทางรอดเดียวคือแกล้งทำเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ให้เทพโบราณลั่วหลิงช่วยเขาสักหน่อย แต่เมื่อจ้าวเฟิงออกไปเจอคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ความก็จะแตกทันที
ขวับ! จ้าวเฟิงหยิบของล้ำค่าที่บำรุงวิญญาณหลายอย่างออกมา ดื่มกินเข้าไปเพื่อฟื้นฟูการใช้พลัง
ในขณะเดียวกัน เขาก็เก็บชุดคลุมมิติ ผนึกพลังดั้งเดิมเอาไว้
“จอมเทพ!”
เปลวเพลิงบนร่างของมังกรวารีล้างโลกาหายไปไร้ร่องรอยในพริบตา จากนั้นแปลงเป็นชายเกล็ดดำ ใบหน้าหวาดกลัว
เจ้านายของเขาคือจ้าวเฟิง ตอนนี้ตัวจ้าวเฟิงเองยังยากที่จะปกป้องตัวเอง แล้วเขามังกรวารีล้างโลกาจะไม่ยิ่งเป็นอันตรายรึ
อีกทั้งมังกรวารีล้างโลกายังเจ็บใจเป็นอย่างยิ่ง พลังฝึกตนของเขาในตอนนี้ล้ำหน้ากว่าเมื่อก่อน ยิ่งได้รับเกล็ดคอเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกามา จะมีโอกาสไปถึงขีดสูงสุดของเทพโบราณหรือกระทั่งทะลวงขั้นจอมเทพ
ณ โลกภายนอก
ท้องฟ้ามืดมิดไปทั่ว ราวกับเป็นโลกมืดแห่งความตายที่ไม่สิ้นสุด ความเป็นความตายของทุกคนล้วนอยู่ในกำมือของผู้อื่น
ทุกคนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ต้านทานแรงกดดันมหาศาล มองไปยังคนผู้อยู่ในใจกลางโลกแห่งความตายที่กุมความเป็นความตายของพวกเขาไว้
เขามีผมขาวโพลน ใบหน้าดูอ้างว้างแต่ทรงอำนาจ ดวงตาดำขลับล้ำลึก ราวกับถ้ำแห่งความตายที่กลืนกินทุกสรรพชีวิต
“เป็นจอมเทพจริงๆ ด้วย!”
เทพโบราณชื่อเซียวจ้องไปยังอีกฝ่าย แล้วร้องออกมาทันที
มีเพียงจอมเทพเท่านั้นจึงจะมีพลังเช่นนี้ได้ อีกทั้งเทพโบราณชื่อเซียวยังรู้สึกว่าคนเบื้องหน้าคนนี้ไม่ใช่จอมเทพธรรมดาแน่นอน
เสี้ยวขณะที่จอมเทพคนนี้ปรากฏขึ้นในฟ้าดิน ทุกอย่างล้วนมีเขาเป็นแกนหลัก เทพโบราณชื่อเซียวคิดอยากจะโคจรเสวียนอ้าวมิติหลบหนีไปก็ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง
“ทำไมถึงมีจอมเทพมาได้!”
คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคนอื่นได้ยินคำพูดของเทพโบราณชื่อเซียว สีหน้าก็ตื่นตระหนกทันที
ที่ลึกในโลกมืดมิดแห่งนี้ พวกเขารู้สึกว่าพลังชีวิตของตนเองไหลออกไปช้าๆ อยู่ทุกชั่วขณะ นี่เป็นพลังที่อีกฝ่ายแผ่กระจายออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ท่านเทียนจี้ (นภาเดียวดาย) คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาด้วยตนเอง!”
ผู้อาวุโสเกล็ดเทาคำนับอย่างนอบน้อม
ขณะเดียวกัน สมาชิกหอมารสวรรค์คนอื่นๆ ที่นี่คุกเข่าลงทั้งหมด
‘ขั้วอำนาจนี้ไม่ธรรมดาเลย ยังมีบุคคลขั้นจอมเทพที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้อยู่อีกด้วย!’
เทพโบราณชื่อเซียวพึมพำในใจอย่างตกใจ
“เจ้าคือชื่อเซียว?
สายตาของจอมเทพเทียนจี้ จู่ๆ ก็มองมายังเทพโบราณชื่อเซียว
แค่ปรายตามองมาตามอารมณ์ก็สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับเทพโบราณชื่อเซียวแล้ว
หมอกสีดำแห่งความตายรวมไปยังเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ความเร็วของการกัดกลืนพลังชีวิตเขายิ่งเร็วขึ้น
“ใช่แล้ว!”
เทพโบราณชื่อเซียวโคจรพลังทั้งหมด ต้านทานพลังฟ้าดินที่มาจากจอมเทพเทียนจี้ไว้ สายตาจ้องมองตรงไปยังจอมเทพเทียนจี้
พวกเขาคือคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ อีกทั้งตนยิ่งเป็นลูกศิษย์ของผู้ครอบครองเนตรมิติ
จอมเทพทั่วไปไม่กล้าทำอะไรเขา
นับประสาอะไรกับจอมเทพเบื้องหน้าคนนี้ที่เหมือนว่าจะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ ดังนั้นเทพโบราณชื่อเซียวจึงไม่กลัว เขาเชื่อว่าแค่เพียงตนให้เหตุผลที่เพียงพอ จอมเทพเทียนจี้ไม่มีทางสร้างความลำบากให้กับพวกเขา
จอมเทพเทียนจี้มองไปยังเทพโบราณชื่อเซียว มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย
ฟู่!
จู่ๆ เขายื่นฝ่ามือออกไป จากนั้นคว่ำฝ่ามือลง เล็งเป้าหมายไปยังหอมารสวรรค์ที่อยู่ใต้พื้นหุบเหวเย็นยะเยือก
คนทั่วไปไม่มีทางสังเกตถึงพลังดั้งเดิมที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือของจอมเทพเทียนจี้ได้
ชั่วขณะต่อมา ทั่วทั้งหุบเหวเย็นยะเยือกก็สั่นไหว
มองไปราวกับทั่วทั้งผืนดินกำลังสั่นสะเทือนจนใกล้จะทลายลงอย่างไรอย่างนั้น
“นี่คือพลังของจอมเทพ พลิกฟ้าเปลี่ยนสวรรค์แล้วชัดๆ…”
เทพโบราณแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคนหนึ่งตาเบิกโพลง ร้องเสียงหลง
ทุกสิ่งใต้เท้าของทุกคนสั่นไหว พื้นแผ่นดินสายธารภูเขาล้วนถล่มทลาย
“เขาจะทำอะไร!” ใบหน้าของเทพโบราณชื่อเซียวคร่ำเครียด เขารู้สึกว่าจอมเทพคนนี้จะไม่เล่นตามกฎเสียแล้ว
“ลอยขึ้นมา!” จอมเทพเทียนจี้คำรามเสียงต่ำ
ครืน ตูม! ผืนแผ่นดินใต้เท้าของทุกคนพังทลายลงทันที
จากนั้นก็เห็นลูกแสงทรงกลมใหญ่มหึมาค่อยๆ ลอยขึ้นมา
“นี่มัน…”
เทพโบราณชื่อเซียวจ้องลูกแสงทรงกลมนั่นอย่างตื่นตระหนก
ในลูกแสงเป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างมหึมาที่ถูกปิดล้อมไว้แห่งหนึ่ง ทั่วทั้งหอมารสวรรค์โผล่ออกมาทันที
ค่ายกลป้องกันที่อยู่รอบหอมารสวรรค์ยังเปิดอยู่ ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่สำแดงค่ายกลยิ่งทำอะไรไม่ถูก
จอมเทพเทียนจี้ดึงเอาพื้นที่ของขั้นสี่สุดยอดออกมาทันที!
“เทพโบราณลั่วหลิง!”
เทพโบราณชื่อเซียวพลันนึกอะไรขึ้นได้
วิธีการของจอมเทพเทียนจี้ เห็นได้ชัดว่าจะย้ายทั้งหอมารสวรรค์ไป แต่เทพโบราณลั่วหลิงยังอยู่ภายในนั้น
“ท่านเทียนจี้มีพลังเทพเกรียงไกรจริงๆ!”
สีหน้าของผู้อาวุโสเกล็ดเทาตื่นเต้นเป็นที่สุด เขาพูดด้วยเสียงสั่นเทา
ภาพฉากนี้ช่างเต็มไปด้วยพลังเสียจริง!
นอกจากนั้น เรื่องครั้งนี้ยังเลยเถิดไปใหญ่ หอมารสวรรค์ไม่อาจมีอยู่ต่อไปได้ แน่นอนว่าเขาย่อมเข้าใจการกระทำของจอมเทพเทียนจี้
“อืม!” จอมเทพเทียนจี้พยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก
ส่วนลูกแสงทรงกลมมืดหม่นที่โอบล้อมทั่วทั้งหอมารสวรรค์ค่อยๆ หดเล็กลง ตอนนี้ใหญ่เพียงหลายร้อยจั้งเท่านั้น
เทียบกันแล้ว ย่อส่วนมิติไม่นับว่ายากมาก
สิ่งที่ยากที่สุดคือดึงผืนดินกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนั้นขึ้นมา ยากจะจินตนาการได้ว่าต้องใช้พลังมหาศาลเพียงใด
ฟู่! ลูกแสงทรงกลมมืดหม่นมาถึงข้างกายจอมเทพเทียนจี้
ส่วนผืนแผ่นดินพังทลายยับเยิน!
ในหอมารสวรรค์
“เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนถามขึ้นอย่างสงสัย
พวกเขารู้สึกแค่ว่าทั่วทั้งหอมารสวรรค์สั่นไหว ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่รู้เลย
“ให้ข้าดูหน่อยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง!”
เจตจำนงดวงตาของจ้าวเฟิงฟื้นฟูมาบ้างเล็กน้อย มองทะลุสุดกำลังน่าจะมองเห็นเหตุการณ์ข้างนอกได้
ขวับ ขวับ ขวับ!
ภาพทิวทัศน์เป็นชั้นๆ ทะลุผ่านไปทันที
สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก!
“นี่มัน…” จ้าวเฟิงตะลึงงัน ไม่รู้จะพูดอย่างไร
เมื่อมองทะลุทุกสิ่ง เขาพบว่าหอมารสวรรค์ที่ตนเองอยู่ลอยอยู่บนฟ้า และในท้องฟ้ามีชายชุดดำตัวใหญ่ราวกับเป็นศูนย์กลางของโลก
นั่นก็คือจอมเทพ!
‘นี่เป็นพลังขนาดไหนกัน!’ จ้าวเฟิงทอดถอนใจอย่างตกตะลึง
เขารู้ว่าไม่ใช่อีกฝ่ายตัวใหญ่ขึ้น แต่เป็นพวกเขาที่เล็กลง ทั่วทั้งหอมารสวรรค์เล็กลงแล้ว
ตอนนี้เอง จอมเทพเทียนจี้มองไปข้างในหอมารสวรรค์ ก่อนหัวเราะเสียงเย็น
“หอมารสวรรค์กลายเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่ทัดเทียมกัน!”
จอมเทพเทียนจี้มองไปยังเทพโบราณชื่อเซียวพลางพูดอย่างเย็นชา
เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ใจของคนแดนศักดิ์สิทธิ์มิติทุกคนสั่นสะท้าน
“ผู้อาวุโส เหตุของเรื่องนี้คือหอมารสวรรค์จับคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติมาก่อน!”
เทพโบราณชื่อเซียวก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นเช่นกัน จึงรีบร้อนอธิบาย
“แดนศักดิ์สิทธิ์มิติตายกี่คน? หอมารสวรรค์ตายกี่คน?”
จอมเทพเทียนจี้สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ถามเสียงเยียบเย็น
ชั่วขณะนั่น สมาชิกทั้งหลายของแดนศักดิ์สิทธิ์มิตินิ่งเงียบ
เหตุผลนี้ ไม่ได้นับกันเช่นนี้
“คนของหอมารสวรรค์จะมาเทียบกับคนของคนแดนศักดิ์สิทธิ์มิติได้หรือ?”
ในที่สุดเทพโบราณขั้นเก้าคนหนึ่งก็อดรนทนไม่ไหว พูดเสียงต่ำขึ้นมา
เขาคือเทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดที่มากับเทพโบราณชื่อเซียว ตำแหน่งอยู่ในกองกำลังรองของเทพโบราณชื่อเซียว
สีหน้าของจอมเทพเทียนจี้ไม่แปรเปลี่ยน ราวกับไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น เขามองไปยังเทพโบราณชื่อเซียวจากนั้นจึงพูดขึ้น “ข้าไม่ฆ่าเจ้า แต่พวกมันต้องตาย!”
เทพโบราณชื่อเซียวเป็นลูกศิษย์ของผู้ครอบครองเนตรมิติ จอมเทพเทียนจี้ไม่กล้าทำอะไรเขาจริงๆ
“ผู้อาวุโส นี่…”
เทพโบราณชื่อเซียวหน้าถอดสีไปทันที เตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง
ครืน ฟู่ ฟู่! หมอกดำทะลักล้นในฟ้าดิน กลายเป็นกรงเล็บผีเหี้ยมโหดสีดำแต่ละข้าง โจมตีไปยังสมาชิกแดนศักดิ์สิทธิ์มิติที่พูดขึ้นเมื่อครู่
“ไม่ ไว้ชีวิตด้วย…”
หลังจากส่งเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้น หมอกดำสลายไป เทพโบราณขั้นเก้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ส่วนจอมเทพเทียนจี้คู่กรณีราวกับไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น
ที่นั่นเงียบสงัดทันที ความตายที่น่าหวาดกลัวปกคลุมล้อมเหนือสมาชิกแดนศักดิ์สิทธิ์มิติทั้งหลาย
จอมเทพผู้นี้ แม้กระทั่งคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ บอกว่าฆ่าก็ฆ่าเลยทันที
การกระทำเช่นนี้ย่อมยั่วโทสะของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติแน่นอน
นอกเสียจากขั้วอำนาจที่จอมเทพเทียนจี้อยู่จะสามารถเทียบเคียงกับแดนศักดิ์สิทธิ์มิติได้ มิฉะนั้นไม่ว่าจอมเทพเทียนจี้จะหนีไปที่ไหน ก็จะถูกไล่สังหารจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ
ในหอมารสวรรค์ จ้าวเฟิงก็มองเห็นทุกอย่าง ในใจสั่นสะท้านถึงสุดขีดเช่นกัน
พวกเขาคิดมาตลอดว่าจอมเทพกับเทพโบราณขั้นเก้าไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ จนถึงตอนนี้ พวกเขาถึงได้รู้ว่าตนเองใสซื่อไร้เดียงสาเพียงใด!
จอมเทพต่างหากถึงจะนับว่าเป็นเทพของดินแดนเทพรกร้าง!
“คนต่อไป!”
เสียงของจอมเทพเทียนจี้ราวกับประกาศคำตัดสินแห่งความตาย
เสี้ยวขณะนี้ นอกจากเทพโบราณชื่อเซียว คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติทั่วร่างแข็งทื่อ วิญญาณสั่นสะท้าน
“ตาย!” เสียงของจอมเทพเทียนจี้ดังขึ้นในโลกมืดมิด หมอกแห่งความตายทะลักล้นโดยพลัน
แต่ในตอนนี้เอง สีหน้าของจอมเทพเทียนจี้เปลี่ยนไปทันใด นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมากที่สุดนับตั้งแต่มาที่นี่
“หยุด!” เสียงประหลาดและโบราณดังสะท้อนก้องในโลกมืดมิด ราวกับเป็นเสียงที่ดังมาจากมิติอันไกลโพ้น
ขณะเดียวกันนี้เอง ท้องฟ้าเหนือหัวของทุกคนมีเส้นแสงสุกสว่างสาดส่องลงมา
จากนั้น โลกมืดหม่นทั้งใบก็สลายไปช้าๆ!