Skip to content

King of Gods 1364

King Of Gods

บทที่ 1364 วางแผนร้าย

ยามที่ถูกเสือยักษ์สีเงินขั้นแปดสุดยอดเจอตัวที่คลังสมบัติใจกลาง พวกจ้าวเฟิงก็ไม่ได้จากไปทันที เพราะจ้าวเฟิงมองเห็นการสู้รบของฝูงอสูรทั้งสองผ่านดวงตาของเจ้าแมวขโมยน้อย

เขาจึงบุกเข้าไปในคลังสมบัติพร้อมกับซินอู๋เหิน และสังหารเสือยักษ์เงินสองตัวลง ก่อนจะค้นสิ่งของแล้วค่อยจากไป แต่ทว่า ตอนที่พวกเขาสองคนจะจัดการเสือเงินขั้นแปดสุดยอด แต่จู่ๆ กลับพบว่าบนร่างเสือเงินตัวนั้นสาดซัดพลังวิญญาณที่เหนือกว่าพลังฝึกตนของเขาออกมา

“แย่ล่ะ เสือเงินยักษ์ตัวนี้เป็นร่างแยกของจ่าฝูงสัตว์อสูร!”

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงมองจุดนี้ออกโดยพลัน

ในเวลาเดียวกัน เจ้าแมวขโมยก็บอกการเปลี่ยนแปลงในสนามรบแก่จ้าวเฟิง

“รีบไปเร็ว ฝูงอสูรทั้งสองกำลังมาแล้ว!”

จ้าวเฟิงหน้าเปลี่ยนสี

ในตอนที่ทั้งสองหนีไป เสือยักษ์สีเงินขั้นแปดสุดยอดก็กระโจนออกมาหมายจะขวางพวกจ้าวเฟิงไว้ นี่ย่อมเป็นความต้องการของจ่าฝูงเสือเงินอยู่แล้ว

ด้วยพลังของซินอู๋เหินและจ้าวเฟิง หากร่วมมือกันก็สังหารเสือยักษ์สีเงินได้สบายแต่ในขณะนี้ อสูรสองฝูงก็กรูเข้ามาพร้อมกัน พวกเขาไม่กล้าจะหยุดชะงักแม้แต่ช่วงลมหายใจเดียว

ตอนที่เพิ่งออกจากคลังสมบัติของเผ่าเทพยักษ์ พวกจ้าวเฟิงทั้งสองก็เห็นท้องฟ้าดำไกลลิบ มีฝูงอสูรงูและเสือจำนวนมหาศาลทะยานเข้ามา

จ่าฝูงในหมู่พวกมัน มีเสือยักษ์ลายสีเงินเข้มทั่วร่างและงูยักษ์สีเขียวเงินอีกตัวหนึ่ง พลังฝึกตนถึงขั้นเก้าระดับสุดยอด

ถ้าหากเป็นอสูรขั้นเก้าสุดยอดทั่วไป ด้วยพลังของซินอู๋เหินแล้วจะไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แต่อสูรที่นี่ชำนาญเสวียนอ้าวเวลา หากสู้กันตัวต่อตัว ซินอู๋เหินก็ยังรู้สึกลำบากไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝูงอสูร มีจำนวนมหาศาล หนำซ้ำพวกมันแต่ละตัวก็ยังทรงพลัง

“พวกเจ้าหัวขโมยสองคนนี้ กล้าขโมยสมบัติในคลังสมบัติของข้าเชียวรึ!”

เสือยักษ์สีเงินแหงนหน้าตะโกนขึ้นฟ้า อานุภาพมหาศาล

“เป็นพวกเจ้าสองคนที่ยุแยงพวกเราสองฝูงอสูร?”

งูยักษ์สีเขียวเงินเอ่ยเสียงเย็นชา

“รีบหนีเร็ว!” จ้าวเฟิงร้องเสียงต่ำ

แรกเริ่มเดิมที ด้วยความเร็วในการตอบสนองของพวกเขาสองคน ก็มากพอที่จะหนีเอาตัวรอดก่อนฝูงอสูรจะตามมาทัน แต่จะทำอย่างไรได้ เสือยักษ์สีเงินขั้นเก้าสุดยอดตนนั้นกลับให้ร่างแยกอยู่เฝ้าคลังสมบัติเอาไว้

อสูรขั้นเก้าสุดยอดมีจิตควบคุม กำลังรบที่เสือยักษ์สีเงินปลดปล่อยออกมาจึงยิ่งแข็งแกร่ง แต่มันก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกจ้าวเฟิงอยู่ดี

“หยุดเดี๋ยวนี้!” ร่างแยกระเบิดออกภายใต้การควบคุมของร่างจริง กลายเป็นลมพายุทำลายล้างสีเงินเข้มกลุ่มหนึ่ง บีบจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินให้เข้าไปส่วนลึกของคลังสมบัติ

จ้าวเฟิงร่วมมือกับซินอู๋เหิน สำแดงเคล็ดวิชาป้องกันติดต่อกัน จนสุดท้ายสามารถต้านการบาดเจ็บจากการระเบิดตัวเองได้

โครม ครืน ครืน!

ในตอนที่เพิ่งหนีออกไปนั้น อสูรจากท้องฟ้าไกลมากันมืดฟ้ามัวดิน ตรงไปบดขยี้จ้าวเฟิงและซินอู๋เหิน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถึงจะเป็นจ้าวเฟิงที่มีสติอยู่เสมอก็ยังใจเต้นระรัว

“หนีไม่พ้น!” สีหน้าซินอู๋เหินหนักอึ้งเล็กน้อย

พวกเขาแบกรับแรงกดดันจากเสวียนอ้าวเวลาที่นี่ จนความเร็วในการเคลื่อนไหวเชื่องช้าลงไปกว่าครึ่ง

ส่วนอสูรพวกนี้กลับไม่ได้รับแรงกดดันใดๆ กระทั่งยังรวดเร็วอย่างยิ่งเพราะเสวียนอ้าวเวลา

ดูไปแล้วพวกมันต้องการจะไล่ตามจ้าวเฟิงและซินอู๋เหิน

ด้วยพลังของฝูงอสูรทั้งสองนี้มากพอที่จะบดขยี้คนทั้งสองในพริบตา

“จ้าวเฟิง มีวิธีหรือไม่?” ซินอู๋เหินถาม

แต่ไหนแต่ไรมา จ้าวเฟิงก็มักทำอะไรที่ทำให้ต้องประหลาดใจ

ถ้าหากกระทั่งจ้าวเฟิงยังไม่มีปัญญา ซินอู๋เหินก็คงจะทำได้เพียงใช้พลังของตราเทพบรรพกาลหนีออกจากที่นี่ไปพร้อมกัน แต่อุโมงค์ทางเข้าที่ตราเทพบรรพกาลสร้างจะเปิดขึ้นทุกๆ ร้อยปี

ถ้าหนีออกไปแบบนี้ ก็ต้องรอไปอีกร้อยปีถึงจะเข้ามาที่นี่ได้

หนำซ้ำทรัพยากรที่พวกเขาสะสมไว้ในคลังสมบัติของเผ่าเทพยักษ์ก็ไม่ได้มากมาย ไม่มากพอที่จะช่วยให้ทั้งเผ่าเทพยักษ์รุ่งเรืองขึ้นมา ระยะเวลาร้อยปียาวนานจนเกินไป ระหว่างนี้อาจเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงได้มากมายนัก

“เกิดอะไรขึ้นด้านหน้า?”

เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดของตำหนักวิญญาณบรรพกาลเอ่ยถาม

จากการชี้ทางของอุปกรณ์ในมือเทพโบราณอวี้ห่าย ตราเทพบรรพกาลอยู่ด้านหน้านี้เอง แต่เขากลับรู้สึกว่าด้านหน้ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล รอบบริเวณปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายโลหิตที่สับสนวุ่นวาย

“นั่นมัน ฝูงอสูร!”

ประสาทสัมผัสเทพของเทพโบราณอวี้ห่ายแข็งแกร่งพอควร อาณาเขตของประสาทสัมผัสค่อนข้างไกล จึงสังเกตเห็นสถานการณ์บางส่วนได้

“หรือว่าพวกซินอู๋เหินจะถูกฝูงอสูรล้อมเอาไว้แล้ว?”

เทพโบราณอวี้ห่ายคาดเดา

จากการกลุ่มผลึกในมือ ตำแหน่งของตราเทพบรรพกาลอยู่ไม่ไกลจากฝูงอสูรเท่าไหร่นัก

“เช่นนั้นแล้วพวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?” อีกคนในกลุ่มถามขึ้น

“รอดูไปก่อน!” เทพโบราณอวี้ห่ายเอ่ยเสียงต่ำ

พวกเขาเองก็เคยทดสอบความแข็งแกร่งของอสูรที่นี่มาแล้ว ต่อให้เขาเป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝูงอสูรจำนวนเท่านั้นก็ไม่ได้มีโอกาสจะชนะ

ในฐานะที่เทพโบราณอวี้ห่ายเป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ เขาสังเกตเห็นการดำรงอยู่ของฝูงอสูร

ฝูงอสูรคือสิ่งมีชีวิตที่เติบโตอยู่ที่นี่ จึงไม่ได้รับแรงกดดันใดๆ หนำซ้ำยังมีอายุยืนยาว ทรงพลังแกร่งกล้า ย่อมสัมผัสได้ถึงคนทั้งสามด้านหลัง

ในตอนที่ฝูงอสูรอยู่ห่างจากพวกจ้าวเฟิงไม่ถึงแสนลี้ จู่ๆ พวกมันก็หยุดชะงักไป

“เผ่ามนุษย์?” ดวงตาเสือยักษ์สีเงินเคร่งขรึมเกินจะเปรียบ

“ทำไมถึงมีเผ่ามนุษย์มากมายขนาดนี้มาโผล่ที่นี่ได้?”

งูยักษ์สีเขียวเงินเองก็ตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

ฝั่งตรงข้ามกับฝูงอสูร

จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินเองก็สังเกตเห็นท่าทีที่แปลกไปของฝูงอสูรเช่นกัน

“ยังมีคนอื่นอีกหรือ?” จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย

ในตอนที่ซินอู๋เหินเปิดทางเดินจากตราเทพบรรพกาล มีแค่พวกเขาห้าคนที่เข้ามาแต่คำพูดของฝูงอสูรทั้งสองเหมือนกับว่าแถวนี้ยังมีพวกมนุษย์คนอื่นอยู่อีก

“ไม่ใช่พวกเทพโบราณหวาไฉ่!”

หลังจากติดต่อกันเล็กน้อยแล้ว ซินอู๋เหินก็พลันเอ่ยออกมา

หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผล หรือว่าที่มิติแห่งนี้มีมนุษย์อยู่ก่อนแล้ว?

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาใส่ใจเรื่องนี้ การเอาชีวิตรอดต่างหากที่สำคัญ

จู่ๆ ดวงตาจ้าวเฟิงก็สว่างวาบ เอ่ยด้วยใบหน้ายินดีว่า “ดีจริงๆ พวกหัวหน้ามาแล้ว จะได้พวกสมบัติมหาศาลในคลังสมบัติมาครอบครองอย่างง่ายดายแล้ว…”

ซินอู๋เหินชะงักไป จากนั้นจึงยิ้มอย่างไร้คำพูด

ไม่รู้ว่าเผ่ามนุษย์คนอื่นแถวนี้เป็นใครกันแน่ ถึงถูกจ้าวเฟิงวางแผนให้ร้ายแบบนี้

“อะไรนะ หัวหน้า…”

สีหน้าเสือยักษ์สีเงินเปลี่ยนไปทันที คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะยังมีพวกพ้องอยู่อีก พวกมันไล่สังหารพวกจ้าวเฟิงออกมาไกลจากคลังสมบัติแล้วจริงๆ

ขณะพวกเขาไล่ล่าพวกจ้าวเฟิง อีกสามคนมีความเป็นไปได้ที่จะฉวยโอกาสครั้งนี้เข้าไปในคลังสมบัติ หนำซ้ำผู้ที่ทรงพลังที่สุดในทั้งสามคน พลังยังไปแตะครึ่งก้าวสู่จอมเทพ ทรงพลังยิ่งนัก หากให้ต่อสู้ตัวต่อตัว เสือยักษ์สีเงินขั้นเก้าสุดยอดจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

“ไปได้!” จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินบินไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทีไม่รีบไม่ร้อน

ส่วนฝูงอสูรเสือเงินจะรุกหรือจะถอยก็ยากลำบาก ถ้าหากพวกเขาไล่สังหารจ้าวเฟิงต่อ สามคนที่เหลือก็จะฉวยโอกาสเข้าไปในคลังสมบัติ

“ช่วยข้าสักหน่อย เมื่อเรื่องจบลงจะขอบพระคุณอย่างงาม!”

เสือยักษ์สีเงินเอ่ยกับงูยักษ์เขียวเงิน

“ได้!” งูยักษ์เขียวเงินตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

การต่อสู้ในครั้งนี้ของพวกเขาสองเผ่าทำให้เกิดความเสียหายไม่น้อย

ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากการยุแยงของเผ่ามนุษย์ ดังนั้นเขาเองก็กราดเกรี้ยวมาก จึงเคืองแค้นพวกมนุษย์ยิ่งนัก

“พวกเจ้าไปไล่ล่าสองคนนั้น!” เสือยักษ์สีเงินถ่ายทอดคำสั่ง

ถัดมา มันกับงูยักษ์เขียวเงินก็พาฝูงอสูรจำนวนมากสลายตัวไป

เสือยักษ์สีเงินสี่ตัวที่เหลือ ตัวหนึ่งพลังฝึกตนแตะขั้นเก้า และอีกสองตัวเป็นขั้นเก้าสุดยอด ส่วนอีกตัวเป็นขั้นแปด อสูรสี่ตนอย่างพวกมันโผตรงไปสังหารจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินในทันที

“มา!” ซินอู๋เหินอดไม่ได้จนต้องตะโกนออกมา

เมื่อเปรียบกับอันตรายที่ผ่านมา เสือยักษ์สีเงินสี่ตัวในตอนนี้ก็ไม่นับเป็นอะไรได้

“คิดไม่ถึงเลยว่ามนุษย์นิรนามแถวนี้จะทรงพลังขนาดนี้ ถึงกับทำให้จ่าฝูงอสูรทั้งสองร่วมมือกันรับมือ!”

จ้าวเฟิงตกใจเล็กน้อย

เมื่อครู่เขาก็แค่จงใจหยั่งเชิง ถ้าหากสำเร็จได้ย่อมดีอยู่แล้ว

แต่จ้าวเฟิงคิดไม่ถึงเลยว่าจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ มนุษย์แปลกหน้าล่อลวงอสูรกว่าเก้าส่วนไปได้

อีกฟากหนึ่ง

“เทพโบราณอวี้ห่าย มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”

เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดผู้นั้นพลันโพล่งขึ้น

“มีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลจริงๆ ด้วย!”

สีหน้าเทพโบราณอวี้ห่ายถมึงทึงอย่างมาก

พวกเขาสามคนยังไม่ทันได้ทำอะไรที่นี่ เหตุใดพลานุภาพของฝูงอสูรพวกนั้นจึงรุนแรงนัก

ดูท่าทางของมันแล้วน่าจะมีความแค้นฝังลึกด้วย

“เทพโบราณอวี้ห่ายพวกเรารีบไปกันเถอะ!”

เทพโบราณขั้นเก้าอีกคนร้องเสียงหลง

“ช้าก่อน!” เทพโบราณอวี้ห่ายตะโกนเสียงต่ำ

เมื่อครู่เขาพลาดโอกาสที่ยอดเขาสีดำก็เพื่อสังหารซินอู๋เหินและครอบครองตราเทพบรรพกาล

หากหนีไปในตอนนี้ คงจะพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว

“ทุกท่าน พวกเราไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกัน!”

เทพโบราณอวี้ห่ายตะโกน

“เหอะ ไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน เจ้าพูดง่ายดีนี่!”

งูยักษ์เขียวเงินยิ้มชั่วร้าย

“ไร้สาระ เจ้ามนุษย์เจ้าเล่ห์ ตายเสียเถอะ!”

เสือยักษ์เขียวเงินข่มความโกรธเกรี้ยวในใจไม่ได้ กลายร่างเป็นแสงสีขาวเรืองรอง ตรงดิ่งมาหาเทพโบราณอวี้ห่าย

ในเวลาเดียวกัน งูยักษ์เงินเขียวไล่ตามมาติดๆ พวกมันสองตัวร่วมมือกันถึงจะสามารถรับมือครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนนี้ได้

“อสูรที่โง่งมพวกนี้ คงจะถูกแผนของพวกซินอู๋เหินหลอกเข้าให้!”

เทพโบราณอวี้ห่ายเหมือนจะคิดอะไรออก

แต่ในตอนนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรที่น่ากลัวจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่หนีไป

“พวกเจ้าคงเข้าใจอะไรผิด พวกเราสามคนมาตามจับผู้เยาว์ที่โจมตีพวกเจ้าเมื่อครู่!”

เทพโบราณอวี้ห่ายโบกมือสองข้าง กลุ่มแสงสีดำสองกลุ่มโจมตีอสูรขั้นเก้าสุดยอดทั้งสอง

“พวกเจ้าจะต้องตาย ส่วนพวกมันก็ต้องตายเช่นกัน!”

เสือยักษ์สีเงินร้องลั่น

ทางฟากนั้น พวกเขาทิ้งอสูรสี่ตนเอาไว้ ก็มากพอจะสังหารจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินจนแหลกละเอียดได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ พวกเขาต้องสังหารทั้งสามคนนี้เพื่อชำระความแค้นในใจให้ได้

……

ผลัวะ!

อสูรทั้งสี่ร้องตะโกนและทะยานไปเต็มแรง

“ข้าเอง!” ซินอู๋เหินกดเสียงต่ำก่อนจะก้าวออกมา เลือดในร่างพวยพุ่งออกมา

ครืน! วินาทีต่อมา ร่างของซินอู๋เหินสว่างเจิดจ้าไปทั่วฟ้า ร่างก็ขยายสูงใหญ่ไปจนถึงหมื่นจั้งในฉับพลัน

หลังจากกระตุ้นสายเลือดแล้ว พลังและการป้องกันของซินอู๋เหินก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ประหนึ่งเป็นกำแพงเหล็กกล้าขวางอสูรทั้งสี่ตนเอาไว้ ส่วนจ้าวเฟิงยืนอยู่ด้านหลัง ใช้วิชาโจมตีวิญญาณและวิชาดวงตาเพื่อรบกวนอสูรทั้งสี่ตน

แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้รบราฆ่าฟันกันอย่างรุนแรง แต่สู้ไปถอยไป

“ท่านอู๋เหิน พวกเรามาแล้ว!”

ไม่นานนัก เสียงของพวกเทพโบราณหวาไฉ่ก็ดังขึ้น

ส่วนเจ้าแมวขโมยน้อยเองก็ตามเสียงนั้นมาด้วย

“ที่แท้ก็มีผู้ช่วยด้วย?”

เทพโบราณขั้นเก้าทั้งโกรธเกรี้ยวทั้งหงุดหงิด

ถึงแม้ว่าพลังของทั้งสองคนนี้ไม่ธรรมดา แต่พวกเขามีคนจำนวนมาก ชัยชนะย่อมเป็นของพวกเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะเมื่อไหร่ก็เท่านั้น แต่ตอนนี้มีเทพโบราณสามคนโผล่มา และยังมีแมวประหลาดอีกตัวด้วยเช่นกัน

หลังจากพวกเขาเข้าร่วมแล้ว อสูรเสือเงินสี่ตัวก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

“อย่ามัวแต่สู้ การหนีเอาชีวิตรอดสำคัญกว่า!” ซินอู๋เหินเอ่ย

ถึงแม้พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่อสูรเสือเงินเรียกกำลังหนุนมาได้

จากนั้นทุกคนจึงร่วมมือกันทั้งรุกทั้งรับ จนสลัดอสูรเสือเงินได้อย่างราบรื่น หลังจากบินไปกว่าครึ่งวัน ทุกคนก็มุดเข้าไปพักใต้ดินชั่วครู่หนึ่ง

“ท่านอู๋เหิน ผลเป็นอย่างไรบ้าง?” เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเอ่ยอย่างตื่นเต้น

เพราะคลังสมบัติที่เผ่าเทพยักษ์สร้างขึ้น สมบัติและทรัพยากรภายในนั้นน่าจะมีมากพอหนุนเผ่าเทพยักษ์ให้รุ่งเรืองขึ้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version