Skip to content

King of Gods 1365

King Of Gods

บทที่ 1365 เสวียนอ้าวขั้นเก้า

“ท่านอู๋เหิน ผลเป็นอย่างไรบ้าง?” เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเอ่ยอย่างตื่นเต้น

เพราะคลังสมบัติที่เผ่าเทพยักษ์สร้างขึ้น สมบัติและทรัพยากรภายในนั้นน่าจะมีมากพอหนุนเผ่าเทพยักษ์ให้รุ่งเรืองขึ้นมา

“คลังสมบัติถูกกลุ่มอสูรยึดครอง สมบัติและทรัพยากรจำนวนมากภายในถูกขุดค้นมานานแล้ว ส่วนข้าและจ้าวเฟิงรีบร้อนนัก จึงได้มาเพียงบางส่วนเท่านั้น!”

ซินอู๋เหินบอกตามตรง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่นที่เหลือของเผ่าเทพยักษ์มีท่าทีท้อแท้เล็กน้อย

นี่คือคลังสมบัติที่เผ่าเทพยักษ์สร้างขึ้น แต่เพราะเหตุการณ์ตำหนักเทพโบราณ ทำให้เผ่าเทพยักษ์ไม่เคยมาที่นี่ คลังสมบัติถูกเหล่าอสูรยึดครองไป

“แต่อย่ารีบร้อนไป คลังสมบัติบรรพชนกว้างใหญ่ไพศาล มีโอกาสมากมาย พวกเราสามารถหยุดพักที่นี่ได้ แล้วค่อยค้นหาทรัพยากร!”

ซินอู๋เหินเอ่ยอีกครั้ง

คำพูดนี้ย่อมได้รับความเห็นด้วยจากคนที่เหลือ

อย่างแรก ผลเก็บเกี่ยวของพวกเขาไม่มากนัก ต่อให้กลับไปที่เผ่าเทพยักษ์ก็ยังยากที่จะพลิกสถานการณ์ได้ ลำดับต่อมา คลังสมบัติบรรพชนที่ล้ำค่าขนาดนี้ ย่อมต้องรั้งอยู่ต่อสักพักหนึ่งเพื่อค้นหาโอกาสและเพิ่มพลังขึ้น สำหรับทั้งเผ่าเทพยักษ์แล้วมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษใดๆ

ได้ยินมาว่าที่นี่ยังมีความลับในการเลื่อนขึ้นเป็นจอมเทพ ถ้าหากทุกคนได้ครอบครองโอกาสนี้ บางทีอาจจะสามารถเป็นหนึ่งในรายชื่อจอมเทพ พอถึงเวลานั้นต่อให้มีทรัพยากรไม่มากนัก ก็ยังสามารถนำพาเผ่าเทพยักษ์ล้มตำหนักวิญญาณบรรพกาลได้

“อันตรายที่นี่มีมากมายนัก ความสามารถของข้ายังไม่เพียงพอเลย…”

ซินอู๋เหินหยิบเอาทรัพยากรบางส่วนที่ได้มาจากคลังสมบัติแจกให้คนอื่นๆ

ทรัพยากรที่นี่เดิมเผ่าเทพยักษ์เคยทิ้งเอาไว้เพื่อให้คนของเผ่าเทพยักษ์ได้ใช้ ซึ่งก็สมเหตุสมผลแล้ว

ซินอู๋เหินจึงเอาพวกนั้นออกมาเพื่อเพิ่มพลังของทุกคนในตอนนี้

“ขอบคุณท่านเจ้าตำหนักมาก!”

พวกเทพโบราณหวาไฉ่ตื่นตะลึงมาก แต่ละคนต่างเอื้อมไปรับทรัพยากรล้ำค่ามา

หากเปลี่ยนเป็นยามปกติ พวกเขาต้องใช้คะแนนคุณูปการเพื่อแลกเปลี่ยน แต่ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ พวกเขาถึงได้รับโอกาสแบบนี้

“จ้าวเฟิง ตอนนี้พวกเราต้องการพลังของเจ้า ดังนั้นเจ้าเองก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำหนักเทพยักษ์…”

ซินอู๋เหินเอ่ยกับจ้าวเฟิง

หากใช้ทรัพยากรเหล่านี้กับเผ่าเทพยักษ์ยังไม่เพียงพอ ในตอนนี้เขาจะมอบทรัพยากรนี้ให้กับจ้าวเฟิง ต้องทำให้เผ่าเทพยักษ์คนอื่นไม่พอใจเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงต้องพูดเช่นนี้

“สิ่งเหล่านี้เป็นของพวกเจ้าเผ่าเทพยักษ์ เจ้าเก็บเอาไว้เองเถอะ ข้าหวังว่าในภายหน้าหากข้าได้โอกาสอะไรจากที่นี่มา ข้าจะมีสิทธิ์จัดการด้วยตนเอง!”

จ้าวเฟิงปฏิเสธของรางวัลจากซินอู๋เหิน แต่เสนอเงื่อนไขของตนเองออกมา

อย่างไรก็เป็นเพราะซินอู๋เหินและเผ่าเทพยักษ์เขาถึงมีโอกาสมาที่นี่ ถ้าต่อจากไปนี้ไปเขาได้สมบัติอะไรมา ย่อมต้องตกเป็นเป้าสายตาของเผ่าเทพยักษ์ และอาจจะก่อให้เกิดปัญหาระหว่างสองฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ก่อนที่ทุกสิ่งจะเกิดขึ้น จ้าวเฟิงจึงปฏิเสธทรัพยากรของเผ่าเทพยักษ์และเสนอเงื่อนไขเช่นนี้

“ดี ข้าไม่มีความเห็นในจุดนี้ อาศัยความสามารถของตนเองแล้วกัน!”

เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเปิดปากเอ่ย

ถ้าหากปฏิเสธ จ้าวเฟิงก็จะใช้สอยทรัพยากรของเผ่าเทพยักษ์ได้ตามอำเภอใจ เทพโบราณเฉิงอวิ๋นไม่อยากเห็นภาพเช่นนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกเผ่าเทพยักษ์มีมากมาย หรือว่าความสามารถในการหาสมบัติจะด้อยกว่าจ้าวเฟิงคนเดียว?

“ได้ เอาแบบนี้แล้วกัน!”

ซินอู๋เหินไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

ที่พวกเขาหลายคนเข้ามาในคลังสมบัติบรรพชนได้ก็เป็นเพราะจ้าวเฟิงด้วย

และการสำรวจที่นี่ต่อไป จ้าวเฟิงและเจ้าแมวขโมยเองก็เป็นส่วนสำคัญ จ้าวเฟิงยื่นข้อเสนอเช่นนี้ไม่นับว่าเกินเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสเผ่าเทพยักษ์ครอบครองมิติแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และเผ่าเทพยักษ์มิได้เปิดทางเข้าได้ด้วยตนเอง

ที่นี่มีโอกาสจำนวนมหาศาล แต่เต็มไปด้วยอันตรายนับไม่ถ้วน หากจ้าวเฟิงมีความสามารถก็หยิบฉวยไปเถิด

ทางฝั่งตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็กำลังโดนฝูงอสูรไล่ล่าอยู่พอดี

“อย่าให้พวกมันหนีไป!” เสือยักษ์สีเงินเอ่ยเสียงต่ำ

เขาเพิ่งได้ข่าวว่าพวกจ้าวเฟิงหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย ถ้าหากปล่อยให้มนุษย์พวกนั้นหนีรอดไปได้เหมือนกัน เขาคงจะรับไม่ไหวแน่

“เป็นมิตรไม่ชอบ ชอบเป็นศัตรูกันงั้นรึ คิดว่าเผ่าวิญญาณบรรพกาลรังแกได้ง่ายๆ หรือไง!”

เทพโบราณอวี้ห่ายเองก็หงุดหงิดเช่นกัน

เขาไม่อยากจะยุ่งวุ่นวายกับฝูงอสูร แต่ฝ่ายตรงข้ามกัดไม่ปล่อย เขาที่มีพลังเทียบเท่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพคิดไม่ถึงเลยว่าต้องโดนเทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองไล่สังหาร เรื่องนี้ทำให้เขาหัวเสียอย่างยิ่ง

วู้ม! เทพโบราณอวี้ห่ายกระตุ้นพลังสายเลือดทันที ร่างกายเขาทั้งหมดกลายเป็นกายวิญญาณสีดำกึ่งโปร่งแสงกลุ่มหนึ่ง

ตู้ม! การโจมตีของเสือยักษ์สีเงินและงูยักษ์เขียวเงินพุ่งผ่านร่างเทพโบราณอวี้ห่าย แต่ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บอะไรมาก

“เผ่าวิญญาณบรรพกาล!”

สีหน้างูยักษ์เขียวเงินตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ในความทรงจำของมัน เผ่าพันธุ์นี้แข็งแกร่งและชำนาญการโจมตีชั้นวิญญาณอย่างมาก

“มหาสมุทรโลกันตร์!”

ร่างเทพโบราณอวี้ห่ายขยายใหญ่ไม่หยุด จนกลายเป็นคลื่นทะเลสีดำมืดกระเพื่อมอยู่กลางอากาศ

พวกที่พลังดวงวิญญาณค่อนข้างอ่อนแอในฝูงอสูรทั้งสองร่างสั่นเทิ้ม วิญญาณสัมผัสได้ถึงแรงกดดันหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

“ท่าไม้ตายของเทพโบราณอวี้ห่าย!”

“เขาใช้กายวิญญาณพิเศษของเผ่าวิญญาณบรรพกาลสำแดงเคล็ดวิชาสายเลือดจนกลายเป็นนรกทะเลวิญญาณ ดวงวิญญาณของสรรพสิ่งในทุกที่ที่มันพัดผ่านจะตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่ต่างจากตกนรก!”

สองคนจากนี้ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้

“ตายซะเถอะ!”

เทพโบราณอวี้ห่ายตะโกนเสียงดัง

คลื่นสมุทรสีดำที่เงียบสงัดขยายใหญ่ไปหลายจั้ง จากนั้นจึงกลายเป็นกระแสคลื่นรุนแรงปกคลุมฝูงอสูรเอาไว้

อสูรขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองสำแดงการโจมตีวิญญาณออกมา

แต่จนปัญญา การป้องกันวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่ายแข็งแกร่ง ตั้งรับการโจมตีวิญญาณของพวกเขาไว้โดยตรงแล้วตรงเข้ามา

ทันใดนั้นอสูรขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองถูกคลื่นสมุทรทมิฬล้อมเอาไว้ อสูรที่เหลือแถวนั้นก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย

ในตอนแรกพวกเขายังโจมตีกลับและต่อต้านสุดแรง

แต่วิญญาณของพวกเขาก็อ่อนแอลงไปอย่างช้าๆ วิญญาณอสูรขั้นแปดจำนวนไม่น้อยถูกเทพโบราณอวี้ห่ายกลืนกินไป

“ไม่ได้การ วิชาวิญญาณของคนผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป!”

งูยักษ์เขียวเงินปลดปล่อยเสวียนอ้าวเวลา ต่อสู้และรับมือกับกระแสน้ำทมิฬ

“ช่วยข้าด้วย!”

ส่วนฝั่งเสือยักษ์สีเงิน ความเร็วและความปราดเปรียวด้อยกว่างูยักษ์เขียวเงินเล็กน้อย จึงถูกกายวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่ายพันธนาการเอาไว้

“สามารถเรียกว่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพได้ อย่างน้อยจะต้องมีพลังเสวียนอ้าวที่เหมือนกันไปถึงขั้นเก้า เสวียนอ้าวธาตุน้ำของข้ามีพลังพันธนาการแข็งแกร่งมาก พวกเจ้าหนีไม่พ้นแน่!”

ในคลื่นสมุทรทมิฬมีเสียงเทพโบราณอวี้ห่ายดังขึ้น

นอกจากเสวียนอ้าวธาตุน้ำแล้ว การโจมตีดวงวิญญาณของเขายังแฝงไปด้วยเสวียนอ้าวที่มืดมิด ทั้งสองอย่างประสานกันจะทำให้กายวิญญาณค่อยๆ สูญเสียจิตสำนึกไป และตกอยู่ในความเงียบสงัด

ขอแค่สูญเสียแรงต้านทานจนหมดสิ้นไป เขาก็จะสามารถกลืนกินและยึดครองวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสบายๆ

แต่เทพโบราณอวี้ห่ายสำแดงเคล็ดวิชานี้จะสิ้นเปลืองพลังสายเลือดอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น จากอาณาเขตการโจมตีของเขา จะสิ้นเปลืองพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

สีหน้าของเทพโบราณขั้นเก้าทั้งสองดูย่ำแย่มาก หากไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณของพวกเขาแข็งแกร่งจนเกินไป ชำนาญเสวียนอ้าวเวลา ในตอนนี้เกรงว่าคงจะถูกฝ่ายตรงข้ามสังหารไปแล้ว

ฟ้าดินมืดทึมทั้งหมด กระแสน้ำสีดำเหมือนจะกลืนกินทุกสรรพสิ่งไป

“ร่วมมือกัน!”

อสูรขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองสบตากัน ก่อนจะพร้อมใจโคจรเสวียนอ้าวเวลา

ทันใดนั้น การหมุนวนของฟ้าดินก็เริ่มเชื่องช้าลง จนในที่สุดก็หยุดชะงักลง

อสูรขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองสลัดหนีการจับกุมของเทพโบราณอวี้ห่ายในวินาทีนั้น

พวกมันเพิ่งจะสลัดตัวออกมาได้ ยังไปไม่ไกลเท่าไหร่นัก ฟ้าดินก็ฟื้นฟูกลับสู่สภาวะปกติ

“หนีไปแล้วหรือ เสวียนอ้าวเวลา?” สีหน้าเทพโบราณอวี้ห่ายถมึงทึง

เทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองร่วมมือกัน ใช้เสวียนอ้าวเวลาแช่แข็งเวลาในมิติแห่งนี้เอาไว้ ดีที่พลังฝึกตนของเทพโบราณอวี้ห่ายแข็งแกร่ง การแช่แข็งในเวลาสั้นๆ นี้ไม่ถึงครึ่งลมหายใจด้วยซ้ำ

อสูรขั้นเก้าสุดยอดทั้งสองที่สลัดการจับกุมได้มีสีหน้าอ่อนแอ จ้องเทพโบราณอวี้ห่าย

ถึงแม้จะสลัดหนีการจับกุมได้แล้ว แต่สภาวะของพวกเขาสองคนก็อ่อนแอลงไปจนถึงขีดสุด กำลังรบยังไม่ถึงห้าส่วนของระดับสุดยอด

“ไปได้!” น้ำทะเลสีดำสนิทในฟ้าดินค่อยๆ หดตัวลงไป จนกลายเป็นรูปร่างเทพโบราณอวี้ห่าย

ถึงแม้ว่าเขาจะเขย่าขวัญฝูงอสูรทั้งสองได้ แต่ก็สิ้นเปลืองพลังไปมาก หากต่อสู้กันต่ออาจจะสร้างความเสียหายที่ยากจะหายต่อดวงวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้น อันตรายที่นี่ก็หนักหนายิ่งนัก พวกเขายังมีภารกิจที่ต้องทำอีก

สวบ สวบ! กลุ่มเทพโบราณอวี้ห่ายหนีออกไปทันที หนำซ้ำอสูรที่ยังอยู่แค่ยืนดูพวกเขาหนีออกไป ไม่ได้ขัดขวางอะไร

“ซินอู๋เหิน จ้าวเฟิง ข้าจะต้องให้พวกเจ้าทุกข์ทรมานจนต้องรอความตาย!”

แววตาเทพโบราณอวี้ห่ายชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เรื่องคราวนี้ต้องเป็นเพราะพวกจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินแน่นอน

……

พวกจ้าวเฟิงหยุดชะงักอยู่ที่บริเวณส่วนลึกของใต้ดิน

พวกเผ่าเทพยักษ์อาศัยสิ่งของที่ปล้นมาได้จากคลังสมบัติ และทำการฝึกตนเพื่อเพิ่มพลัง

ส่วนจ้าวเฟิงกลืนหินผลึกวิญญาณอัสนีสีเข้มชิ้นหนึ่งที่ได้จากกระจกเก้าอัสนีลงไป

กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณสามารถแทรกซึมเข้าไปในกายวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องให้จ้าวเฟิงลงมือทำอะไร

เพียงแต่ว่าในตอนที่กำลังหลอมรวมวิญญาณ พลังอัสนีในกระจกเก้าอัสนีอ่อนแอลงไป แต่ถ้าหากเอาผลึกวิญญาณอัสนีที่หลอมรวมเข้าไปเป็นแหล่งกำเนิดพลัง จะสามารถเพิ่มพลังของกระจกได้ด้วย

ช่วงนี้จ้าวเฟิงใช้เวลาไปกับการกลืนกินผลึกวิญญาณอัสนีไม่หยุด เพื่อเพิ่มพลังวิญญาณ และกำจัดสิ่งแปลกปลอมในใจ

“ผลึกวิญญาณอัสนี?”

เทพโบราณเฉิงอวิ๋นปรายตามองจ้าวเฟิงที่กลืนผลึกวิญญาณอัสนีชิ้นหนึ่ง สีหน้าตื่นตกใจ หรือว่าที่พลังดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงแก่กล้าขนาดนี้ กระทั่งเขาที่มีสายเลือดเผ่าเทพยักษ์ยังต้านทานไม่ไหว

ที่แท้แล้วจ้าวเฟิงมีทรัพยากรดวงวิญญาณระดับนี้ด้วย

“ว่ากันว่าผลึกวิญญาณอัสนีสามารถหล่อหลอมพลังวิญญาณ สรรสร้างพลังวิญญาณ ทำลายจิตมารในใจ ทำให้วิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง!”

เทพโบราณพั่วเยวี่ยเอ่ยในทันที

“แต่ใช้แบบนี้นับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย!”

เทพโบราณเฉิงอวิ๋นลอบหัวเราะ

สรรพคุณของผลึกวิญญาณอัสนีดีเยี่ยมมาก โดยปกติแล้วจะบดเป็นผงหรือไม่ก็ใช้กับของเหลวจำพวกฟื้นฟูวิญญาณ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะแบกรับสรรพคุณที่รุนแรงเช่นนี้ไม่ไหว ดวงวิญญาณอาจบาดเจ็บจนยากรักษา

แต่ทว่าหลังจากที่จ้าวเฟิงกินผลึกวิญญาณอัสนีชิ้นหนึ่งไปแล้ว ก็ไม่ได้มีท่าทีแปลกประหลาดอะไร ในปากยังมีเสียง ‘กรุบ’ ดังออกมา ท่าทีสุขสมอย่างมาก

จ้าวเฟิงไม่ได้แสดงท่าทีอะไร สำหรับกายวิญญาณอัสนีของเขาแล้ว ผลึกวิญญาณอัสนีที่ทรงพลังอย่างมากนี้เป็นของเพิ่มพลังชั้นยอด

“แต่เสียดาย ผลึกวิญญาณอัสนีพวกนี้ล้วนแต่สร้างขึ้นจากวิญญาณของเทพโบราณขั้นแปด…”

จ้าวเฟิงทอดถอนใจ

ผลึกวิญญาณอัสนีพวกนี้เกิดขึ้นจากวิญญาณผู้แข็งแกร่งหอมารสวรรค์ แต่ในตอนที่จ้าวเฟิงดูดซึมกายวิญญาณเข้าไปในกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ อย่างมากก็เป็นขั้นแปดสุดยอด

แต่ในตอนนี้พลังดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงไปแตะขีดจำกัดสุดท้ายของขั้นแปดแล้ว แต่เพราะใช้ผลึกวิญญาณอัสนีมากจนเกินไป ผลจึงเบาบางลง

ถ้าหากมีผลึกวิญญาณอัสนีที่สร้างจากดวงวิญญาณขั้นเก้า พลังดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงอาจจะไปแตะขั้นที่เก้าได้ทันที

นอกจากจะฝึกฝนชั้นดวงวิญญาณแล้ว จ้าวเฟิงยังลึกซึ้งในเสวียนอ้าวเวลาด้วย

เมื่ออยู่ในคลังสมบัติบรรพชน ถ้าหากไม่ชำนาญเสวียนอ้าวเวลาจะเสียเปรียบอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของจ้าวเฟิงเองยังฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาด้วย ทรัพยากรล้ำค่าของเสวียนอ้าวเวลาที่นี่มีค่อนข้างมาก จึงช่วยให้พลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ไม่ใช่แค่จ้าวเฟิงกับซินอู๋เหินเท่านั้น เทพโบราณคนอื่นๆ ก็ฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาไปด้วยเช่นกัน

หนึ่งเดือนต่อมา ทุกคนจึงหยุดปิดด่านฝึกตนและเตรียมสำรวจต่อ

“ไปหาทรัพยากรเสวียนอ้าวเวลาชั้นยอดมาก่อน ถ้าหากพวกเราฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาแล้ว พลังทั้งหมดก็จะเพิ่มขึ้นมากไปด้วย!”

ซินอู๋เหินแนะนำ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version