บทที่ 1367 ไม่อยากเจอก็มักเจอ
“หน่อไม้แสงจันทร์!”
แววตาทุกคนจับจ้องไปด้านในสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์อย่างพร้อมเพรียงกัน
กระทั่งจ้าวเฟิงยังหวั่นไหวมาก หลงลืมอันตรายที่เจ้าแมวขโมยน้อยพูดเอาไว้เมื่อครู่เอาไว้เสียสิ้น
ทรัพยากรฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาทั่วไปจะแค่มีสำนึกรู้และพลังของเสวียนอ้าวเวลาซุกซ่อนอยู่ แต่หน่อไม้แสงจันทร์กลับมีแก่นสำคัญของเวลาแฝงอยู่ เป็นสมบัติล้ำค่าในบรรดาทรัพยากรฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลา
หลังจากใช้ทรัพยากรล้ำค่านี้แล้วจะค่อยๆ ตระหนักรู้แก่นของเวลาและบรรลุเสวียนอ้าวมิติได้ ออกแรงน้อยแต่ได้ผลมาก
หนำซ้ำยังมีข่าวลือว่าหลังจากใช้หน่อไม้แสงจันทร์แล้ว จะเพิ่มความสามารถในการทำความเข้าใจเสวียนอ้าวเวลาของผู้ที่ใช้มัน จึงแทบเป็นทรัพยากรที่ผู้ฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาเฝ้าใฝ่ฝัน
ถึงแม้ว่าสมบัติมากมายปรากฏขึ้น จะทำให้ทุกคนใจสั่นระรัว แต่ไม่มีใครกล้าผลีผลามทำอะไร จากประสบการณ์ก่อนนี้ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติล้วนแต่มีอันตรายซุกซ่อนอยู่
ไม่แน่ว่าสิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์ที่ซึ่งเป็นที่เก็บ ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ อาจจะมีอันตรายที่คาดคิดไม่ถึงก็เป็นได้
ทุกคนค่อยๆ เข้าไปใกล้ ระแวดระวังรอบด้าน
“ไม่มีอะไรผิดปกติ!”
หลังจากตรวจตราดูอย่างละเอียดแล้ว ทุกคนก็ยังไม่เจอข้อสงสัยอะไร จึงเร่งความเร็วขึ้นทันใด
แต่ทว่าในตอนที่ทุกคนอยู่ห่างจากสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์ไม่ถึงสิบจั้ง จู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากเสวียนอ้าวเวลาที่สูงส่งลึกล้ำ
“เป็นแรงกดดันที่รุนแรงนัก!” เทพโบราณหวาไฉ่เอ่ยอย่างประหลาดใจ
“จะต้องเป็นพลังเวลาที่เกิดขึ้นจาก ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ แน่!”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเอ่ยด้วยความตื่นเต้น
หน่อไม้แสงจันทร์เป็นสิ่งของล้ำค่าในการฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลา ระดับขั้นสูงส่งอย่างยิ่ง บวกกับทรัพยากรที่นี่มีอายุขัยยาวนานยิ่งกว่า จะแผ่พลังเวลาที่ลึกล้ำกลุ่มนี้ออกมาได้ก็ไม่แปลกอะไร
แน่นอนว่ายังมีเหตุผลอีกบางอย่าง ก็คือทุกคนไม่ชำนาญเสวียนอ้าวเวลา มิฉะนั้นแรงกดดันนี้ก็คงจะเบาบางลงไปมาก
หลังจากเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์ ทุกคนก็ยังคงไม่เจอเหตุการณ์ผิดปกติอะไร พวกเขาจึงตรงไปที่ ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ อย่างใจกล้า
แต่ยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ แรงกดดันจากเสวียนอ้าวเวลาก็ยิ่งบ้าคลั่ง เหมือนว่าทั้งมิติเริ่มหนักอึ้งมากขึ้น การกระทำของทุกคนล้วนแต่เจออุปสรรคอย่างใหญ่หลวงและเชื่องช้าลงไป
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติสูงส่งของหน่อไม้แสงจันทร์
ตอนที่ทุกคนอยู่ห่างจากหน่อไม้แสงจันทร์ไม่ถึงหนึ่งจั้ง อยากเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเชื่องช้าเป็นที่สุด
ในตอนนี้เอง ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็เจอสิ่งผิดปกติบางอย่าง
“ระวัง!” จ้าวเฟิงรีบเตือนในทันที แต่เสียงกลับดังขึ้นช้ายิ่งนัก
พูดยังไม่ทันขาดคำ ส่วนในของสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์ก็มีแสงสีขาวสามสายสว่างขึ้น
เปรี๊ยะ!
ชั่วพริบตา แสงสว่างสามสายบีบเข้าใกล้พวกจ้าวเฟิงด้วยความเร็วที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง เพราะการสะกดจากเสวียนอ้าวเวลา ทุกคนจึงตั้งรับไม่ทัน กระทั่งจะเรียกวิชาป้องกันออกมาก็ยังไม่ทัน
โครม ตู้ม!
แสงสีขาวขนาดประมาณท่อนแขนหลายสายระเบิดลงตรงตำแหน่งของทุกคนด้วยความเร็วสูงยิ่ง
ดีที่การโจมตีนั้นไม่นับว่าแข็งแกร่งอะไร ทุกคนจึงไม่โดนทำร้ายถึงตาย แต่ถ้าอยู่ใกล้หน่อไม้แสงจันทร์ต่อไปจะไม่สามารถโต้ตอบคืนได้เลย และหากบาดเจ็บสะสมไปเรื่อยๆ จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล
ต่อมา ทุกคนก็ออกไปจากแถวหน่อไม้แสงจันทร์
“นั่นคืออะไร?”
“ดีที่พลังฝึกตนของพวกมันไม่สูง พลังโจมตีจึงไม่แข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราคงแย่ไปแล้ว!”
เมื่อพวกจ้าวเฟิงหนีออกจากบริเวณหน่อไม้แสงจันทร์ ผลกระทบของเสวียนอ้าวเวลาก็ค่อยๆ ลดลงไป
ทุกคนจับจ้องดวงจิตประหลาดสามดวงที่ลอยละล่องอยู่เหนือศีรษะ
ปีศาจพิลึกพวกนั้นมีขนาดไม่ต่างกับคนปกติมากนัก แต่ใบหน้าค่อนข้างดุร้าย ดวงตาตาตี่ หูยาว ดูไปแล้วคล้ายมารสามตัว พวกมันไม่มีขาสองข้าง เหมือนลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างนั้น
“เจ้ามนุษย์ ตายซะเถอะ!”
‘ปีศาจร้าย’ ทั้งสามตนจ้องพวกจ้าวเฟิงเขม็ง ก่อนจะทำการโจมตีทันที
“ช่างไม่รู้จักกลัวตาย อ่อนแอขนาดนี้ยังกล้าจะลงมือทำร้ายพวกข้าอีก!”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นหัวเราะเสียงเย็น
เมื่อครู่พวกเขาเกือบจะได้หน่อไม้แสงจันทร์มาอยู่แล้ว แต่เพราะปีศาจร้ายสามตนนี้ทำให้จำต้องถอยหนีไป
พวกเขาเองก็เคยเห็นพลังของปีศาจร้ายทั้งสามมาก่อน พลานุภาพในการโจมตีแข็งแกร่งกว่าคนในขั้นแปดทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น
ปีศาจร้ายสามตนไม่มีท่าทีใดๆ จิตสังหารที่มีต่อทุกคนเกาะกลุ่มกันจนเป็นรูปธรรม
เปรี๊ยะ! ลำแสงสีขาวหลายเส้นสายพุ่งตรงไปทันใด
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นยังไม่ทันรู้ตัว ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีเข้าใส่ คนอื่นที่เหลือก็ได้สติ แต่คนที่หลบการโจมตีได้ทันมีเพียงจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินเท่านั้น
“โจมตีรวดเร็วเหลือเกิน!”
เทพโบราณหวาไฉ่ร้องเสียงหลง
เมื่อครู่เป็นเพราะแรงกดดันมหาศาลจากเสวียนอ้าวเวลา พวกเขาจึงไม่เห็นในจุดนี้
“สังหารพวกมันเสีย ไม่เช่นนั้นก็จะเอา ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ มาไม่ได้”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นตะโกนโดยพลัน ก่อนจะพุ่งเข้าไปและฟาดฝ่ามือสับลงมา
โครม วูบ! เทพโบราณเฉิงอวิ๋นฝึกฝนเสวียนอ้าวแห่งลม ฝ่ามือครั้งนี้จึงรวดเร็วอย่างมาก แต่ปีศาจสามตนนี้เคลื่อนกายไปทางซ้ายเล็กน้อย ก็หลบได้อย่างง่ายดาย
ในตอนนี้นี่เอง ทุกคนเองก็ต่างโจมตีปีศาจทั้งสามติดต่อกัน
โครม เปรี๊ยะ! การโจมตีกระจายอยู่ทั่ว บินว่อนไปมา
อสูรทั้งสามตนบินวนกลับไปมาผ่านรอยแยกของการโจมตี และหลบหลีกการโจมตีทั้งหมดจนไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นทุกคนที่บนร่างมีบาดแผลกันเล็กน้อย
ความเร็วในการโจมตีของปีศาจร้ายทั้งสามรวดเร็วมาก ถ้าหากจดจ่อสมาธิก็จะสามารถหลบหลีกได้
“บัดซบ…” สถานการณ์ประเภทนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อความเร็วในการเคลื่อนย้ายของปีศาจร้ายทั้งสามสูงมากจริงๆ
การเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาจำเป็นต้องมีเวลาสำแดง ความเร็วของอสูรทั้งสามตนเหมือนจะเป็นพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด ฝ่ายตรงข้ามรวดเร็วขนาดนี้ ทุกคนคิดจะเข้าไปประชิดตัว คาดว่าคงไม่ง่ายดายอย่างนั้น
“วิชาดวงตาเองก็ยากจะเล็งเป้าหมายได้!”
จ้าวเฟิงยิ้มอย่างเหนื่อยหน่าย
ประสาทสัมผัสของปีศาจร้ายทั้งสามว่องไวอย่างมาก ในขณะที่สัมผัสได้ว่าจ้าวเฟิงเล็งเป้าหมายไปที่พวกมันก็จะเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว
‘ความเร็วสูงขนาดนั้น หรือว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์แห่งแสงที่เป็นสิบลำดับแรกในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ?’
ซินอู๋เหินพึมพำในใจ
เผ่าพันธุ์แห่งแสงเป็นลำดับที่เจ็ดในหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ควบคุมพลังแห่งกาลเวลา ว่องไวที่สุดในผืนพสุธา ไม่มีใครเทียบเทียมได้ แต่เผ่าพันธุ์แห่งแสงไม่ใช่ปีศาจ รูปลักษณ์ภายนอกต่างจากปีศาจร้ายพวกนั้นโดยสิ้นเชิง
……
ทางฟากกลุ่มตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสาม หลังจากเก็บกวาดคลังสมบัติของเผ่าเทพยักษ์ไปรอบหนึ่งแล้ว ก็แยกย้ายกันตามหาร่องรอยพวกซินอู๋เหินอีกครั้ง
“อย่าให้ข้าจับพวกเจ้าได้ก็แล้วกัน จะทำให้พวกเจ้าตายทั้งเป็นแน่!”
สีหน้าเทพโบราณอวี้ห่ายถมึงทึง
แรกเริ่มเดิมที พวกเขากำลังจะได้ครอบครองตราเทพบรรพกาลและกลายเป็นผู้มีความดีความชอบสูงสุด
แต่เพราะแผนเจ้าเล่ห์ของซินอู๋เหินและจ้าวเฟิง ทำให้พวกเขาโดนฝูงอสูรสองกลุ่มล้อมเอาไว้ และยิ่งทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าพวกเทพโบราณเมี่ยหลิว
ทันทีที่เอ่ยจบ แก้วผลึกในมือเทพโบราณอวี้ห่ายก็เปล่งแสงสีดำแวววาวออกมา
“อยู่แถวนี้!” สีหน้าเทพโบราณอวี้ห่ายเปลี่ยนไปทันที
คนของตำหนักวิญญาณบรรพกาลอีกสองคนก็ตื่นตะลึงไปเช่นกัน
คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะโชคดีขนาดนี้ กลับมาเจอตำแหน่งของเป้าหมายอีกครั้ง
“ท่านผู้อาวุโส ไม่ติดต่ออวี่เหิงหรือ?”
เทพโบราณขั้นเก้าในกลุ่มเอ่ยถาม
อวี่เหิงเคยกำชับเอาไว้ว่า เมื่อเจอเบาะแสของตราเทพบรรพกาลให้แจ้งเขาในทันที
“อย่าเพิ่งรีบร้อน!” เทพโบราณอวี้ห่ายเอ่ยขึ้นหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ขอแค่คราวนี้ช่วงชิงตราเทพบรรพกาลมาได้สำเร็จ เขาก็จะกลายเป็นคนมีความดีความชอบมากที่สุด ยังมีเหตุผลอีกบางส่วน เทพโบราณเมี่ยหลิวศัตรูคู่อาฆาตของเขาอยู่กลุ่มเดียวกับอวี่เหิงพอดี เขาจึงไม่อยากให้เทพโบราณเมี่ยหลิวได้ชัยชนะไป
“ถ้าหากจัดการได้ ความดีความชอบจะตกเป็นของพวกเรา หากว่ายากเย็นจนเกินไปค่อยบอกพวกเขาก็ยังไม่สาย!”
เทพโบราณอวี้ห่ายสำทับอีกหนึ่งประโยค อีกสองที่เหลือก็เห็นด้วยเช่นกัน
จากทิศทางที่แก้วผลึกชี้บอก พวกเทพโบราณอวี้ห่ายโบยบินไปอย่างรวดเร็ว
“สิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์!”
ผู้แข็งแกร่งขั้นเก้าของตำหนักวิญญาณบรรพกาลร้องตกใจ
“ทำไมที่นี่ถึงมีสิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์ได้?”
คนในกลุ่มอีกคนพึมพำอย่างแปลกใจ
ในความรู้ความเข้าใจของพวกเขา สมบัติบรรพชนเป็นคลังสมบัติส่วนตัวของเผ่าเทพยักษ์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในที่นี่ยังมีสิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์ด้วย ดูไปแล้วคลังสมบัติแห่งนี้ต้องมีความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาแน่
“พวกมันจะต้องมาค้นหาสมบัติอะไรในสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์แน่!”
เทพโบราณขั้นเก้าตื่นตะลึง
ทั้งผืนพสุธามีมรดกเผ่าความลับสวรรค์กระจัดกระจาย จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน โอกาสที่แฝงอยู่ภายในนั้นมีทั้งใหญ่ทั้งเล็ก
เหมือนมิติระดับสูงอย่างคลังสมบัติบรรพชน มรดกเผ่าความลับสวรรค์ภายในย่อมไม่ธรรมดาแน่
“เหอะ ไม่อยากเจอก็ได้เจอสินะ!”
เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะชั่วร้าย ก่อนจะพาทุกคนบินตรงไป
ยังไม่ทันได้เข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์ ทุกคนก็ได้ยินเสียงต่อสู้และระลอกพลังเทพที่เขย่าขวัญอยู่ภายใน ด้วยเหตุนี้จึงผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
……
ภายในสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์ ฝูงปีศาจสามตนที่รวดเร็วอย่างยิ่งปั่นป่วนทุกคนจนกระวนกระวายใจ
“ใช้วิธีการโจมตีในวงกว้าง ปิดกั้นอาณาเขตที่พวกมันจะหลบหนีไปให้หมด!”
จ้าวเฟิงแนะนำ
คำแนะนำนี้ได้รับความเห็นชอบจากทุกคนทันใด ถึงแม้ปีศาจร้ายสามตนจะรวดเร็ว แต่ที่นี่เล็กแคบ จึงเป็นการจำกัดทางหนีของพวกมัน
“โลกมายาอัสนีวารี!” จ้าวเฟิงโคจรดวงตาซ้าย ภายในมีระลอกตาข่ายสายฟ้ากลุ่มหนึ่งแผ่ออกมา
พลังสายฟ้ารวดเร็วกว้างขวาง ดูดซึมพลังเสวียนอ้าวธาตุน้ำในฟ้าดิน ก่อนจะกลายเป็นตาข่ายวารีอัสนีขนาดยักษ์ปิดทางหนีของปีศาจร้ายทั้งสาม
ทางฟากพวกเผ่าเทพยักษ์สำแดงการโจมตีในวงกว้างออกมา
ปีศาจร้ายแค่รวดเร็วเท่านั้น การป้องกันอื่นๆ ค่อนข้างธรรมดา เมื่อถูกกลุ่มคนผนึกกำลังโจมตีก็ตายลงทันที
“ในที่สุดก็จัดการได้!”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นถอนหายใจ แล้วหมุนกายมองไปที่หน่อไม้แสงจันทร์
และในเวลานี้เอง ด้านนอกสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์ปรากฏกลิ่นอายที่แข็งแกร่งทั้งสามกลุ่ม
“ฮ่าๆ หน่อไม้แสงจันทร์เป็นของพวกข้า ชีวิตพวกเจ้าก็เช่นกัน!”
เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะเสียงดัง
คราวก่อนพ่ายแพ้ ตอนนี้พวกเขามาเจอพวกจ้าวเฟิงอีกครั้ง นอกจากนี้ยังเจอ ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ ที่เป็นของล้ำค่าในการฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลา เรียกได้ว่าได้ธนูดอกเดียวได้นกสองตัว!
“ยังมีคนอื่นอีก!” เทพโบราณหวาไฉ่เปลี่ยนสีหน้า
คนอื่นๆ มีสีหน้าค่อนข้างยุ่งยาก
พวกเขาอยู่ภายในสิ่งปลูกสร้าง ทั้งประสาทสัมผัสและความรู้สึกล้วนถูกขัดขวาง ดังนั้นจึงไม่ทันรู้เรื่องราวต่างๆ ด้านนอก
“พวกเขาคือ…คนของตำหนักวิญญาณบรรพกาล!”
เทพโบราณพั่วเยวี่ยตื่นตะลึงเป็นที่สุด
คลังสมบัติบรรพชนไม่ใช่ว่าเปิดทางเข้าผ่านตราเทพบรรพกาลได้เท่านั้นหรือ?
“คนของตำหนักวิญญาณบรรพกาลมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ซินอู๋เหินและจ้าวเฟิงมีสีหน้าตื่นตะลึง คาดคิดไม่ถึงเล็กน้อย
“ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?” เทพโบราณเฉิงอวิ๋นสั่นเทิ้มทั่วร่าง ใบหน้าฉายแววหมดหวัง
ก่อนนี้ตอนที่จะยึดครองของล้ำค่าอย่างหน่อไม้แสงจันทร์ ปีศาจร้ายสามตนก็โผล่มาก่อความวุ่นวาย
เมื่อจัดการพวกมันแล้ว กลับต้องรับมือกับอันตรายที่ร้ายแรงยิ่งกว่า ถึงแม้ศัตรูเบื้องหน้าจะมีแค่สามคน แต่ก็ไม่ใช่บุคคลที่พวกตนจะรับมือไหว เพียงแค่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพผู้นั้นก็มากพอจะควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว