บทที่ 1372 กฎเกณฑ์
“ออกมาแล้ว!” สีหน้าเทพโบราณหวาไฉ่ฉายแววยินดี
สิ่งที่นางคาดคิดไม่ถึงก็คือ ครั้งนี้สามารถหนีออกมาได้อย่างราบรื่นเป็นเพราะเทพโบราณเฉิงอวิ๋น
“พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”
ภายในสิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์ เสียงเกรี้ยวกราดของเทพโบราณอวี้ห่ายดังขึ้น
พวกจ้าวเฟิงหนีออกจากสิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์ เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเพียงคนเดียว ถึงจะแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยังไม่สามารถขัดขวางพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสามได้
พวกเทพโบราณอวี้ห่ายไม่มีเวลาไปต่อสู้กับเทพโบราณเฉิงอวิ๋น เป้าหมายของพวกเขาคือตราเทพบรรพกาล และการสังหารจ้าวเฟิงกับเผ่าเทพยักษ์
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ร่างดำทะมึนสามร่างพุ่งทะยานออกมาพร้อมกับแสงสว่างสายหนึ่ง
“สังหาร พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย!” เทพโบราณเฉิงอวิ๋นบ้าคลั่ง มาพร้อมจิตสังหารและความเดือดดาล จ้องฝ่ายตำหนักวิญญาณบรรพกาลเขม็ง ก่อนรุกเข้าโจมตีโดยไม่สนสิ่งใด
“เจ้าหมอนี่…” เทพโบราณอวี้ห่ายโกรธจนร่างสั่นเทิ้ม
หากเทพโบราณเฉิงอวิ๋นไม่เข้าขัดขวาง พวกเขาคงจัดการพวกจ้าวเฟิงได้ในคราเดียวแล้ว
ไยเทพโบราณเฉิงอวิ๋นจึงเกลียดชังพวกเขาขนาดนี้ จนต้องจัดการกันให้ได้?
“พวกมันหนีไปแล้ว!” เทพโบราณขั้นเก้าจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลเอ่ยปากทันใด
“ตาม!” คนทั้งสามย่อมไม่อาจปล่อยให้จ้าวเฟิงหนีไปอีก ไล่ตามไปในทันที
แต่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นรวดเร็วกว่าพวกเขา
ฟิ้ว! ระลอกพลังประหลาดกลุ่มหนึ่งปกคลุมเหนือกลุ่มเทพโบราณอวี้ห่าย
ทั้งที่พวกเขาบินรวดเร็วว่องไว แต่ระยะทางระหว่างพวกเขากับพวกจ้าวเฟิงกลับทิ้งห่างออกไปทุกที
“ไสหัวไป!” เทพโบราณอวี้ห่ายสบถด่าอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะฟาดฝ่ามือออกมา
เปรี๊ยะ! เทพโบราณเฉิงอวิ๋นหลบฝ่ามือเทพโบราณอวี้ห่ายได้อย่างง่ายดาย
แต่ในตอนที่ฝ่ามือแสงสีดำเฉียดผ่านบ่าเทพโบราณเฉิงอวิ๋น ภายในพลันมีจระเข้ดุร้ายตัวดำมะเมื่อมพุ่งออกมา
ในวินาทีที่จระเข้ตัวนั้นพุ่งทะยานออกมาก็ขยายใหญ่ในพริบตา จนขนาดเท่ากับห้องๆ หนึ่ง มันอ้าปากงับเทพโบราณเฉิงอวิ๋นเอาไว้
จระเข้ดำมะเมื่อมตัวนี้คืออสูรวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่าย มันเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่กลืนกินและโจมตีดวงวิญญาณประเภทหนึ่ง แต่ดวงจิตในร่างเทพโบราณเฉิงอวิ๋นมีพลังต่อต้านการโจมตีชั้นวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างมาก
บวกกับประโยชน์ของเสวียนอ้าวเวลา ทำให้อาการบาดเจ็บจากจระเข้ดำมะเมื่อมเชื่องช้าลง
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นอาศัยโอกาสนี้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดสุดแรง
“ไป ก่อนที่เจ้าคนนี้จะหนีออกมาได้ สังหารพวกซินอู๋เหิน ช่วงชิงเอาตราเทพบรรพกาลกลับมาก่อน!”
เทพโบราณอวี้ห่ายพึมพำเสียงต่ำ
พวกจ้าวเฟิงที่กำลังหลบหนี จู่ๆ ก็รู้สึกได้ว่าด้านหลังมีกลิ่นอายน่าพรั่นพรึงมหาศาลรุกคืบเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว แต่เดิมเผ่าวิญญาณบรรพกาลว่องไวปราดเปรียว และเทพโบราณอวี้ห่ายก็เป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ จึงรวดเร็วกว่าทุกคน
“แย่ล่ะ มันหนีจากเทพโบราณเฉิงอวิ๋นมาได้แล้ว!”
เทพโบราณพั่วเยวี่ยเอ่ยออกมา
เดิมทีทุกคนยังคงครุ่นคิดเรื่องที่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นขวางคนจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลไว้ พวกเขาจึงฉวยโอกาสหนีไป แต่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นก็แค่สลัดทิ้งยาก ไม่ได้มีความสามารถรั้งครึ่งก้าวสู่จอมเทพเอาไว้ได้
“อย่าคิดว่าจะหนีไปได้!” เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะลั่น โคจรพลังเทพและพลังวิญญาณ จากนั้นผลักฝ่ามืออกไปอย่างรุนแรง
ตูม วูบ วูบ! คลื่นสมุทรสีดำผืนใหญ่หมุนวนไปเบื้องหน้าด้วยความรวดเร็ว
“รีบหลบไป!” ซินอู๋เหินเอ่ยขึ้นทันที
การโจมตีชั้นวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่ายแฝงด้วยเสวียนอ้าวแห่งน้ำขั้นเก้า ทันทีที่โดนโจมตีจะสลัดพ้นยากยิ่ง เสวียนอ้าวมืดหม่นในการโจมตีวิญญาณส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพลังดวงวิญญาณ ทำให้กำลังรบลดลงไปมาก
คนอย่างเทพโบราณหวาไฉ่และเทพโบราณพั่วเยวี่ย ถ้าหากโดนกระบวนท่านี้โจมตีแล้ว เกรงว่าวิญญาณจะสูญสลายไปในทันที
“หนีไม่พ้น!” จ้าวเฟิงพลันเอ่ยขึ้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนก็ลงความเห็นตรงกัน
ครืน! ในวินาทีต่อมา ซินอู๋เหิน เทพโบราณหวาไฉ่ และเทพโบราณพั่วเยวี่ยต่างกระตุ้นสายเลือดทั้งหมด ปลดปล่อยแสงขาวเจิดจ้าสะท้อนทั่วผืนฟ้า
ยามที่แสงสว่างอ่อนจางลงไป ก็ปรากฏยักษ์ตัวสูงเทียมฟ้าสามตนยืนตระหง่านในฟ้าดิน
กลิ่นอายสายเลือดที่เขย่าขวัญสรรพชีวิตพลันกระจายออกมา
“สู้ฮึดสุดท้ายก่อนตายหรือ?” เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะเสียงเย็น
ในสายตาเขา พวกซินอู๋เหินรู้ดีว่าหนีไปไม่รอดแล้ว จึงใช้กำลังรบทั้งหมดแลกกับโอกาสที่จะเอาชีวิตรอด ถึงแม้ว่าอสูรวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่ายจะยื้อเทพโบราณเฉิงอวิ๋นเอาไว้ ทำให้พลังลดลงไปบางส่วน
แต่ก่อนนี้เขาใช้หยาดน้ำค้างชะล้างวิญญาณไป ดวงวิญญาณที่บาดเจ็บของเขาได้รับการรักษาจนฟื้นสู่สภาวะสุดยอด พลังวิญญาณก็แข็งแกร่งขึ้น
“ซินอู๋เหิน ไปตายซะ!”
ร่างเทพโบราณอวี้ห่ายบิดเบี้ยว กลายเป็นกายวิญญาณประหลาดที่สีดำหม่นโปร่งแสง สาดแรงกดดันวิญญาณที่ชวนให้หวาดกลัวออกมา
โครม ตูม! ระลอกคลื่นดำหม่นลอยอยู่รอบตัวเทพโบราณอวี้ห่าย ไม่นานนักก็กลายเป็นคลื่นยักษ์ที่น่ากลัว
ทันใดนั้นเอง คลื่นสมุทรที่บิดโค้งก็กลายเป็นกรงเล็บอสูรขนาดยักษ์สีดำทะมึน ตรงไปจับตัวซินอู๋เหินเอาไว้
พรึ่บ! ถึงแม้ร่างซินอู๋เหินจะใหญ่โตมโหฬาร แต่หลังจากโคจรเสวียนอ้าวธาตุลมก็รวดเร็วมาก
หลังจากหลบหลีกการโจมตีจากเทพโบราณอวี้ห่าย ซินอู๋เหินก็ระเบิดพลังดัชนีออกมา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับดัชนีที่สะพรึงขวัญ พวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็ทำได้เพียงถอยหนีไป
“พวกเจ้าไม่หนี พวกเราเองก็ผ่อนแรงไปบ้าง!”
อีกสองคนปล่อยอสูรวิญญาณของตนเองออกมา แบ่งเป็นแรดหลังมีหนามกับกิ้งก่าตัวยาวเล็กตัวหนึ่ง
เมื่ออสูรวิญญาณสองตัวกลืนกินพลังวิญญาณแล้ว ร่างกายก็ขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะตรงดิ่งไปสังหารเทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่
“พวกเศษเดนตำหนักวิญญาณบรรพกาล ตายไปซะ!”
เทพโบราณพั่วเยวี่ยตะโกนลั่น พลังเสวียนอ้าวธาตุดินสะเทือนฟ้าดิน พลังหมัดระเบิดออกมา
การต่อสู้เริ่มขึ้นในทันที เทพโบราณพั่วเยวี่ยสู้กับเทพโบราณขั้นแปดจากตำหนักวิญญาณบรรพกาล เทพโบราณหวาไฉ่จึงปะทะกับเทพโบราณขั้นเก้าอีกผู้หนึ่งอย่างดุเดือด
ส่วนจ้าวเฟิงร่วมมือกับซินอู๋เหินรับมือเทพโบราณอวี้ห่าย
“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”
จ้าวเฟิงอยู่ด้านหลังซินอู๋เหิน มักจะใช้วิชาดวงตาโจมตีเทพโบราณอวี้ห่าย
“เจ้าหนุ่ม วิชาดวงตาวิญญาณของเจ้าก็แค่นี้ อย่ามาทำให้ขายหน้าข้าเลย!”
เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะเสียงดัง
ถึงแม้วิชาดวงตาของจ้าวเฟิงจะปะทุในพริบตา แต่ตอนเล็งเป้าหมายไป อีกฝ่ายก็พลันสัมผัสได้ จึงหลบการโจมตีและโคจรเคล็ดวิชาป้องกันวิญญาณ ลดทอนพลังจนอ่อนลงไปมากนัก
จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง สำแดงวิชาดวงตาวิญญาณไม่หยุดหย่อน
แต่ที่สำคัญก็คือ จ้าวเฟิงทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อเทพโบราณอวี้ห่าย ทำให้ไม่สามารถรับมือกับซินอู๋เหินได้เต็มที่
“ดัชนีเทพยักษ์!” ซินอู๋เหินสะสมพลัง เรียกเสวียนอ้าวห้าสายแล้วชี้นิ้วออกมา
โครม ตูม!
ฟ้าดินทั้งหมดระเบิดออกอย่างรุนแรง ทิ้งหลุมขนาดยักษ์เกินจะเปรียบเอาไว้
“พลังของคนผู้นี้เพิ่มขึ้นแล้ว โดยเฉพาะซินอู๋เหินและจ้าวเฟิง!”
เทพโบราณอวี้ห่ายมีสีหน้าเคร่งขรึม
พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงใกล้แตะขั้นแปดสุดยอด ส่วนซินอู๋เหินหลังจากปิดด่านฝึกตนไประยะหนึ่ง ระดับพลังฝึกตนของเขาใกล้ถึงระดับสุดยอดไปทุกที ก่อนนี้เทพโบราณอวี้ห่ายมั่นใจอย่างมาก จึงไม่แยแสพวกเผ่าเทพยักษ์แม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมด
และเขายังไม่มีเวลาให้สิ้นเปลืองแล้ว หากเทพโบราณเฉิงอวิ๋นมาถึงก็คงจะยุ่งยากไม่น้อย
“คงจบได้แล้วกระมัง!” เทพโบราณอวี้ห่ายเอ่ยเสียงเรียบ
ฟิ้ว! เบื้องหน้าเขาปรากฏมุกวิญญาณวารีทมิฬเม็ดหนึ่ง ภายในนั้นมีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังแว่วมา
เทพโบราณอวี้ห่ายกลืนมันลงไปในคำเดียว
ตูม! ทันใดนั้น ร่างกายเทพโบราณอวี้ห่ายก็ขยายใหญ่ขึ้น พลังวิญญาณที่เย็นเยียบสาดซัด จนทำให้พื้นดินมืดมิดลงไม่น้อย
“ลมหายใจทลายวิญญาณ!”
กายวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่ายพองออกในทันใด ก่อนค่อยๆ กลมขึ้น
ฉับพลันนั้น พายุรุนแรงที่มืดทมิฬหมุนเป็นเกลียวออกจากปากเขา แผ่แรงดูดที่รุนแรงออกมา มันดูดซึมพลังในฟ้าดินไป ดึงกายวิญญาณของผู้อื่นมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เทพโบราณพั่วเยวี่ยอุทานอย่างตื่นตกใจ
ทันใดนั้น เขาสัมผัสได้ว่าวิญญาณของตนเองถูกพลังที่แข็งแกร่งดูดไปไม่หยุดหย่อน
เทพโบราณหวาไฉ่ที่อยู่ไม่ไกลนักสถานการณ์ดีกว่าเทพโบราณพั่วเยวี่ยเล็กน้อย แต่วิญญาณก็ยังถูกดึงอยู่ตลอดเวลา จนต่อสู้เต็มที่ไม่ได้
“ผู้อาวุโสกิน ‘มุกวิญญาณทมิฬ’ เพื่อจะจัดการทุกอย่างแล้ว!”
เทพโบราณขั้นเก้าแห่งตำหนักวิญญาณบรรพกาลเอ่ยด้วยใบหน้ายินดี
มุกวิญญาณทมิฬถูกสร้างโดยผู้แข็งแกร่งของตำหนักวิญญาณบรรพกาล โดยดึงวิญญาณที่แก่กล้าจากคนอื่นๆ มา แล้วหลอมขึ้นโดนวิชาพิเศษเฉพาะ
ไข่มุกเม็ดนี้เป็นแหล่งกำเนิดพลัง เมื่อสำแดงเคล็ดวิชาวิญญาณที่กำหนดไว้ออกมา จะช่วยเพิ่มระดับขั้นของพลานุภาพในพริบตา
“แย่ล่ะ!” สีหน้าซินอู๋เหินจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาวุธสังหารของครึ่งก้าวสู่จอมเทพรุนแรงมากพอจะทำร้ายคนจนบาดเจ็บสาหัส หรือถึงขั้นสังหารเทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดทั่วไปได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ท่าไม้ตายของเทพโบราณอวี้ห่ายเป็นการโจมตีชั้นวิญญาณ น่ากลัวอย่างยิ่ง
พายุดำทมิฬที่พัดผ่านด้วยความเร็วใหญ่โตมฬาร แรงดึงก็แข็งแกร่งมาก ซินอู๋เหินไม่สามารถจะหลบได้เลย
เขาเองก็รู้ดีว่าแค่พายุหมุนสีดำนั้นโจมตีถูกดวงวิญญาณเสี้ยวเล็กๆ ของเขา ทั้งกายวิญญาณจะถูกฉีกทึ้งจนเป็นชิ้นๆ อย่างช้าๆ
การโจมตีวิญญาณในวงกว้างที่แข็งแกร่งขนาดนี้ จ้าวเฟิงเองก็ยากจะช่วยอะไรเขา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้…คงต้องทำเช่นนั้นแล้ว!”
ซินอู๋เหินยืนนิ่งไม่ขยับตัว ราวกับเป็นขุนเขาขนาดใหญ่
“รอความตายอยู่หรือ?”
เทพโบราณขั้นเก้าแห่งตำหนักวิญญาณบรรพกาลระบายยิ้มน้อยๆ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายจากเทพโบราณอวี้ห่าย โดยเฉพาะเมื่อเป็นวิชาโจมตีชั้นวิญญาณ ซินอู๋เหินจะต้านทานได้ไหวอย่างไร
ดูไปแล้วซินอู๋เหินเองก็รู้ว่าตนเองไม่สามารถจัดการได้ จึงยอมแพ้ไม่ต่อต้านอีก แต่เทพโบราณอวี้ห่ายกลับรู้สึกได้ทันทีว่าฟ้าดินทั้งหมดเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีก
โครม! พลังเทพสายเลือดที่ล้ำเลิศแข็งแกร่งสาดกระจายออกมาจากภายในร่างซินอู๋เหิน
ในเวลาเดียวกัน พลังประหลาดกลุ่มหนึ่งงอกเงยจากในดวงวิญญาณของเขา แล้วหลอมรวมเข้ากับฟ้าดิน
ทันใดนั้น ทั้งฟ้าดินก็หลงเหลือเพียงแค่พลังห้าธาตุ เสวียนอ้าวกับพลังอื่นๆ ล้วนถูกกดข่มและกำจัด
ฟิ้ว! ในวินาทีที่พลังกลุ่มนี้ปรากฏขึ้น ลมพายุทมิฬดังกล่าวก็หยุดค้างไป
ถึงแม้จะเป็นการโจมตีวิญญาณ แต่ก็ทำให้ได้รับผลกระทบแบบเดียวกัน
เสวียนอ้าวทมิฬค่อยๆ หลุดออกมา กระทั่งเสวียนอ้าวธาตุน้ำขั้นเก้าก็ได้รับผลกระทบถูกกดข่มอย่างมากจากดวงจิตของซินอู่เหิน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน…พลังกลุ่มนี้?” คนจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสองจู่ๆ ก็รู้สึกได้ว่าพลังเทพ วิญญาณ เสวียนอ้าว และพลังทั้งหมดของตนเองถูกกดข่มอย่างรุนแรง จนถึงขั้นที่ไม่สามารถใช้ได้
“นี่มัน…พลังแห่งกฎเกณฑ์!”
เทพโบราณอวี้ห่ายตกใจไปชั่วครู่หนึ่งกว่าจะเปล่งเสียงออกมา
ตัวเป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ เขาย่อมเข้าใจพลังกลุ่มนี้
กฎเกณฑ์คือระดับที่สูงสุดเหนือเสวียนอ้าวขั้นเก้า มีเพียงจอมเทพเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง นั่นคือขอบเขตพลังที่เขาเฝ้าถวิลหาแม้ในความฝัน!
“นั่นก็คือพลังแห่งกฎเกณฑ์?” จ้าวเฟิงใจเต้นระรัวเกินจะเปรียบ
ชั่วเวลานั้น พลังทั้งหมดในฟ้าดินรวมไปถึงพายุหมุนสีดำของเทพโบราณอวี้ห่ายล้วนถูก ‘พลังจอมเทพ’ บีบคั้นกดข่มเอาไว้ในอากาศจนเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ซินอู๋เหินจะสามารถต้านการโจมตีนี้ได้!”
จ้าวเฟิงจ้องเขม็ง ระลอกเจตจำนงดวงตาปะทุขึ้นในดวงตาซ้าย แสงมายาดุจความฝันส่องแสงแวววับ
“เนตรเทพลอกแบบ!” ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องที่ลมพายุทมิฬนั้น
คัดลอกท่าไม้ตายของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ หากว่าเป็นช่วงปกติ ถึงจ้าวเฟิงจะใช้พลังทั้งหมดทุ่มลงไปก็ยังยากจะสำเร็จได้ แต่ในตอนนั้นพลานุภาพของพายุทมิฬอ่อนแรงลง บางทีอาจจะพอช่วยได้
โครม! ลมพายุทมิฬที่ถูกสะกดไว้อ่อนแรงลงไปมากโจมตีที่ร่างซินอู๋เหิน
ส่วนซินอู๋เหินเป็นประหนึ่งขุนเขายักษ์พันปีตั้งตระหง่าน เขานิ่งสงบไม่ไหวติง เสมือนว่าในตอนนี้ไม่มีอะไรสั่นคลอนเขาได้
“ขวางเอาไว้ได้แล้ว!” เทพโบราณอวี้ห่ายใจเต้นระรัว
ซินอู๋เหินกระตุ้นเคล็ดวิชา ใช้พลังที่ซุกซ่อนในร่างต้านท่าไม้ตายของเขาเอาไว้
“เหอะ ใช้พลังของจอมเทพรึ เจ้าได้พลังสูงสุดมา แต่จะแบกรับไปได้อีกนานเท่าไหร่?”
เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะเสียงเย็น จากนั้นพุ่งกระโจนออกมา หมายลงมือในทันที แต่ในทันใดนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลด้านหลัง
เมื่อใช้ประสาทสัมผัสเทพกวาดผ่าน สีหน้าเทพโบราณอวี้ห่ายเปลี่ยนแปลงไปทันใด ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ด้านหลังเขาปรากฏเนตรสวรรค์สีเงินข้างหนึ่ง
ชั่วพริบตานั้นดวงตาสีเงินข้างนั้นสำแดงหมอกมายาออกมา พายุหมุนทมิฬราวสายน้ำพุ่งออกมาจากภายใน ก่อนจะกลืนกินพวกเทพโบราณอวี้ห่ายไปทันที