Skip to content

King of Gods 1383

King Of Gods

บทที่ 1383 เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน

ด้านหน้าป้อมปราการเก่าสีเทา

กองทัพตัวอ่อนแมลงจำนวนมหาศาลหดตัวกลายเป็นกลุ่มก้อนสีดำขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายรังแมลง

หึ่ง….ก้อนสีดำสนิทนั้นแน่นหนาอย่างมาก น้ำหนักไม่สามารถจินตนาการได้ กลายเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่สะเทือนฟ้าดิน เริ่มเข้าปะทะกับพลังเวลาที่เกิดจาก ‘เศษชิ้นส่วนลึกลับ’

จากการต้านทานของพลังเวลาที่รุนแรง คิดไม่ถึงเลยว่า ‘กลุ่มก้อนตัวอ่อนแมลง’ ยังคงรุกคืบเข้ามาใกล้อย่างแข็งขัน

ทางฝั่งของซากป้อมปราการ

จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินใช้วิชาของตนเองมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า จิตใจอดหวั่นวิตกไม่ได้

กองทัพแมลงพวกนั้น หากเป็นแมลงเพียงแค่ตัวเดียว เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพโบราณก็เป็นแค่มดปลวก ดีดนิ้วก็สังหารได้แล้ว เล็กจ้อยจนเกินจะเปรียบ

แต่หากเป็นตัวอ่อนแมลงจำนวนมหาศาลเกาะกลุ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน กลับสามารถสำแดงพลานุภาพที่น่ากลัวขนาดนี้ออกมาได้

พลานุภาพนี้เกรงว่าจะเหนือกว่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั่วไปแล้ว

“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังเวลาของเสวียนอ้าวขั้นที่เก้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะฝืนรุกเข้าไปได้…”

จ้าวเฟิงอดตกใจไม่ได้

หากเปลี่ยนเป็นเขาหรือซินอู๋เหิน เกรงว่าคงจะไม่สามารถต้านทานพลังเวลาที่เกิดจากเศษเสี้ยวชิ้นนี้ได้

“เหตุการณ์เป็นอย่างไร?”

ฝั่งเทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณไฉ่อวิ๋นรู้สึกว่าควบคุมไม่ค่อยได้

ด้านหน้าซากป้อมปราการแห่งนี้มีทรัพยากรล้ำค่ามากมาย โดยเฉพาะทรัพยากรเวลา หากเอาทรัพยากรเหล่านี้ออกไปด้วยทั้งหมด จะมากพอบ่มเพาะอัจฉริยะของเผ่าเทพยักษ์จำนวนมาก

แต่ทว่า ระดับพลังของทั้งสองมีขีดจำกัด ไม่กล้าใช้ประสาทสัมผัสเทพตรวจตรา ด้วยกังวลว่า ‘นางพญาแมลง’ จะจับได้

ขนาดเป็นซินอู๋เหินที่พลังฝึกตนแตะขั้นเก้าสุดยอด เมื่อช่วงชีวิตก่อนเป็นจอมเทพ พลังวิญญาณแก่กล้า ในตอนที่สำรวจยังต้องระมัดระวัง

“สหายจ้าว เจ้าว่าอย่างไร?” ซินอู๋เหินกลับถามความเห็นของจ้าวเฟิง

ทั้งสองคนต่างสามารถสังเกตการต่อสู้ระหว่าง ‘ชิ้นส่วนลึกลับ’ และ ‘กองทัพแมลง’

แต่ซินอู๋เหินรู้สึกได้ว่าดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงคงจะเห็นได้ชัดเจนปรุโปร่งมากกว่าตนเอง

เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณไฉ่อวิ๋นต่างมองที่จ้าวเฟิงเช่นกัน

ตั้งแต่ที่เข้ามาในคลังสมบัติบรรพชน จ้าวเฟิงสำแดงฝีมือน่าทึ่งครั้งแล้วครั้งเล่าจนทำให้พวกเขานับถือ

“เชื่อได้ว่าขอแค่พวกเรามีการเคลื่อนไหวที่แปลกออกไป ก็ทำให้ ‘ชิ้นส่วนลึกลับ’ ตื่นตัวได้”

จ้าวเฟิงเปิดปากเอ่ยช้าๆ

ดวงตาซ้ายของเขาเอาแต่สำรวจชิ้นส่วนลึกลับที่สาดซัด ‘พลังเวลา’ ออกมา

ตั้งแต่ดวงตาเทพเจ้าไปถึงขั้นเนตรปฐมเทพแล้ว น้อยนักที่จะเจอสิ่งของที่มองไม่ปรุโปร่ง และเศษชิ้นส่วนชิ้นนี้เป็นหนึ่งในของที่ยากที่สุด

“เหตุใดจึงตัดสินเช่นนี้?” ซินอู๋เหินตกตะลึง

พลังของชิ้นส่วนลึกลับ เขาไม่อยากไปล่วงเกินสุ่มสี่สุมห้า

พลังเวลาเป็นพลังแห่งกฎเกณฑ์ที่ยากจะทำลายนัก ด้วยความเข้าใจที่มีในตอนนี้ ไม่มีวิธีใดที่จะกดข่มพลังเวลาได้เป็นผล แต่กลับกัน พลังต่างๆ ในโลกล้วนถูกพลังเวลากดข่มเอาไว้

“เศษชิ้นส่วนนี้เป็นแก่นกลางของทั้งป้อมปราการเก่า พลังเวลาที่ปกปักพื้นที่แห่งนี้แต่ถูกมันควบคุมเอาไว้”

จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

พวกเผ่าเทพยักษ์สามคนได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็อึดอัด

พูดง่ายๆ ก็คือ แค่ทุกคนมีบางอย่างแปลกไปก็จะโดนโจมตีจากพลังแห่งเวลา แต่รอบๆ ป้อมปราการเก่ามีทรัพยากรมหาศาล เช่น ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ ที่เป็นของล้ำค่าก็ยังขึ้นมาให้เห็นได้บ้าง

หากพูดโดยไม่เกินจริงไป

ถ้าหากเก็บทรัพยากรฟากหนึ่งของที่นี่มาได้ ผลเก็บเกี่ยวนั้นจะมากกว่าที่ผ่านมาเป็นสิบเท่าตัว!

“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? ถ้าหากไม่รีบ เกรงว่าคนของตำหนักวิญญาณบรรพกาลจะมาถึงแล้ว…”

เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณไฉ่อวิ๋นไม่ยินยอมอย่างยิ่ง

ขณะมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่นิ่งเฉยของจ้าวเฟิง จู่ๆ ซินอู๋เหินก็หัวเราะออกมา “สหายจ้าว เกรงว่าคงจะมีแผนรับมือแล้วกระมัง”

ทั้งสองคนรู้จักกันมานาน เขาจึงเข้าใจจ้าวเฟิงดีมาก ถ้าหากไม่มีโอกาสจริงๆ เกรงว่าจ้าวเฟิงจะหนีไปนานแล้ว คงไม่เปลืองเวลาอยู่ที่นี่

“แค่ต้องรอ” จ้าวเฟิงเอ่ยสั้นๆ แล้วไม่พูดอะไรอีก

เขาลอบเอ่ยในใจ จะสำเร็จหรือไม่ ทำได้แค่ต้องดูว่า ‘เผ่าพันธุ์ตั๊กแตนพิษ’ ในลำดับที่สิบจะเก่งสมคำร่ำลือหรือไม่

ตูม! โครม!

ด้านหน้าป้อมปราการเก่า ก้อนแมลงทรงกลมขยายใหญ่ขึ้นทีละน้อย บีบเข้าใกล้ชิ้นส่วนลี้ลับเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อมองดูสถานการณ์แล้ว เหมือนว่าทางฝั่งแมลงจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ

“ฮ่าๆ เจ้าพวกแมลงน้อย ครั้งนี้พลังของพวกเจ้าพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกแล้ว แต่ก็ไร้ประโยชน์”

มีเสียงแก่เฒ่าดังขึ้นจาก ‘เศษชิ้นส่วน’ ในกลุ่มแสงมายา

เอ่ยยังไม่ทันจบ

ผลัวะ! ป้อมปราการเก่าขนาดใหญ่มีพลังเวลาที่รุนแรงกว่าเดิมพวยพุ่งออกมา รอบๆ เศษชิ้นส่วนเปล่งแสงสีขาว ส่องประกายพุ่งสู่ฟ้า

จากนั้นระลอกการโจมตีทรงกลมก็หมุนกวาดเป็นรัศมีหลายร้อยลี้

ทุกที่ที่ระลอกการโจมตีแสงผ่านไปจะเงียบสงัดไร้สรรพเสียง สรรพชีวิตนับหมื่นในฟ้าดินเหมือนแข็งค้างไปแล้ว

“อะไรนะ!”

ทางจ้าวเฟิงที่อยู่อีกฟาก พวกเผ่าเทพโบราณทั้งสามคนรู้สึกได้ถึงกฎเกณฑ์แห่งฟ้าดินที่ไม่อาจต่อต้านได้

ในการต่อสู้ด้านหน้ามีควันหลังการโจมตีกระจายมาบางส่วน

ในวินาทีนั้น สายเลือดในร่างกายหรือกระทั่งสติสัมปชัญญะของคนทั้งสี่แข็งค้างไปชั่วขณะ ลมก็ถูกแช่แข็ง ลมหายใจและการเต้นของหัวใจก็เหมือนหยุดชะงักไป

‘เวลาหยุดเดินหรือ?’ วินาทีนี้ ในหัวจ้าวเฟิงมีเพียงแค่ความคิดนี้เท่านั้น

“กฎของเวลา? เศษชิ้นส่วนชิ้นนั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่…”

ซินอู๋เหินใจเต้นระรัว

ชีวิตก่อนของเขาไปถึงขั้นจอมเทพ เคยบรรลุกฎเกณฑ์ฟ้าดิน ย่อมล่วงรู้ถึงความน่ากลัวของมัน ทว่าในกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมายนี้ กฎแห่งเวลาสูงส่งที่สุด!

แต่ในวินาทีนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าชิ้นส่วนเล็กๆ จะสามารถสำแดงพลังต้องห้ามของกฎเกณฑ์แห่งเวลาได้ นั่นคือ….หยุดเวลา!

กระทั่งเวลายังหยุดหมุน ถึงวิชาที่มีปราดเปรื่อง แล้วจะทำอย่างไรได้

แกรก!

บนพื้นผิวของ ‘กลุ่มก้อนแมลง’ ที่อัดตัวกันแน่นปรากฏรอยปริร้าวนับไม่ถ้วน

ในทันใดนั้นเอง

เปลือกแมลงมากมายร่วงหล่นลงมา จนทำให้บนพื้นกลายเป็นทะเลเปลือกแมลง คงจะมีจำนวนหลายพันหลายหมื่นเป็นอย่างน้อย

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินต่างตกตะลึงกันทั้งสิ้น ในยามนี้ พวกเขาได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งถึงความไร้ปรานีและบ้าคลั่งของพลังเวลาแล้ว

ผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ!

ทุกขณะบนพื้นดินจะมีร่างของแมลงมากมายร่วงลง นอนทับถมกันจนซากแมลงหนามากขึ้นทุกที

ฟุ่บ~

ใจกลางกลุ่มก้อนแมลงมีเสียงร้องสูงแหลมดังออกมา ทั้งไม่เป็นมิตรและเย็นชา

“นั่นมันนางพญาแมลง!” ซินอู๋เหินเอ่ยเสียงต่ำ

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเบา “นางพญาแมลงจะโจมตีกลับแล้ว…”

ในวินาทีนั้นเอง

‘กลุ่มก้อนแมลง’ ที่เกิดจากการตั้งกระบวนทัพของกองทัพแมลง โดยรอบพวกมันแผ่ควันแสงสีเทาดำออกมาหลายชั้น

ควันแสงสีเทาดำชวนเขย่าขวัญยิ่งนัก ภายใต้การกวาดผ่านของพลังเวลา มันขยายขนาดย้อนกลับไป และเพิ่มขึ้นพุ่งพรวดจนน่ากลัว

สิบจั้ง…ร้อยจั้ง…พันจั้ง…หมื่นจั้ง!

ยังไม่ถึงสิบช่วงลมหายใจ ในควันแสงดำเทานั้นก็ปรากฏ ‘รังยักษ์เทียมฟ้า’ ขึ้นมา‘รังยักษ์เทียมฟ้า’ สาดกลิ่นอายเก่าแก่ไร้ขอบเขตกลุ่มหนึ่งออกมาจากในหมอกควันสีเทาดำที่กำลังจะสลายตัวไป

จ้าวเฟิงและพวกเผ่าเทพยักษ์ใจสั่นระริก ก็เกิดความรู้สึกนับถืออย่างประหลาด

ประหนึ่งรังยักษ์เทียมฟ้าเป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง

“หืม?” แล้วจ้าวเฟิงก็พบว่าภายใต้กลิ่นอายนั้น พลังดั้งเดิมของดวงตาเทพเจ้ากระเพื่อมไหวบางๆ อีกครา

พรึ่บ ฟิ้ว! ในรังยักษ์เทียมฟ้า สายลมสีเทาเข้มกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา กวาดเอาซากศพเปลือกแมลงเข้าไปด้านในรัง

จากนั้นด้านในของรังยักษ์เทียมฟ้าก็เริ่มขยับยุกยิก

“เก็บกลับไปใช้หรือ?” ใบหน้าจ้าวเฟิงฉายแววประหลาด

ส่วนซินอู๋เหินก็เอ่ยอย่างปลงอนิจจังว่า “ไม่เสียทีที่เป็นเผ่าพันธุ์ในตำนานลำดับที่สิบของรายชื่อ กระทั่งพลังของกฎเกณฑ์เวลายังสามารถต้านทานได้”

ในตอนนั้นเอง กลุ่มแสงมายารอบชิ้นส่วนนั้นอับแสงลงไปหลายส่วน

เมื่อครู่กระตุ้นใช้พลังต้องห้ามอย่าง ‘หยุดเวลา’ ไปติดต่อกันประมาณสิบช่วงลมหายใจ ทำให้มันใช้พลังหมดไปอย่างมหาศาล

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็ว พลังเวลาที่เดิมปกป้องซากป้อมปราการเหมือนว่าจะอับแสงลงไปเล็กน้อย

“แผนการของเจ้าคือ…”

จู่ๆ ซินอู๋เหินก็เข้าใจอะไรบ้างอย่างขึ้นมา

จ้าวเฟิงคงคิดจะใช้กองทัพแมลงลดพลังของชิ้นส่วนนั้น หรือกระทั่งพลังเวลาของทั้งป้อมปราการด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนท่า ‘หยุดเวลา’ เมื่อครู่ทำให้เศษชิ้นส่วนนั้นสิ้นเปลืองพลังไปมาก

ตอนนี้เอง บนรังยักษ์เทียมฟ้าปรากฏรูจำนวนมาก พอจะมองเห็นของเหลวเหนียวหนืดที่อยู่ด้านในได้รางๆ

ฟุ่บ ฟุ่บ! ฟุ่บ ฟุ่บ!…

จากนั้นในรูเหล่านี้มีแมลงโปร่งแสงสีขาวเงินกระโจนออกมาทีละตัว ก่อนสยายปีกโปร่งแสง บนผิวเปล่งแสงอ่อนๆ ออกมา

“เอ๊ะ!” จ้าวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย

เขาจับระลอกเวลาที่อ่อนจางได้จากตัวแมลงบินเหล่านี้

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!

‘แมลงบินเรืองแสง’ จำนวนมหาศาลเกาะกลุ่มรวมตัวกันเป็นธารแสง พุ่งตรงไปหาซากป้อมปราการด้านหน้า โดยครั้งนี้ เป้าหมายโจมตีของนางพญาเหมือนจะไม่ใช่ซากป้อมปราการอีกต่อไป

นี่ยังไม่จบสิ้น ในรูบนรังยักษ์เทียมฟ้ามีแมลงปีกแข็งนับไม่ถ้วนร่วงลงไป พวกมันมีสี่ขาแหลมคม

วูบ วูบ วูบ! แมลงปีกแข็งพวกนี้มุดลงใต้ดินอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแบ่งกันออกเป็นสิบกว่ากลุ่มเพื่อโจมตีซากป้อมปราการจากใต้ดิน

“นางพญาแมลงเปลี่ยนแผนแล้ว”

จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินสบตากัน

นางพญาแมลงคงรู้ถึงความยากที่จะจัดการชิ้นส่วนลึกลับ จึงเปลี่ยนไปโจมตีป้อมปราการเก่าแทน

ซากป้อมปราการมีขนาดใหญ่ พื้นที่ที่รับการโจมตีก็มากตามไปด้วย

“เจ้าแมลงเจ้าเล่ห์ ‘รังแมลง’ ของเจ้าสร้างแมลงประเภทใหม่ออกมา มันสามารถต้านทานพลังเวลาได้”

ชิ้นส่วนลึกลับในกลุ่มแสงเปลี่ยนสีไปในที่สุด

ในอากาศ พวกแมลงบินเรืองแสงเหล่านั้นสาดระลอกแสงอ่อนๆ ออกมา จนกลายเป็นทะเลแสงพุ่งไปโจมตีป้อมปราการเก่าส่วนพวกแมลงปีกแข็งมีพลังป้องกันมหาศาล ชำนาญการขุดดิน จึงโจมตีจากใต้ดิน โดยมีเป้าหมายเดียวเท่านั้นก็คือซากป้อมปราการเก่า

ชิ้นส่วนลึกลับต้องควบคุมป้องกันทั้งป้อมปราการเก่า การสิ้นเปลืองพลังของมันจึงมากกว่าเดิม และเวลาหลังจากนั้น จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานครั้งหนึ่ง

ทั้งบนดินใต้ดินมีแมลงกลายเป็นศพไม่หยุดหย่อน

แต่ในรังยักษ์เทียมฟ้าก็จะมีแมลงเกิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นกำลังหนุนให้ไม่ขาดสาย ทั้งสองต่อสู้กันอย่างไม่ยอมแพ้

สองวันต่อมา

“น่าจะลงมือได้แล้ว” จ้าวเฟิงสบตาซินอู๋เหิน ก่อนจะผงกศีรษะพร้อมกัน

ในตอนนี้พลังของชิ้นส่วนลึกลับ เกรงว่าจะใช้ไปกับกองทัพแมลงแล้วมากกว่าครึ่ง สิ้นเปลืองพลังไปก็ไม่น้อย นี่เป็นช่วงเวลาที่จะเก็บเกี่ยวผลแล้ว

ในเวลาเดียวกัน

ตำแหน่งหนึ่งในซากป้อมปราการเก่าปรากฏกลิ่นอายที่แข็งแกร่งหลายกลุ่ม

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!…

เงาคนหลายร่างยืนนิ่งอยู่กับที่ มองไปยังป้อมปราการเก่าที่อยู่ไกลๆ รวมไปถึง ‘รังยักษ์เทียมฟ้า’ ที่มีขนาดใหญ่กว่าป้อมปราการเก่าเสียอีก

การสู้รบที่ราวกับภาพในบทกลอน ทำให้คนทั้งหลายหวาดกลัว

“รังนั่นมัน…” เทพโบราณเมี่ยหลิวมีสีหน้าตกตะลึง

“รังนางพญาแมลง!”

มีแค่อวี่เหิงที่ใบหน้านิ่งเฉย เอ่ยเนือยๆ ว่า “ดูท่าทางแล้วพลังฝึกตนของนางพญาแมลงนั่นน่าจะอยู่ขั้นเก้าสุดยอดเป็นอย่างน้อย”

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคนและอวี่เหิงต่างใช้ห้วงคิดเซียนเข้าไปสำรวจใกล้ๆ

‘เศษชิ้นส่วน’ ในกลุ่มแสงนั้นปรากฏขึ้นในประสาทสัมผัสของทุกคน

“นั่นมันของอะไร?” เทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณห่ายอวี้เอ่ยอย่างใคร่รู้

“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน!”

อวี่เหิงที่นิ่งเฉยมาตลอดหน้าเปลี่ยนสีเป็นครั้งแรก ในแววตาฉายแววตื่นเต้นและเลือดร้อน

เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน?!

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามต่างมีท่าทีตื่นเต้น เหมือนเคยได้ยินตำนานของมันมาก่อน

“ตั้งแต่ตอนนี้ เป้าหมายสำคัญก็คือ ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’”

อวี่เหิงเอ่ยอย่างไม่ลังเล

“แล้วตราเทพบรรพกาล…” เทพโบราณห่ายอวี้เอ่ยถามเบาๆ

“หากได้ครอบครอง ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ ที่มีพลังเวลา ตราเทพบรรพกาลก็เป็นเป้าหมายรอง ผลัดไปก่อนได้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version