Skip to content

King of Gods 1384

King Of Gods

บทที่ 1384 ข้ารู้จักเจ้า!

“หากได้ครอบครอง ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ ที่มีพลังเวลา ตราเทพบรรพกาลก็เป็นเป้าหมายรอง รอไปก่อนได้” ใบหน้าอวี่เหิงเผยแววตื่นเต้นและลิงโลดออกมาเป็นครั้งแรก

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคนมองหน้ากัน ถึงแม้ในแววตาจะฉายแววไม่เห็นด้วย แต่กลับเข้าใจอวี่เหิง

ตอนรู้ถึงการมีอยู่ของ ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามก็ตื่นตะลึงอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นสิ่งของในตำนานชิ้นนี้

ทุกคนต่างรู้กันทั่ว ที่ดินแดนเทพรกร้าง อาวุธวิเศษที่สำคัญก็คืออาวุธเทพ

เริ่มจากระดับล่าง ระดับต่ำ ระดับกลาง…ระดับสุดยอด

ปกติแล้ว ‘อาวุธเทพระดับสุดยอด’ เป็นสมบัติอาวุธวิเศษที่มีระดับสูงสุด

ต่อให้เป็นเทพโบราณขั้นเก้าหรือครึ่งก้าวสู่จอมเทพ ส่วนมากแล้วก็ยังไม่มีอาวุธเทพระดับสุดยอดกันทั้งนั้น แต่จะอาวุธเทพหรืออาวุธเทพระดับสุดยอด ก็ยังไม่ใช่สมบัติอาวุธวิเศษที่เป็นระดับขั้นสูงสุดในดินแดนเทพ

ระดับขั้นสูงที่สุดก็คือ อาวุธบรรพชนชั้นสูง!

แต่อาวุธบรรพชนก็เป็นแค่ตำนาน

ความหายากของมันเทียบเคียงได้กับแปดเนตรเทพเจ้าหรือราชาเทพเลยทีเดียว ก็เหมือนกับแปดเนตรเทพเจ้า อาวุธบรรพชนแต่ละชิ้นมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

‘อาวุธบรรพชน’ มาจากยุคดึกดำบรรพ์ พลานุภาพและอภินิหารของมันไม่ใช่สิ่งที่คนในปัจจุบันนี้จะสามารถคาดเดาได้ ผู้แข็งแกร่งรุ่นหลังรู้เรื่องราวของพวกมันผ่านทางบันทึกและตำนานเท่านั้น

ยุคที่มันอยู่ก็คือยุคที่ ‘เผ่าพันธุ์โบราณ’ รุ่งโรจน์ที่สุด

ยุคที่มันอยู่ ‘เผ่าเทพโบราณ’ ที่เป็นเผ่าพันธุ์ลำดับแรกมีอำนาจอยู่เหนือหมื่นเผ่า เป็นใหญ่ในดินแดนเทพรกร้าง ใครจะกล้าแย่งชิงด้วย?

ยุคที่มันอยู่ ‘เผ่าความลับสวรรค์’ ที่รุ่งเรืองด้วยอารยธรรมเพิ่งเข้ามาจากโลกภายนอก จึงถูกมองข้ามจากเผ่าพันธุ์นับหมื่น

ยุคที่มันอยู่ เผ่าพันธุ์แห่งแสงยังกำลังเดินทางและข้ามมิติตามอำเภอใจ ไม่ใส่ใจโลกภายนอก

ตอนที่มันรุ่งโรจน์ วิหคทองบรรพกาลทั้งเก้าโบยบินในอากาศ เผาไหม้ฟ้าดิน ทำลายล้างหมื่นเผ่าพันธุ์

ตอนที่มันรุ่งโรจน์ มังกรวารีล้างโลกาพ่นลมหายใจมังกร ทำลายเผ่าพันธุ์เรืองอารยะและมิติอื่น

ตอนที่มันรุ่งโรจน์ แปดเนตรเทพเจ้ายังไม่ปรากฏบนโลกเลยด้วยซ้ำ!

“อาวุธบรรพชน มันรุ่งเรืองในยุค ‘หมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ’ แต่ในตอนนี้…เป็นยุคแปดเนตรเทพเจ้า!”

ในดวงตาเทพโบราณอวี้ห่ายฉายแววรำลึกถึง

ตอนนี้เป็นยุคของแปดเนตรเทพเจ้า ถึงแม้จะยังคงรุ่งเรืองแข็งแกร่ง จักรวาลกว้างใหญ่เพียงนี้ แต่เมื่อเอ่ยถึงยุคหมื่นเผ่าพันธ์โบราณ ยอดฝีมือในดินแดนเทพต่างก็เฝ้าใฝ่หา

ในยุคนั้น หมื่นเผ่าพันธุ์โบราณอยู่ครบ ไม่เหมือนเช่นในตอนนี้ที่ไม่สาบสูญก็ซ่อนตัวอยู่

“การปรากฏขึ้นของ ‘อาวุธบรรพชน’ ชิ้นล่าสุด น่าจะกี่ร้อยล้านปีมาแล้ว? ข้ายังจำได้ว่ามันสร้างราชาเทพได้ผู้หนึ่ง เทียบเท่าได้กับแปดเนตรเทพเจ้าเลยทีเดียว”

เทพโบราณหานอวี้เอ่ยอย่างสนใจใฝ่หา

ไม่ว่าอาวุธบรรพชนชิ้นไหนก็มีเอกลักษณ์ของใครของมัน เหมือนกับเนตรเทพเจ้า

ในยุคของหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ เหมือนจะมีแค่เผ่าพันธุ์ในลำดับต้นๆ ที่เคยสร้างอาวุธบรรพชน เช่น เผ่าพันธุ์โบราณ เผ่าพันธุ์แม่มดโบราณ เผ่าพันธุ์แห่งแสง

ความหายากของอาวุธบรรพชนไม่ด้อยไปกว่าแปดเนตรเทพเจ้าในปัจจุบันเลย!

“อาวุธบรรพชนไม่ใช่สิ่งของที่พวกเราจะครอบครองได้ เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นหนึ่งจะสร้างจอมเทพผู้หนึ่ง หรืออาจเป็นยอดฝีมือในบรรดาจอมเทพก็ได้”

อวี่เหิงเอ่ยเรียบๆ

อาวุธบรรพชนสูงส่งประหนึ่งเนตรเทพเจ้า แค่นี้ก็หวังครอบครองไม่ได้แล้ว

แต่ที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นหนึ่ง หากเป็นที่โลกภายนอกแล้ว เกรงว่าคงจะกระเทือนไปทั้งดินแดนเทพรกร้าง และอาจก่อให้เกิดการสู้รบแย่งชิงกันของขั้วอำนาจมากมายได้

“ถ้าหากข้ามีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจสามารถท้าสู้จอมเทพ หรืออาจจะได้ชัยชนะมาด้วย…”

เทพโบราณเมี่ยหลิวและครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองสามคนใจเต้นระรัว

คนทั้งหลายเกิดความละโมบขึ้นในใจโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

อย่างไรเสีย หากได้ครอบครองเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนหนึ่งชิ้นก็ทะลวงขั้นจอมเทพได้แน่ และยังมีหวังที่จะได้กลายเป็นยอดฝีมือในบรรดาจอมเทพด้วยกันด้วย

ทันทีที่ครอบครองอาวุธบรรพชน แปลว่าจะไร้เทียมทานเมื่อประมือกับคนระดับเดียวกัน หรือเอาชนะคนที่อยู่ในขั้นสูงกว่าได้

“มูลค่าของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนไม่ต้องให้พูดอะไรมาก นับประสาอะไรกับเป็นเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนที่มีกฎเกณฑ์เวลา เดี๋ยวพวกเราจะต้องวางแผนหารือกัน”

อวี่เหิงเอ่ยขัดความคิดของทุกคน

“แผนการ?” ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคนและเทพโบราณอีกสองคนตั้งสมาธิจดจ่อ

ยามนี้เมื่อเห็นผลประโยชน์จำนวนมาก ทุกคนที่นี่สมัครสมานสามัคคีกันในทันทีส่วนตราเทพบรรพกาลหรือแผนการเดิมอะไร พวกเขาลืมไปหมดสิ้นแล้ว

เขาย่อมมองออกว่า หากพึ่งเพียงแค่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองคนเ เกรงว่าจะถูก ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ แผลงฤทธิ์ใส่

จะต้องมีแผนการและยังต้องใช้สติปัญญาด้วย

“ฮ่าๆ ตอนนี้ก็คือโอกาสอันดีอย่างยิ่ง”

แววตาอวี่เหิงจ้องไปยัง ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ กับ ‘รังนางพญาแมลง’ ที่กำลังทำศึกขนานใหญ่ด้านหน้าป้อมปราการเก่า

ถึงแม้ว่ากำลังรบของนางพญาเพียงตัวเดียวไม่แกร่งนัก แต่มันชำนาญการขยายพันธุ์ ใช้กลยุทธ์จำนวนเยอะกว่า และยังชำนาญการต่อสู้ระยะยาวด้วย

ใน ‘รังแมลงเทียมฟ้า’ ที่สูงหมื่นจั้งให้กำเนิดลูกหลานแมลงออกมาไม่หยุด

ตอนแรกสุด ในรังแมลงให้กำเนิดแมลงสองประเภทก็คือแมลงบินเรืองแสงและแมลงเปลือกแข็ง

แมลงทั้งสองประเภทตายไปเรื่อยๆ แต่ก็มีแมลงเกิดใหม่จากในรังไม่หยุด

แต่จนถึงตอนนี้ ในรังนางพญาให้กำเนิดแมลงประเภทที่สามออกมาอีก เป็นแมลงตัวอ้วนสีเงินอมดำขนาดราวถัง

แมลงอ้วนตัวดำเงินไม่มีกำลังรบใดๆ แต่มีหน้าที่เก็บเกี่ยวและขนส่ง

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!

แมลงอ้วนพวกนี้เก็บทรัพยากรและพืชพรรณประเภทต่างๆ ในบริเวณนี้ ก่อนจะกลืนเข้าไปในท้องอ้วนกลมของ จากนั้นจึงเอาทรัพยากรเหล่านี้กลับไปที่รังแมลง

เมื่อนางพญาได้รับทรัพยากรเหล่านี้แล้วก็แทบขยายวงศ์วานของมันได้ไม่สิ้นสุด

ดังนั้นไม่ว่าจะตายไปเท่าไหร่ แต่ในรังแมลงก็ยังสามารถส่งแมลงบินเรืองแสงและแมลงเปลือกแข็งออกมาได้เรื่อยๆ ประหนึ่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

“จิ๊ๆ ตายไปเกือบหลายร้อยล้านตัวแล้วกระมัง”

“ไม่เสียทีที่เป็นเผ่าพันธุ์ตั๊กแตนพิษลำดับที่สิบในรายชื่อ ชำนาญกลยุทธ์ใช้คนหมู่มาก หากเปลี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์อื่นในลำดับต้นๆ ก็คงทำไม่ได้เช่นนี้”

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลกำลังชมเรื่องสนุก

อวี่เหิงสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา

พวกเขาเองกำลังรอโอกาสดีๆ รอให้เผ่าพันธุ์ตั๊กแตนพิษเผาผลาญพลังดั้งเดิมของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมากกว่านี้แล้วค่อยลงมือแย่งชิงมา

อืม ดีที่สุดก็คือเอาชนะได้ทั้งสองฝ่ายพร้อมกันในคราวเดียว

ในเวลาเดียวกัน

จ้าวเฟิงและเผ่าเทพยักษ์ทั้งสามก็เริ่มลงมือ

เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน แต่เป็นสมบัติทรัพยากรมากมายแถวป้อมปราการเก่า

“ลงมือเถอะ ทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน อย่าไปไกลกันนักล่ะ”

ซินอู๋เหินเปิดปากเอ่ย

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!… คนทั้งห้าลงมือพร้อมกัน โบยบินไปทางป้อมปราการเก่า

“พวกแมลงวันบัดซบ!”

เสียงมิติที่แก่ชราดังออกมา น้ำเสียงรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด แต่เจือความอ่อนล้าไว้ด้วยเล็กน้อย

วิ้ง! ในป้อมปราการเก่าทะลักพลังเวลากวาดไปที่ทุกคน

ในวินาทีนั้น

การเคลื่อนไหวของพวกจ้าวเฟิงเชื่องช้าลงมากอย่างเห็นได้ชัด ราวตกลงในบ่อโคลน ทุกการกระทำลำบากยากเย็นอย่างยิ่ง

“พลังเวลาแข็งแกร่งเหลือเกิน”

พวกเผ่าเทพยักษ์โคจรพลังเทพ ต้านทานไปแล้วกินแรงเป็นที่สุด ยากจะต้านทานพลังเวลา พลังเทพที่ใช้หมดมากจนเกินไป ผลลัพธ์เองก็ไม่ได้ดีมากนัก

“ลองพลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์ของข้าหน่อย”

จ้าวเฟิงโคจรพลังเทพ ต้านทานแรงกดดันและการขัดขวางพลังเวลา

‘พลังฟ้าประสานหนึ่ง’ ที่ฝึกอยู่นั้นยืดหยุ่นมาก สามารถฝึกฝนเสวียนอ้าวแต่ละประเภท โดยมีเสวียนอ้าวเวลาเป็นหลักในนั้น

เมื่อฝึกตนไปจนถึงขอบเขตพลังหนึ่ง ‘พลังฟ้าประสานหนึ่ง’ อาจจะถึงขั้นสามารถกลืนกิน สามารถดูดซึมพลังธาตุต่างๆ ได้

วิ้ง! จ้าวเฟิงโคจรพลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้น แข็งแกร่งกว่าเทพโบราณพั่วเยวี่ยกับเทพโบราณหวาไฉ่ของเผ่าเทพยักษ์ แต่เทพโบราณสองคนของเผ่าเทพยักษ์ก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้แต่อย่างใด

โครม! ทั้งสองกลายร่างเป็นยักษ์สูงกว่าร้อยจั้งในลูกไฟมายาที่กำลังขยายใหญ่ออก

หลังจากกระตุ้นพลังสายเลือดแล้ว ความสามารถในการต้านทานที่ทั้งสองมีต่อพลังเวลาก็เพิ่มขึ้นไปหลายส่วน จนไม่ด้อยไปกว่าจ้าวเฟิงเลย

ส่วนซินอู๋เหินเขาไม่ขยายตัวอะไร เห็นเพียงเขาเพียงแค่กะพริบตาน้อยๆ ระลอกกลิ่นอายกฎเกณฑ์เสี้ยวหนึ่งปรากฏขึ้นบนร่าง

ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างเขาเบาบางขึ้นจนสามารถล่องลอยอยู่กลางอากาศ หรือถึงขั้นที่ทิ้งเสี้ยวเงาเอาไว้ได้

‘ไม่เสียทีที่ชาติก่อนเป็นจอมเทพ ลึกซึ้งในกฎเกณฑ์ ต่อต้านพลังเวลาได้สบายกว่าคนทั่วไป…’ จ้าวเฟิงครุ่นคิดในใจ

จากการที่พลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ พลังในช่วงชีวิตก่อนของซินอู๋เหิน รวมไปถึงพลังจอมเทพ ความเข้าใจในกฎเกณฑ์ ทำให้นานวันยิ่งมากขึ้นไปทุกที

ขณะนี้คนที่ว่องไวที่สุดก็คือซินอู๋เหินแล้ว

เขาลงมืออย่างรวดเร็ว เก็บ ‘หน่อไม้แสงจันทร์’ ท่อนหนึ่งมา เลือกสรรแต่สมบัติทรัพยากรที่มีมูลค่าสูงเท่านั้น

จ้าวเฟิงไม่ยอมน้อยหน้า เขาพลันหลอมรวม ‘เสวียนอ้าวเวลา’ ทั้งหมด รอบๆ ‘พลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์’ ปรากฏแสงสว่างลึกลับชั้นหนึ่ง

อันที่จริง หลังจากหลอมรวมเสวียนอ้าวเวลาแล้ว พลานุภาพของพลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์ก็เพิ่มขึ้นมาก จะต่อต้านพลังเวลาก็ง่ายดายมากนัก

ถึงขั้นที่ว่าจ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่า ‘พลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์’ ของตนเองกำลังกลืนกินพลังเวลาที่เบาบางของโลกภายนอก

นี่ก็คือการกลืนกินของพลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์!

จ้าวเฟิงรู้สึกยินดีในใจ เขายังจำได้ว่าปกติแล้วพลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์ต้องไปแตะขั้นที่สี่ ถึงจะเริ่มดูดซึมพลังได้

การดูดซึมทั้งหมดเป็นการดูดซึมพลังของคนอื่นเพื่อเพิ่มพลังให้ฝ่ามือเทพรวมศูนย์ของตนเอง ส่งผลให้พลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกัน จนทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้

“ทันทีที่ ‘พลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์’ เพิ่มไปถึงขั้นที่สี่แล้ว ข้าจะต้องทะลวงเทพโบราณขั้นเก้าได้อย่างแน่นอน”

จ้าวเฟิงเริ่มดูดซึมพลังเวลา

พลังเวลารอบบริเวณนี้ประหนึ่งกายหยาบ ด้วยขอบเขตของพลังฝ่ามือเทพรวมศูนย์ขั้นสามสุดยอดจึงพอจะดูดซึมได้เล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้ก็จะเพิ่มความเข้าใจในเสวียนอ้าวเวลาของจ้าวเฟิงได้ด้วย

แน่นอนว่า จ้าวเฟิงก็ไม่ได้ลืมเก็บสมบัติทรัพยากรในพื้นที่แถวนี้

เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยน้อยเป็นกำลังหลักในการเก็บเกี่ยว รอบๆ ร่างของมันเปล่งแสงสว่างขึ้น การต่อต้านที่มีต่อเสวียนอ้าวเวลาเพิ่มขึ้นมาก

“เแมวความลับสวรรค์ น่าอัศจรรย์จริงๆ แทบจะข่มพลังของแต่ละเผ่าได้…”

จ้าวเฟิงเอ่ยพลางครุ่นคิด

หากจะพูดเรื่องความเร็ว เจ้าแมวขโมยไม่ช้าไปกว่าซินอู๋เหินเลย

นอกจากนี้จ้าวเฟิงยังปล่อยมังกรวารีล้างโลกาออกมา ด้วยความสามารถของสายเลือดล้างโลกาของมัน จึงต้านทานพลังเวลาได้ หากพูดเรื่องจำนวนคนและความเร็ว ทางฝั่งจ้าวเฟิงย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบ ดีที่จ้าวเฟิงไม่ได้ทำอะไรมากจนเกินไป เขาเก็บเกี่ยวเฉพาะทรัพยากรที่ตนเองยังไม่มี

เพราะทรัพยากรที่มีอยู่เช่นหน่อไม้แสงจันทร์ ดวงตาเทพเจ้าของเขาก็สามารถคัดลอกได้ ถึงแม้จะสิ้นเปลืองพลังมากก็ตาม

โดยปกติแล้ว ทรัพยากรที่รองลงมา จ้าวเฟิงจะไม่ยื่นมือเข้ายุ่ง กระทั่งเจ้าแมวขโมยก็ทำตามมาตรฐานนี้อย่างเคร่งครัด

ดังนั้นเมื่อมองโดยผิวเผินแล้ว ฝั่งเผ่าเทพยักษ์จึงมีผลเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์จำนวนมากมาย เหนือกว่าจ้าวเฟิง

ซินอู๋เหินเองก็มองเห็นการออมมือนี้ของจ้าวเฟิง ในใจจึงรู้สึกยินดี

ครึ่งวันต่อมา

ฝั่งจ้าวเฟิงและเผ่าเทพยักษ์ต่างได้ผลเก็บเกี่ยวกันจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเผ่าเทพยักษ์จำนวนทรัพยากรที่เก็บมาเรียกได้ว่ามหาศาล

“มีทรัพยากรจำนวนมหาศาลนี้ ความหวังที่เผ่าเทพยักษ์จะกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้งก็เพิ่มขึ้นส่วนสองส่วนแล้ว” พวกเผ่าเทพยักษ์ปีติยินดี

จ้าวเฟิงเองก็ลอบคิดคำนวณในใจ เขาสามารถใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลพวกนี้พัฒนาขั้วอำนาจของตนเองในมิติห้วงฝันบรรพกาล

“เผ่าเทพยักษ์และมนุษย์บัดซบ หากไม่ใช่เพราะการโจมตีจาก ‘นางพญาแมลง’ ไหนเลยจะปล่อยพวกเจ้าให้สมใจได้ร”

ในเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมีเสียงเกรี้ยวกราดที่พ่ายแพ้ดังออกมา

จ้าวเฟิงและพวกชะงักไป จำเป็นต้องยอมรับว่าหากไม่เช่นนั้น เมื่อเศษชิ้นส่วนปล่อยการ ‘หยุดเวลา’ ของพลังกฎเกณฑ์ออกมา ตนเองและพวกจะไม่สามารถต้านทานได้เลย

เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยน้อยกระโจนขึ้นไปบนบ่าของจ้าวเฟิง กรงเล็บโบกไปมา

“เหอะ! เแมวความลับสวรรค์? ข้ารู้จักเจ้า สิ่งทรงภูมิของเผ่าความลับสวรรค์ สามารถสื่อสารกับสรรพสิ่งบนโลก…”

เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นนั้นรู้ประวัติความเป็นมาของเแมวความลับสวรรค์

เมี้ยว~ เจ้าแมวขโมยน้อยโบกกรงเล็บต่อ เหมือนกำลังบอกอะไร

“อะไรนะ!”

เสียงร้อนรนเอ่ยขึ้นอย่างโมโห “เจ้าจะให้ข้าศิโรราบแก่นายเจ้า น่าโมโหนัก! ข้าเป็นถึง ‘ชิ้นส่วนอาวุธบรรพชน’ จอมเทพยังไม่อยู่ในสายตา แล้วนับประสาอะไรกับแค่เทพโบราณคนเดียว…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version