Skip to content

King of Gods 1386

King Of Gods

บทที่ 1386 สังหารขั้นเก้า

เจ้าแมวขโมยน้อยนั่งเฝ้าที่ด้านนอกชุดคลุมมิติอยู่ไม่ห่าง มันไม่ใส่ใจความคิดแง่ร้ายและความกังวลของเทพโบราณทั้งสองแต่อย่างใด

“เรื่องของสหายจ้าว พวกเราอย่าเป็นกังวล”

ซินอู๋เหินลืมตา ออกจากการฝึกตน

เมื่อมีทรัพยากรไม่จำกัด พลังฝึกตนเมื่อช่วงชีวิตก่อนของเขาจึงยิ่งฟื้นฟูมากขึ้นเรื่อยๆ บนร่างยังมีระลอกพลังแห่งกฎเกณฑ์กวาดผ่านเป็นครั้งคราว

ที่โลกภายนอกเวลาผ่านไปสามสี่วัน แต่ในชุดคลุมมิติผ่านมาแล้วร้อยกว่าวัน

พรึ่บ! ชุดคลุมมิติสว่างวิบวับ ปกคลุมบนร่างบุรุษหนุ่มผมสีเงินมายา รอบตัวเขาปรากฏระลอกมิติกระเพื่อมขึ้นชั้นหนึ่ง

“จ้าวเฟิง!” คนอื่นๆ ในที่นั้นต่างจับจ้องจ้าวเฟิง

กลิ่นอายบนร่างจ้าวเฟิงในตอนนี้ลึกล้ำเกินจะเปรียบ เหมือนเป็นความว่างเปล่า สามารถหยั่งรู้สรรพสิ่งนับหมื่นได้

ดวงตาของเขาเปล่งแสงวิจิตรที่ดูประหลาดออกมา หากสบตาเขาจะทำให้สับสน เวลาและมิติเคลื่อนคล้อยปนเปกันไปหมด

มองไม่ปรุโปร่งแม้แต่น้อย!

พลังเทพและห้วงคิดเซียนทั้งหมด เมื่อเข้าใกล้จ้าวเฟิงจะถูกพลังประหลาดพวกนั้นกลืนกินไป

เทพโบราณหวาไฉ่และเทพโบราณพั่วเยวี่ยมองตากัน ยากจะปกปิดความตื่นตะลึงบนใบหน้าได้

“ยินดีกับสหายจ้าวด้วย พลังเจ้าเพิ่มขึ้นมาก”

มีเพียงซินอู๋เหินที่มองสถานการณ์ในตอนนี้ของจ้าวเฟิงออก ดวงตาฉายแววซับซ้อนอยู่หลายส่วน

“สหายจ้าว เจ้าทะลวงเทพโบราณขั้นเก้าแล้วหรือ?” เทพโบราณพั่วเยวี่ยถามอย่างอดไม่ได้

“ถึงแม้จะไม่ได้ทะลวง แต่ก็ไม่ต่างอะไรนักหรอก…” จ้าวเฟิงหัวเราะน้อยๆ

การฝึกตนในก่อนนี้ ได้หลอมละลายผลเก็บเกี่ยวที่เขาได้มาจากคลังสมบัติบรรพชน พลังจึงเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

หมายความว่าอะไร! เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่ไม่เข้าใจ

จ้าวเฟิงโบกมือช้าๆ พลังเทพในมือปรากฏระลอกแสงสีเงินเข้มที่มีสิ่งเจือปนชั้นหนึ่ง

ในวินาทีที่พลังเทพซึ่งผสมผสานกันนั้นเผยออกมา พลังมิติรอบบริเวณหลุดลอยออกไปช้าๆ ด้วยความเร็วระดับที่มองได้ด้วยตาเปล่า

“พลังเทพน่ากลัวเหลือเกิน!” พวกเผ่าเทพยักษ์รวมไปถึงซินอู๋เหินใจสั่น

เทพโบราณหวาไฉ่และเทพโบราณพั่วเยวี่ยต่างรู้สึกได้ถึงความวุ่นวายและไม่สงบของพลังเทพในร่าง

แรงกระเพื่อมและระดับความแข็งแกร่งของพลังเทพเหนือกว่าเทพโบราณขั้นเก้าทั่วไป!

“ตอนที่หลอมรวมพลังนั้น เกรงว่าพลังเทพรวมศูนย์ของเสวียนอ้าวทั้งสองแขนงน่าจะอยู่เหนือกว่าเคล็ดวิชาดั้งเดิม ในมิติแห่งนี้ เสวียนอ้าวเวลามีผลกับข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

จ้าวเฟิงเก็บพลังเทพเข้าไป แล้วยิ้มอย่างพออกพอใจ

วูบ! ทันใดนั้นเอง ร่างของจ้าวเฟิงหายไปพร้อมกับระลอกมิติ

อะไรกัน! พวกซินอู๋เหินเบิกตากว้าง

ในวินาทีต่อมา บุรุษหนุ่มผมเงินก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทุกคนห่างไปหลายลี้

“เคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตา!”

“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารใช้วิชาเคลื่อนย้ายภายใต้แรงสะกดของมิติแห่งนี้”

พวกเผ่าเทพยักษ์เอ่ยด้วยใบหน้าตกตะลึง

ในวินาทีนี้ จ้าวเฟิงทำให้พวกเขาตกตะลึงอย่างมาก ต่อให้ทะลวงเป็นเทพโบราณขั้นเก้า ก็อาจไม่ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงขนาดนี้

ต้องรู้ว่า กระทั่งครึ่งก้าวสู่จอมเทพ เมื่ออยู่ในมิติแห่งนี้ก็ยังไม่สามารถใช้วิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาได้เลย

“ยินดีกับสหายจ้าวด้วย เสวียนอ้าวเวลาแตะระดับขั้นใหม่แล้ว…”

ใบหน้าซินอู๋เหินเผยร่องรอยความยินดี เขาเข้าใจดีว่าที่จ้าวเฟิงทำแบบนี้เพื่ออะไร

‘เสวียนอ้าวมิติแตะขั้นแปดระดับต้น เสวียนอ้าวเวลาก็กำลังจะแตะขั้นเจ็ด เมื่อบวกกับอาวุธเทพระดับสุดยอดอย่าง ‘ชุดคลุมมิติ’แล้ว ในด้านมิติ ข้าคงจะเป็นผู้ไร้เทียมทานแล้วในมิติแห่งนี้’

จ้าวเฟิงลอบเอ่ยในใจ

การฝึกตนหนึ่งร้อยกับอีกหลายสิบวัน การหล่อหลอมพลังรวมศูนย์ขั้นที่สี่ ทำให้พลังแท้จริงของเขาเพิ่มขึ้นราวติดปีก

จนถึงตอนนี้ นอกจากพลังฝึกตนของจ้าวเฟิง ความลึกซึ้งในเสวียนอ้าวมิติก็มาถึงคอขวดแล้ว จะฝึกตนเข้าฌานต่อไปก็ไม่ได้ผลอะไร

ส่วนพลังฝึกตน? จ้าวเฟิงไปถึงเทพโบราณขั้นเก้าเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

ขอแค่เขายินยอม ก็สามารถดูดซึมของเหลวกลุ่มที่เก้าที่ผนึกไว้บนรากฐานเทพได้ตลอดเวลา ทำให้เรื่องการทะลวงถึงขั้นเก้าเป็นเรื่องง่ายดาย ถึงกระทั่งไม่ต้องใช้ของเหลวกลุ่มที่เก้าที่ผนึกเอาไว้ เขาก็สามารถเพิ่มพลังได้ เพียงแต่ไม่สามารถทะลวงผ่านได้ตลอดเวลา แต่เพื่อสะสมพลังแฝงที่ลึกซึ้งมากขึ้น จ้าวเฟิงยังคงกดพลังฝึกตนเอาไว้ ยังไม่ได้ทะลวงขั้นใดๆ

“สี่วันแล้ว แมลงพวกนั้นยังกำลังโจมตีอยู่หรือ? เผ่าวิญญาณบรรพกาลใจเย็นเสียจริง เอาแต่มองดูเท่านั้นเองหรือ?” จ้าวเฟิงเริ่มสำรวจสถานการณ์

ผลปรากฏว่าเผ่าวิญญาณบรรพกาลใจเย็นมาก เหมือนกำลังระแวงอะไรอยู่

ส่วนกระบวนโจมตีของนางพญาก็ค่อยๆ อ่อนกำลังลงไป อัตราในการเกิดแมลงตัวใหม่ก็ช้าลงไปทุกที ถึงแม้ว่าจะมีแมลงอ้วนสีดำเงินเป็นฝ่ายขนส่งทรัพยากรให้แก่ ‘รังแมลง’ เรื่อยๆ แต่พลังวิญญาณของนางพญาแมลงก็ใช้หมดไปบ้าง

“ฮ่าๆ พวกแมลงน้อย พวกเจ้ากำลังจะพ่ายแพ้อีกแล้ว”

เสียงมิติดังขึ้นอีกครั้ง ท่าทางเหมือนผู้กุมชัยชนะ เพียงแค่ในน้ำเสียงก็เจือความอ่อนล้าอยู่เหมือนกัน

สองวันผ่านไป

การโจมตีของรังแมลงก็ค่อยๆ หยุดลง เหมือนว่ากำลังพักฟื้นฟู แต่แมลงน้อยสีดำเงินที่เป็นกำลังหนุนยังคงเก็บเกี่ยวทรัพยากรจำนวนมหาศาลส่งให้จากด้านหลังสุด

นางพญาแมลงไม่ได้ยอมแพ้อย่างสิ้นเชิงแต่อย่างใด แต่มีจุดหนึ่งที่ยืนยันได้ ทั้งสองฝ่ายใช้พลังหมดไปอย่างมหาศาลจนต้องเริ่มฟื้นฟูพลัง

ทางเหนือของป้อมปราการเก่า “ได้เวลาแล้ว ลงมือได้”

อวี่เหิงลืมตา พลังฝึกตนของเขาไปแตะขั้นเก้าสุดยอดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ดีเยี่ยมเหลือเกิน!

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคนและเทพโบราณอีกสองคนกระเหี้ยนกระหือรืออยากลงมือ ตื่นเต้นกันมาก

เมื่อมองดูอย่างละเอียด พลังฝึกตนของพวกนี้ พลังที่ต่ำสุดก็คือเทพโบราณขั้นเก้า

ในมิติลึกลับแห่งนี้ ในเวลาเดียวกันกับที่เผ่าเทพยักษ์ต่างพากันมีพัฒนาการ ศัตรูของพวกเขาเองก็พัฒนาขึ้นไม่น้อย

“แล้วจะจัดการคนจากเผ่าเทพยักษ์อย่างไรดี?”

“เกรงว่าเจ้าพวกนี้คงอยากได้ ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ มิฉะนั้นจะตั้งตารออะไร”

จิตสังหารของพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลพวยพุ่ง

“เป็นตัวปัญหาจริงๆ”

อวี่เหิงขมวดคิ้วน้อยๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า “จัดการคนพวกนี้ก่อน อย่างน้อยๆ ต้องจัดการซินอู๋เหิน ทำให้พวกมันบาดเจ็บสาหัส จะได้ไม่มีผลต่อแผนของพวกเรา”

แผนหลักของพวกเขาคือการแย่งชิง ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ มา

ถ้าหากเผ่าเทพยักษ์ไม่อยู่ละแวกนี้ พวกเขาอาจจะไม่ลงมือ แต่ในเมื่ออยู่แถวนี้แล้วก็ย่อมต้องจัดการให้เรียบร้อย

พรึ่บ! กลุ่มคนทั้งห้าเป็นเทพโบราณขั้นเก้าทั้งหมด พวกเขาอ้อมป้อมปราการเก่า รุกเข้าไปใกล้เผ่าเทพยักษ์

ด้านตะวันออกของป้อมปราการเก่า

“ตำหนักวิญญาณบรรพกาล พวกมันมาแล้ว…” จ้าวเฟิงไพล่มือไว้ด้านหลัง ใบหน้าเรียบสงบ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าเทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่ฉายแววตกตะลึง พวกเขาประมือกับเผ่าเทพยักษ์ เดิมก็ตกอยู่ในสภาพเป็นรอง

ตอนนี้คนในครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคนจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลร่วมมือกัน คนที่อยู่ล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่ง พลังของพวกเขายากจะคาดคะเน

“ความหมายของเจ้าคือ?” ซินอู๋เหินเห็นจ้าวเฟิงไม่ขยับจึงเอ่ยถาม

“คงทำได้เพียงต่อสู้”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเข้ม “ในคนพวกนี้มีคนหนึ่งที่ข้าอ่านไม่ขาด”

“ได้” คิดไม่ถึงว่าซินอู๋เหินจะตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรเลย

เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่กลับมีสีหน้าร้อนรนและกังวล

นั่นมันครึ่งก้าวสู่จอมเทพถึงสามคน ท่านอู๋เหินจะเป็นบ้าตามคนบ้าได้อย่างไรกันพวกเขาไม่เข้าใจ จ้าวเฟิงมีคุณสมบัติอะไรถึงกล้าท้าทายครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคนแล้วยังสงบนิ่งขนาดนี้

“พวกเจ้าไม่ต้องกังวล จ้าวเฟิงก็แค่อยากลองหยั่งเชิงเท่านั้น…”

จนเมื่อได้ยินเสียงซินอู๋เหินส่งกระแสจิตมา พวกเขาจึงสงบลง

ในเวลานี้เอง กลิ่นอายแข็งแกร่งหลายกลุ่มที่อยู่ไกลออกไปตรงเข้ามาใกล้ทุกที

“ฮ่าๆ…พวกลิ่วล้อเผ่าเทพยักษ์ คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังกล้ารับมือด้วย”

“ก็ถูก! หากพูดเรื่องความเร็วแล้ว ตำหนักวิญญาณบรรพกาลเราอยู่เหนือว่า พวกมันหนีไปก็ไร้ประโยชน์”

อวี้ห่าย หานอวี้ เมี่ยหลิว ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามนำหน้าบุกเข้ามา

ด้านหลังคนทั้งสามเป็นเทพโบราณขั้นเก้าสองคน ในนั้นรวมเทพโบราณมู่อวี้ผู้ชำนาญค่ายกลแล้ว

ส่วนอวี่เหิงอยู่ท้ายสุด

อวี่เหิงรับผิดชอบด้านหลัง เขาขมวดคิ้วพลางพึมพำ “เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่! ทำตามแผนเดิมไป พวกเผ่าเทพยักษ์จะหลบพวกเราไป”

“มันไม่ได้ตรงมาที่นี่”

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงมองเห็นอวี่เหิงที่อยู่ด้านหลังสุดได้อย่างชัดเจน

ในกลุ่มคนตำหนักวิญญาณบรรพกาล คนผู้เดียวที่เขาอ่านได้ไม่ปรุโปร่งนักก็คือบุรุษลึกลับผู้นั้น

“สังหาร!” ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามนำกลุ่มตรงมาสังหาร

“เขตแดนเหมันต์พันวารี!”

ทั่วร่างเทพโบราณหานอวี้ระเบิดแสงเหมันต์ที่เจิดจ้าออกมา นัยน์ตาคู่งามปิดลงเล็กน้อย มือนวลเนียนโบกกลางอากาศ

ในวินาทีนั้น เรือนร่างที่หมุนวนด้วยแสงเหมันต์ปรากฏกฎเกณฑ์แห่งเหมันต์น้อยๆ

ในช่วงลมหายใจเดียว

รัศมีพันลี้ถูกลมหนาวผนึกเอาไว้…‘เหมันต์พันลี้’!

ภายใต้แรงกดดันเวลาที่แข็งแกร่งในมิติแห่งนี้ หากส่งผลได้ถึงรัศมีพันลี้ ก็เป็นระยะที่ยากจะจินตนาการแล้ว ยังไม่จบแค่นี้ เหมันต์พันลี้เป็นแค่ขั้นต้นของกลยุทธ์วงกว้างนี้

ตูม! โครม…

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่พันจั้งหลายสายตั้งตระหง่านในฟ้าดิน กลายมาเป็น ‘เขตแดนธารน้ำแข็ง’ ที่กว้างใหญ่

“แย่ล่ะ!” รอบตัวพวกเผ่าเทพยักษ์เป็นธารน้ำแข็งหนาวเยือกหลายสายเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน กลายเป็นกระบวนทัพที่แปลกประหลาด แผ่กระจายไอหนาวเหน็บที่แช่แข็งฟ้าดินออกมา

ขณะนั้น ความเร็วของเผ่าเทพยักษ์ทั้งสามลดลงไป พลังสายเลือดถูกแช่แข็ง พลังทั้งหมดลดลงสามส่วน

เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่กระตุ้นสายเลือด ‘เผ่าเทพยักษ์’ ในทันที ถึงจัดการรุกโจมตีจากไอหนาวนั้นได้ แต่ความเร็วของทั้งสองมีแค่หกส่วนจากที่ผ่านมาเท่านั้น

“ฮ่าๆ คนพวกนี้โดน ‘เขตแดนเหมันต์พันวารี’ ของข้าเข้าไป ตกอยู่ในสภาพจนมุมแล้ว”

เทพโบราณหานอวี้หัวเราะเสียงเบา พื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ เหมาะจะใช้เคล็ดวิชาเขตแดนเป็นวงกว้างพอดี

ในครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคน พลังของนางแข็งแกร่งที่สุด ทันทีที่ลงมือก็ทำให้เผ่าเทพยักษ์ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

นางรับผิดชอบล้อมโจมตี ส่วนครึ่งก้าวสู่จอมเทพอีกสองคนทำหน้าที่บุกโจมตีตามไป

เปรี๊ยะ! จ้าวเฟิงเป็นคนแรกในกลุ่มเผ่าเทพยักษ์ที่พุ่งโจมตี

เขาคลุมชุดคลุมมิติ น้ำวนมิติชั้นหนึ่งกระเพื่อมออกมา ก่อนพุ่งไปหาครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคน

“เจ้าคนนี้ไม่กลัวตายเลยจริงๆ!”

เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะเยาะ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพอีกสองคนก็ยิ้มบางๆ แต่พวกเขาก็หัวเราะไม่ออกอย่างรวดเร็ว!

“หืม! รวดเร็วนัก!” “ระลอกมิติแข็งแกร่งขนาดนี้ เสวียนอ้าวเวลาในมิติแห่งนี้ยากจะข่มเอาไว้”

จ้าวเฟิงในครรลองสายตารวดเร็วมากขึ้นอีก เคลื่อนผ่านช่องว่างระหว่างครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคน แล้วตรงไปยังเทพโบราณขั้นเก้าสองคนด้านหลัง

ไป! เทพโบราณอวี้ห่ายโบกมือ ระดับชั้นวิญญาณมีเสียงคำรามดังขึ้น จระเข้ยักษ์สีดำสนิทตรงไปกัดจ้าวเฟิง

“เหอะ! เจ้าเร็วกว่านี้แล้วจะหลบการโจมตีวิญญาณได้งั้นรึ?”

เทพโบราณอวี้ห่ายเอ่ยด้วยสีหน้าเชื่อมั่น

โดยปกติการโจมตีชั้นวิญญาณจะอยู่เหนือชั้นกายเนื้อ ยิ่งสัตว์อสูรนั้นเลี้ยงมาด้วยวิญญาณ จะมีสติปัญญาและไล่ตามสังหารศัตรูได้

ฟิ้ว! จระเข้ยักษ์โผขึ้นกลางอากาศ ทิ้งระลอกมิติเอาไว้ตรงจุดเดิม

ร่างจ้าวเฟิงหายวับไปโดยไร้ร่องรอย

เคลื่อนย้ายมิติ? เป็นไปได้อย่างไร!

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามพากันหน้าเปลี่ยนสี ร้องเสียงหลงทันที “ระวัง”

แต่ทว่า การเตือนของพวกเขามาช้าเกินไป

“อ๊าก…” เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากเทพโบราณขั้นเก้าคนหนึ่งด้านหลัง

เห็นเพียงบุรุษหนุ่มผมสีเงินปรากฏขึ้น ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังเทพบิดเบี้ยวผสมปนเปกันทะลวงผ่านร่างเขาไป

วู้ม~

จากนั้น สนามพลังรวมศูนย์ที่บิดเบี้ยวชั้นหนึ่งก็กลืนกินร่างกายและดวงวิญญาณทีละน้อย

“ไม่…”

เทพโบราณขั้นเก้าผู้นั้นคิดจะดิ้นรนออกไป แต่พลังเทพทั่วร่างกลับวุ่นวาย หลุดลอยไปอย่างไร้สาเหตุ ร่างกายและจิตสำนึกถูกพลังไร้รูปฉุดดึงไปช้าๆ แทบไม่มีแรงต้านทานได้เลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version