Skip to content

King of Gods 1397

King Of Gods

บทที่ 1397 ดิ้นรนต่อสู้

“ทำได้จริงๆ ด้วย!” สีหน้าจ้าวเฟิงฉายแววลิงโลด

ก่อนหน้านี้เขาก็แค่ทดลองดู คิดไม่ถึงว่ากลับสำเร็จเสียได้

ต้องรู้ว่า รอบกายของอวี่เหิงยังมีการป้องกันของพลังเผ่าบรรพกาล ของที่เข้าไปในปากอวี่เฟิงก็ยิ่งเทียบเท่ากับส่วนหนึ่งของร่างเขา ต่อให้ที่นี่ไม่มีค่ายกลกั้นนภา การเคลื่อนย้ายมิติของจ้าวเฟิงก็ยากที่จะหยิบของจากมืออวี่เหิงไป

พลังของเผ่าบรรพกาล แม้กระทั่งพลังเวลาของเผ่าแสงยังแหลกละเอียดไปอย่างง่ายดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังเคลื่อนย้ายมิติของจ้าวเฟิงเลย

แต่ ‘เนตรเทพมายาทำลายล้าง’ กลับทำสำเร็จ ทำลายของที่เข้าไปในกายของอวี่เฟิงจนสูญสลาย

“เอ๋? เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนรอบด้านต่างจ้องไปยังอวี่เหิง

ในจินตนาการ ตอนนี้อวี่เหิงควรจะหัวเราะลั่น แล้วปลดปล่อยพลังแข็งแกร่งของเผ่าบรรพกาลรุกโจมตีมา

แต่ตอนนี้เขากลับตื่นตกใจระคนเคืองแค้น

“อวี่เหิง เป็นอะไรไป?”

เทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอวี้ห่ายมองไปยังอวี่เหิงอย่างสงสัย

พวกเขาเฝ้ารอให้อวี่เหิงสำแดงพลังเทพหลังจากที่ดื่มกินยาเข้าไปแล้ว แต่ทำไมไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ

“จ้าวเฟิง!” อวี่เหิงหันมามองจ้าวเฟิงทันที ดวงตาทั้งสองแทบจะลุกเป็นไฟ

เมื่อครู่ ทุกคนต่างเตรียมตัวหนี มีเพียงตาซ้ายของจ้าวเฟิงเท่านั้นที่จ้องเพ่งไปบนร่างของเขาแล้วสำแดงวิชาดวงตาลึกลับ

ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจ

แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าวิชาดวงตาของจ้าวเฟิงจะทำได้ถึงจุดนี้ ทะลวงชั้นการป้องกันของเขา และยิ่งทำให้ของที่เขากลืนลงไปหายไปโดยที่ไม่รู้ตัวใดๆ

“นี่มันเป็นไปไม่ได้…” สีหน้าของอวี่เหิงค่อนข้างร้อนรน

ก่อนหน้านี้ จ้าวเฟิงทำลายกระบวนท่าสังหารที่เขาสะสมพลังมา ตอนนี้ยิ่งทำให้ยาของเขาหายไป อีกทั้งนั่นเป็นยาขวดสุดท้ายที่เขาเอามาด้วย

พรวด! อวี่เหิงกระอักเลือดออกมาทันทีเมื่อคิดถึงจุดนี้

นับตั้งแต่เขาเริ่มฝึกฝนจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยเสียเปรียบในเงื้อมมือของคนนอกมากถึงเพียงนี้มาก่อน

“เจ้าเด็กนี่เป็นคนทำ?” มู่กู่มองจ้าวเฟิงอย่างอดไม่ได้

เมื่อครู่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบรรพกาลที่แข็งแกร่งและคลื่นพลังดวงตาจากในตาซ้ายของจ้าวเฟิงเช่นกัน

“ทำได้ดี!” ซินอู๋เหินยิ้มบางๆ

“จ้าวเฟิง ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น!” อวี่เหิงพลันคำราม พุ่งสังหารมายังจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าคลุ้มคลั่ง

จ้าวเฟิงทำเขาเสียแผนซ้ำแล้วซ้ำเล่า อวี่เหิงตอนนี้ไม่คิดถึงเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนแล้ว คิดแต่จะฆ่าจ้าวเฟิง

“รีบหยุดมันเร็ว!”

มู่กู่ตะโกนขึ้นโดยพลัน ก่อนทะยานออกไปกับซินอู๋เหิน

จ้าวเฟิงเป็นถึงวีรบุรุษของศึกนี้ วิชาดวงตาที่น่าอัศจรรย์สร้างคุณงามความดีครั้งแล้วครั้งเล่า จะให้เป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด

“กาลเวลาสะบั้นสังหาร!”

มู่กู่กระตุ้นเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน ลำแสงคมมีดสีขาววาววับที่ทั้งยาวและแคบสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในท้องฟ้า แต่หลังจากที่ลำแสงคมมีดนี้รวมตัวออกมาก็เกิดระลอกคลื่นไม่มั่นคง

“ท่าทางข้าคงจะแก่แล้วจริงๆ!” ร่างที่มีแสงสีขาวไหลวนของมู่กู่ขาวซีด เลือดไหลออกมาจากมุมปาก

เขาเพิ่งจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา เดิมทีร่างก็มีบาดแผลสาหัสอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็สู้กับอวี่เหิงมาโดยตลอด บาดแผลจึงสาหัสขึ้นไปอีกขั้น การใช้พลังก็มหาศาล

ฟิ้ว!

มู่กู่พยายามสะบัดลำแสงคมมีดที่ยาวหลายร้อยจั้ง พุ่งทะลวงไปฟาดฟันอวี่เหิง

ในขณะเดียวกัน การโจมตีของซินอู๋เหินก็มาถึงเช่นกัน เห็นเพียงฝ่ามือแสงคลื่นวนห้าสีขนาดยักษ์โจมตีมาด้วยท่าทางที่หมายจะทำลายทุกสิ่ง

“ไสหัวไป!” อวี่เหิงคำราม พลังเผ่าบรรพกาลที่บ้าคลั่งเป็นอย่างยิ่งโจมตีออกมาจากทั่วร่างของเขา

เสี้ยวขณะนี้ ฟ้าดินมืดสลัวสั่นไหว โกลาหลวุ่นวายหาใดเปรียบ

ครืน ตูม บึ้ม!

กาลเวลาสะบั้นสังหารของมู่กู่ อีกทั้งฝ่ามือทลายห้าธาตุของซินอู๋เหิน ล้วนถูกพลังที่ไร้เทียมทานบดขยี้ทันที ต่อจากนั้นอวี่เหิงที่นัยน์ตามีเส้นเลือดจู่โจมไปยังจ้าวเฟิง

“เกิดอะไรขึ้น พลังของมันเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้แล้ว!”

สายตาของเทพโบราณหวาไฉ่ฉายแววตื่นกลัว

“มันสติฟั่นเฟือนไปแล้ว ควบคุมพลังเผ่าบรรพกาลไม่ได้จึงเป็นเช่นนี้!”

มู่กู่จ้องอวี่เหิง จากนั้นจึงพูดขึ้น

“น่าจะเป็นผลข้างเคียงของสายเลือดรวมกับการกระตุ้นจากจ้าวเฟิง”

ซินอู๋เหินเอ่ยวิเคราะห์

ทุกครั้งหลังจากที่ใช้พลังเผ่าบรรพกาลจะเกิดผลข้างเคียงอย่างหนัก และในช่วงนี้ อวี่เหิงใช้พลังเผ่าบรรพกาลไปสองครั้ง ดื่มยาเอาพลังมาหลายครั้ง เพื่อเพิ่มระยะเวลาของสายเลือดออกไป

นี่ส่งผลให้พลังสายเลือดยังไม่ทันหายไปหมด ผลข้างเคียงก็เกิดขึ้นแล้ว

เมื่อรวมกับการกระตุ้นจากจ้าวเฟิง สติสัมปชัญญะของอวี่เหิงจึงได้รับผลกระทบไปด้วย

“จ้าวเฟิง ตายซะ!” ดวงตาของอวี่เหิงเต็มไปด้วยเส้นเลือด รอยเลือดสีเงินทองค่อยๆ ไหลออกมาจากร่างใหญ่ยักษ์ของเขา

พลังเผ่าบรรพกาลที่หยิ่งทะนงทรงพลังหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย กระจายลุกลามไปในท้องฟ้า

ฟุ่บ! จ้าวเฟิงหลบหลีกจากตรงนั้นไปไกลอย่างรวดเร็ว ทิ้งอวี่เหิงเอาไว้ข้างหลัง

“พลังสายเลือดของมันกำลังไหลออกไป!” จ้าวเฟิงโคจรดวงตาเทพเจ้า สังเกตอวี่เหิงอย่างละเอียด

มู่กู่และซินอู๋เหินไล่ตามหลังอวี่เหิงไปติดๆ อย่างไม่ลดละ และคอยโจมตีไม่หยุด

ด้านหนึ่งสามารถสกัดความเร็วของอวี่เหิง อีกด้านหนึ่งก็เพื่อลดพลังสายเลือด

“แย่แล้ว สถานการณ์ของอวี่เหิงไม่ค่อยจะดีนัก!” เทพโบราณอวี้ห่ายพูดเสียงต่ำ

“แผนการในตอนนี้มีเพียงต้องสกัดจ้าวเฟิงเอาไว้เท่านั้น!” เทพโบราณหานอวี้ไตร่ตรองชั่วขณะ ก่อนจะพูดออกมา

ขอเพียงพวกเขาสองคนสกัดจ้าวเฟิงเอาไว้ อวี่เหิงจะต้องสังหารจ้าวเฟิงได้อย่างง่ายดายแน่นอน ถึงตอนนั้นปมในใจถูกแก้ออก น่าจะฟื้นคืนสติกลับมาได้ พวกเขาจึงยังมีความหวัง

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ครึ่งก้าวสู่จอมเทพตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสองอ้อมมาถึงหน้าจ้าวเฟิงจากอีกด้านหนึ่ง แล้วสกัดกั้นเอาไว้

“ยอดเขาเหมันต์!”

“ทำลายล้างโลกา!”

ทั้งสองต่างสำแดงเคล็ดวิชาแข็งแกร่ง สายธารดำทมิฬสายหนึ่งและยอดเขาเหมันต์เย็นยะเยือกลูกหนึ่งโจมตีลงมาทันใด

“ไสหัวไป!” จ้าวเฟิงคำรามลั่น พลังเทพรวมศูนย์หลอมรวมขึ้น หมัดแสงสีเงินเข้มหลายสายโจมตีออกมา

ในขณะเดียวกัน เทพโบราณเฉิงอวิ๋นและแมวขโมยตัวน้อยก็เข้ามาหนุนด้วย

ครืน บึ้ม ตูม!

การโจมตีของทั้งสองฝั่งปะทะเข้าด้วยกัน พลังสะเทือนฟ้าดิน

“พลังของเจ้านี่สามารถต่อกรกับข้าได้แล้ว!”

เทพโบราณอวี้ห่ายจ้องจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าลำบากใจ ในใจหงุดหงิดนัก

คิดถึงตอนแรก จ้าวเฟิงต้องร่วมมือกับซินอู๋เหินสำแดงไพ่ตายต่างๆ ถึงจะเอาชนะเขาได้

แต่ตอนนี้ พลังที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมาคนเดียวก็เทียบเท่ากับครึ่งก้าวสู่จอมเทพแล้ว

“ฆ่า!” ในตอนนี้เอง อวี่เหิงพุ่งประชิดมาจากด้านหลัง แต่ว่าเขาในตอนนี้ พลังสายเลือดอ่อนลงไปมาก

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!” จ้าวเฟิงเล็งที่ส่วนหัวของอวี่เหิง โคจรตาซ้ายขึ้นมา เพลิงอัสนีเทวะกลุ่มหนึ่งโจมตีออกไปทันที

ครืน เปรี้ยง! แสงสายฟ้าอัสนีเทวะนับไม่ถ้วนฟาดผ่าไปที่ส่วนหัวของอวี่เหิงทันที

ในขณะเดียวกัน มู่กู่ก็ฟันคมมีดสีขาววาววับสายหนึ่งออกมา เชือดเฉือนไปที่ส่วนหัวของอวี่เหิงเช่นกัน

“ดัชนีเทพยักษ์!”

ซินอู๋เหินโคจรสายเลือดพลังเทพและการรับรู้กฎเกณฑ์ จากนั้นชี้นิ้วบดขยี้ออกไป

เพียงชั่วพริบตา การโจมตีของทุกคนก็กลืนกินร่างของอวี่เหิงไปอย่างสมบูรณ์

แต่อวี่เหิงในตอนนี้อยู่ในสภาวะกายเทพมารบรรพกาล ร่างกายที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบนี้ต้านทานอาการบาดเจ็บให้อวี่เหิงได้เก้าส่วนขึ้นไป

หลังจากฝุ่นควันจากการระเบิดสลายไป อวี่เหิงก็พุ่งออกมาทันที แต่เป้าหมายกลับไม่ใช่จ้าวเฟิง

“ถอยเร็ว!” อวี่เหิงตะโกนบอกเทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอวี้ห่าย

ที่แท้ จากการโจมตีเมื่อครู่ สติของอวี่เหิงก็กลับคืนมาแล้ว

ตอนนี้พลังเผ่าบรรพกาลของเขาค่อยๆ อ่อนลง กำลังรบก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน หากต่อสู้ซึ่งหน้าจะไม่มีโอกาสชนะเลย

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสองย่อมรู้สถานการณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดี จึงถอยไปพร้อมกับอวี่เหิง

“ตามไปเร็ว!” จ้าวเฟิงคำรามเสียงต่ำ ไล่ตามไปทันที

อวี่เหิงตอนนี้ถึงแม้สติจะฟื้นคืนมา แต่พลังเผ่าบรรพกาลกำลังหลั่งไหลออกไปอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ อ่อนแอลง

“พวกเจ้าทั้งสองคอยระวังสถานการณ์ข้างหลัง ข้าจะติดต่อกับท่านอาจารย์!”

อวี่เหิงพูดขึ้นในขณะที่หลบหนี

ถ้าพลังเผ่าบรรพกาลของเขาหายไปจนสิ้น พวกเขาเป็นไปได้อย่างมากว่าจะตายอยู่ที่นี่

“ได้!” เทพโบราณอวี้ห่ายและเทพโบราณหานอวี้เผยสีหน้ายินดี

‘คลังสมบัติบบรรพชน’ ห่างจากฐานที่ตั้งของตำหนักวิญญาณบรรพกาลไกลเกินไป วิธีการส่งข่าวธรรมดาใช้ติดต่อไม่ได้เลย แต่อวี่เหิงจากเผ่าความลับสวรรค์กลับมีวิธีติดต่ออาจารย์ของเขา

อาจารย์ของอวี่เหิงคือจอมเทพซิงเซี่ยง เป็นคนเผ่าความลับสวรรค์เช่นกัน ขอเพียงแค่ติดต่อได้ พวกเขาก็ยังมีความหวัง

ฟุ่บ! ในขณะเดียวกัน มือของอวี่เหิงสะบัดไป ร่างเงาสีดำปรากฏขึ้นในฟ้าดิน

ร่างเงานั้นค่อนข้างสูงใหญ่ ทั่วร่างประกอบด้วยกายเนื้อและโลหะ แผ่กลิ่นอายแข็งแกร่งของครึ่งก้าวสู่จอมเทพออกมา

“นี่คือหุ่นเชิด?” เทพโบราณอวี้ห่ายดวงตาสว่างวาบ

หุ่นเชิดทั่วไปไม่มีกลิ่นอายชีวิต และถูกคนควบคุม แต่ร่างเงาสีดำเบื้องหน้ากลับมีคลื่นชีวิตแข็งแกร่ง

“นี่มัน…‘องครักษ์เทพมรณะ’ ของเผ่าความลับสวรรค์”

สีหน้าของมู่กู่เคร่งเครียดไปทันใด

ทักษะเชิดหุ่นของเผ่าความลับสวรรค์ไม่มีใครเทียมได้ก็จริง แต่หุ่นเชิดก็มีข้อด้อยมากมาย ยกตัวอย่างเช่น หุ่นเชิดที่กำลังรบสูง จะมีราคาสูงค่าเป็นอย่างยิ่ง ความคล่องแคล่วค่อนข้างต่ำ ความสามารถในการสู้รบแข็งแกร่งไม่เท่าระดับขั้นเดียวกัน

แต่ ‘องครักษ์เทพมรณะ’ ที่เผ่าความลับสวรรค์คิดค้นขึ้น คือร่างที่ผสานของสิ่งมีชีวิตกับเครื่องกล เมื่อมีข้อดีของทั้งสองชนิดก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

“สกัดกั้นมันเอาไว้!”

หลังจากบัญชาแล้ว อวี่เหิงก็หยิบป้ายหยกสีเทาเงินแผ่นหนึ่งออกมา

ฟิ้ว ฟิ้ว! นิ้วมือขยับเล็กน้อย อักษรแปลกประหลาดหลายแถวก็สลักไปบนนั้น

“ไม่ดีแล้ว นี่คือวิธีส่งข่าวแบบพิเศษของเผ่าความลับสวรรค์ มันจะต้องติดต่อกับเผ่าความลับสวรรค์คนอื่นๆ เป็นแน่!”

มู่กู่ที่เห็นฉากนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง

อวี่เหิงคนเดียวยังรับมือยากขนาดนี้ หากมีคนเผ่าความลับสวรรค์คนอื่นไล่ตามมาอีก ผลลัพธ์คงเลวร้ายจนไม่อยากจะคิด

……

ในมิติเลือนรางแห่งหนึ่ง มีร่างเงากลุ่มหนึ่งยืนอยู่

เบื้องหน้าของพวกเขามีค่ายกลความลับสวรรค์ที่ซับซ้อนสองค่ายกล

“จอมเทพซิงเซี่ยง ตำหนักวิญญาณบรรพกาลของข้าเหลือเพียงเทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอวี้ห่ายแล้ว!”

จอมเทพเทียนหมิงพูดขึ้นอย่างตระหนก

จนถึงตอนนี้ ตำหนักวิญญาณบรรพกาลสูญเสียขั้นแปดสุดยอดไปแล้วสามคน เทพโบราณขั้นเก้าสามคน ครึ่งก้าวสู่จอมเทพหนึ่งคน

“อวี่เหิง เจ้าทำอะไรอยู่ ไยจึงไม่ติดต่อข้ามาอีก!”

จอมเทพซิงเซี่ยงมีสีหน้าเคร่งเครียด

อวี่เหิงเป็นลูกศิษย์ของเขา แน่นอนว่าเขารู้ดีถึงความสามารถของอวี่เหิง

ตามหลักแล้ว ในมิตินั้นน่าจะไม่มีคู่มือของอวี่เหิงอยู่ แต่ทำไมจึงสูญเสียสาหัสเช่นนี้

“บัดซบ ไอ้พลังแห่งโชคชะตานี่!” จอมเทพซิงเซี่ยงได้รับผลกระทบจากพลังโชคชะตา ไม่อาจทำนายสถานการณ์ของอวี่เหิงในตอนนี้ได้เช่นกัน

“ตอนนี้ข้าจะเตรียมเปิดค่ายกลส่งข้ามอีกครั้ง ครั้งนี้ ข้าจะไปด้วยตนเอง!”

ใบหน้าของจอมเทพซิงเซี่ยงคร่ำเคร่งเป็นอย่างยิ่ง เขามายังข้างค่ายกลส่งข้ามแล้วเริ่มซ่อมแซมค่ายกล

เมื่อเอ่ยดังนั้น คนตำหนักวิญญาณบรรพกาลที่อยู่ที่นั่นต่างตกตะลึง

“ตะ…ต้องการอะไรบัญชามาได้เลย!”

สีหน้าของจอมเทพเทียนหมิงผ่อนคลายลงบ้าง

ค่ายกลส่งข้ามใช้พลังหมดไปมหาศาลเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาล้วนรู้ดี และครั้งนี้ คนที่จะส่งข้ามไปคือจอมเทพคนหนึ่ง น่ากลัวว่าค่าตอบแทนของมันจะไม่น้อยเลย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version