บทที่ 1398 เหลือเพียงคนเดียว
“ไม่ดีแล้ว นี่คือวิธีส่งข่าวแบบพิเศษของเผ่าความลับสวรรค์ มันจะต้องติดต่อกับเผ่าความลับสวรรค์คนอื่นเป็นแน่!”
มู่กู่ที่เห็นภาพฉากนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง
อวี่เหิงคนเดียวยังรับมือยากขนาดนี้ หากมีเผ่าความลับสวรรค์คนอื่นๆ ไล่ตามมาอีก ผลลัพธ์คงเลวร้ายจนไม่อยากจะคิด
“จะต้องขวางไว้ให้ได้!” แววตาของซินอู๋เหินตั้งมั่นแน่วแน่
ฟุ่บ~ พวกอวี่เหิงทั้งสามคนและองครักษ์เทพมรณะโบยบินไปในค่ายกลกั้นเวหาอยู่ตลอด เพราะพวกเขารู้ แค่เพียงออกไปจากค่ายกล มู่กู่เผ่าแห่งแสงและจ้าวเฟิงจะสามารถสำแดงวิชาเคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตาได้
“พวกเจ้าทั้งหลายไปสกัดคนอื่นๆ ไว้ ข้าจะไล่ตามอวี่เหิงไปขัดขวางมัน! ”
มู่กู่ส่งกระแสจิตให้คนอื่นๆ
“ได้!” ทุกคนตอบรับทันใด
มู่กู่เป็นเผ่าพันธุ์แห่งแสง ความเร็วสูงเป็นที่สุด และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นั้นให้เขาไปจัดการอวี่เหิง จะมีโอกาสชนะมากที่สุด
ฟุ่บ~ คนกลุ่มหนึ่งพุ่งออกไป บีบเข้าใกล้เทพโบราณอวี้ห่าย เทพโบราณหานอวี้ และองครักษ์เทพมรณะ
“บดขยี้ห้าธาตุ!” ซินอู๋เหินโคจรพลังกฎเกณฑ์หลอมรวมเข้าไปในร่างกาย ก่อนปลดปล่อยเขตแดนที่มีแรงบีบอัดรุนแรงออกมาชั้นหนึ่งทันที ทันใดนั้น ฝั่งศัตรูทั้งสามคนก็ถูกผลกระทบของแรงบีบอัดที่แข็งแกร่ง ยากเข็ญทุกย่างก้าว
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงเข้าใกล้เทพโบราณไห่อวี้มาทันที
“เนตรมารแผดเผาวิญญาณ!”
เห็นเพียงพลังมายาที่ร้อนระอุกลุ่มหนึ่งโจมตีชั้นดวงวิญญาณของเทพโบราณอวี้ห่ายโดยตรง ทันใดนั้น เทพโบราณอวี้ห่ายรู้สึกวิญญาณว่าลุกไหม้ไปขณะหนึ่ง ในขณะเดียวกันจิตใจของเขาก็ร้อนรนเป็นอย่างยิ่ง ความรู้สึกด้านลบมากมายทะลักออกมาไม่หยุด
“ตรารวมศูนย์สะกดเทพ!”
จากนั้นจ้าวเฟิงโคจรพลังเทพรวมศูนย์อย่างรวดเร็ว หลอมรวมตราประทับมืดหม่นที่ใหญ่ยักษ์ดุจขุนเขาออกมา ก่อนกดทับไปยังเทพโบราณอวี้ห่าย
“เจ้านี่!” เทพโบราณอวี้ห่ายตกใจและแค้นเคืองเป็นอย่างยิ่ง
ครั้งแรกที่ประมือกับจ้าวเฟิง จ้าวเฟิงร่วมมือกับซินอู๋เหินถึงจะสู้กับเขาได้ แต่ตอนนี้ จ้าวเฟิงกลับสู้กับเขาตามลำพัง ถึงแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่จ้าวเฟิงในตอนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ มีพลังของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ
ตราประทับมหึมาดุจขุนเขาใกล้จะกดทับลงมาเต็มที
“มหาสมุทรโลกันตร์!” ในช่วงเวลาคับขัน ร่างของเทพโบราณอวี้ห่ายขยายใหญ่ขึ้น แปลงเป็นคลื่นทะเลมืดทมิฬ
ภายใต้สภาวะนี้ ผลกระทบจากวิชาดวงตาที่เขาได้รับลดลง พลังป้องกันก็เพิ่มมากขึ้น
“กระบวนท่านี้อีกแล้ว?” แววตาของจ้าวเฟิงวาววาบ
ในตอนที่เผชิญกับเผ่าวิญญาณบรรพกาลครั้งแรก ฝ่ายศัตรูก็สำแดงกระบวนท่าประเภทนี้
เคล็ดวิชาสายเลือดประเภทนี้ของเผ่าวิญญาณบรรพกาล คือการทำให้วิญญาณแปรเปลี่ยนเป็นวิชาโจมตี พลังแข็งแกร่งเกินจะเปรียบ และโจมตีวิญญาณของอีกฝ่ายโดยตรง แต่แค่เพียงล้มเหลว ก็จะสร้างอาการบาดเจ็บให้กับตนค่อนข้างสาหัส
“สะกด!” จ้าวเฟิงควบคุมตราประทับดุจขุนภูเขาทุ่มไปยังคลื่นทะเลมืด
รอบตราประทับอบอวลไปด้วยชั้นสนามพลังแปลกประหลาด กลืนกินพลังทุกอย่างรอบด้าน รวมถึงเทพโบราณอวี้ห่ายที่แปลงเป็นคลื่นมืดทมิฬด้วย
หลังจากที่ตรารวมศูนย์สะกดเทพมีคุณสมบัติกลืนกินแล้ว ยิ่งสู้รบก็ยิ่งแข็งแกร่ง ฉุดกระชากเทพโบราณอวี้ห่ายไว้มั่น
“เนตรเทพ…แยกส่วน!” หมอกแสงมายาหมุนวนออกมาจากตาซ้ายของจ้าวเฟิง ทะลวงผ่านและวิเคราะห์คลื่นทะเลมืดทมิฬจากร่างเทพโบราณอวี้ห่ายในชั่วพริบตา
ทันใดนั้น ส่วนสุดขอบของคลื่นทะเลเย็นยะเยือกเริ่มหายไปอย่างไม่มีสาเหตุ
“เกิดอะไรขึ้น…เป็นกระบวนท่านี้อีกแล้วรึ!” สีหน้าของเทพโบราณอวี้ห่ายตกตะลึง ก่อนจะตวาดอย่างโกรธแค้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นเนตรเทพแยกส่วนของจ้าวเฟิงมาก่อน แต่จากที่จ้าวเฟิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และการแปรสภาพของดวงตาเทพเจ้า เนตรเทพเจ้าแยกส่วนจึงยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก
ครืน! ในขณะเดียวกันนี้เอง ตรารวมศูนย์สะกดเทพโจมตีบดขยี้ลงมา
“ไม่…”
ภายใต้ผลของแรงบีบอัดทั้งสอง พลังที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาทำเอาเทพโบราณอวี้ห่ายร้องอย่างน่าอนาถ
เทพโบราณอวี้ห่ายคิดอยากจะต้านทาน กลับพบว่าพลังของตนอ่อนลงเรื่อยๆ
“เป็นไปได้อย่างไร สายเลือดดวงตาของมันไยจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
เทพโบราณอวี้ห่ายจ้องตาซ้ายของจ้าวเฟิงเขม็ง เสี้ยวขณะนี้ สายเลือดในกายของเขาสั่นสะท้านรุนแรง
วูบ! เห็นเพียงคลื่นทะเลมืดทมิฬท่วมฟ้าค่อยๆ หดเล็กลงกลายเป็นธารน้ำมืดดำกลุ่มหนึ่ง
“ตาย!” จ้าวเฟิงควบคุมตราเทพบรรพกาลให้กดทับลงไปอีกครั้ง
ครืน ตูม! ภายใต้การโจมตีกัดกินของพลังเทพรวมศูนย์และการลดทอนพลังของเนตรเทพแยกส่วน ธารน้ำดำกลุ่มสุดท้ายหายวับไปโดยไร้ร่องรอยทันที
“ฮ่าๆ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพ!” จ้าวเฟิงหัวเราะเบาๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพเพียงลำพัง หลังจากจัดการเทพโบราณอวี้ห่ายเสร็จสิ้น จ้าวเฟิงก็มองไปอีกด้านหนึ่ง
ครืน ตูม บึ้ม! เทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่ร่วมมือกันปะทะกับเทพโบราณหานอวี้
“อาศัยพวกเจ้า ก็คิดจะมาต่อกรกับข้างั้นรึ?” เทพโบราณหานอวี้คำรามเสียงเย็น ฝ่ามือหนึ่งซัดไปบน ‘มุกเหมันต์ทมิฬ’ ในมือ
“เหมันต์ทมิฬล้างสังหาร!”
กระแสเกล็ดหิมะอันหนาวเหน็บทะลักออกมาจากมุกเหมันต์ทมิฬ ทุกที่ที่พาดผ่านไป สรรพสิ่งล้วนถูกแช่แข็ง แม้กระทั่งพลังเวลาในท้องฟ้าก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน
ฟุ่บ! ในเวลาเดียวกัน อสูรวิญญาณของเทพโบราณหานอวี้ก็พุ่งเข้าไปในกระแสเกล็ดหิมะกลุ่มนี้
ฉลามดำทมิฬตัวนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวเทาในทันที แล้วจึงพุ่งโจมตีเทพโบราณเฉิงอวิ๋นไปพร้อมกับกระแสเกล็ดหิมะที่น่าตกใจ
“บัดซบ หญิงผู้นี้มีอาวุธเทพระดับสุดยอด!”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นกัดฟันกรอด เขาขับเคลื่อนพลังเวลาที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง ก่อเป็นโล่เงาเลือนรางสีขาวชั้นหนึ่งขึ้นมา
บึ้ม แกรก! ในยามที่ฉลามขาวเทาพุ่งเข้ามา พื้นผิวของโล่สีขาวเลือนรางแตกทลายลงทันใด แต่ต่อมาพลังเวลาสีขาวเลือนรางก็ผ่อนการโจมตีของฉลามขาวเทาลงเล็กน้อย
ทว่าพลังเหมันต์ที่น่าสะพรึงนั้นกลับทะลุผ่านโล่ขาว ส่งผลกระทบไปยังร่างของเทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่ ทำให้ร่างและวิญญาณของพวกเขาทั้งสองพลันรู้สึกหนาวเหน็บ สั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้
“พวกเขาทั้งสองน่ากลัวว่าจะต้านไม่ไหว!”
แววตาของจ้าวเฟิงเคร่งเครียด ตาซ้ายโคจรขึ้นมาทันใด
เทพโบราณหานอวี้เดิมก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสามอยู่แล้ว
ยิ่งเมื่อรวมกับอาวุธเทพระดับสุดยอด เทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่ก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
“พวกเจ้าทั้งสองไม่ใช่คู่มือของข้า!” เทพโบราณหานอวี้หัวเราะดังลั่น แล้วปลดปล่อยพลังเหมันต์ที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นออกมาจากมุกเหมันต์ทมิฬ
โฮก~ ฉลามขาวเทาร้องคำราม พลังเหมันต์ที่หนาวเหน็บหอบม้วนไปยังฟ้าดินรอบด้าน
กรอบ! โล่แสงขาวเลือนรางที่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นปลดปล่อยออกมาสุดกำลังกลายเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แตกสลายไป
“พวกเจ้าทั้งสองตายไปพร้อมๆ กันเสียเถอะ!” เทพโบราณหานอวี้หัวเราะเสียงเย็น
ในตอนนี้เอง “ฮ่าๆ คนที่ตายคือเจ้าต่างหาก!”
เสียงหัวเราะราบเรียบดังขึ้นจากข้างหลัง
“เนตรเทพลอกแบบ เหมันต์ทมิฬล้างสังหาร!”
เนตรสีเงินมายาขนาดใหญ่ยักษ์ข้างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นข้างหลังเทพโบราณหานอวี้ กลิ่นอายสายเลือดที่น่าพรั่นพรึงของมันทำให้วิญญาณของนางสั่นสะท้านหวาดกลัว
วู้ม! หมอกแสงมายาลอยตลบออกมา ฉลามตัวมหึมาสีขาวเทาตัวหนึ่งพลันพุ่งมาจากในหมอกแสง พุ่งทะยานออกไปพร้อมด้วยกระแสเกล็ดหิมะท่วมฟ้า
ที่แท้แล้ว ในตอนที่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นต้านทานการโจมตีของเทพโบราณหานอวี้ จ้าวเฟิงก็เริ่มใช้เนตรเทพลอกแบบ
เหตุเพราะมีพลังดั้งเดิมไม่เยอะมาก จ้าวเฟิงจึงใช้เวลาไปบ้าง แต่ดีที่ทำสำเร็จแล้ว
“จ้าวเฟิง… ไม่…” เทพโบราณหานอวี้ส่งเสียงร้องตกใจระคนหวาดกลัวออกมาทันที
แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว ฉลามสีขาวเทาพุ่งตรงมา อ้าปากกว้างใหญ่อันเหี้ยมเกรียมกลืนกินเทพโบราณหานอวี้ไปทันที
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงประชิดไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกระตุ้นอาวุธเทพระดับสุดยอดอย่างชุดคลุมมิติเข้าปะทะกับการโจมตีของน้ำแข็งมหึมา จากนั้นจึงเก็บ ‘มุกเหมันต์ทมิฬ’ ไป
สำหรับเรื่องที่จ้าวเฟิงเอาของรางวัลไป เทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ในตอนที่จ้าวเฟิงสังหารเทพโบราณหานอวี้
อีกด้านหนึ่ง ซินอู๋เหินอาศัยพลังที่แข็งแกร่งโจมตีจน ‘องครักษ์เทพมรณะ’ ทำได้เพียงแค่เป็นฝ่ายตั้งรับป้องกันเท่านั้น
“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!” จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตาอัสนีเทวะสายหนึ่ง โจมตีออกไปในชั่วพริบตา
ยามนี้จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตาประเภทนี้ได้ดั่งใจปรารถนา รวดเร็วเป็นที่สุด
“เฮือก…” องครักษ์เทพมรณะร้องอย่างน่าอนาถ
เมื่อเผชิญหน้ากับซินอู๋เหิน เขาก็ยากที่จะต้านทานได้ ตอนนี้จ้าวเฟิงสอดมือเข้ามายุ่ง จึงยิ่งผีซ้ำด้ำพลอยเข้าไปใหญ่
“ตายเสีย!” ซินอู๋เหินหลอมรวมสายเลือดและพลังเทพ เพียงดัชนีเดียวก็ทำให้องครักษ์เทพมรณะวิญญาณแตกดับ
“สหายจ้าว สายเลือดดวงตาของเจ้าเหมือนจะยิ่งแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนแล้ว!”
ซินอู๋เหินยิ้มน้อยๆ จากนั้นจึงประเมินดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง
“สายเลือดดวงตาของเจ้าเกรงว่าจะไม่ธรรมดา!”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเอ่ยอย่างจริงจัง
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะกลิ่นอายแข็งแกร่งที่ยึดครองฟ้าดินของเผ่าบรรพกาล กลิ่นอายสายเลือดอื่นๆ จึงถูกกลบ เมื่อรวมกับเผ่าแสงและเผ่าเทพยักษ์ที่นี่ ทุกคนจึงไม่ได้สังเกตถึงจุดนี้
ตอนนี้พลังสายเลือดของอวี่เหิงค่อยๆ สลายไป เผ่าแสงต่อสู้มานานก็อ่อนแอเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน กลิ่นอายสายเลือดอ่อนจางลงไป
กลิ่นอายสายเลือดที่แข็งแกร่งของดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงจึงปรากฏออกมา
“กลิ่นอายสายเลือดใกล้เคียงกับสิบอันดับแรกของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!”
หลังจากที่รับรู้อย่างละเอียดแล้ว เทพโบราณเฉิงอวิ๋นแอบใจสั่นสะท้าน
ครืน ตูม ตูม! อีกด้านหนึ่ง เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังมา
“ไม่…” จากนั้นก็เป็นเสียงคำรามอย่างโกรธแค้นเจ็บใจของอวี่เหิง
“ฮ่าๆ เผ่าความลับสวรรค์ เจ้าจบเห่แล้ว!” มู่กู่หัวเราะขึ้นมา
ทุกคนมองไปอย่างอดไม่ได้ อวี่เหิงที่คิดจะส่งข่าวถูกมู่กู่ขัดขวางเอาไว้ แต่ว่ามู่กู่มองไปแล้วอ่อนแออย่างยิ่ง ร่างที่ประกอบจากแสงสีขาววาววับหมองหม่นไปเล็กน้อย
เขาพยายามอย่างมากเพื่อทำลายการส่งข่าวของอวี่เฟิง จ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อยเลย แต่ทั้งหมดล้วนคุ้มค่า ตอนนี้ไม่เพียงแต่ขัดขวางอวี่เหิงได้ สถานการณ์การต่อสู้ของอีกด้านหนึ่งก็ได้รับชัยชนะทั้งหมด
เทพโบราณอวี้ห่าย เทพโบราณหานอวี้ อีกทั้งองครักษ์เทพมรณะล้วนถูกสังหารลงสิ้น
“ตายหมดแล้ว?” สายตาของอวี่เฟิงกวาดมอง สีหน้าอึ้งตะลึง
เหลือเขาเพียงคนเดียวแล้ว และพลังสายเลือดเผ่าบรรพกาลของเขาก็เหลือแค่เศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น
“เผ่าความลับสวรรค์!” แววตาของมู่กู่เหี้ยมเกรียมยิ่งนัก สะบัดฝ่ามือฟันคมมีดเวลาสายหนึ่งออกมา
ขวับ! โล่โลหะทรงกลมปรากฏขึ้นในมือของอวี่เหิง
บนโล่โลหะสีเหลืองทอง ม่านแสงสีทองที่แข็งแกร่งและหนาหนักทะลักออกมา ก่อตัวเป็นเกราะแสงดึกดำบรรพ์ทรงกลม ปกป้องเขาเอาไว้ข้างในทันที
เคร้ง บึ้ม! คมมีดเวลาสายหนึ่งฟันไปบนเกราะแสงสีเหลืองทอง หลังจากที่ฟันรอยแยกออกมาได้อย่างยากลำบากแล้วถึงจะเฉือนเข้าไปข้างในได้ แต่พลังอ่อนแอเป็นอย่างมาก จึงถูกอวี่เหิงโจมตีทำลายลงไปทันที
“อาวุธเทพระดับสุดยอด!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย ของดีในตัวของอวี่เหิงมีไม่น้อยเลย แต่ตอนนี้หยิบเอาอาวุธเทพระดับสุดยอดออกมาจะไปมีประโยชน์อะไรอีก?
ตอนนี้เหลือเพียงเขาหัวเดียวกระเทียมลีบ อีกทั้งพลังสายเลือดเผ่าบรรพกาลก็แทบจะหายไปแล้ว
ฟุ่บ~ คนทั้งกลุ่มเข้าไปใกล้อวี่เหิง
“เผ่าความลับสวรรค์ ครั้งนี้เจ้าแพ้แล้ว!” เทพโบราณเฉิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ทุกคนมายังเบื้องหน้าอวี่เหิง สายตาเย็นชา บ้างก็มีจิตสังหารน่าหวาดหวั่น
“บัดซบ เผ่าความลับสวรรค์ไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”
ใบหน้าของอวี่เหิงเผยแววเหี้ยมโหด สายตากวาดมองกลุ่มคนเบื้องหน้า
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาที่เป็นเผ่าความลับสวรรค์ ทั้งยังมีพลังเผ่าบรรพกาล จะพ่ายแพ้ในเงื้อมมือคนกลุ่มนี้