Skip to content

King of Gods 1428

King Of Gods

บทที่ 1428 ทำลายคำสาป

ด้วยอิทธิพลจากพลังของแดนศักดิ์สิทธิ์ เผ่าทั้งสองจึงหยุดการสู้รบกัน และตัดสินใจสงบศึก

ส่วนรายละเอียดในการสงบศึก ค่อยปรึกษาหารือรายละเอียดในวันหน้า

“จอมเทพลวี่หยวน ไม่รู้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์มีวิธีทำลาย ‘คำสาปมรณะ’ หรือไม่?”

ผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์วิญญาณเรียกจอมเทพลวี่หยวนที่กำลังจะจากไปไว้

เผ่าแม่มดโบราณเป็นเผ่าต้องห้ามลำดับที่สองในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ เหล่าหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณล้วนแต่รับรู้ถึงความน่ากลัวของเคล็ดวิชาพวกนี้อย่างลึกซึ้ง

ในตอนนี้ ผู้อาวุโสที่สองตกอยู่ภายใต้คำสาปมรณะ ถึงแม้ว่าเผ่าพันธุ์วิญญาณมีวิธีกดมันเอาไว้ชั่วคราว แต่ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้โดยสิ้นเชิง พูดได้ว่าผู้อาวุโสที่สองมีชีวิตรอดไปได้ แต่ระดับพลังและพลังแท้จริงในแต่ละด้านจะค่อยๆ ถดถอยไป

“คำสาปมรณะ!” จอมเทพลวี่หยวนเพ่งสายตา ดวงตาสีมรกตจับจ้องที่ผู้อาวุโสที่สอง

ในขณะนี้เอง พลังชีวิตที่บริสุทธิ์หลั่งไหลเข้าไปในร่างผู้อาวุโสที่สอง

ผู้อาวุโสที่สองรู้สึกได้ว่าบาดแผลเล็กน้อยบนกายเทพได้รับการรักษาทันที แม้กระทั่งอาการบาดเจ็บสาหัสยังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เวลาเดียวกัน ความเร็วในการกัดกร่อนของคำสาปมรณะเชื่องช้าลงไปทันใด ทันใดนั้น จอมเทพลวี่หยวนก็หยุดโคจรเนตรชีวิต

“ช่วยอะไรไม่ได้!” จอมเทพลวี่หยวนส่ายศีรษะพลางเอ่ย

ผู้นำระดับสูงจำนวนมากของเผ่าพันธุ์วิญญาณหมดหวังกันเล็กน้อย ถึงแม้พวกเขาจะคาดเดาแบบนี้ไว้นานแล้ว

“ถ้าหากนายท่าน ‘ผู้ครอบครองเนตรชีวิต’ ยื่นมือเข้ามาช่วย ย่อมถอนคำสาปมรณะได้แน่ บางทีราชาเทพคนอื่นก็อาจจะทำได้…”

จอมเทพลวี่หยวนเอ่ยสำทับ

“ท่านผู้ครอบครองเนตรชีวิต!”

สีหน้าสมาชิกจำนวนมากในเผ่าพันธุ์วิญญาณตื่นตะลึงเล็กน้อย ฉายแววความหวัง

ท่านผู้ครอบครองเนตรชีวิต เป็นถึงผู้มีเนตรเทพแห่งชีวิต หนึ่งในนายเหนือหัวของดินแดนเทพรกร้าง เมื่อบอกว่าเขามีวิธีกำจัดคำสาปมรณะ ทุกคนจึงเชื่อหมดใจ แต่ท่านผู้ครอบครองเนตรชีวิตจะอยู่ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตหรือไม่ พวกเขาก็สุดจะรู้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องค่าตอบแทนที่จะมากพอดึงดูดใจนายเหนือหัวผู้หนึ่งด้วย

“หึๆ!” ฝั่งผู้อาวุโสเผ่าเปลวทองหัวเราะน้อยๆ

เผ่าเปลวทองสูญเสียจอมเทพไปคนหนึ่ง ถึงแม้ผู้อาวุโสที่สองของเผ่าพันธุ์วิญญาณจะไม่ตาย แต่ก็น่าจะสูญเสียศักยภาพ และต้องทนทุกข์ทรมานจากคำสาปด้วย

สงครามระหว่างทั้งสองเผ่าจบลงด้วยชัยชนะของเผ่าพันธุ์วิญญาณ

เมื่อศึกใหญ่สิ้นสุดลง จึงเข้าสู่ช่วงพักฟื้น

ควันหลงการต่อสู้ระหว่างสองเผ่าส่งผลกระทบในวงกว้าง ความเสียหายและการตายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

อย่างแรก เผ่าพันธุ์วิญญาณจะต้องจัดการขั้วอำนาจในพื้นที่ใหม่

เมื่อเผ่าพันธุ์วิญญาณได้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของเผ่าเปลวทองมา ยังต้องดูแลขั้วอำนาจในพื้นที่นี้ และทำการจัดระเบียบใหม่

ในตอนที่เผ่าพันธุ์ทั้งสองจัดแจงทุกอย่างอยู่นั้น คนที่มีฝีมือโดดเด่น ทำผลงานได้ดีในสงคราม ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว โดยในคนเหล่านั้นมีคนจำนวนไม่น้อยเคยไร้ชื่อเสียง ก็โด่งดังขึ้นมาในสนามรบ

มีคนที่บรรลุและทะลวงผ่านขั้นเพราะโอกาสครั้งนี้ แต่คนที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะเป็นจ้าวเฟิง

เขาสังหารผู้นำระดับสูงของเผ่าเปลวทองมากมาย สังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพที่แข็งแกร่งที่สุด เอาชนะจอมเทพหั่วอวิ๋น และพลิกสถานการณ์ศึก

เกียรติยศทั้งหมดที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ล้วนเกิดขึ้นได้ยากเย็นยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวเฟิงยังได้รับเกียรติยศทั้งหมดเป็นของตนเอง บวกกับสถานการณ์ต่างๆ ของจ้าวเฟิงก่อนนี้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในคนที่ถูกจับตามองที่สุดในเขตเทพสวรรค์ และไหนจะยังมีท่าทาง รูปลักษณ์ของเขา จึงยิ่งกลายเป็นเทพบุตรในใจหญิงน้อยใหญ่ทั้งหลายของเขตเทพสวรรค์

ตอนที่เพิ่งกลับถึงเผ่าพันธุ์วิญญาณ สตรีชุดม่วงผู้มีวงหน้างดงามออกมารอต้อนรับเขา

“พี่เฟิง ท่านกลับมาแล้ว!”

จ้าวหยูเฟยยิ้มหวาน แววตาฉายความรู้สึกลึกล้ำที่มีต่ออีกฝ่าย ก่อนที่ร่างบางจะโผเข้ากอดเขา

อันที่จริงจ้าวเฟิงกลับมาถึงเผ่าพันธุ์วิญญาณนานแล้ว แต่คนทั้งสองไม่ได้พบหน้ากัน

จ้าวเฟิงใจเต้นแรงอย่างประหลาดเมื่อรู้สึกได้ถึงร่างอุ่นๆ ในอ้อมกอด ก่อนระบายยิ้มออกมา

จากนั้นคนทั้งสองจึงมายังที่พักของจ้าวเฟิง

“หยูเฟย คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะได้ครอบครองมรดกของเผ่าเทพสงครามในหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!”

จ้าวเฟิงยินดีอย่างยิ่ง

ถึงจะไม่รู้ว่ามรดกที่จ้าวหยูเฟยครอบครองเป็นอย่างไรกันแน่ แต่เวลาหลายสิบปีมานี้ จ้าวหยูเฟยทะลวงขึ้นเป็นขั้นแปดระดับสุดยอดจากเทพโบราณขั้นเจ็ด แถมยังเข้าใกล้ขั้นเก้ามาก

จากนั้น จ้าวเฟิงจึงได้รู้ว่าจ้าวหยูเฟยไม่เพียงแต่ได้ครอบครองมรดกวิชาจากเผ่าเทพสงคราม แต่ยังได้ครอบครอง ‘อาณาจักรเทพ’ แห่งหนึ่งของเผ่านั้นด้วย เมื่อฝึกฝนเคล็ดวิชา เรียนรู้เสวียนอ้าว เพิ่มพลังฝึกตน ล้วนแต่จะมากกว่าปกติเป็นสองเท่าตัว

และแน่นอนว่าการฝึกตนในอาณาจักรเทพก็เหมือนชุดคลุมมิติ ระยะเวลาในการฝึกเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากนี้ จ้าวหยูเฟยยังได้รับทรัพยากรที่ช่วยในการรับรู้และเพิ่มพลังไม่น้อย

……

หนึ่งเดือนหลังจบสงคราม ทุกอย่างในเผ่าพันธุ์วิญญาณก็กลับคืนสู่สภาพเดิม

ทางฝั่งเผ่าพันธุ์วิญญาณยังให้รางวัลและชื่นชมคนที่ทำผลงานได้ดีในสนามรบต่อหน้าคนทั้งเผ่า และผลงานของจ้าวเฟิงก็ได้รับการประกาศด้วยในตอนสุดท้ายตามที่คาดกันเอาไว้

“จ้าวเฟิง ในสงครามของสองเผ่าครั้งนี้ เจ้าสังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพไปยี่สิบ ในนั้นมีผู้อาวุโสจินจากเผ่าเปลวทองและครึ่งก้าวสู่จอมเทพที่แข็งแกร่งหลายคนด้วย ทั้งยังเอาชนะจอมเทพหั่วอวิ๋นได้โดยลำพังในตอนที่เข้าร่วมรบกับจอมเทพหั่วอวิ๋น ท้ายที่สุดตอนไล่ล่าสังหาร ยังผลงานโดดเด่น เข้าขวางจอมเทพหั่วอวิ๋นจนอีกฝ่ายตายลงไป…”

หลังจากผู้อาวุโสที่สองประกาศจบ เขาก็ตื่นตะลึงในใจน้อยๆ

อันที่จริง จ้าวเฟิงยังสังหารเทพโบราณขั้นเก้า ขั้นแปดสุดยอด แล้วยังทำลายจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้วย แต่เพราะผลงานมากจนเกินไป จึงพูดได้แต่ใจความสำคัญ

สมาชิกจำนวนมากรอบบริเวณจ้องจ้าวเฟิงด้วยแววตาเคารพนับถือ เจือความริษยาอยู่ด้วย เพราะรางวัลของจ้าวเฟิงทำให้เขาเลื่อนขึ้นเป็นผู้อาวุโส ทั้งยังได้โอกาสและสิทธิต่างๆ รวมทั้งทรัพยากรล้ำค่าและของบรรณาการจำนนมาก

ตั้งแต่เริ่มแรก จ้าวเฟิงไม่ใส่ใจของบรรณาการและรางวัลมากนัก

แต่เมื่อสู้รบแล้ว ของบรรณาการและสินสงครามที่จ้าวเฟิงเก็บสะสม กลับทำให้เขาต้องกลับเห็นความสำคัญ

สังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพสิบสองคน อาวุธชั้นยอดที่จ้าวเฟิงได้ครอบครองมีจำนวนกว่าสิบชิ้น อาวุธระดับสูงมีจำนวนมากมาย และยังมีทรัพยากรโอสถวิญญาณวิเศษ สมบัติแปลกประหลาดจำนวนมาก กองอยู่เต็มมิติเก็บของของจ้าวเฟิง ดีที่จ้าวเฟิงมีกลุ่มมังกรทมิฬล้างโลกาและกลุ่มในห้วงฝันบรรพกาล จึงจัดการทรัพยากรที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดไป

หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว จ้าวเฟิงจึงเริ่มปิดด่านฝึกตน

ในศึกครั้งนี้ จ้าวเฟิงทำทุกอย่างสุดความสามารถ ปะทะกับจอมเทพโดยลำพัง ได้รับรางวัลมาเป็นจำนวนมาก

เมื่อกินทรัพยากรฝึกหลายชิ้นลงไปแล้ว จ้าวเฟิงอยู่ในสภาวะฝึกฝน ด้วยเพราะใช้กฎเกณฑ์เวลาไปหลายครั้ง ความเข้าใจในเรื่องเวลาจึงลึกซึ้งมากขึ้น จนเสวียนอ้าวแตะขั้นแปดทันที

เสวียนอ้าวที่เหลือเพิ่มขึ้นไม่น้อย มีเพียงเสวียนอ้าวมิติเท่านั้นที่ยังหยุดอยู่ที่ขั้นแปดสุดยอด

“ดูแล้วจะทำให้เสวียนอ้าวไปถึงขั้นเก้าอย่างสมบูรณ์ก็ไม่ง่ายเลย!”

จ้าวเฟิงก็ไม่ได้รีบร้อนพัฒนามากนัก ถึงจะบอกว่าไม่ง่าย แต่ก็ใกล้ไปแตะเสวียนอ้าวมิติขั้นเก้ามากแล้ว ทันทีที่ไปถึงขั้นเก้าแล้ว จะเรียกจ้าวเฟิงได้ว่า ‘ครึ่งก้าวสู่จอมเทพ’

ในขณะเดียวกับที่ฝึกฝนเสวียนอ้าว จ้าวเฟิงยังทำความเข้าใจในเคล็ดวิชารวมศูนย์ เพื่อศึกษาวิชาดวงตาที่สมบูรณ์ให้มากขึ้น

“หืม? พลังดั้งเดิมของข้าเหมือนจะบริสุทธิ์มากขึ้นแล้ว!”

จ้าวเฟิงรู้สึกว่าพลังดั้งเดิมในดวงตาเทพเจ้าของเขาบริสุทธิ์กว่าที่ผ่านมามาก

ห้วงความคิดดำดิ่งเข้าไปมิติเนตรเทพเจ้า นัยน์ตาสีเงินมายาจึงค่อยๆ หมุนวน แต่จ้าวเฟิงกลับพบข้อสงสัยหนึ่ง เขาจำได้ว่าลวดลายเนตรบนลูกแสงสีเงินมายา แต่เดิมก็เปล่งแสงสว่างเท่านั้น แต่ในยามนี้ ลวดลายนั้นกลับเหมือนกับที่อื่นๆ ถูกย้อมด้วยสีมายา และเปล่งแสงเจิดจ้าผิดปกติ

สีมายาแทบจะอาบทั่วลวดลายเนตร เหลือเพียงเส้นเล็กๆ สุดท้ายเท่านั้นที่ยังเป็นสีเดิม

“นี่มันแสดงให้เห็นอะไรกันแน่?” ในใจจ้าวเฟิงค่อนข้างสงสัยและรอคอย

ความสามารถของดวงตาเทพเจ้า เรียกได้ว่าต่อต้านลิตสวรรค์ยิ่งนัก โดยเฉพาะการใช้พลังดั้งเดิม คิดไม่ถึงว่าจะสามารถ ‘แปรฝันให้เป็นจริง’ ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

“ข้าต้องศึกษาวิธีการใช้พลังดั้งเดิมของดวงตาเทพเจ้าด้วย!”

ทันใดนั้น จ้าวเฟิงจึงนึกถึงหนูทดลองที่ดีเยี่ยมได้

ในวันนี้ จ้าวเฟิงจึงไปหาผู้อาวุโสที่สอง

“ไม่รู้ว่าสถานการณ์คำสาปมรณะในร่างผู้อาวุโสที่สองเป็นอย่างไรบ้าง?”

จ้าวเฟิงถามด้วยความห่วงใย

“เฮ้อ ถึงแม้จะกดเอาไว้แล้ว แต่จนสุดท้ายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้!”

ผู้อาวุโสที่สองเอ่ยพลางทอดถอนใจ เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องนี้กับจ้าวเฟิง

“ใช่แล้ว ผ่านไปช่วงหนึ่ง ‘ลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพ’ ของดินแดนเทพรกร้างจะจัดงานประมูลครั้งใหญ่ขึ้น ถ้าหากเจ้าสนใจละก็ ถึงตอนนั้นจะไปดูก็ได้!” เหมือนว่าผู้อาวุโสที่สองจะนึกอะไรออก จึงเอ่ยออกมาในทันที

ลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพ?

จ้าวเฟิงเพิ่งเคยได้ยินงานนี้เป็นครั้งแรก แต่เขาก็ไม่ได้ถามมากนัก ที่เขามาหาอีกฝ่ายเป็นเพราะมีเรื่องอื่น

“ผู้อาวุโสที่สอง ให้ข้าดูคำสาปมรณะในร่างท่านได้หรือไม่?”

จ้าวเฟิงเปลี่ยนเรื่อง เป้าหมายของเขาก็คือใช้คำสาปมรณะเพื่อทดสอบ และเขาเองก็สามารถใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจในคำสาปมรณะ!

“เจ้ามีวิธีจัดการคำสาปมรณะ?”

สีหน้าผู้อาวุโสที่สองตื่นตะลึง ดวงตาจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง

เมื่อจ้าวเฟิงเอ่ยถึงสิ่งนี้อย่างไร้ที่มาที่ไป เขาย่อมนึกได้แค่สิ่งนี้ แต่เมื่อครุ่นคิด เขาย่อมรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้

“สารภาพตามตรง ที่ผ่านมาผู้เยาว์เองก็เคยประสบกับคำสาปนี้เช่นกัน ต่อมาเปลี่ยนร่างถือกำเนิดใหม่ ถึงหลุดพ้นจากคำสาปมาได้ ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ผู้เยาว์เองก็เข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน!”

จ้าวเฟิงหัวเราะน้อยๆ

ผู้อาวุโสที่สองได้ยินว่าจ้าวเฟิงเคยโดนคำสาปมรณะมาก่อน สีหน้าฉายแววตื่นเต้น แล้วจึงนิ่งสงบลง เปลี่ยนร่างถือกำเนิดใหม่ไม่ถือว่าเป็นวิธีการที่ดี ผู้อาวุโสจึงเลือกจะไม่ใช้มัน

“ดี งั้นให้เจ้าลองดูก่อนแล้วกัน!” ผู้อาวุโสที่สองตอบตกลง

จ้าวเฟิงเคยตกอยู่ในคำสาปมรณะ จึงมีความเข้าใจอย่างยิ่ง ทำให้ผู้อาวุโสที่สองมีความหวัง

ผู้อาวุโสที่สองทรุดตัวนั่งลงภายในห้องลับ

จ้าวเฟิงโคจรดวงตาซ้าย มองทะลุผ่านกายเทพส่วนหนึ่งของผู้อาวุโสที่สองได้ทั้งหมด

‘สายเลือดดวงตาของเจ้าเด็กนี่มีประวัติความเป็นมาอย่างไร?’

ผู้อาวุโสที่สองรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่เลือนรางในดวงตาซ้ายจ้าวเฟิง เขาจึงฉุกคิดขึ้นได้

ส่วนจ้าวเฟิงเอาแต่จดจ่อและสังเกตคำสาปมรณะในร่างผู้อาวุโสที่สอง เห็นแต่ระลอกแสงสีดำที่เล็กจนสังเกตไม่เจอกระจายไปทั่วร่าง

ในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงยังเห็นพลังที่หนาผิดปกติกำลังกดระลอกสีดำเอาไว้ เพื่อกั้นขวางการกัดกร่อนของมัน

“ไม่รู้ว่าพลังดวงตาเทพเจ้าของข้าจะมีผลต่อคำสาปมรณะหรือไม่!”

จ้าวเฟิงตื่นเต้นยิ่ง

ความน่ากลัวของคำสาปมรณะ ถึงจะเป็นเผ่าพันธุ์ลำดับแรกในหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณยังต้องหวาดระแวง วิธีแก้ไขคำสาปนี้ก็ยุ่งยากมากนัก

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องระลอกแสงสีดำส่วนหนึ่งในร่างผู้อาวุโสที่สอง

ระลอกเสงสีดำดังกล่าวเล็กจ้อยยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิง คนอื่นๆ ก็เกรงว่าจะมองไม่ออก

“หายไป…หายไป!” จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังดั้งเดิม ในใจมีเพียงแค่ความคิดดังกล่าวเท่านั้น

วู้ม! ในมิติดวงตาเทพเจ้า การเต้นกระตุกของกลุ่มแสงมายาสีเงินและหมอกแสงมายาทะลักเข้าไปในอากาศ ทันใดนั้นเอง ในตำแหน่งที่จ้าวเฟิงจดจ้อง ก็ปรากฏระลอกแสงมายาสีรุ้งขึ้นปกคลุมแสงสีดำที่เลือนรางเอาไว้

วินาทีต่อมา ระลอกแสงดำดังกล่าวจึงสลายไป

แสงสีดำก็หายไปมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พลังดั้งเดิมในดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงก็ลดลงไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ระลอกแสงสีดำที่หายไปจากร่างผู้อาวุโสที่สองน้อยนิดจนไม่มีความสำคัญใด แต่ในฐานะจอมเทพ ผู้อาวุโสที่สองย่อมรับรู้การเปลี่ยนแปลงทุกอณูของร่างกาย

ในตอนที่เขารู้สึกได้ว่าส่วนเล็กๆ ในร่างเบาสบาย มีกระแสชีวิตมากขึ้น ดวงตาผู้อาวุโสที่สองก็สว่างวาบขึ้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version