บทที่ 1430 การประมูลเริ่มต้นขึ้น
ค่าเข้าลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพก็คือผลึกเทพระดับสูงหมื่นชิ้น เท่ากับว่าเทพโบราณขั้นเจ็ดทั่วไปใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ยังเข้าไปไม่ได้
แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งของล้ำค่าแต่ละประเภทที่ออกวางประมูลที่นี่ มักจะมีมูลค่าเทียบเท่าได้กับผลึกเทพระดับสูงเป็นแสนชิ้น ต่อให้เป็นเทพโบราณทั่วไปเข้าไปที่นี่ก็ได้แต่มองเท่านั้น
หลังจากคนในเผ่าพันธุ์วิญญาณจ่ายผลึกเทพระดับสูง ก็เข้าไปในประตูหินสีเทาอ่อนที่กะพริบวูบวาบ จนมาถึงอาณาจักรเทพที่เป็นเอกเทศแห่งหนึ่ง
สายน้ำและขุนเขา สภาพแวดล้อมที่สวยงาม ผ่านเข้ามาในสายตา สิ่งปลูกสร้างที่งดงามประเภทต่างๆ ปรากฏอยู่ทุกที่
ถึงแม้ว่าค่าเข้าลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพจะแพงลิ่ว แต่ด้านในก็ยังคงมีคนเดินไปมา ครึกครื้นเป็นพิเศษ
ในหมู่คนพวกนี้ มีเทพโบราณขั้นเก้าเป็นส่วนมาก เทพโบราณขั้นแปดมีน้อยนิด ส่วนเทพโบราณขั้นเจ็ดแทบไม่มี
“ครั้งนี้คนในลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพเหมือนจะมากกว่าที่ผ่านมา!”
ผู้อาวุโสสองเอ่ยพลางทอดถอนใจ
เขาเคยเดินทางมาที่นี่หลายครั้ง จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับบรรยากาศนี้
“จอมเทพเผ่าพันธุ์วิญญาณ!”
การมาถึงของกลุ่มเผ่าพันธุ์วิญญาณทำให้คนแถวนั้นตื่นตะลึง
“ได้ยินว่าเผ่าเปลวทองและเผ่าพันธุ์วิญญาณในเขตเทพสวรรค์เปิดศึกใหญ่ สุดท้ายได้ชัยชนะมา อีกไม่นานเท่าไหร่ เผ่าพันธุ์วิญญาณน่าจะกลายเป็นขั้วอำนาจห้าดาวลำดับหนึ่งของเขตเทพสวรรค์แล้ว!”
“ถูกต้อง ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสสองของเผ่าพันธุ์วิญญาณต้องคำสาปมรณะ คาดว่าครั้งนี้มาที่นี่ คงคิดจะหาวิธีแก้ไขแน่…”
“ได้ยินมาหรือยัง? ที่เผ่าพันธุ์วิญญาณได้รับชัยชนะ เป็นเพราะว่าคนรุ่นเยาว์ระดับเทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดชื่อจ้าวเฟิง เข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ ทำร้ายจอมเทพจนบาดเจ็บสาหัส!”
“เจ้าล้อเล่นแล้วกระมัง เทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดยังตั้งรับกระบวนท่าเดียวของจอมเทพไม่ไหวเลย…”
ในช่วงนี้ สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์วิญญาณและเผ่าเปลวทองไม่เพียงแต่กลายเป็นหัวข้อพูดคุยของเขตเทพสวรรค์ แต่เขตแดนแถวนี้ต่างรับรู้เรื่องนี้กันบ้าง
คนจำนวนไม่น้อยจ้องจ้าวเฟิงและจ้าวหยูเฟย
“งานประมูลที่นี่จะจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ก่อนนั้นพวกเจ้าเดินเล่นกันก่อนได้!”
ผู้อาวุโสที่สองเอ่ยกับคนเผ่าพันธุ์วิญญาณ
เมื่อกำชับเสร็จสิ้นแล้วจึงเดินทางจากไป จากนั้น คนจากเผ่าพันธุ์วิญญาณจึงต่างคนต่างไปทำธุระของตนเอง
เมี้ยว เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยตัวน้อยกระโจนออกจากมิติเก็บของ มันกระโดดโลดเต้น เป็นสัญญาณว่าที่นี่มีสมบัติจำนวนมาก
“หยูเฟย เจ้าได้รับมรดกเผ่าเทพสงครามมา และยังเป็นศิษย์หลักลำดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์วิญญาณ คงจะไม่ขาดอะไรกระมัง?”
จ้าวเฟิงเปิดปากถาม
“ตอนนี้ไม่ขาดอะไร แต่ข้าสนใจที่นี่ บางทีอาจเจอของที่ข้าอยากได้หรือชอบก็เป็นได้!”
จ้าวหยูเฟยยิ้มเอ่ย เมื่อเอ่ยจบก็จับมือจ้าวเฟิงทันที
“พวกเราไปดูที่ลานประมูลกันก่อนเถอะ!” จ้าวเฟิงเอ่ย
อันที่จริง งานซื้อขายแลกเปลี่ยนของอาณาจักรเทพเปิดอยู่ตลอด แทบสามารถหาของที่ต้องการได้ทุกอย่าง รวมไปถึงมรดกวิชา สมบัติล้ำค่า และยานพาหนะสัตว์วิเศษเป็นต้น แต่ปกติน้อยครั้งนักที่จะมีคนที่มีกำลังซื้อมากมาที่นี่
ทุกครั้งที่เปิดงานประมูลถึงจะครึกครื้นขนาดนี้
แต่จ้าวเฟิงครอบครองสมบัติ อาวุธเทพ และทรัพยากรจำนวนไม่น้อย จะได้ประมูลขายที่งานนี้พอดี
งานประมูลที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาณาจักรเทพ จัดขึ้นที่ตำหนักสีทองม่วงหรูหรา ตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า
เมื่อเข้าไปภายใน จ้าวเฟิงจึงเอาทรัพยากรและอาวุธเทพระดับสุดยอดที่เป็นส่วนเกินของตนเองออกมาส่งมอบ
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ท่านสามารถนั่งในตำแหน่งแขกพิเศษในงานประมูลครั้งนี้ตามสิ่งของที่ส่งมอบให้ทางเรา!” สตรีวงหน้างดงามนางหนึ่งอมยิ้มเอ่ย
ที่นั่งของแขกพิเศษเป็นห้องส่วนตัว คนด้านนอกไม่สามารถมองเห็นภายในได้
จ้าวเฟิงตื่นตกใจเล็กน้อย ถึงสิ่งของที่ตนเอาออกมาวางขายจะไม่ถือว่ามีมูลค่ามากมาย แต่มีจำนวนมาก ดังนั้นจึงทำให้เขาถูกปรนนิบัติอย่างแขกพิเศษ
ตอนที่จ้าวเฟิงและจ้าวหยูเฟยเพิ่งออกจากงานประมูล
ทางเข้าอีกแห่งหนึ่งก็ปรากฏร่างคนสองร่างเดินมา
“นายท่าน ทำไมพวกเราต้องประมูลขายสิ่งของที่ล้ำค่าขนาดนี้ด้วย” ชายที่ดวงตาขมุกขมัวราวภูติผี เรือนร่างเหยียดตรง เอ่ยถามเสียงต่ำ
ของที่พวกเขาเอาออกมาเมื่อครู่ ล้วนแต่เป็นผลผลิตจากการค้นคว้าของขั้วอำนาจคล้ายหอมารสวรรค์
“เหอะ สิ่งของไร้ค่าพวกนี้จะเก็บเอาไว้ทำอะไร?” ผู้อาวุโสผมสีดอกเลาแค่นเสียงเย็น
“นั่นมัน…จ้าวเฟิง!” ชายนัยน์ตาขมุกขมัวผู้นั้นอึ้งงัน ก่อนจะอุทานออกมา
“เทพโบราณโยวเฉวียน (วารีทมิฬ)…” สีหน้าจ้าวเฟิงตกใจเล็กน้อย
คิดไม่ถึงว่าในงานประมูลครั้งนี้ จะได้มาเจอกับเทพโบราณโยวเฉวียนแห่งหอมารสวรรค์ ส่วนด้านข้างเทพโบราณโยวเฉวียน ก็คือจอมเทพเทียนจี้ที่นำหอมารสวรรค์จากไปในคราวก่อน
ในตอนนั้น เขาจดจำจอมเทพเทียนจี้ได้แม่นยำยิ่งนัก แต่คราวนี้จ้าวเฟิงพบว่าตนเองยังมองจอมเทพเทียนจี้ไม่ออกอยู่ดี
ฟุ่บ! ร่างเจ้าแมวขโมยสว่างวาบเข้าไปมิติเก็บของทันที
แววตาจอมเทพเทียนจี้เป็นประกาย แล้วจึงมองยังจ้าวเฟิง เผยจิตสังหารเล็กน้อยตอนแรกจ้าวเฟิงพาเจ้าแมวขโมยตัวน้อยหนีไปใต้จมูกเขา เรื่องนี้ทำให้เขาโมโหอย่างยิ่ง
“นายท่าน ที่นี่คือลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพ!”
เทพโบราณโยวเฉวียนลอบส่งกระแสจิตให้
ภายในลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพไม่อนุญาตให้ต่อสู้กัน ฝ่ายที่จัดงานไม่ด้อยกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป หนำซ้ำพวกเขาและแดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากสนิทสนมกัน มีอำนาจอิทธิพลมาก ต่อให้เป็นจอมเทพ แต่หากลงมือทำร้ายคนอื่นที่นี่ ก็ต้องได้รับบทลงโทษอย่างหนัก
“ผู้เยาว์ ถ้าหากเจ้ายอมส่งเจ้าแมวมา ในภายหน้าพวกเราจะไม่สร้างปัญหาเจ้าอีก!”
จอมเทพเทียนจี้พูดเนิบช้า
“เจ้าหมายถึงเจ้าแมวความลับสวรรค์?” จ้าวเฟิงหัวเราะน้อยๆ ก่อนเอ่ยขัด
“ในเมื่อเจ้าเองก็รู้ เจ้าบอกมาเลยดีกว่าเจ้าต้องการอะไร ถึงจะยอมมอบเจ้าแมวขโมยให้ข้า!” แววตาจอมเทพเทียนจี้เคร่งเครียด กดเสียงต่ำลงทันที
ถึงแม้แมวความลับสวรรค์จะเป็นความลับสุดยอดของเผ่าความลับสวรรค์ แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีใครรู้
ในลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพแห่งนี้มียอดฝีมือมากมายซ่อนตัวอยู่ หากปล่อยให้จอมเทพคนอื่นรู้เรื่องของแมวความลับสวรรค์เข้า เกรงว่าจะทำให้ยุ่งยากมากขึ้น
และเขายังเชื่อมั่นด้วยว่า ขอแค่ตนเองจ่ายราคาที่ทำให้จ้าวเฟิงหวั่นไหว จ้าวเฟิงจะต้องยอมมอบ ‘เผือกร้อน’ อย่างเจ้าแมวความลับสวรรค์ตัวนี้มาให้
“ผลึกเทพระดับสุดยอดร้อยล้านชิ้น!” จ้าวเฟิงหัวเราะลั่น
เทพโบราณโยวเฉวียนและจอมเทพเทียนจี้พลันอึ้งอยู่กับที่
“ได้ จ้าวเฟิง เจ้าจะต้องเสียใจภายหลัง!”
จอมเทพเทียนจี้พาเทพโบราณโยวเฉวียนจากไปทันทีด้วยสีหน้าเย็นชา
ในดินแดนเทพรกร้าง ความล้ำค่าของผลึกเทพระดับสุดยอดมากกว่าอาวุธเทพระดับสุดยอดมากนัก ถึงขั้นจอมเทพทั่วไปยังมีเพียงผลึกเทพระดับสุดยอดที่แตกหักจำนวนน้อย
ผลึกเทพระดับสุดยอดที่สมบูรณ์ ถึงจะเป็นผลึกเทพระดับสูงล้านชิ้นก็ยังยากจะแลกมาได้
ส่วนผลึกเทพระดับสุดยอดร้อยล้านชิ้น เกรงว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ร่ำรวยที่สุดของดินแดนเทพรกร้างก็ยังไม่มี แต่จ้าวเฟิงเสนอราคาที่สูงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะขาย
“ส่งคนไปจับตามองจ้าวเฟิงอย่างใกล้ชิด ทันทีที่มันออกจากเผ่าพันธุ์วิญญาณ ให้รีบแจ้งข้าทันที!”
จอมเทพเทียนจี้ส่งกระแสจิตบอกเทพโบราณโยวเฉวียน
อันที่จริง ตอนที่จ้าวเฟิงกลับไปเขตเทพสวรรค์คราวก่อน จอมเทพเทียนจี้ก็คอยติดตามร่องรอยของจ้าวเฟิง แต่การรบระหว่างเผ่าเปลวทองและเผ่าพันธุ์วิญญาณถูกจับตามองจากเบื้องบนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต เขาย่อมไม่สามารถลงมือได้
“ขอรับ!” แววตาเทพโบราณโยวเฉวียนเปล่งประกายแสงหม่น
คาดไม่ถึงว่าเวลาหลายสิบปีสั้นๆ นี้ พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงจะเหนือกว่าเขามาก
แต่จ้าวเฟิงไปยั่วโทสะหอมารสวรรค์และทำผิดต่อขั้วอำนาจเบื้องหลัง เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่!
……
“พี่เฟิง? สองคนเมื่อครู่นี้คือใครกัน?”
จ้าวหยูเฟยถามอย่างห่วงใย
จอมเทพผู้นั้นลึกล้ำเกินคาดเดาอย่างเห็นได้ชัด คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงจะไปยั่วโทสะบุคคลที่น่ากลัวขนาดนี้เข้า ทำให้จ้าวหยูเฟยหวาดกลัวไม่น้อย
“พวกเขาอยากจะชิงเจ้าแมวขโมยน้อยไป…”
จ้าวเฟิงเองก็ไม่รู้สถานะของอีกฝ่ายแน่ชัด จึงทำได้เพียงพูดแต่จุดสำคัญ
จ้าวหยูเฟยย่อมรู้จักแมวขโมยตัวน้อย และนางยังได้รู้สถานะที่แท้จริงของมันว่าเป็นแมวความลับสวรรค์จากบทสนทนาเมื่อครู่ และมันคงล้ำค่ามากเสียจนจอมเทพให้ความสำคัญขนาดนี้
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยน้อยกระโจนออกมาทันที ตบอกตนเองอย่างภาคภูมิใจว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า
ต่อมา คนทั้งสองเดินเล่นอยู่ในลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพ จ้าวเฟิงซื้อทรัพยากรฝึกเสวียนอ้าวไปจำนวนไม่น้อย
นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังไปที่ ‘พื้นที่หาสมบัติ’ ด้วย
สิ่งของที่นี่หลากหลายอย่างยิ่ง ค่อนข้างวุ่นวาย มีคนที่คอยจะฉวยโอกาสจำนวนมากแต่ด้วยดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงและความสามารถของแมวขโมยน้อย พวกเขาจึงได้ของล้ำค่ามาหลายชิ้น
สามวันต่อมา งานประมูลจึงเริ่มขึ้น
ชายหนุ่มผมเงินใบหน้าหล่อเหลาผู้หนึ่งเดินเข้ามาภายในงานประมูลพร้อมกับโฉมสะคราญผิวขาวนวล ย่อมตกเป็นเป้าสายตาของคนจำนวนมากรอบข้าง
คนทั้งสองนี้ก็คือจ้าวเฟิงและจ้าวหยูเฟย
ทั้งสองเดินตรงเข้าไปยังพื้นที่ของแขกพิเศษ หลบจากสายตาของผู้คน
รอประมาณครึ่งชั่วยาม งานประมูลก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ทั้งงานประมูลตกอยู่ในความมืด มีเพียงลานประมูลทรงกลมตรงกลางที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้า
ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในความมืด จ้าวเฟิงกลับรู้สึกได้ว่าลานประมูลขนาดใหญ่แห่งนี้มีกลิ่นอายจอมเทพอยู่ หรือกระทั่งกลิ่นอายที่เทียบเท่าได้กับผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์วิญญาณที่เวทีประมูล มีผู้อาวุโสชุดขาวขั้นครึ่งก้าวสู่จอมเทพผู้หนึ่ง ข้างกายคือหญิงวงหน้างามที่เป็นเทพโบราณขั้นเก้า
“งานประมูลของอาณาจักรเทพเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ…”
ผู้อาวุโสชุดขาวระบายยิ้มเล็กน้อย เอ่ยเสียงดังก้องออกมา
เทพโบราณโฉมงามขั้นเก้าข้างกายเขาหยิบกล่องหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากมิติเก็บของ แล้วเปิดมันออกในทันที ภายในมีผลไม้ผลึกโปร่งแสงสีเขียวมรกตลูกหนึ่ง สาดซัดระลอกพลังเทพที่หนาแน่นออกมา
“ผลไม้วิญญาณ แฝงด้วยพลังเทพที่บริสุทธิ์ ช่วยเพิ่มพลังฝึกตนของเทพโบราณได้เป็นอย่างดี ส่งผลดีอย่างยิ่งต่อจอมเทพที่อยู่ต่ำกว่าขั้นเก้าสุดยอด และพลังเทพที่เกิดขึ้นก็บริสุทธิ์มาก จะทำให้รากฐานมั่นคงด้วยเช่นกัน!”
ผู้อาวุโสชุดขาวเอ่ยแนะนำแบบคร่าวๆ
ระดับขั้นของผลไม้วิญญาณสูงค่าอย่างยิ่ง บวกกับตัวของมันเป็นทรัพยากรประเภทฝึกตน ดังนั้นจึงเป็นที่ต้องการ
ดวงตาเทพโบราณขั้นเก้าเปล่งประกายวิบวับ
แต่จอมเทพจำนวนไม่น้อยสนใจทรัพยากรชิ้นนี้เช่นกัน บางทีคนรุ่นหลังของพวกเขาหรือไม่ก็ศิษย์ อาจต้องการทรัพยากรชิ้นนี้พอดี
“ผลไม้วิญญาณ เริ่มที่ผลึกเทพแสนชิ้น เพิ่มราคาทุกครั้งต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่น”
ผู้อาวุโสชุดขาวหัวเราะน้อยๆ
ทันทีที่เอ่ยจบ คนก็เริ่มเสนอราคากันทันที
“ข้าให้แสนสามหมื่น!”
“แสนห้า!”
“แสนแปด!”
ไม่นานนัก ราคาของผลไม้วิญญาณก็ไปแตะที่สามแสน
ผลไม้ที่ช่วยเทพโบราณได้ จึงถูกปั่นราคาไปจนแตะผลึกเทพระดับสูงสามแสนชิ้นแต่มูลค่าที่แท้จริงของมันก็น่าจะประมาณสองแสนสามหมื่นผลึกเทพระดับสูงเท่านั้น
“ข้าให้ราคาสามแสนหนึ่งหมื่น!” ตอนนี้เอง เสียงหนักแน่นราบเรียบก็ดังขึ้น
แววตาของคนรอบๆ ต่างพากันจับจ้อง และน้ำเสียงนี้ก็ทำให้จ้าวเฟิงตื่นตะลึงน้อยๆ เช่นกัน
แววตามองทะลุผ่านไปในความมืด กวาดผ่านต้นเสียง จึงเห็นบุรุษหนุ่มท่าทางธรรมดาแต่กับมีรัศมีที่ไม่ธรรมดา
คนผู้นี้ก็คือซินอู๋เหิน
“คิดไม่ถึงว่าซินอู๋เหินก็จะมาที่นี่ด้วย!” จ้าวเฟิงตกตะลึง
ตามหลักการแล้ว พื้นที่จัดงานอาณาจักรเทพอยู่แค่ที่เขตเนินสุริยาในแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ แต่ไม่ได้รวมเขตดาราชาดด้วย
เป็นไปได้มากว่าสิ่งของต่างๆ ในงานประมูลอาณาจักรเทพครั้งนี้จะดึงดูดซินอู๋เหิน เขาถึงมาที่นี่ได้
“นั่นใช่ซินอู๋เหินหรือปล่า?” ดวงตาจ้าวหยูเฟยเปล่งประกายน้อยๆ
จ้าวหยูเฟยไม่ได้เจอซินอู๋เหินมาเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงลังเลเล็กน้อย
“ถูกต้อง!” จ้าวเฟิงผงกศีรษะ
ย้อนระลึกถึงตอนแรก พวกเขาสามคนล้วนแต่มาจากเมืองประกายอรุณ ไม่นึกเลยว่าพวกเขาสามคนจะมารวมตัวอีกครั้งในงานประมูลอาณาจักรเทพ ณ ดินแดนเทพรกร้าง
“เขาเป็นจอมเทพแล้ว!” จ้าวหยูเฟยค่อนข้างตกใจ
ไม่ผิด ซินอู๋เหินในตอนนี้ทะลวงขั้นจอมเทพแล้ว และเป็นบุคคลสำคัญลำดับแรกๆ ที่ตกเป็นเป้าสายตาของผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณจำนวนมากในงานประมูล