บทที่ 1431 ร่ำรวยอยู่เงียบๆ
เมื่อจอมเทพออกหน้า เทพโบราณที่ประมูลราคากันก่อนนี้ต่างวางมือ
จอมเทพทุกคนในดินแดนเทพรกร้างไม่ธรรมดาทั้งสิ้น แล้วซินอู๋เหินที่ดูไปแล้วอายุน้อยนัก ดูไปแล้วมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรรมดาด้วย
อีกอย่าง ราคานี้สูงกว่าราคาจริงของผลไม้วิญญาณมากนัก
นอกจากนั้นงานประมูลเพิ่งจะเริ่มขึ้น ต่อไปใช่ว่าจะไม่มีสิ่งของสรรพคุณแบบเดียวกัน
แต่ทันใดนั้น เสียงสัพยอกที่แหบแห้งก็ดังขึ้น “สามแสนสองหมื่น!”
คนรอบบริเวณทอดสายตามองอย่างอดไม่ได้ บุคคลลึกลับที่เปิดราคาประมูลสามแสนสองหมื่นอยู่ในหมอกหนาสีดำ เห็นได้เลือนรางเท่านั้น แต่คนที่อยู่รอบด้านทุกคนก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่เย็นเยือกน่ากลัว ทำให้ตัวสั่นเทิ้ม
ในลานแลกเปลี่ยนของอาณาจักรเทพ คนไม่น้อยเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายหรือรูปลักษณ์ได้ หรือไม่ก็ปกปิดทุกอย่างของตนเองเสีย ยกตัวอย่างเช่นคนลึกลับที่อยู่ในหมอกดำผู้นี้
ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องเพ่ง คนลึกลับที่ประมูลราคา เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่ไม่เป็นมิตรกับซินอู๋เหิน
ไม่นาน เขาก็มองเห็นร่างคนในหมอกดำด้วยดวงตาซ้ายชัดเจน
“จอมเทพเสียหลิง!” จ้าวเฟิงอุทานออกมา
ที่แท้คนที่แข่งประมูลกับซินอู๋เหินก็คือจอมเทพจากตำหนักวิญญาณบรรพกาล แถมยังเป็นจอมเทพเสียหลิงที่จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินเคยร่วมมือกันเอาชนะมาก่อน
“สามแสนสามหมื่น!” สีหน้าซินอู๋เหินเคร่งเครียด ก่อนจะเพิ่มราคาประมูลต่ออีก
“สามแสนสี่หมื่น!”
“สามแสนห้าหมื่น!”
ซินอู๋เหินสีหน้าทะมึนด้วยโทสะ ไม่ยอมถอยให้ ทำท่าหมายจะเอาชนะให้ได้
“ฮ่าๆ สี่แสน!”
จอมเทพเสียหลิงหัวเราะชั่วร้าย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเพิ่มราคาประมูลให้มากขึ้น
ในสายตาเขา ซินอู๋เหินกำลังโมโห หนำซ้ำเผ่าเทพยักษ์ในตอนนี้ต้องการทรัพยากรประเภทนี้มาก จะต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ แน่
สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงก็คือ
“ในเมื่อเจ้าชอบนัก เช่นนั้นยกให้เจ้าแล้วกัน!” ซินอู๋เหินพลันสงบลง เอ่ยด้วยใบหน้าที่ระบายยิ้มน้อยๆ
“นี่…” จอมเทพเสียหลิงอึ้งไปในทันที
แต่เดิมเขาจงใจเพิ่มราคาให้สูงขึ้นเพื่อให้ซินอู๋เหินเสียเปรียบ คิดไม่ถึงว่าซินอู๋เหินจะยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ ดูท่าสีหน้าเมื่อครู่ของฝ่ายตรงข้ามคงจะเสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น
ส่วนเขากลับได้ผลไม้วิญญาณมาด้วยราคาที่สูงมากถึงขนาดนี้
“ยินดีกับแขกห้อง 405 ที่ประมูลได้ผลไม้วิญญาณไปในราคาสี่แสน!”
ผู้อาวุโสชุดขาวบนเวทีประมูลเอ่ยพลางระบายยิ้มบาง
ผลไม้วิญญาณเป็นแค่ของเปิดในงานประมูลครั้งนี้เท่านั้น มูลค่าของตัวมันเท่ากับผลึกเทพระดับสูงสองแสนกว่าชิ้น แต่ตอนนี้กลับขายออกถึงสี่แสน นับว่าเกินความคาดหมายมากแล้ว
จากนั้นสิ่งของชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม ล้วนเป็นทรัพยากรที่หายากยิ่ง ถึงมูลค่าจะไม่เท่ากับผลไม้วิญญาณ แต่ก็ยังล้ำค่ายิ่งนัก
“ของที่จะประมูลในลำดับต่อมาคือดาบเทพเพลิงเมฆา ถือได้ว่าเป็นอาวุธเทพระดับสุดยอดที่ไม่เลวนัก แฝงไปด้วยพลังเพลิงทองที่บริสุทธิ์ การโจมตีแข็งแกร่งอย่างมาก สร้างโดยเผ่าเปลวทองในลำดับที่ยี่สิบเอ็ดของหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!”
ผู้อาวุโสชุดขาวเอ่ยแนะนำ
แววตาจ้าวเฟิงเปล่งประกาย ดาบเทพเพลิงเมฆาเล่มนี้มีคุณภาพค่อนข้างสูงในบรรดาอาวุธเทพระดับสุดยอดที่เขานำออกประมูล ถึงจะบอกแบบนี้ แต่ดาบเทพเพลิงเมฆากลับอยู่ในระดับต่ำกว่ากระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ ส่วนชุดคลุมมิติในครอบครองของจ้าวเฟิงยังสูงกว่าเล็กน้อย
“บัดซบ นั่นมัน…ดาบเทพเพลิงเมฆา!”
ที่งานประมูลด้านหน้า ในแสงเพลิงที่ร้อนระอุ มีเสียงเกรี้ยวกราดของสตรีนางหนึ่งดังมา
“ฮ่าๆ จอมเทพจากเผ่าเปลวทอง!”
ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุแสงเพลิงทองเป็นชั้นๆ จนเห็นแม่เฒ่าผู้ยังมีใบหน้างดงามภายใน
เผ่าเปลวทองมีจอมเทพทั้งหมดสามคน จอมเทพหั่วอวิ๋นตายไปแล้ว เหลือเพียงหญิงชราและผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเท่านั้น
“ดาบเทพเพลิงเมฆาเป็นอาวุธเทพระดับสุดยอด เปิดราคาที่หนึ่งล้าน เสนอราคาเพิ่มไม่ต่ำกว่าครั้งละหนึ่งหมื่น!”
ผู้อาวุโสชุดขาวประกาศก้อง
“ข้าให้หนึ่งล้านสองหมื่น!”
“หนึ่งล้านสี่หมื่น!”
“หนึ่งล้านหนึ่งแสน!”
……
“หนึ่งล้านห้าแสน!”
ผู้ฝึกตนศาสตร์ทองและไฟมีมากมาย ดังนั้นถึงดาบเทพเพลิงเมฆาจะอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก ก็ยังคงเป็นที่ต้องการ ไม่นานเท่าไหร่นัก อาวุธเทพระดับสุดยอดชิ้นนี้ก็มีมูลค่าแตะหนึ่งล้านห้าแสน และยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ในตอนนี้เอง จอมเทพเผ่าเปลวทองพลันลุกขึ้น
“ทุกท่าน ยกอาวุธเทพชิ้นนี้ให้ข้าเสีย ข้าให้สองล้าน!”
หญิงเฒ่านางนี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และยังสาดซัดกลิ่นอายจอมเทพที่ร้อนระอุออกมา
สำหรับอาวุธเทพระดับสุดยอดอย่างดาบเทพเพลิงเมฆา มูลค่าของมันน่าจะมีประมาณหนึ่งล้านเจ็ดแสน แต่ราคาที่จอมเทพจากเผ่าเปลวทองให้มา เกินมูลค่าจริงของตัวอาวุธเทพไปมาก เงื่อนไขนี้จึงไม่เกินไปมากนัก บวกกับที่นางจงใจแผ่กลิ่นอายจอมเทพออกมา ก็เพื่อจะเอาอาวุธเทพของเผ่าเปลวทองมาด้วยผลึกเทพจำนวนน้อย
เมื่อผู้แข็งแกร่งขั้นจอมเทพเอ่ยเช่นนี้ คนทั่วไปย่อมต้องไว้หน้าอีกฝ่ายบ้าง
บวกกับงานประมูลเพิ่งจะเริ่มขึ้น อาวุธเทพระดับสุดยอดยังเหลืออีกมาก ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่สู้ราคาต่อ
“สองล้านหนึ่งแสน”
จ้าวเฟิงระบายยิ้มน้อยๆ กดเสียงต่ำเอ่ยเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเดาออกว่าเขาเป็นใคร
“สองล้านหนึ่งแสนห้าหมื่น!”
สายตาของหญิงเฒ่าเย็นชา
หลังจากสงคราม เผ่าเปลวทองก็สูญเสียกำลังรบระดับสูงไปมาก สำหรับเผ่าเปลวทองแล้ว ดาบเทพเพลิงเมฆาจำเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นดาบเทพเพลิงเมฆาเดิมก็สร้างโดยเผ่าเปลวทอง อีกอย่าง จอมเทพอย่างนางเอ่ยขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามยังแข่งประมูลราคากับนาง จุดนี้ทำให้นางไม่พอใจมากนัก ยิ่งไม่ยอมอ่อนข้อให้
“สองล้านสองแสน”
จ้าวเฟิงเพิ่มราคาประมูลอย่างไม่ลังเล
“พี่เฟิง ท่านนิสัยไม่ดีเลยนะ!”
นัยน์ตาคู่งามของจ้าวหยูเฟยทอประกาย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ นางย่อมรู้ว่าของชิ้นนี้คือของที่จ้าวเฟิงนำออกประมูล
“ฮ่าๆ คนที่ประมูลเป็นถึงจอมเทพจากเผ่าเปลวทอง มิฉะนั้นข้าคงไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงต่ำ ก่อนจะเพิ่มราคาประมูลขึ้นไปอีก “สองล้านสี่แสน!”
“สองล้านห้าแสน!”
หญิงเฒ่านางนั้นโกรธจนร่างสั่นเทิ้ม อยากจะเห็นนักว่าเป็นใครกันแน่ที่แย่งชิงกับนาง
ก่อนนี้นางเดาว่าคนที่ประมูลอาจต้องการอาวุธเทพชิ้นนี้จริงๆ แต่ตอนนี้นางมั่นใจได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูกับนาง จงใจเสนอราคาให้สูงขึ้น
“ข้าไม่ควรจะเปิดเผยสถานะตนเอง…”
หญิงเฒ่ามีสีหน้าครุ่นคิด ยามบอกราคานางก็ยังเปลี่ยนเสียงพูด
ครั้งนี้หลังจากที่หญิงเฒ่าเพิ่มราคาประมูล จ้าวเฟิงก็ไม่ได้เพิ่มราคาต่ออีก และหยุดเรื่องนี้ลง
การจงใจเพิ่มราคาก็มีความเสี่ยงอยู่ ถ้าหากหญิงเฒ่าเหมือนซินอู๋เหินที่จู่ๆ ก็ถอดใจไป คนที่ขาดทุนก็จะเป็นจ้าวเฟิงเอง
หญิงเฒ่าประมูลอาวุธเทพที่เดิมเป็นของเผ่าเปลวทองไปด้วยผลึกเทพระดับสูงสองล้านห้าแสนชิ้น
“อย่ารีบร้อนไป ต่อไปยังมีของอีกมาก!” จ้าวเฟิงยิ้มสดใสในในห้องรับรองแขกพิเศษ
อาวุธเทพระดับสุดยอดที่จ้าวเฟิงนำออกมาประมูล เป็นของที่ได้มาจากครึ่งก้าวสู่จอมเทพเผ่าเปลวทองแทบทั้งสิ้น
สิ่งของที่ออกประมูลต่อมามีมากมายหลายประเภท รวมไปถึงสัตว์วิเศษ เคล็ดวิชา โอสถวิเศษ เศษแผนที่เป็นต้น และยังมีราคาของจำนวนไม่น้อยที่สุดท้ายสูงกว่าดาบเทพเพลิงเมฆา
“สิ่งของที่จะนำออกประมูลในลำดับต่อมาคือหน่อไม้แสงจันทร์ หนึ่งในของล้ำค่าที่สุดสำหรับการบรรลุเสวียนอ้าวเวลา แก่นเวลาบริสุทธิ์ในสมบัติชิ้นนี้ หลังจากกินไปแล้วจะสามารถเข้าใจและบรรลุเสวียนอ้าวเวลาอย่างช้าๆ ทั้งยังเพิ่มการตระหนักรู้ในเสวียนอ้าวเวลาของผู้ที่ใช้มันอีกด้วย!”
ผู้อาวุโสชุดขาวเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ
ในห้องแขกพิเศษ สีหน้าจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย หากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็ หน่อไม้แสงจันทร์ท่อนนี้น่าจะเป็นของที่เขาฝากประมูล
ในตอนที่จ้าวเฟิงอยู่ที่ซากป้อมปราการเก่า เขาได้หน่อไม้แสงจันทร์มาหลายท่อน แต่เดิมตัวเขาก็เคยใช้หน่อไม้แสงจันทร์มาก่อน เมื่อใช้ซ้ำสองสรรพคุณจะลดลงไป ครั้งนี้จึงเอาออกมาประมูลท่อนหนึ่ง
จ้าวเฟิงอดรนทนไม่ไหว เขาอยากรู้ว่าหน่อไม้แสงจันทร์จะประมูลขายได้ที่ราคาเท่าไหร่
“หน่อไม้แสงจันทร์ มีทรัพยากรฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาที่ล้ำค่าขนาดนี้ด้วย!”
“เสวียนอ้าวเวลาของข้ากำลังติดคอขวดอยู่พอดี ถ้าหากได้หน่อไม้แสงจันทร์ท่อนนี้มา จะต้องเลื่อนขึ้นไปอีกระดับหนึ่งได้แน่!”
การปรากฏขึ้นของหน่อไม้แสงจันทร์ ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายตรงนั้นรวมไปถึงจอมเทพใจเต้นระรัว
ถึงแม้มูลค่าและคุณสมบัติของมันจะด้อยกว่าอาวุธเทพระดับสุดยอดอย่างดาบเทพเพลิงเมฆา แต่มันหายากนัก จึงทำให้มีความต้องการมาก การแข่งขันสูง
เสวียนอ้าวเวลาแทบข่มเสวียนอ้าวได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะฝึกฝนยาก แต่หลังจากระดับพลังสูงขึ้น จอมเทพหรือเทพโบราณก็จะลองฝึกฝนกันทั้งสิ้น อีกอย่าง หน่อไม้แสงจันทร์ช่วยเพิ่มการตระหนักรู้เสวียนอ้าวเวลา ต่อให้เป็นคนที่ไร้พรสวรรค์ในด้านนี้ หลังจากกินหน่อไม้แสงจันทร์ไปแล้วก็จะดีขึ้น
นอกจากนั้น ถ้าเป็นคนที่เพิ่งจะถึงขั้นเทพแท้จริง หลังจากกินหน่อไม้แสงจันทร์จะสามารถฝึกฝนในสายเวลาได้ ภายหน้าจะต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่ชำนาญกฎเกณฑ์เวลาได้แน่
“หน่อไม้แสงจันทร์ ราคาเริ่มต้นหกแสน ประมูลเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่น!”
ผู้อาวุโสชุดขาวประกาศก้อง
“หกแสนสองหมื่น!”
“ข้าให้หกแสนสามหมื่น!”
“หกแสนห้าหมื่น!”
……
ไม่นาน ราคาของหน่อไม้แสงจันทร์ก็ถูกประมูลไปจนถึงแปดแสน จำนวนคนที่ประมูลมากกว่าสิ่งของทั้งหมดก่อนหน้านี้ และมีจอมเทพถึงแปดคนเข้าประมูล โดยหนึ่งในนั้นมีจอมเทพเสียหลิงด้วย
“หนึ่งล้าน!”
ในตอนนี้เอง ห้องรับรองแขกตรงข้ามจ้าวเฟิงก็ประกาศราคาด้วยน้ำเสียงชราที่นิ่งสงบ
สิ่งที่เกินความคาดหมายก็คือ น้ำเสียงนี้จ้าวเฟิงรู้สึกคุ้นเคยพอควร
“จอมเทพลวี่หยวน!” จ้าวเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกออก
จอมเทพลวี่หยวนคือจอมเทพจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตที่มาไกล่เกลี่ยให้เผ่าเปลวทองและเผ่าพันธุ์วิญญาณ
สำหรับบุคคลในห้องแขกพิเศษ จ้าวเฟิงย่อมไม่ใช้ความสามารถมองทะลุผ่านไปสอดแนมซี้ซั้วแน่ เพื่อเลี่ยงความยุ่งยากที่ไม่จำเป็น
“จอมเทพลวี่หยวน!”
“แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต!”
คนทั้งงานประมูลเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียง ในนั้นมีคนที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับจอมเทพลวี่หยวนอยู่ด้วยเช่นกัน จึงเดาสถานะฝ่ายตรงข้ามได้ในทันที
“บัดซบ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต!”
ครึ่งก้าวสู่จอมเทพชะงักไปครู่หนึ่ง ก็ถอดใจจากหน่อไม้แสงจันทร์
ทางเข้าของลานแลกเปลี่ยนซื้อขายอาณาจักรเทพนี้ จะกระจายอยู่ในห้าเขตพื้นที่ โดยมีเขตเทพสวรรค์เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตยื่นมือเข้ามายุ่ง คนที่แข่งประมูลส่วนหนึ่งก็ถอดใจไป
ผู้แข็งแกร่งจากเขตภายนอกอื่นๆ ยังไม่ถอดใจจากหน่อไม้แสงจันทร์ คิดจะประมูลต่อ
แต่ในตอนนี้เอง เสียงทุ้มต่ำชั่วร้ายดังออกมาจากห้องแขกพิเศษที่อยู่ไม่ไกลจากจอมเทพลวี่หยวน “หนี่งล้านหนึ่งแสน!”
ออกหน้าโดยไม่ลังเลแม้เจอแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต หนำซ้ำยังบวกราคาผลึกเทพระดับสูงอีกถึงแสนชิ้น สิ่งนี้ทำให้หลายคนตื่นตระหนก จนอดคาดเดาขั้วอำนาจของคนที่อยู่ในห้องรับรองพิเศษไม่ได้
“หรือว่าจะเป็นคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลายในเขตพยับฟ้า?”
“เป็นไปได้มาก แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตกับแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลายไม่ค่อยถูกกันนัก…”
คนไม่น้อยถกเถียงกันเสียงเบา
“หนึ่งล้านสองแสน!”
สีหน้าจอมเทพลวี่หยวนเรียบนิ่ง บวกเพิ่มอีกหนึ่งแสนทันที
แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน เสียงร้ายกาจนั้นดังขึ้น “หนึ่งล้านสามแสน!”
“ฮี่ๆ คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตกลับไม่ปกปิดตัวตนแล้วแข่งเพิ่มราคาประมูล ไม่เห็นแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลายในสายตาเลยจริงๆ!”
ภายในห้องรับรองแขกพิเศษ ชายวัยกลางคนที่รูปร่างผอมสูง มีลายดำพร้อยบนผิวขาวผ่อง เอ่ยยิ้มๆ ด้วยเสียงต่ำ
“พวกเขาอยากได้หน่อไม้แสงจันทร์ อย่างน้อยต้องให้จ่ายเงินมากกว่าราคาจริงหนึ่งเท่า!”
สตรีชุดดำด้านข้างยิ้มเอ่ย
“หนึ่งล้านหกแสน!”
“หนึ่งล้านหกแสนห้าหมื่น!”
ในตอนนี้ ราคาที่เสนอกันเกินกว่ามูลค่าจริงของหน่อไม้แสงจันทร์ไปแล้ว
“ไม่นึกเลยว่าของที่ข้าปล่อยประมูลจะเป็นที่ต้องการขนาดนี้!”
ภายในห้องแขกพิเศษ จ้าวเฟิงทั้งแปลกใจทั้งยินดี