บทที่ 1432 ศิลาวิญญาณฟ้า

ในขณะนี้ ราคาประมูลของหน่อไม้แสงจันทร์เกินมูลค่าที่แท้จริงของมันไปแล้ว แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น

“หนึ่งล้านแปดแสน!”

คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลายยังคงเอ่ยราคาต่อเรื่อยๆ ตอนนี้ราคาของหน่อไม้แสงจันทร์ท่อนนี้เทียบเท่ากับอาวุธเทพระดับสุดยอดแล้ว

“สวรรค์ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว!”

“ฮึๆ ไม่รู้ว่าสุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายชนะ!”

คนจำนวนมากในงานประมูลต่างเฝ้าดูเรื่องสนุกในคราวนี้

หน่อไม้แสงจันทร์ท่อนหนึ่งที่ราคาไม่ถึงหนึ่งล้าน กลับถูกปั่นจนราคาไปแตะหนึ่งล้านแปดแสนไปแล้ว

“ดี!” ในห้องแขกพิเศษ ใบหน้าจ้าวเฟิงฉายแววยินดีอย่างยิ่ง

เขาไม่คิดเลยว่าสิ่งของที่ตนเองเอาออกมาประมูลจะถูกแย่งชิงขนาดนี้ ถ้าหากของอื่นที่เขานำออกประมูลขายได้ราคาที่ไม่เลวแล้วละก็

ถึงตอนนั้น จ้าวเฟิงก็จะร่วมประมูลของล้ำค่าในงานประมูลครั้งนี้ได้ทั้งหมด

“ฮี่ๆ แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตก็ยังเป็นเหมือนที่ผ่านมา หลงตัวเองนักหนา ดูไปแล้วคงจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่!”

ชายผิวขาวมีลายดำจากแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลายหัวเราะเสียงเย็น

“หนึ่งล้านเก้าแสน!”

เขาประมูลราคาต่อ

สีหน้าจอมเทพลวี่หยวนเย็นชาขึ้นเล็กน้อย หากประมูลต่อไป ถึงจะได้หน่อไม้แสงจันทร์มาก็ขาดทุนไปมาก แต่ทรัพยากรนี้ เขาเป็นฝ่ายถูกใจก่อน ถ้าหากยอมอ่อนให้แดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลาย ก็เสมือนทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตเสียหน้า

ในเวลานี้เอง

“ทุกท่าน ข้าให้ผลึกเทพระดับสูงสองล้าน ยกหน่อไม้แสงจันทร์นี้ให้ข้าเป็นอย่างไร?” เสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังมาจากห้องด้านขวาสุด สะท้อนก้องในงานประมูลอยู่นาน

“พลังมิติแข็งแกร่งเหลือเกิน!”

“คนผู้นี้คือใครกัน?” ทุกคนในงานประมูลคาดเดากันไป

ฟังจากน้ำเสียงของอีกฝ่าย สถานะของเขาน่าจะเทียบเท่าได้กับจอมเทพสองคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว บวกกับเสวียนอ้าวมิติที่ลึกล้ำระดับสูง จะต้องเป็นจอมเทพจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติแน่นอน

“ได้ ยกหน่อไม้แสงจันทร์ให้กับผู้อาวุโสซวีหลิง!”

จอมเทพลวี่หยวนยิ้มเอ่ย

“ในเมื่อจอมเทพซวีหลิง (ว่างเปล่า) เอ่ยปาก เช่นนั้นแล้วผู้เยาว์คงต้องยอมแล้ว!”ทางฝั่งคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทลายก็ยอมถอยให้เช่นกัน

เขาจงใจเล่นงานแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตยอมแพ้เสียแล้ว พวกเขาย่อมไม่อาจไปแย่งชิงกับจอมเทพซวีหลิงจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

ณ ห้องด้านขวาสุด

ผู้อาวุโสในชุดคลุมยาวสีเทาอ่อนผู้หนึ่งมีสีหน้าสงบนิ่ง ด้านข้างเขาเป็นสตรีแสนเย็นชา หน้าตางดงาม เรือนร่างอรชร

“ลั่วหลิง ได้หน่อไม้แสงจันทร์ท่อนนี้มา พลังของเจ้าจะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นแน่!”

จอมเทพซวีหลิงเอ่ยกับสตรีด้านข้างด้วยท่าทีห่วงใย

“อาจารย์โปรดวางใจ ข้าจะไม่ทำใหท่านผิดหวัง!”

ในแววตาเทพโบราณลั่วหลิงฉายแววแน่วแน่

อีกฝั่งหนึ่ง

“ฮ่าๆ ผลึกเทพระดับสูงสองล้านชิ้น …” จ้าวเฟิงหัวเราะร่วนอย่างเบิกบานใจ

สำหรับเขาแล้ว หน่อไม้แสงจันทร์ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก ตอนนี้กลับประมูลได้ราคาถึงสองล้าน

หลังจากประมูลขายหน่อไม้แสงจันทร์ไปแล้ว ฝั่งผู้จัดงานก็เอาทรัพยากรฝึกฝนเสวียนอ้าวมิติหลายชิ้นออกมาประมูลขายอีก ทรัพยากรฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาพวกนั้น เจ็ดส่วนเป็นของที่จ้าวเฟิงเอาออกประมูล

ทรัพยากรเสวียนอ้าวเวลาพวกนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ล้ำค่าเท่าหน่อไม้แสงจันทร์ แต่คุณสมบัติดีเยี่ยม โลกภายนอกมีน้อยนิด จึงประมูลขายได้ในราคาที่สูงลิ่ว

ส่วนมากทรัพยากรพวกนั้นถูกครึ่งก้าวสู่จอมเทพหลายคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติประมูลได้ไป

“ศิลาวิญญาณฟ้า เป็นหินเทพที่สามารถชะล้างวิญญาณ เพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจ ช่วยให้เกิดแปรสภาพของกายวิญญาณ ส่งผลระดับหนึ่งต่อวิญญาณของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ!” ผู้อาวุโสชุดขาวอมยิ้มเอ่ย

สมบัติที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังวิญญาณ ล้ำค่าเกินจะเปรียบอยู่แล้วสำหรับเผ่าพันธุ์ต่างๆ การเพิ่มพลังฝึกตนค่อนข้างง่ายดาย แต่การเพิ่มระดับวิญญาณนั้นยากเย็นยิ่งนัก

“สมบัติที่เพิ่มขอบเขตวิญญาณ!”

จ้าวเฟิงใจเต้นรัวเล็กน้อย

ในช่วงก่อนนี้ พลังวิญญาณของเขาเพิ่งไปแตะขั้นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ ยังไม่ทันได้เพิ่มความมั่นคงให้กับมัน ถ้าหากได้ครอบครองศิลาวิญญาณฟ้า พลังวิญญาณของเขาก็จะมั่นคงโดยสมบูรณ์ หรืออาจสามารถไปถึงรากฐานของจอมเทพได้ด้วยซ้ำ

“ศิลาวิญญาณฟ้า ราคาเริ่มต้นที่ผลึกเทพระดับสูงเจ็ดแสนชิ้น เพิ่มราคาประมูลครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่น!”

เมื่อเอ่ยจบ ก็มีคนจำนวนมากเริ่มแข่งกันประมูล

“เจ็ดแสนสองหมื่น!”

“เจ็ดแสนสามหมื่น!”

“เจ็ดแสนหกหมื่น!”

ความต้องการสมบัติประเภทนี้มีมากจนเกินไป ดังนั้นคนที่ประมูลแข่งกันจึงมากมาย

ขนาดซินอู๋เหิน จอมเทพเสียหลิง และผู้อาวุโสสองจากเผ่าพันธุ์วิญญาณก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกเหนือจากนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งจากขั้วอำนาจห้าดาวในเขตพื้นที่อื่นด้วย

ราคาของศิลาวิญญาณฟ้าไปแตะหนึ่งล้านสี่แสนอย่างรวดเร็ว

คนจำนวนมากถอนตัวออกจากการประมูลอย่างช้าๆ

อย่างไรเสีย ก็มีแค่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพหรือไม่ก็เทพโบราณขั้นเก้าสุดยอด ถึงจะสามารถใช้ประโยชน์ของสมบัติได้ในระดับสูงที่สุด

หนำซ้ำราคาหนึ่งล้านสี่แสนก็สูงมากแล้ว

“หนึ่งล้านสี่แสนสองหมื่น!”

ผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งก้าวสู่จอมเทพจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติก็เข้าร่วมการประมูลด้วย

“หนึ่งล้านสี่แสนหกหมื่น!”

จอมเทพเสียหลิงไม่ยอมถอดใจ ยังคงเพิ่มราคาประมูลขึ้น

เขามาที่นี่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะมาเอาสมบัติกลับไปใช้เอง แต่ยังจะเอาสมบัติที่มีประโยชน์บางส่วนกลับไปให้เผ่าด้วย

“หนึ่งล้านห้าแสน!”

จอมเทพลวี่หยวนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตเปิดปากเอ่ย

สมบัติที่เป็นที่ต้องการโดยทั่วไปประเภทนี้ จะเป็นที่ต้องการมากกว่าหน่อไม้แสงจันทร์ก่อนหน้า

“หนึ่งล้านห้าแสนสามหมื่น!”

จ้าวเฟิงเสนอราคาไปด้วย

เขาไม่ขาดแคลนผลึกเทพระดับสูง แต่ก็ไม่ได้อยากจะแย่งชิงกับพวกแดนศักดิ์สิทธิ์ในงานประมูลเช่นกัน

ในตอนนี้ ห้าแดนศักดิ์สิทธิ์จากเขตทั้งห้า เหมือนอยากได้ศิลาวิญญาณฟ้ากันทั้งสิ้น

“อืม พวกเจ้าไม่มีทางได้ไปแน่!”

หญิงเฒ่าจากเผ่าเปลวทองหัวเราะเสียงเย็น

ก่อนหน้านี้จ้าวเฟิงทำนางเสียเรื่องติดต่อกัน เดิมทีครั้งนี้นางควรจะแก่งแย่งกับจ้าวเฟิง

แต่เมื่อเห็นแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า ไหนจะยังมีขั้วอำนาจห้าดาวอีกจำนวนมาก ต่างเอาแต่แย่งชิงสมบัติชิ้นนี้ นางจึงไม่ลงมือแย่งชิงด้วย

ไม่นาน ราคาศิลาวิญญาณฟ้าก็ไปแตะหนึ่งล้านเจ็ดแสน

ราคานี้สูงมากแล้ว คนส่วนมากจึงถอดใจไม่ประมูลต่ออีก

“หนึ่งล้านเจ็ดแสนสามหมื่น!”

จ้าวเฟิงประมูลต่อ

“คนในห้องแขกพิเศษนั้นคือใครกัน? ถึงตอนนี้แล้วยังไม่ยอมรามืออีก!”

“หรือว่าคิดจะแย่งชิงกับแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า?”

ในงานประมูล คนจำนวนไม่น้อยต่างมองมาที่ห้องของจ้าวเฟิงด้วยความสงสัย

วู้ม! ในขณะนี้เอง ประสาทสัมผัสเทพที่แกร่งกล้าสายหนึ่งพุ่งเข้าไปห้องของจ้าวเฟิง ทำให้เขาและจ้าวหยูเฟยหน้าตื่นกันเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าห้องจะส่งผลปิดกั้น แต่ประสาทสัมผัสเทพของจอมเทพขั้นสองแข็งแกร่งเหลือประมาณ สามารถทะลวงผ่านเข้าไปอย่างง่ายดาย

“หืม? เป็นเจ้า?” จอมเทพลวี่หยวนอุทานตกใจ

ในฐานะที่จอมเทพลวี่หยวนเป็นจอมเทพขั้นสองจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่ออยู่ที่นี่ก็นับได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง จึงย่อมไม่หวาดกลัว ใช้ประสาทสัมผัสเทพสำรวจสถานะของจ้าวเฟิงโดยตรง

“เป็นผู้เยาว์เอง!” จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตบอก

“การเจรจาเมื่อก่อนนี้ไม่ยุติธรรมกับเผ่าพันธุ์วิญญาณมากนัก ศิลาวิญญาณฟ้าชิ้นนี้ ข้าไม่แย่งแล้ว!”

จอมเทพลวี่หยวนส่งเสียงบอก จากนั้นจึงถอดใจไม่ประมูลต่อ

นี่ทำให้จ้าวเฟิงตื่นตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าหลังจากจอมเทพลวี่หยวนรู้ว่าตนเองเป็นใครแล้วจะยอมแพ้ไปเอง

ถึงแม้จอมเทพลวี่หยวนจะบอกเหตุผลแล้ว แต่ตอนที่ผู้แข็งแกร่งจากเผ่าพันธุ์วิญญาณร่วมประมูล เขาก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย

ดูไปแล้ว จอมเทพลวี่หยวนผู้นี้คงให้ความสำคัญกับจ้าวเฟิง

การยอมแพ้ของจอมเทพลวี่หยวนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ทำให้ผู้แข็งแกร่งในงานประมูลตื่นตะลึง

“ดูท่าทางคนในนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่!”

ถึงขนาดที่มีคนคาดเดาไปว่า อย่างน้อยๆ ด้านในน่าจะมีจอมเทพขั้นสอง

จอมเทพลวี่หยวนเพิ่งจะวางมือจากการประมูล ก็มีประสาทสัมผัสเทพที่แข็งแกร่งอีกสายหนึ่งกวาดมาในทันที

“แดนศักดิ์สิทธิ์มิติ!”

ดวงตาจ้าวเฟิงจ้องไปที่ห้องด้านขวาสุด

“ผู้เยาว์คนนั้น เทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดงั้นหรือ?”

จอมเทพซวีหลิงประหลาดใจเล็กน้อย

ตอนแรกเขาเองก็คิดว่าอย่างน้อยจ้าวเฟิงน่าจะเป็นจอมเทพหรือไม่ก็เป็นคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์บางแห่ง มิฉะนั้นจอมเทพลวี่หยวนจะยอมรามือก่อนได้อย่างไรกัน?

“ลั่วหลิง ข้าปิดด่านมานานปี ไม่รู้เรื่องในโลกภายนอก เจ้าพอจะรู้เรื่องของคนผู้นี้หรือไม่?”

จอมเทพซวีหลิงเรียกใบหน้าของจ้าวเฟิงออกมา

“เป็นเขาหรือ?” เทพโบราณลั่วหลิงจ้องจ้าวเฟิงด้วยแววตาตะลึง

“หืม? ดูไปแล้วเจ้าเด็กนี่มีความเป็นมาไม่ธรรมดาเลย!”

จอมเทพซวีหลิงยิ้มน้อยๆ เขาเข้าใจศิษย์ของตนเองดี แค่เทพโบราณขั้นเก้าสุดยอดผู้หนึ่ง จะสามารถทำให้เทพโบราณลั่วหลิงตกใจถึงขนาดนี้ได้อย่างไร

“อาจารย์ คนผู้นี้มีนามว่าจ้าวเฟิง เป็นอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์วิญญาณ ว่ากันว่าสามารถทะลวงผ่านเป็นเทพแท้จริงขั้นหกได้ในรวดเดียว และเขายังมีบุญคุณกับศิษย์ด้วย…”

เทพโบราณลั่วหลิงตอบอย่างตามจริง หลังจากกลับมาที่แดนศักดิ์สิทธิ์มิติแล้ว นางสืบเบื้องลึกเบื้องหลังของจ้าวเฟิง

“ทะลวงผ่านเป็นจอมเทพโบราณขั้นหกในทีเดียว?”

สีหน้าจอมเทพซวีหลิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ต่อให้เป็นผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพของแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็มีน้อยครั้งนักจะเกิดเหตุการณ์ที่มีคนทะลวงถึงเทพโบราณขั้นหกรวดเดียว

“ช่างเถอะ อาจารย์ประมูลสมบัติดังกล่าวก็เพื่อเจ้า!”

จอมเทพซวีหลิงถอนหายใจ

ในงานประมูล ราคาของศิลาวิญญาณฟ้ากำลังเพิ่มขึ้น แต่ในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะแก่ชราก็ดังขึ้น “ข้าไม่แย่งชิงแล้ว หวังว่าสหายน้อยจ้าวจะได้สมบัติชิ้นนี้มา!”

“จอมเทพซวีหลิงยอมถอยแล้ว!”

“คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่ จอมเทพลวี่หยวนยอมแพ้ก่อน ตอนนี้จอมเทพซวีหลิงของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติก็ยอมแพ้ไปแล้ว!”

ในงานประมูลมีเสียงตกใจสงสัยดังมากขึ้น

การยอมถอยให้ของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแห่ง ทำให้ผู้เข้าร่วมประมูลคนอื่นในพื้นที่แขกพิเศษต่างประหลาดใจ

กระทั่งจ้าวเฟิงเองก็สงสัยอยู่บ้าง ตนเองน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับจอมเทพซวีหลิงแม้แต่น้อยถึงจะถูก

ครั้งนี้จ้าวเฟิงไม่ข่มใจไว้ เขากระตุ้นพลังของดวงตาเทพเจ้า และมองไปที่ห้องของจอมเทพซวีหลิง

“เป็นนางเองหรือ?”

จ้าวเฟิงเข้าใจขึ้นมาในทันที

และยามนี้เอง

วิ้ง วิ้ง! ประสาทสัมผัสเทพที่แข็งแกร่งหลายสายกวาดมาทางห้องจ้าวเฟิง

แต่มีเพียงจอมเทพขั้นหนึ่งผู้ที่ประสาทสัมผัสเทพค่อนข้างแข็งแกร่ง ถึงจะมองเห็นเหตุการณ์ด้านในได้

“หนึ่งล้านแปดแสน!” จ้าวเฟิงเอ่ยราคาอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าราคานี้จะแพงกว่าศิลาวิญญาณฟ้ามากนัก แต่เขาต้องการของชิ้นนี้ จึงยอมจ่ายราคามหาศาล

สิ่งที่ประหลาดก็คือ ครั้งนี้ไม่มีใครประมูลราคาต่อ

บางทีการยอมแพ้ของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแห่ง คงทำให้คนของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นสนใจจ้าวเฟิงขึ้นมา และยังเป็นเพราะศิลาวิญญาณฟ้าจะมีประโยชน์มากที่สุดต่อคนที่พลังฝึกตนยังไม่ถึงครึ่งก้าวสู่จอมเทพ

และเมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวเฟิงจึงได้ ‘ศิลาวิญญาณฟ้า’ มาในราคาหนึ่งล้านแปดแสน

“ ‘วิชาศักดิ์สิทธิ์แปดทิศ’ คือวิชาขั้นเทพระดับสุดยอด เป็นถึงวิชาที่ผู้แข็งแกร่งของ ‘เผ่านภาศักดิ์สิทธิ์’ คิดค้นขึ้นในช่วงบรรพกาล สามารถฝึกได้จนถึงจอมเทพขั้นหนึ่งสุดยอด พลานุภาพของวิชานี้สูงยิ่งนัก ข่มผู้ที่ฝึกตนในศาสตร์มารได้อยู่หมัด!”

ผู้อาวุโสชุดขาวประกาศเสียงดัง

“สวรรค์ นี่มันวิชาขั้นเทพระดับสุดยอดนี่!”

“อีกทั้งยังเป็นวิชาที่ ‘เผ่านภาศักดิ์สิทธิ์’ ในลำดับที่สิบเอ็ดของหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเหลือเอาไว้!”

ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนที่นี่ตื่นเต้นไม่หยุด

เดิมทีวิชาที่ดีก็หายากยิ่งอยู่แล้ว อีกทั้งพลังของ ‘วิชาศักดิ์สิทธิ์แปดทิศ’ นี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย สามารถข่มคนที่ฝึกศาสตร์มารได้สูงมากด้วย

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถฝึกจนถึงจอมเทพขั้นหนึ่งสุดยอด!”

จ้าวเฟิงอดตื่นตะลึงไม่ได้ เขาค่อนข้างสนใจวิชานี้

ก่อนอื่นต้องรู้ว่า ‘วิชาพลังฟ้าประสานหนึ่ง’ ที่เขาฝึกฝนช่วยส่งให้เขาทะลวงขั้นจอมเทพเท่านั้น แต่ ‘วิชาศักดิ์สิทธิ์แปดทิศ’ มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา สร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งเผ่านภาศักดิ์สิทธิ์ในลำดับที่สิบเอ็ดของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ