Skip to content

King of Gods 1463

King Of Gods

บทที่ 1463 ตำหนักรัตติกาลม่วง

เสี้ยวขณะนี้ จ้าวเฟิงพลันปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังสำแดงกลิ่นอายจอมเทพออกมา

“จอมเทพ!”

เจ้าหุบเขามังกรทอง ผู้อาวุโสเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ และครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนอื่นๆ มีสีหน้าตะลึงงันในทันที อย่างไรพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นจอมเทพ!

เช่นนี้แล้ว หากผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณไม่มา พวกเขาตายไร้ที่ฝังกันหมดแน่นอน

สมาชิกสำนักรากฐานเทพที่อยู่ไกลลิบยืนอึ้งอยู่กับที่ราวกับโดนสายฟ้าฟาด

“เจ้าก็คือจ้าวเฟิง?” แววตาเขียวหม่นของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณมองประเมินจ้าวเฟิงอย่างละเอียด

เขาคิดว่าครั้งนี้จะจัดการได้ง่ายดาย คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะเป็นจอมเทพแล้ว

“ท่านมาก่อความวุ่นวายที่นี่ ทำร้ายคนของข้า ต้องชดใช้คืนมหาศาล!”

จ้าวเฟิงมองตรงไปยังผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณ

“หึ เพิ่งจะทะลวงจอมเทพได้เท่านั้น กลับกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้!”

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณหรี่ตา พูดอย่างเหยียดหยาม

กลิ่นอายจอมเทพเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะทะลวงขั้น ไม่มีทางควบคุมได้ตามใจปรารถนา เขาก็เคยเดินผ่านเส้นทางนี้เช่นกัน จึงสามารถวิเคราะห์ออกมาได้ง่ายดาย

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพที่นั่นโล่งอกไปเล็กน้อย

หากเป็นเพียงแค่จอมเทพที่เพิ่งทะลวงขั้นได้แล้วละก็ ย่อมไม่ใช่คู่มือของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณแน่

ขวับ! ชุดคลุมของจ้าวเฟิงสะบัด เก็บมังกรล้างโลกาและร่างแยกเข้าไปในชุดคลุมมิติทันที

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณและครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งหลายมีสีหน้าฉายแววสงสัย

จ้าวเฟิงเรียกบริวารกลับไป หมายความว่าอย่างไร?

ฝั่งของพวกเขามีครึ่งก้าวสู่จอมเทพหกคน รวมกับจอมเทพอีกคนหนึ่ง

จ้าวเฟิงเพิ่งจะทะลวงขั้นจอมเทพ หรือมีความมั่นใจว่าจะสามารถต้านทานพวกเขาทั้งหมดได้?

ท่าทางจะเป็นดั่งที่ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณว่าไว้ จ้าวเฟิงคนนี้กำเริบเสิบสานเกินไป คิดว่าตัวเองมีความสามารถมากมาย

“ข้าจะสั่งสอนเจ้าคนรุ่นหลังที่เพิ่งทะลวงขั้นสักหน่อยแล้วกัน!”

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณเห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นนัก อยากจะลงมือเต็มที

“ดาบพิฆาตวิญญาณ!”

วิ้ง วิ้ง วิ้ง! ในชั้นวิญญาณ เหนือหัวของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณมีดาบเล่มใหญ่สีเขียวเข้มสามเล่มลอยอยู่

ดาบพิฆาตวิญญาณสามเล่มลอยอยู่ในอากาศอย่างนั้น สร้างความกดดันให้กับครึ่งก้าวสู่จอมเทพใกล้ๆ กันอย่างมหาศาล

ไกลออกไป เทพแท้จริงกับเทพโบราณที่ดูการต่อสู้รู้สึกราวกับมีดาบจ่อคออยู่อย่างไรอย่างนั้น

“สมกับที่เป็นจอมเทพศาสตร์วิญญาณ แข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้เชียว!” เจ้าหุบเขามังกรทองแอบตกใจ

ดาบพิฆาตวิญญาณสามเล่มที่ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณสำแดงออกมา หนึ่งในนั้นสามารถปลิดวิญญาณของเขาได้ในทันที

“ผู้อาวุโส พวกเราจะไปสกัดจ้าวเฟิงแทนท่าน เพื่อไม่ให้มันหนีไป!”

เจ้าหุบเขามังกรทองอมยิ้มพูดขึ้น

จากสถานการณ์ตอนนี้ หากจ้าวเฟิงถูกจับได้ ผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณ ดังนั้นเขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง

พูดจบ เจ้าหุบเขามังกรทองก็ส่งสัญญาณให้กับครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนอื่น

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ~

ทันใดนั้น ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งหลายที่อยู่ที่นั่นเข้ามาล้อมจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว

“ให้ข้าดูสิว่าเจ้าจะรับได้กี่ดาบ?” ใบหน้าของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณประดับรอยยิ้มชั่วร้าย ฝ่ามือสะบัดออกไป

ขวับ ฉัวะ! ดาบพิฆาตวิญญาณสามเล่มในท้องฟ้ามายังเหนือหัวของจ้าวเฟิง แล้วพุ่งลงมาทีละเล่ม

ดาบพิฆาตวิญญาณเล่มแรกใกล้จะโจมตีมายังจ้าวเฟิง แต่ตัวเขายืนนิ่งอยู่กับที่ ท่าทางสบายอารมณ์ ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

ครืน! คมดาบสีเขียวเข้มเล่มใหญ่นั้นฟันเข้าไปในร่างของจ้าวเฟิง

พลังวิญญาณที่คมกริบและทรงอานุภาพทะลักเข้าไปในกายวิญญาณของจ้าวเฟิงในพริบตา

เนิ่นนานก่อนหน้านี้ พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงก็ถึงขั้นจอมเทพแล้ว หลังจากทะลวงขั้นเป็นจอมเทพ พลังวิญญาณของเขาก็พัฒนาไปอีกขั้น ยิ่งเมื่อรวมกับความพิเศษของกายวิญญาณอัสนี จอมเทพขั้นหนึ่งชั้นยอดก็ไม่อาจทำลายการป้องกันวิญญาณของเขาได้

นอกจากนั้น ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงก็ไปถึงขั้นเนตรปฐมเทพ พลังคุ้มกันวิญญาณของเขายกระดับขึ้นอีกขั้น

ครืน ฟู่ ฟู่!

พลังวิญญาณมหาศาลโจมตีเข้าไปในกายวิญญาณของจ้าวเฟิง สุดท้ายกลับทำอะไรไม่ได้ พลังหายไปหมดสิ้น

ในยามที่ดาบเล่มนั้นพุ่งลงมา คนรอบด้านมีสีหน้าตื่นตะลึง พรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง

“เอ๋?” แม้กระทั่งผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณเองก็ตกใจมากเช่นกัน

จ้าวเฟิงคนนี้ไม่กลัวตายหรืออย่างไร เผชิญหน้ากับการโจมตีวิญญาณของตนกลับไม่หลบหลีก ไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่เสี้ยวขณะต่อมา สีหน้าของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณก็เปลี่ยนไป รู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย

เพราะจ้าวเฟิงที่ถูกดาบพิฆาตเล่มนั้นฟันใส่ เหมือนว่าจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

ครืน! ในตอนนี้เอง ดาบพิฆาตวิญญาณเล่มที่สองก็ฟันลงมา

จ้าวเฟิงก็ยังคงนิ่งดุจขุนเขา ท่าทางไม่สนใจเลยสักนิด

ดาบพิฆาตวิญญาณเล่มที่สองไม่ส่งผลอะไรเลยแม้แต่น้อย จ้าวเฟิงยังยืนสบายดีอยู่ตรงนั้น

ในยามนี้ สีหน้าของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณเขียวคล้ำ

ตนเป็นถึงจอมเทพศาสตร์วิญญาณ แต่กลับทำอะไรคนรุ่นหลังที่เพิ่งจะทะลวงขั้นจอมเทพไม่ได้

ครืน! ดาบพิฆาตวิญญาณที่พลังแข็งแกร่งที่สุดเล่มที่สามฟาดฟันมายังวิญญาณของจ้าวเฟิง ก็ยังไม่มีผลใดๆ

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งหลายแถวนั้นอึ้งตะลึง

“นี่…คือเรื่องจริงรึ?” เจ้าหุบเขามังกรทองรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เหลือเชื่อเกินไปแล้ว ยากที่จะเชื่อได้

“ผู้เยาว์ ในตัวเจ้ามีของดีไม่น้อยเลยจริงๆ มีอาวุธเทพระดับสุดยอดประเภทป้องกันวิญญาณด้วย!”

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณพลันตะโกนขึ้น

ภาพเมื่อครู่นี้ฉีกหน้าเขาอย่างรุนแรง ดังนั้นผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณจึงพูดออกไปเช่นนี้ แต่ว่าในใจของเขาก็คาดเดาไว้แบบนี้เช่นกัน

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คนรอบด้านก็พยักหน้า

จ้าวเฟิงจะต้องมีอาวุธเทพระดับสุดยอดประเภทป้องกันวิญญาณอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นก็ไม่อาจอธิบายทุกอย่างเมื่อครู่ได้

รวมกับจ้าวเฟิงใช้คลุมชุดคลุมมิติ บริวารของเขาเมื่อครู่ก็มีอาวุธเทพระดับสุดยอด หากตัวเขามีอาวุธเทพระดับสุดยอดที่ป้องกันวิญญาณก็สมเหตุสมผลดี

“หึ โง่เง่า!” จ้าวเฟิงแค่นเสียงต่ำ

เหตุที่เขาไม่รีบร้อนลงมือก็เพราะกำลังทำความเคยคุ้นกับพลังเทพของขั้นจอมเทพ อีกทั้งเมื่อครู่เขาสามารถประเมินพลังป้องกันวิญญาณของตัวเองได้สำเร็จ

แต่ตอนนี้ คือเวลาที่จะจบเรื่องแล้ว

ในดินแดนเทพรกร้าง พลังคือทุกสิ่ง ทุกสิ่งนี้ก็ควรจะใช้พลังจัดการไปเลยเช่นกัน

ขวับ! ร่างของจ้าวเฟิงกะพริบแล้วหายวับไป

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณพลิกฝ่ามือ กระบี่สั้นสีเขียวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น

ฟิ้ว! กระบี่ของเขาพลันพุ่งออกไป ข้างหน้าคมกระบี่ของเขามีคลื่นมิติกระเพื่อม ร่างของจ้าวเฟิงปรากฏออกมา

“กระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์!”

จ้าวเฟิงยื่นฝ่ามือออกมา พลังเทพรวมศูนย์ทะลักล้น ก่อเป็นกระบี่ยาวสีเงินเข้มขุ่นข้นขึ้นในพริบตา กระบี่ยาวเล่มนี้ก่อตัวราววัตถุจริง มองไปแล้วเหมือนกับของจริงอย่างไรอย่างนั้น แสงมืดหม่นมากมายพุ่งพล่านไปมา

วู้ม แซ่ด แซ่ด!

ในขณะเดียวกัน ลวดลายอัสนีเทวะแต่ละสายปรากฏให้เห็นอยู่ข้างบน

ครืน บึ้ม! เสี้ยวขณะที่กระบี่สองเล่มปะทะกัน กระบี่สั้นสีเขียวเข้มในมือของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณกระเด็นไปทันใด

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” สีหน้าของผู้เฒ่าเปลี่ยนไป

ชั่วพริบตาที่พลังเทพปะทะกันเมื่อครู่ เขาก็พ่ายแพ้ลงทันที

แต่จ้าวเฟิงไม่ใช่เพิ่งจะทะลวงขั้นจอมเทพหรือ? เหตุใดการโจมตีพลังเทพจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้

กระบี่อัสนีที่พลังแข็งแกร่งไร้เทียมทานของจ้าวเฟิงฟาดฟันลงมาแล้ว

“แย่แล้ว!” ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณพบว่ากฎเกณฑ์มิติกลุ่มหนึ่งหุ้มล้อมตนไว้ อยากจะหลบก็หลบไม่ได้

ครืน แซ่ด แซ่ด!

กระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์แทงทะลุหน้าอกของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณ เลือดแดงฉานสาดกระเซ็น

พรวด! ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณกระอักเลือดครั้งใหญ่ จ้องจ้าวเฟิงด้วยแววตาอึ้งตะลึง

ตอนนี้ในร่างของเขา พลังเทพอัสนีเทวะรวมศูนย์มหาศาลกำลังทำลายอย่างบ้าคลั่ง กัดกินทุกอย่าง

พลังทำลายที่น่าหวาดกลัวกลุ่มนี้ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

“ตาย!”

จ้าวเฟิงกุมกระบี่เทวะรวมศูนย์ ขับเคลื่อนพลังเทพบริสุทธิ์กลางแท่นเทวะในกาย

ครืน แซ่ด แซ่ด! ทันใดนั้น พลังของกระบี่เทวะรวมศูนย์เพิ่มขึ้นพุ่งพรวด ตัวกระบี่ใหญ่ขึ้นอีกหลายเท่า

“อ๊าก…” เสียงร้องอเนจอนาถดังก้องทั่วฟ้า ทำเอาผู้คนขนลุกชัน

ครืน ฉัวะ!

กระบี่ของจ้าวเฟิงตวัดผ่าน ฟันร่างของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณขาดออกเป็นสองท่อน

ฟู่! ร่างสองท่อนที่ไหม้เกรียมของผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณร่วงลงสู่เบื้องล่าง ทุกสิ่งในกายเทพถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์ รวมถึงวิญญาณด้วยเช่นกัน

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณถูกกระบี่เดียวของจ้าวเฟิงปลิดชีพ!

ครึ่งก้าวสู่จอมเทพหกคนรอบด้านหน้าซีดขาว ขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด

ผู้เฒ่าสะบั้นวิญญาณพูดมั่วแล้วกระมัง จอมเทพที่เพิ่งทะลวงขั้นได้ จะสังหารจอมเทพง่ายดายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?

“ไยเขาจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”

สตรีงดงามแปลกตาฝั่งเผ่าปีศาจวารีสวรรค์หวาดกลัวจับใจ ตอนนี้มาคิดๆ ดู การกระทำทุกอย่างของนางก่อนหน้านี้ล้วนแต่รนหาที่ตายทั้งนั้น!

ณ หุบเขาไกลออกไป แววตาของจอมเทพป้าหลงฉายประกายแปลกประหลาด

“สมกับที่เป็นเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า หลังทะลวงขั้นจอมเทพแล้ว ยังสังหารจอมเทพระดับเดียวกันง่ายดายถึงเพียงนี้!” จอมเทพป้าหลงตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

“พวกเจ้าเป็นคนที่จะมาคิดบัญชีกับข้าแซ่จ้าวใช่หรือไม่?”

จ้าวเฟิงคำรามเสียงต่ำ

แรงกดดันวิญญาณที่ไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งหอบม้วนไปทั่วทุกทิศ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพหกคนนั้นรู้สึกว่าวิญญาณของตัวเองราวกับถูกสายฟ้าฟาด เจ็บปวดเหน็บชาไปชั่วขณะ

เทพแท้จริงกับเทพโบราณทั้งหมดที่อยู่ไกลออกไปยิ่งกว่าต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน พวกเขาชาไปทั้งร่าง สูญเสียการรับรู้

ชั่วขณะนี้ รอบด้านเงียบกริบไร้สุ้มเสียง!

แม้กระทั่งจอมเทพจ้าวเฟิงยังสังหารได้ พวกเขาจะกล้าหาเรื่องจ้าวเฟิงต่อเสียที่ไหนกัน นั่นไม่ใช่การรนหาที่ตายหรอกรึ?

แต่ในตอนนี้เอง กลิ่นอายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก็แผ่กระจายมา

ครืน ฟู่ ฟู่!

ฉับพลันนั้น ผืนฟ้าถูกย้อมจนกลายเป็นสีม่วง หมอกม่วงคลุมเครือชั้นหนึ่งตลบอบอวลไปทั่ว

“จ้าวเฟิง เจ้าบังอาจยิ่งนัก กล้ากำเริบเสิบสานในเขตผาเก่า ทั้งยังสังหารผู้แข็งแกร่งจอมเทพของเขตนี้!”

ในหมอกสีม่วง ผู้อาวุโสชุดม่วงค่อยๆ ปรากฏกายขึ้น ข้างกายผู้อาวุโสมีครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคน

“ตำหนักรัตติกาลม่วง!” เจ้าหุบเขามังกรทองเผยอาการลิงโลด

ตำหนักรัตติกาลม่วงเป็นหนึ่งในสามขั้วอำนาจห้าดาวของเขตผาเก่า อีกทั้งผู้ที่มาในครั้งนี้คือเจ้าตำหนักรัตติกาลม่วง จอมเทพขั้นสอง!

นี่เป็นสิ่งที่ขั้วอำนาจที่อยู่ที่นั่นคิดไม่ถึง ตำหนักรัตติกาลม่วงจะมาด้วยตัวเอง!

“ศึกครั้งนี้จบสิ้นแล้ว ขนาดเจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงก็มา!”

เจ้าสำนักรากฐานเทพกังวลใจยิ่งนัก

ตำหนักรัตติกาลม่วงมีอำนาจปกครองกว้างไกลในเขตผาเก่า

“จ้าวเฟิงเป็นจอมเทพแล้ว ตำหนักรัตติกาลม่วงไม่ควรมาทำให้จ้าวเฟิงลำบากใจด้วยเรื่องเล็กน้อยในตอนนั้น!” ผู้อาวุโสสำนักรากฐานเทพคนหนึ่งพูดขึ้น

ขอเพียงแค่จ้าวเฟิงทำตัวสงบเสงี่ยม เจรจากับตำหนักรัตติกาลม่วงดีๆ เรื่องนี้ก็เลิกแล้วต่อกันได้

“พูดเช่นนี้ ตำหนักรัตติกาลม่วงก็มาเรื่องข้าแซ่จ้าวเช่นกัน?” จ้าวเฟิงมองไปยังตำหนักรัตติกาลม่วง พลางเอ่ยปากอย่างเย็นชา

เจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงมาด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่าตำหนักรัตติกาลม่วงเตรียมลงมือกับเขามาตั้งแต่แรก แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจรจากัน ดังนั้นจ้าวเฟิงก็ขี้เกียจพูดให้มากความแล้ว

“เจ้าก่อความวุ่นวายในเขตพื้นที่การดูแลของตำหนักรัตติกาลม่วง ตำหนักรัตติกาลม่วงจะปล่อยไปได้อย่างไร!”

เจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงเห็นจ้าวเฟิงมีทีท่าเช่นนี้ ในใจก็ค่อนข้างไม่สบอารมณ์ แต่ว่าตอนนี้แทบจะยืนยันได้แล้วว่า จ้าวเฟิงมีของล้ำค่าพลิกชะตาที่เหนือกว่าอาวุธเทพระดับสุดยอด มิฉะนั้นจ้าวเฟิงไม่มีทางไปถึงขั้นจอมเทพได้เร็วเช่นนี้ และยิ่งไม่สามารถสังหารจอมเทพขั้นหนึ่งได้

หากได้ของล้ำค่าในตัวจ้าวเฟิงมา พลังทั้งหมดของตำหนักวิญญาณม่วงจะยกระดับขึ้นอย่างมหาศาล

ครืน! หมอกสีม่วงรอบกายเจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงยิ่งหนาขึ้นอีก คนทั่วไปกระทั่งว่ามองเห็นไม่ชัดด้วยซ้ำ

ส่วนครึ่งก้าวสู่จอมเทพที่อยู่ค่อนข้างใกล้กับเจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงรู้สึกว่าไม่ค่อยชัดเจน เกิดภาพมายาต่างๆ ขึ้น

ไม่ถึงเสี้ยวขณะ ฟ้าดินก็กลายเป็นนรกสีม่วงมืดหม่น

“หนีเร็ว!” ครึ่งก้าวสู่จอมเทพใกล้สนามต่อสู้หน้าถอดสี รีบสลายตัวทันที

ที่หุบเขาห่างไกล จอมเทพป้าหลงเกิดความสนใจขึ้นเล็กน้อย

“เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า เจ้าจะสู้จอมเทพขั้นสองได้หรือ?” เขาค่อนข้างสงสัย

แต่ไม่ว่าผลแพ้ชนะของการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ผู้ชนะคนสุดท้ายต้องเป็นเขา!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version