บทที่ 1485 ความลับของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์
ได้ยินคำว่า ‘แมว’ คำนี้ เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์โมโหโกรธา ผุดลุกขึ้นทันที
“เจ้าตำหนัก แมวนี่มันคือเรื่องอะไรกัน?”
ตอนนี้จ้าวเฟิงเชื่อว่าแมวที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์คือแมวขโมยน้อยแน่นอน
“หนึ่งปีก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่ามีแมวตัวหนึ่งมาจากไหน แปลกประหลาดยิ่งนัก เที่ยวเดินไปทั่วตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ ตอนแรกตำหนักเราก็ไม่ได้สนใจ คิดไม่ถึงว่าแมวตัวนี้กลับเข้าไปใน ‘สวนสรวงพงไพร’ ขโมยกินของล้ำค่าเข้าไปไม่น้อย!”
เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อธิบายง่ายๆ
ความจริงแล้วตอนแรกเจ้าตำหนักก็สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของแมวตัวนี้ จึงเตรียมจับมันเอาไว้ แต่กลับล้มเหลวทุกครั้ง
ส่วน ‘สวนสรวงพงไพร’ คือมิติเอกเทศของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ที่ปลูกของล้ำค่าประเภทต่างๆ ไว้ ไม่นึกว่าภายหลังเจ้าแมวขโมยตัวนี้จะแอบเข้าไปขโมยกินของล้ำค่าไม่น้อย
“เจ้าตำหนัก แมวตัวนี้แอบเข้าไปใน ‘สวนสรวงพงไพร’ อีกแล้ว!”
ผู้อาวุโสที่เข้ามาเมื่อครู่พูดอีก
“เจ้าตำหนัก แมวตัวนี้เจ้าเล่ห์มาก ไม่มีทางจับได้เลย มิสู้ฆ่ามันทิ้งเสีย ไม่เช่นนั้นก็ไล่มันไป!”
อ๋าวหงกวงรู้เรื่องของแมวขโมยเช่นกัน เขาจึงเสนอขึ้น
“ไป!” ดวงตาของเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์วาวโรจน์ ก่อนจะออกไปด้วยความโมโห
ต่อจากนั้น คนกลุ่มหนึ่งก็มาถึงสวนสรวงพงไพร
ที่นี่เป็นสถานที่ล้ำค่าซึ่งเต็มไปด้วยไอสวรรค์ ข้างในปลูกวัตถุดิบยาล้ำค่าควรเมืองไว้มากมาย
หลังจากที่จอมเทพและเทพโบราณทั้งหลายเข้ามาในนี้ เมื่อกวาดประสาทสัมผัสเทพก็เห็นแมวขโมยสีเทาเงินตัวหนึ่งกอดผลผลึกแก้วสีแดงเอาไว้ กำลังกินคำแล้วคำเล่า
“เจ้าแมวขโมยน้อย!” จ้าวเฟิงหัวเราะเบาๆ แมวที่กำลังขโมยกินอยู่ในสวนสรวงพงไพรก็คือเจ้าแมวขโมยน้อยนั่นเอง
แมวขโมยน้อยในตอนนี้ตัวใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนขึ้นเล็กน้อย หลังออกห่างจ้าวเฟิงแล้วน่าจะก่อเรื่องเดือดร้อนให้กับคนไม่น้อยเลย
“นั่นมัน…ผลอาทิตย์เพลิงสวรรค์ ของล้ำค่าที่ร้อยปีถึงจะออกผลเพียงผลเดียว!”
เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์จ้องผลไม้ในมือของแมวขโมยน้อย โมโหจนกระทืบเท้า
ฟุ่บ~ จอมเทพสามคนตรงเข้าไปขนาบข้างแมวขโมยน้อยทันที
แต่จอมเทพทั้งสามยังไม่ทันได้เข้าใกล้ แมวขโมยน้อยก็สัมผัสได้ มันกลืนผลไม้ในมือลงไปทันที ก่อนจะแปลงเป็นประกายแสงสีเงินหนีไปไกล
“ตามไป!” จอมเทพทั้งสามตามติดไม่ลดละ
ถึงแม้ความเร็วของแมวขโมยน้อยจะล้ำหน้าจอมเทพทั้งสาม แต่ฝ่ายตรงข้ามขนาบโจมตีมาจากหลายทาง รวมกับมิติแห่งนี้ไม่ใหญ่นัก แมวขโมยน้อยเลยไม่มีทางหลบหนีได้ แต่หากประมือกันซึ่งหน้า แมวขโมยน้อยก็ไม่เกรงกลัวจอมเทพขั้นหนึ่งเช่นกัน
วู้ม วู้ม!
แมวขโมยน้อยยื่นกรงเล็บทั้งสองออกไป อักษรและรูปภาพลึกลับบนนั้นทะลักออกมา บนอุ้งเท้าของมันเกิดชั้นน้ำแข็งสีเทาเงินขึ้น
แมวขโมยตัวน้อยมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายอ๋าวหงกวงทันที กรงเล็บทั้งสองตะปบออกไป
“ระวัง นั่นมันพลังของเผ่าเหมันต์ทมิฬ!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ร้องเตือน
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยประมือกับแมวขโมยอยู่ช่วงสั้นๆ เลยพอจะรู้ถึงความสามารถของมัน
“หึ!” อ๋าวหงกวงแค่นเสียงเย็น ทั่วร่างปล่อยไอร้อนแรงสีแดงอ่อนออกมา ก่อนจะซัดหมัดหนึ่งออกไป
บึ้ม ฉัวะ ฉัวะ! ทั้งสองเข้าปะทะกัน พลังเหมันต์ทมิฬของแมวขโมยน้อยเหนือกว่า พลังเย็นยะเยือกที่แข็งแกร่งไม่เพียงแต่กัดกินเพลิงอาทิตย์เท่านั้น แต่ยังแช่แข็งผนึกเพลิงอาทิตย์ไปบางส่วน
ทว่าในตอนนี้ จอมเทพอีกสองคนก็ประชิดไปยังแมวขโมยน้อยด้วย
ฟุ่บ! แมวขโมยตัวน้อยหายวับไป ทิ้งไว้เพียงเงาสายหนึ่ง
“เฮ้อ เจ้าบาดเจ็บอยู่ มิเช่นนั้นเมื่อครู่อาจจะรั้งเจ้าแมวขโมยน้อยนั่นเอาไว้ได้อีกครู่หนึ่ง!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ถอนหายใจ
อ๋าวหงกวงเพิ่งจะกลับมา บาดแผลบนร่างยังไม่หายดี
“ศิษย์น้อง เหมือนเจ้าจะบาดเจ็บ?”
อ๋าวหงกวงมองไปยังชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง คนคนนี้คือจอมเทพคนที่สามของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์
“ท่านคงยังไม่รู้ ไม่นานก่อนนี้ข้าโดนลอบโจมตี โชคดีที่ข้ารู้ตัวก่อนจึงรักษาชีวิตไว้ได้!”
สีหน้าของชายวัยกลางคนดูโกรธแค้น เทียบกันแล้วบาดแผลของเขาสาหัสกว่า เวลานานถึงเพียงนี้แล้วจึงยังไม่หายสนิท
“หรือจะเป็น ‘เขาคลื่นเงา’?” อ๋าวหงกวงคาดเดาในใจ
เขาคลื่นเงาก็เป็นขั้วอำนาจห้าดาวในเขตปราการหยั่งรู้เช่นกัน ฝ่ายนั้นขัดแย้งกับตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์มาโดยตลอด
“ฆ่ามันเสีย!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์แค่นเสียงอย่างโมโห
จอมเทพทั้งสองของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ถูกซุ่มโจมตี เดิมก็ทำให้เจ้าตำหนักโมโหมากอยู่แล้ว ในตอนนี้แมวขโมยตัวนี้ก็ยังมาท้าทายต่อขีดจำกัดความอดทนของเขาอีก
ตอนนี้เจ้าตำหนักทิ้งความพยายามที่จะจับแมวขโมย เลือกฆ่ามันทิ้งเสีย
ฟิ้ว~ จอมเทพทั้งสามตรงไปยังแมวขโมยอย่างดุดันทรงพลัง
เมี้ยว~ แมวขโมยน้อยมองไปยังจอมเทพทั้งสาม พลิกอุ้งเท้าชี้นิ้วลง ทำท่าทางเหยียดหยามเหล่าจอมเทพ
นี่ยิ่งทำให้เพลิงโทสะของจอมเทพตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์พวยพุ่ง
ฟิ้ว! แมวขโมยน้อยแปลงเป็นประกายเงาสายหนึ่งหายวับไป
“ไยความเร็วของแมวขโมยตัวนี้ถึงได้เพิ่มขึ้นกันเล่า!” แววตาของเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อึ้งตะลึง
ความเร็วของเจ้าแมวขโมยในตอนนี้สูงกว่าก่อนหน้านี้มาก
ไล่ล่ากันอยู่ค่อนวัน จอมเทพทั้งสามก็ได้แค่ตามหลังแมวขโมยเท่านั้น ทำร้ายมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นสวนสรวงพงไพรที่เสียหายไปทั่ว แน่นอนว่าจอมเทพทั้งสามพยายามควบคุมพลังทำลายล้างเต็มที่แล้ว แต่เจ้าแมวขโมยน้อยจงใจหนีลงไปข้างล่าง พวกเขาก็จนปัญญา
“ทุกท่าน ให้ข้าจัดการเจ้าแมวขโมยนี่ดีกว่า!” ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงที่อยู่ไกลออกไปเอ่ยปากขึ้น
“สหายจ้าว จะให้ท่านทำเช่นนั้นได้อย่างไร!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์หัวเราะแห้งๆ หน้าพลันแดงก่ำ เป็นถึงขั้วอำนาจห้าดาว กลับโดนแมวขโมยป่วนจนถึงขนาดนี้ ช่างขายหน้าจ้าวเฟิงยิ่งนัก
“ข้าเป็นนักฝึกสัตว์ จัดการเจ้าตัวนี้เป็นเรื่องที่ข้าชำนาญนัก!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสริม
เขาพูดถึงขั้นนี้ หากเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ดูไม่รู้ความเกินไปแล้ว
“ได้ เช่นนั้นก็รบกวนสหายจ้าวแล้ว!” เจ้าตำหนักตะลึงงัน ก่อนจะตกปากรับคำไป
ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อนักฝึกสัตว์มากำราบแมวขโมย แต่นักฝึกสัตว์ขั้นจอมเทพลงมาทำอะไรเจ้าแมวขโมยไม่ได้เลย ส่วนนักฝึกสัตว์ขั้นจอมเทพขึ้นไปก็มีน้อย จะเชิญพวกเขามาได้ไม่ง่ายเลย
คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงอายุน้อยเท่านี้จะยังเป็นนักฝึกสัตว์ด้วย
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงลงมือทันที พุ่งไปยังเจ้าแมวขโมยน้อย
“สหายจ้าวต้องการให้พวกเรายื่นมือเข้าไปช่วยหรือไม่?” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ถาม
ที่จริงแล้วเขาไม่อยากจะลงมืออะไร
นักฝึกสัตว์ขั้นจอมเทพรวมกับพวกเขาทั้งสาม สามารถกำราบเจ้าแมวขโมยได้แน่นอน แต่เช่นนั้นแมวขโมยก็จะเป็นของจ้าวเฟิง ทั้งยังทำให้พวกเขาดูไร้ความสามารถอีก
พวกเขากลับหวังว่าจ้าวเฟิงจะกำราบเจ้าแมวขโมยไม่ได้ แค่ไล่มันไปก็พอ
“ไม่เป็นไร!” จ้าวเฟิงปฏิเสธ ความเร็วเพิ่มขึ้นในทันที ร่างบินฉวัดเฉวียนไปมา
เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์หัวเราะเบาๆ ในใจคิดว่าคนอายุน้อยมักอวดดีเช่นนี้
แต่เสี้ยวขณะต่อมา ใบหน้าของเขาก็ตะลึงงัน
“เร็วยิ่งนัก!” อ๋าวหงกวงแววตาเป็นประกาย
ความเร็วที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมาในตอนนี้เข้าไปใกล้แมวขโมยน้อยเต็มที
เมี้ยว~ แมวขโมยน้อยส่งเสียงร้องตกใจ หนีไปอย่างรีบร้อน
จ้าวเฟิงตามติดอยู่ข้างหลังมัน พลังเจตจำนงในตาซ้ายทะลักออกมา
วู้ม ครืน! กลิ่นอายอัสนีสะท้านฟ้าปะทุออกมาจากชั้นวิญญาณแล้วโจมตีไปข้างหน้า
แมวขโมยน้อยโดนระลอกคลื่นของพลังวิญญาณกลุ่มนี้กระแทกเข้า ร่างก็แข็งทื่อ ร่วงไปข้างล่าง
ฟิ้ว~ ยังไม่ทันถึงพื้น เจ้าแมวขโมยน้อยก็ทำตัวให้มั่นแล้วหนีไปอีกครั้ง ทั้งยังมีอาการตกใจลนลาน แต่ความเร็วของจ้าวเฟิงมากยิ่งกว่า เข้าใกล้ไปแมวขโมยอีกครั้ง ดวงตาซ้ายปล่อยพลังมายาอันแข็งแกร่งโอบล้อมไปรอบๆ ตัวมัน
สีหน้าของจอมเทพทั้งสามที่อยู่ข้างๆ ฉายแววอึ้งตะลึง แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
วู้ม! จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังศาสตร์มายาปกคลุมวิญญาณของแมวขโมยน้อย ค่อยๆ ควบคุมมันเอาไว้
จากนั้นก็เดินเข้าไปใกล้แมวขโมยน้อย แล้วจึงส่งพลังวิญญาณกลุ่มหนึ่งเข้าไปในร่างของมัน
แน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงของเขากับแมวขโมยน้อย
เพื่อให้จอมเทพทั้งสามเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เขายังให้มันดิ้นรนอีกชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานนัก แมวขโมยน้อยก็ลืมตาขึ้น นั่งอยู่ข้างกายจ้าวเฟิง แลดูค่อนข้างเชื่องทีเดียว
“สมกับที่เป็นนักฝึกสัตว์ ถึงได้มีวิธีจัดการกับสัตว์ล้ำค่าหายาก!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์กระแอมเสียงแห้ง หัวเราะพลางพูดขึ้น
“ความสามารถในการฝึกสัตว์ของสหายจ้าวไม่ธรรมดาเลย!” อ๋าวหงกวงอุทานตกใจอย่างอดไม่ได้
“แมวตัวนี้นิสัยไม่ดุร้ายอะไร ความยากในการกำราบไม่มาก!” จ้าวเฟิงอมยิ้มอธิบาย
เหมียว~ แมวขโมยน้อยกระโดดขึ้นไปบนบ่าของจ้าวเฟิง มุมปากยกขึ้นเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“สหายจ้าวช่วยตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์จัดการปัญหาไว้อีกครั้งแล้ว ไม่รู้ว่าสหายจ้าวมาที่นี่เพราะเรื่องอันใด? ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์จะพยายามช่วยอย่างเต็มที่!”
เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์พูดขึ้นอีกครั้ง
จ้าวเฟิงช่วยตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ติดๆ กันสองเรื่อง อีกทั้งตัวเขายังเป็นจอมเทพของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์จึงคิดจะผูกมิตรกับเขา โดยพยายามตอบสนองคำขออย่างเต็มที่
“ข้ามาที่นี่ก็เพราะแค่จะตรวจสอบเรื่องบางเรื่อง ส่วนเรื่องรายละเอียด โปรดอภัยที่ข้าไม่สะดวกจะเปิดเผย!” จ้าวเฟิงพูดอย่างคลุมเครือมาก
เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์และคนอื่นๆ พยักหน้า คิดว่าจ้าวเฟิงต้องกำลังปฏิบัติภารกิจลับของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตแน่นอน
จากนั้นคนกลุ่มนี้ก็ไปจากสวนสรวงพงไพร
ส่วนเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็เตือนคนอื่นๆ ให้ปิดความลับเรื่องเมื่อครู่ไว้อย่างเคร่งครัด
พวกเขาทั้งสามจัดการเจ้าแมวขโมยไม่ได้ แต่คนนอกกลับจัดการได้ หากลือออกไปจะส่งผลต่อชื่อเสียงของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์
เพิ่งจะออกไปจากสวนสรวงพงไพร พลังบริสุทธิ์ในแท่นเทวะของจ้าวเฟิงก็สั่นสะเทือนอย่างประหลาด
สีหน้าของเขาตะลึง ร่างชะงักทันใด “ท่าทางความลับของเผ่าทำนุฟ้าอาจจะอยู่ใกล้ๆ กับตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์!”
เขากวาดสายตามอง สุดท้ายก็หยุดลงที่อากาศมืดหม่นจุดหนึ่งเบื้องหน้า ด้วยประสาทสัมผัสเทพและกฎเกณฑ์มิติของเขา จ้าวเฟิงพบว่ามีมิติแห่งหนึ่งซ่อนอยู่ที่นี่
“เจ้าตำหนัก ข้างหน้านี่คือ?” จ้าวเฟิงถามขึ้น
“อ้อ นั่นเป็นหนึ่งในที่ฝึกฝนทั้งหลายของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ มีไว้สำหรับลูกศิษย์ของตำหนักขั้นเทพโบราณลงมา ร้อยปีจะเปิดให้เข้าครั้งหนึ่ง!”
เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ค่อนข้างสงสัยว่าทำไมจ้าวเฟิงจึงถามเรื่องนี้ แต่ก็ยังตอบไปตามจริง
ต่อมาจ้าวเฟิงก็ขอเข้าไปในหอตำราของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เพื่อหาข้อมูลบางอย่าง เจ้าตำหนักรับปากทันที ทั้งยังให้เข้าไปดูตำราสะสมล้ำค่าทั้งหมดอย่างไร้เงื่อนไข
ช่วงระยะนี้ จอมเทพทั้งสองของตำหนักถูกซุ่มโจมตี ทำให้เจ้าตำหนักมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก
เมื่อเขารู้ว่าจ้าวเฟิงจะอยู่ที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ช่วงหนึ่ง แน่นอนว่าเขาดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ในเมื่อพลังของจ้าวเฟิงไม่เลวเลย ต่อให้ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เจอกับวิกฤตอันตราย ก็ไม่แน่ว่าอาจพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้
“เจ้าแมวขโมย เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตคุยกับแมวขโมยน้อย
ดูท่าทางในช่วงที่ห่างกับตน เจ้าแมวขโมยน้อยก็คงไม่อยู่เฉย น่าจะก่อความเดือดร้อนให้กับคนจำนวนไม่น้อย มิฉะนั้นไม่มีทางที่พลังจะยกระดับขึ้นมากถึงเพียงนี้
แน่นอนว่าการปรากฏตัวร่วมมือแสดงละครกับจ้าวเฟิงของแมวขโมยน้อย ก็ยิ่งทำให้เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจต่อจ้าวเฟิง
ณ ที่ไกลโพ้นฝั่งตะวันตกของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์
คนกลุ่มหนึ่งอำพรางกลิ่นอายและร่างกาย มุ่งเดินทางไปอย่างเงียบๆ
“หึ การลอบโจมตีของพวกเจ้าทั้งสองล้วนไม่สำเร็จ!” น้ำเสียงของผู้อาวุโสเขาวัวผู้เป็นผู้นำเหี้ยมโหด
จอมเทพสองคนข้างกายเขาก้มหน้าอย่างอดไม่ได้
“ตอนที่ไล่สังหารอ๋าวหงกวง จู่ๆ ก็มีจอมเทพคนอื่นโผล่มา พวกเราถึงได้พ่ายแพ้!”
ชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นพึมพำ
“เด็กหนุ่มคนนี้ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์!” ผู้อาวุโสหน้าดำอีกคนขมวดคิ้ว
พวกเขาทั้งสองก็คือจอมเทพสองคนที่ไล่สังหารอ๋าวหงกวงในตอนนั้น
“หึ ครั้งนี้มี ‘จอมเทพอวิ๋นเยวี่ย (จันทร์เมฆา)’ ช่วยเหลือ ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ไม่มีกำลังต้านทานแม้แต่น้อย ก็ถือโอกาสกำจัดเจ้านั่นไปด้วยเสียเลย!”
ผู้อาวุโสเขาวัวที่เป็นผู้นำแค่นเสียงต่ำ
พวกเขาซุ่มโจมตีจอมเทพตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์สองครั้ง ถึงแม้จะสังหารพวกนั้นไม่ได้ แต่ก็ทำให้บาดเจ็บหนัก
ตอนนี้คือช่วงที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อ่อนแอมากที่สุดพอดี
“เรื่องของล้ำค่าของเผ่าทำนุฟ้า หากพวกเจ้าหลอกข้า ภายภาคหน้า ‘เขาคลื่นเงา’ ก็อย่าฝันว่าจะได้อยู่อย่างเป็นสุขเชียว!”
ข้างหลังผู้อาวุโสเขาวัว สตรีชุดคลุมสีขาวงดงามที่อยู่ในหมอกแสงรางเลือนแค่นเสียงเอาแต่ใจ