Skip to content

King of Gods 1486

King Of Gods

บทที่ 1486 หลงหวงในอดีต

ชั้นบนสุดของหอตำรา จ้าวเฟิงพลิกอ่านเนื้อหาลับของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์

ในนี้รวมเอาไว้กระทั่งเรื่องราวของปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ รวมถึงการพัฒนาของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์และเรื่องอื่นๆ ที่น้อยคนนักจะรู้

ผู้ก่อตั้งที่บุกเบิกตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เป็นจอมเทพขั้นสาม ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ในตอนนั้นมีหน้ามีตายิ่งนัก ในตอนนี้กลับตกต่ำ

สำหรับเหตุที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ตกต่ำลงก็มีบันทึกไว้อย่างละเอียด คือเป็นเพราะศัตรูของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์บุกมา ข้างในนั้นอาจจะซ่อนเบาะแสข้อมูลของเผ่าทำนุฟ้าอยู่ จ้าวเฟิงจึงอ่านเรื่องพวกนี้อย่างไม่ตกหล่น

จากนั้น เขาอ่านเหตุการณ์ใหญ่ๆ ในประวัติศาสตร์บริเวณใกล้เคียงตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ แต่ก็ไม่พบจุดที่น่าสงสัยอะไร

“เอ๋ ใช่แล้ว มิติลับก่อนหน้านี้!” จ้าวเฟิงพลันนึกถึงตอนก่อนที่เขาจะออกมาจากสวนสรวงพงไพรก่อนหน้านี้ พลังบริสุทธิ์ในแท่นเทวะมีปฏิกิริยาบางอย่างขึ้น และในตอนนั้นเขาก็บังเอิญเห็นมิติสำหรับฝึกฝนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลเข้าพอดี

“ข้อมูลของมิติฝึกฝนตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์!” จ้าวเฟิงหาบันทึกที่จดบันทึกข้อมูลพวกนี้ได้ จากนั้นเปิดอ่านทันที

มิติฝึกฝนของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์มีมากถึงสิบสามแห่ง มีไว้สำหรับสมาชิกที่ลำดับชั้นต่างกัน จุดประสงค์หลักของมิติฝึกฝนก็เพื่อฝึกฝนเหล่าสมาชิกและลูกศิษย์ ยกระดับความสามารถของพวกเขาในทุกด้าน

“ ‘มิติลับมังกรเหลือง’ เป็นหนึ่งในหกมิติลับที่ผู้บุกเบิกตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ทิ้งเอาไว้ให้ มีไว้สำหรับลูกศิษย์ขั้นเทพโบราณลงมา…”

จ้าวเฟิงหามิติลับแห่งนั้นที่เขาเห็นก่อนหน้านี้พบอย่างรวดเร็ว

มิติลับมังกรเหลืองมีไว้สำหรับขั้นเทพโบราณลงมา ระดับความอันตรายไม่นับว่าสูงมาก แต่ในบันทึกก็จดไว้ว่ามีอัจฉริยะขั้นเทพแท้จริงหลายรุ่นของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ตายอยู่ข้างใน

หลังจากเกิดเรื่องก็มีผู้นำระดับสูงเข้าไปตรวจสอบ มีหลายคนที่เกิดอุบัติเหตุหรือเข่นฆ่ากัน แต่ที่มีมากยิ่งกว่าคือไม่มีสาเหตุแน่ชัด

จากนั้นจ้าวเฟิงอ่านข้อมูลของมิติลับอื่นๆ รอบหนึ่ง จึงแน่ใจว่ามิติลับมังกรเหลืองมีเรื่องน่าสงสัยมากที่สุดจริงๆ แต่จ้าวเฟิงก็ไม่ได้รีบด่วนสรุป กลับค้นหาข้อมูลต่อไป

วันที่สอง จ้าวเฟิงกระทั่งเดินไปในตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์และค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง

ระหว่างนั้น เขายังถามลูกศิษย์ที่เข้าร่วม ‘มิติลับมังกรเหลือง’ ในตอนนั้นด้วยเพราะมีผู้อาวุโสผู้คุมกฎของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ไปด้วยกัน ลูกศิษย์ทั้งหมดจึงตอบเขาทุกเรื่อง

อาณาเขตของลูกศิษย์สายในตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์

ผู้อาวุโสชุดทองคนหนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อเห็นหน้าของจ้าวเฟิง รีบหลบไปทันที

“เป็นเขาไปได้อย่างไร? เขากลับมาอยู่กับท่านผู้คุมกฎของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เสียได้!” ผู้อาวุโสชุดทองตื่นตกใจเป็นอย่างมาก สีหน้าค่อนข้างเหม่อลอย

เขานึกถึงประสบการณ์ที่ดินแดนทวีปในตอนนั้นอย่างอดไม่ได้ ตอนนั้นเขามีหน้ามีตาเป็นครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนทวีป เทพแท้จริงหลงหวงนั่นเอง แต่ว่าสมญานามผู้แข็งแกร่งที่สุดของเขากลับถูกจ้าวเฟิงแย่งไป กระทั่งตำแหน่งของตำหนักไท่หวงที่เขาอยู่ก็สั่นคลอนเพราะการปรากฏขึ้นของตำหนักราชันของจ้าวเฟิง

หลังจากมาถึงดินแดนเทพรกร้าง เทพแท้จริงหลงหวงใช้เวลาเกือบสิบปีถึงจะติดต่อบรรพชนตนได้ พอเข้ามายังตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ จากการดูแลของบรรพชนและความพยายามฝึกฝนของตัวเอง เทพแท้จริงหลงหวงก็ไปถึงเทพแท้จริงขั้นสี่

เขาคิดว่าจ้าวเฟิงในตอนนี้อาจจะแข็งแกร่งกว่าเขาไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสผู้คุมกฎยังเคารพนบนอบต่อจ้าวเฟิง ต่อให้เขาใช้ความสัมพันธ์ของบรรพชน ก็เกรงว่าคงไม่อาจคุกคามจ้าวเฟิงได้

แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้

คืนนั้น เทพแท้จริงหลงหวงมาหาบรรพชนของเขาคนหนึ่ง บรรพชนคนนี้อยู่ในตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็มีตำแหน่งสูงไม่น้อย เป็นเทพโบราณขั้นแปด

“ท่านบรรพชน ท่านจำจ้าวเฟิงที่ข้าเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?”

เทพแท้จริงหลงหวงถามเสียงเบา

ผู้อาวุโสผมแห้งกร้านที่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างบนพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร

ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินหลงหวงพูดถึง เป็นแค่ศัตรูคนหนึ่งที่อยู่ที่ดินแดนทวีป เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร

“เมื่อครู่ข้าเห็นมันที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ แต่มันไม่น่าใช่คนของตำหนักนี้ อีกทั้งท่าทางดูแล้วยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสผู้คุมกฎอีกด้วย!”

เทพแท้จริงหลงหวงพูดทุกอย่างออกมา

“ผู้อาวุโสผู้คุมกฎ? จ้าวเฟิง?”

ผู้อาวุโสผมแห้งที่นั่งขัดสมาธิลืมตาขึ้น เผยสีหน้าสงสัย

ช่วงนี้เขาได้ยินมาว่าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์มีแขกคนสำคัญมาเยือน นามว่าจ้าวหวาง

วันนี้เขาก็ได้เห็นจ้าวหวางแล้วเช่นกัน แต่หลานของเขากลับบอกว่าคนที่อยู่กับผู้อาวุโสผู้คุมกฎชื่อจ้าวเฟิง!

ครั้นเอ่ยถึงจ้าวเฟิงขึ้นอีกครั้ง ผู้อาวุโสผมแห้งอดนึกถึงข่าวลือในช่วงนี้ไม่ได้ เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า…จ้าวเฟิง!

“เจ้าว่าคนที่อยู่กับผู้อาวุโสผู้คุมกฎในวันนี้ชื่อจ้าวเฟิง?”

ผู้อาวุโสผมแห้งผุดลุกขึ้นถาม สายตาเปล่งประกายคมกล้า

อายุน้อยเพียงนี้กลับมีพลังฝึกตนขั้นจอมเทพ พลังแท้จริงไม่ธรรมดา ช่างน่าตื่นตะลึงจริงๆ ต่อให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ก็หาได้ยากยิ่ง

“ข้าไม่มีทางจำผิดเด็ดขาด ถึงแม้รูปลักษณ์ของมันจะเปลี่ยนไปจากในตอนนั้น แต่คือจ้าวเฟิงแน่นอน!”

เทพแท้จริงหลงหวงพูดอย่างมั่นใจ ต่อให้เขาจำจ้าวเฟิงผิด ก็ไม่มีทางจำแมวขโมยที่อยู่ข้างกายจ้าวเฟิงตัวนั้นผิดไปได้

ก่อนหน้านี้เทพแท้จริงหลงหวงได้ยินมาว่าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์มีแมวประหลาดตัวหนึ่ง เพียงแต่เขาไร้วาสนาได้พบเจอ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

“นับจากนี้เป็นต้นไป เรื่องนี้เจ้าอย่าได้เอ่ยกับใครคนใดทั้งสิ้น!” ผู้อาวุโสผมแห้งกร้านทำหน้าเคร่งเครียด

“เพราะอะไร?” เทพแท้จริงหลงหวงไม่ค่อยเข้าใจ หรือตำแหน่งของจ้าวเฟิงจะไม่ธรรมดา บรรพชนของเขาก็ไม่กล้าล่วงเกิน?

“ข้าจะไปแดนศักดิ์สิทธิ์ ‘มังกรทอง’ ด้วยตนเองสักหน่อย แล้วรายงานเรื่องนี้ให้กับทางแดนศักดิ์สิทธิ์!” แววตาของผู้อาวุโสฉายแววละโมบ

หากบอกเรื่องนี้กับเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ เกรงว่าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็ทำอะไรจ้าวเฟิงไม่ได้

เจ้าตำหนักต้องส่งข่าวนี้ให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์แน่ ถึงตอนนั้นก็จะเป็นเจ้าตำหนักที่ได้รับรางวัลจากแดนศักดิ์สิทธิ์

แต่หากเขาแจ้งเรื่องนี้กับ ‘แดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทอง’ เอง หลังจากเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าถูกจับแล้ว ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือเขา กระทั่งเขาอาจได้เข้าไปอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองด้วย

“แดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทอง!” เทพแท้จริงหลงหวงตื่นตะลึง

แดนศักดิ์สิทธิ์อยู่บนชั้นสูงสุดของแดนเทพรกร้าง สูงส่งห่างไกลเกินเอื้อม

ฟังจากคำของบรรพชน เหมือนว่าระหว่างจ้าวเฟิงกับแดนศักดิ์สิทธิ์จะเกี่ยวพันอะไรกัน

“เจ้าปิดด่านฝึกตนอยู่ที่พักของเจ้า ถ้าไม่ได้รับคำอนุญาตจากข้า ห้ามออกมาเด็ดขาด!” หลังจากผู้อาวุโสผมแห้งกร้านกำชับ ร่างก็หายวับไป

เทพแท้จริงหลงหวงรู้จักจ้าวเฟิง เช่นนั้นจ้าวเฟิงก็ต้องรู้จักหลงหวงเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ให้หลงหวงออกไป เลี่ยงไม่ให้แหวกหญ้าให้งูตื่น

จากที่เขารู้มา จ้าวเฟิงจะอยู่ที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อีกช่วงระยะหนึ่ง ดังนั้นเขาต้องส่งข่าวนี้ออกไปให้เร็วที่สุด

หลังจากอยู่ที่ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์มาได้หลายวัน จ้าวเฟิงก็มาหาเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์

“ท่านอยากจะไปดูมิติลับมังกรเหลือง?”

เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์แปลกใจยิ่งนัก

มิติลับมังกรเหลืองคือมิติลับฝึกฝนของลูกศิษย์ขั้นต่ำกว่าเทพโบราณลงมา โดยพื้นฐานแล้วไม่มีคนนอกเข้าไป

หรือเรื่องที่จ้าวเฟิงตรวจสอบจะเกี่ยวกับศิษย์ของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์?

ถึงแม้จะสงสัย แต่เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็ตัดสินใจเปิดมิติลับมังกรเหลืองให้จ้าวเฟิงเข้าไปดู

ในเมื่อภาพประทับใจที่จ้าวเฟิงสร้างให้กับเขาไม่เลวเลย และยังช่วยจัดการธุระของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อีกสองเรื่อง มิติลับมังกรเหลืองเป็นเพียงแค่มิติลับให้ศิษย์ขั้นเทพแท้จริงฝึกฝนเท่านั้น สำหรับตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์แล้วไม่นับว่ามีค่าอะไรนัก

วันนั้น เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เรียกจอมเทพอีกสองคนมายังทางเข้ามิติลับมังกรเหลือง

วู้ม วู้ม! เหนือมิติรางเลือนขมุกขมัวเกิดระลอกคลื่นมิติขึ้น

“ใกล้แล้ว!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์พูดเสียงต่ำ

เพราะเป็นการเปิดอย่าง ‘ไม่ปกติ’ ด้วยเหตุนี้จึงมีแรงต้านมหาศาลนัก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร

แต่ในตอนนี้เอง จิตใจของจอมเทพที่อยู่ที่นั่นพลันเกิดการตอบสนอง

“มีจอมเทพใกล้มาทางตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ อีกทั้งจำนวนไม่น้อยเลย!”

อ๋าวหงกวงมองไปยังฝั่งตะวันออก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นอกปราการพลังของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์

“ฮ่าๆ เวลาของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์สิ้นสุดแล้ว!” ผู้อาวุโสเขาวัวที่เป็นผู้นำหัวเราะลั่น

“ลงมือ!” จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยคำรามเสียงต่ำ อดรนทนไม่ไหวแล้ว

ครืน ตูม ตูม! ลมเมฆหอบม้วนอย่างบ้าคลั่งทั่วฟ้าดิน ทั่วทั้งตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์สั่นสะเทือนเล็กน้อย

ผู้อาวุโสเขาวัว จอมเทพอวิ๋นเยวี่ย และยังมีจอมเทพอีกสองคนลงมือพร้อมกัน

การโจมตีพลังเทพที่ปั่นป่วนโจมตีไปยังปราการพลังที่อยู่เหนือตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ ไม่ถึงเสี้ยวขณะ ปรากการพลังก็พังทลายลง

จอมเทพทั้งสี่นำเทพโบราณสิบคนบุกเข้าไปในตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ทันที

แต่เสี้ยวขณะที่พวกเขาเข้าไปในตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ ก็พบว่าจอมเทพในตำหนักทั้งหลายกำลังเปิดมิติลับมังกรเหลือง

“เขาคลื่นเงา!” อ๋าวหงกวงกัดฟันกรอด เผยสีหน้าโมโหขึ้นทันที

ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าจอมเทพสองคนที่ดักซุ่มไล่สังหารเขาในตอนนั้นก็คือคนของเขาคลื่นเงา

“เขาคลื่นเงา พวกเจ้าบังอาจนัก กล้าบุกตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อย่างนั้นรึ!”

เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์เปลี่ยนสีหน้า ตวาดเสียงดังลั่น

ย้อนกลับมาดูฝั่งเขาคลื่นเงา หลังจากที่บุกเข้ามาทั้งหมดแล้ว จอมเทพของเขาคลื่นเงาทั้งสามก็อึ้งตะลึงอยู่กับที่

“พวกเจ้า…รู้ความลับของเผ่าทำนุฟ้าแล้วอย่างนั้นรึ?” ผู้อาวุโสเขาวัวตกใจเป็นอย่างมาก

เขากำลังเตรียมเยาะเย้ยว่าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ไร้ความสามารถ ครอบครองของล้ำค่าเผ่าทำนุฟ้าเอาไว้แต่กลับไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย

ต้องรู้ว่า เผ่าทำนุฟ้าคือเผ่าพันธุ์ในตำนานที่อยู่อันดับหกของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์ ของล้ำค่าของเผ่านี้ไม่ธรรมดา หากได้มาขั้วอำนาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน

แน่นอน ข่าวนี้เขาก็เพิ่งจะรู้มาเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แอบวางแผนเตรียมบุกทำลายตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์

ถึงแม้การทำลายขั้วอำนาจห้าดาวจะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองโกรธแค้น แต่หากได้ของล้ำค่าของเผ่าทำนุฟ้ามา พลังทั้งหมดของเขาคลื่นเงาก็จะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว และชดเชยการสูญเสียกำลังรบของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ได้ ถึงตอนนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์มังกรทองก็จะไม่ว่าอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ อีกฝ่ายก็กำลังเปิดมิติลับมังกรเหลือง

“เผ่าทำนุฟ้า มันเรื่องอะไรกัน?” ในหัวของจอมเทพตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ทั้งสามเต็มไปด้วยคำถาม

‘ท่าทางความลับของเผ่าทำนุฟ้าจะอยู่ในมิติลับมังกรเหลืองนี่!’

แววตาของจ้าวเฟิงคร่ำเคร่ง ถึงแม้การบุกรุกของผู้แข็งแกร่งเขาคลื่นเงาจะทำลายสถานการณ์ที่แต่เดิมสุขสงบไป แต่จ้าวเฟิงก็มั่นใจแน่นอนแล้วว่า ความลับของเผ่าทำนุฟ้าอยู่ในมิติลับมังกรเหลือง

ครั้งนี้เขาจะต้องเอามันมาให้ได้

“ฝันไปเถอะ!” ผู้อาวุโสเขาวัวทะยานไปทันที เตรียมหยุดยั้งทุกอย่างนี้

เทพโบราณอวิ๋นเยวี่ยเห็นท่าทางและคำพูดของผู้อาวุโสเขาวัวก็เข้าใจพอประมาณหนึ่งแล้ว

กุญแจของของล้ำค่าเผ่าทำนุฟ้าอยู่ที่มิติลับซึ่งกำลังจะเปิดออกนั่นเอง

“รับศึก!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ทำได้เพียงละทิ้งการเปิดมิติลับ เตรียมรับศึกในทันที

แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ จ้าวเฟิงก็พุ่งออกไป

วู้ม! ชุดบนร่างของเขาปลิวสะบัด ประกายแสงสีเงินลึกลับที่สอดประสานกันปรากฏขึ้น พลังกฎเกณฑ์มิติกลุ่มหนึ่งทะลักออกมา ก่อนจะพุ่งไปยังเส้นทางมิติลับที่เปิดออกครึ่งหนึ่ง

“สหายจ้าว นั่นท่านทำอะไร?” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ตื่นตกใจ

วู้ม~ ทางเส้นนั้นพลันขยายขึ้นอีกหลายส่วน ส่วนจ้าวเฟิงคลุมชุดคลุมมิติแล้วเข้าไปข้างในทันที

ถึงแม้ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์กำลังเผชิญหน้ากับอันตราย แต่เขาคลื่นเงารู้ความลับของเผ่าทำนุฟ้าแล้ว หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็จะไม่มีทางเปิดมิติลับให้จ้าวเฟิงอีก อีกทั้งถึงตอนนั้นสถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้น ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์อาจถึงขั้นหันมาเป็นศัตรู

มิสู้เขาฉวยโอกาสเข้าไปข้างในตอนนี้ เอาความลับเผ่าทำนุฟ้าที่ซ่อนอยู่ข้างในออกมาแล้วไปจากที่นี่เสีย ถึงอย่างไรตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ก็ดูแลเขาไม่เลวเลย ส่วนจ้าวเฟิงก็ใช้ประโยชน์ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์หาเป้าหมายของตัวเองจนเจอ วิธีนี้เรียบง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด อีกทั้งสามารถเลี่ยงไม่ให้เป็นศัตรูกับจอมเทพตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ทั้งหลายด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version