Skip to content

King of Gods 1488

King Of Gods

บทที่ 1488 แท่นเทวะสามชั้น

ก่อนหน้านี้ เขตที่ตัวตนเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของจ้าวเฟิงถูกเปิดเผยคือเขตดาราชาดฝั่งตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนเขตปราการหยั่งรู้อยู่ชายขอบฝั่งตะวันตกของดินแดนเทพรกร้าง อยู่ห่างกันไกลโพ้น หลายคนก็แค่รู้เรื่องนี้ แต่รายละเอียดไม่ชัดแจ้ง

“เจ้าเด็กนี่พลังแข็งแกร่งยิ่งนัก จะให้มันได้ของล้ำค่าเผ่าทำนุฟ้าไปไม่ได้เด็ดขาด!”

สีหน้าของเจ้าเขาคลื่นเงาตึงเครียด

จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็คิดเช่นเดียวกัน

ถึงแม้จ้าวเฟิงจะโจมตีเจ้าเขาคลื่นเงาจนถอยในกระบวนท่าเดียว แต่ประมือกันครั้งแรกเจ้าเขาคลื่นเงายังไม่ได้ลงมือเต็มที่ สามารถพูดได้กระทั่งว่าประมาทด้วยซ้ำ

ตอนนี้ทุกคนรู้พลังของจ้าวเฟิงชัดแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางออมมือให้ หากร่วมมือกันทุ่มสุดกำลังต้องเอาชนะจ้าวเฟิงได้แน่

จอมเทพเขาคลื่นเงาทั้งสามค่อยๆ ไปรวมตัวกันข้างกายจอมเทพอวิ๋นเยวี่ย

ในบรรดาจอมเทพขั้นสอง จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยแข็งแกร่งกว่าเจ้าเขาคลื่นเงาเล็กน้อยด้วยซ้ำ เพียงแต่เขาคลื่นเงามีจอมเทพสามคน ดังนั้นจึงมีอำนาจในการตัดสินใจ

“ยังไม่ยอมไปอีกรึ?” จ้าวเฟิงเลิกคิ้วขึ้น

ท่าทางความเย้ายวนใจของของล้ำค่าเผ่าทำนุฟ้าจะมากจริงๆ ตนเองเผยพลังไปบ้างเล็กน้อยก็ไม่สามารถข่มขวัญให้พวกเขาถอยไปได้

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มอบบทเรียนที่ยิ่งฝังลึกให้พวกเขาแล้วกัน!

ฟิ้ว! ร่างของจ้าวเฟิงพลันหายวับไป ในท้องฟ้าหลงเหลือเอาไว้เพียงระลอกคลื่นมิติชั้นหนึ่ง

“ระวัง มันโจมตีมาแล้ว!” จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยตะโกนทันที

อีกสามคนที่เหลือใจเต้นระรัว พวกเขามีจอมเทพถึงสี่คน ในสถานการณ์เช่นนี้ จ้าวเฟิงกลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย กระทั่งบุกโจมตีมาก่อน

“เมฆมายาสังหาร!” จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยยืนอยู่ตรงกลาง ดาบยาวเย็นยะเยือกในมือกวัดแกว่งอย่างบ้าคลั่ง

วู้ม ฟู่ ฟู่~ ฟ้าดินราวราตรีขมุกขมัวภายใต้แสงจันทร์ แต่ในนั้นกลับมีจิตสังหารเย็นเยียบซ่อนอยู่

ในฟ้ายามราตรี คมดาบจันทร์เสี้ยวมายานับไม่ถ้วนพุ่งผ่านไปมา

“สังหาร!” จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง ฟันกระบี่เทพรวมศูนย์ทำลายอุปสรรคทุกอย่างเบื้องหน้า

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว! จอมเทพเขาคลื่นเงาทั้งสามกระตุ้นเคล็ดวิชาลับ เงาแสงสีดำนับไม่ถ้วนพุ่งไปในท้องฟ้าราตรีในชั่วพริบตา ตรงไปพันธนาการจ้าวเฟิงเอาไว้

“นี่ก็คือ ‘วิชาเงาสังหาร’ เคล็ดวิชาลับของเขาคลื่นเงา? ”

แววตาของจอมเทพอวิ๋นเยวี่ยเป็นประกายเล็กน้อย

‘วิชาเงาสังหาร’ ของเขาคลื่นเงาสามารถสร้างการโจมตีอันน่าอัศจรรย์โดยใช้เงาหรือวัตถุมืดดำทุกสิ่ง สังหารคนได้อย่างไร้ร่องรอย

การโจมตีพลังเทพทั่วไปในระดับเดียวกัน โดยปกติแล้วจะทะลุผ่านไป ไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรให้กับมันมากนัก

ฟุ่บ ฟุ่บ~ หนามแหลมสีดำมากมายพวยพุ่งขึ้นในท้องฟ้า ล้อมโจมตีจ้าวเฟิงจากรอบทิศ

“หลุมดำรวมศูนย์!” จ้าวเฟิงใช้พลังเทพรวมศูนย์ ก่อหลุมดำที่บิดเบี้ยวขึ้นมา

การโจมตีจากจอมเทพคนหนึ่ง เขาสามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย

เมื่อจอมเทพสี่คนร่วมมือกัน พลังทำลายล้างค่อนข้างรุนแรง รวมกับที่วิชาโจมตีของเขาคลื่นเงาค่อนข้างแปลกประหลาด ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงสำแดงเคล็ดวิชาป้องกันออกมาเสีย

วู้ม ฟู่~ เมื่อการโจมตีทุกอย่างตรงมาก็ตกเข้าไปในหลุมดำบิดเบี้ยว ก่อนจะค่อยๆ สลายหายไป

“เคล็ดวิชาลับแข็งแกร่งยิ่งนัก สามารถต้านทานพลังของวิชาเงาสังหารเอาไว้ได้!”

เจ้าเขาคลื่นเงาเผยสีหน้าพรั่นพรึง จนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยเห็นพลังอะไรที่ข่มวิชาเงาสังหารจนถึงระดับนี้ได้

เขาไม่รู้ว่าพลังเทพรวมศูนย์ของจ้าวเฟิงแทบจะไม่ถูกพลังใดๆ ข่ม กลับกันคือแทบสยบพลังทุกอย่างได้ในระดับหนึ่ง

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงอยู่ในหลุมดำรวมศูนย์ โจมตีทุกอย่างแหลกละเอียดด้วยกระบวนท่าทำลายล้าง

“ถอยเร็ว!” จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยร้องขึ้นทันใด

พวกเขาสี่คนร่วมมือกันยังทำลายแม้แต่การป้องกันของจ้าวเฟิงไม่ได้ ยังจะสู้อะไรกันอีก แต่หากพูดถึงความเร็ว ต่อให้เป็นจอมเทพเขาคลื่นเงาที่ชำนาญด้านการหลบซ่อนตัวก็ยังห่างชั้นจากจ้าวเฟิงอยู่มาก

“สังหาร!” จ้าวเฟิงฟันกระบี่ไปยังจอมเทพขั้นหนึ่งคนหนึ่ง

วู้ม วู้ม~ จอมเทพวัยกลางคนคนนี้มีร่างดำสนิทดุจเงา เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จุดนี้ค่อนข้างคล้ายกับสายเลือดเผ่าเงาราตรีที่จ้าวเฟิงเคยพบ เคล็ดวิชาลับสายเลือดระดับนี้สามารถลดอาการบาดเจ็บที่ได้รับลงมาก แต่การโจมตีพลังเทพของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น ด้วยพลังฝึกตนจอมเทพขั้นหนึ่งของอีกฝ่าย จึงลดได้ไม่มากน้อยเท่าใดเลย

จากการโจมตีที่แข็งแกร่งของพลังเทพรวมศูนย์และคุณสมบัติสูบกินบิดโค้ง กลิ่นอายชีวิตของจอมเทพขั้นหนึ่งเขาคลื่นเงาคนนี้หายไป ร่างกายแหลกสลาย

“หนี!” จอมเทพอวิ๋นเยวี่ยและเจ้าเขาคลื่นเงาใจสั่นสะท้าน รีบเร่งหนีทันที

เปลี่ยนเป็นพวกเขาเผชิญกับกระบี่นั้นของจ้าวเฟิง หากไม่ตายก็ต้องเจ็บหนัก

ส่วนจ้าวเฟิงก็ไม่ได้ไล่ตามต่อ เป้าหมายของเขาคือของที่เผ่าทำนุฟ้าทิ้งเอาไว้ที่นี่

“คนคนนี้ไยจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ พวกเราจะทำอย่างไรดี?” จอมเทพขั้นหนึ่งที่เหลือของเขาคลื่นเงาเอ่ยอย่างหวาดกลัว

“พลังเทพของเขาแกร่งเกินไป ข่มเคล็ดวิชาลับของพวกเราได้พอควร!”

เจ้าเขาคลื่นเงาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“พลังเทพของเขาคล้ายกับพลังบริสุทธิ์ของเผ่าทำนุฟ้า หรือคนคนนี้จะเป็นผู้สืบทอดของเผ่าทำนุฟ้า?” ความคิดที่น่าตกใจนี้ผุดขึ้นในใจของจอมเทพอวิ๋นเยวี่ย

“เป็นไปได้ ไม่เช่นนั้นคนคนนี้จะรู้ว่าของล้ำค่าเผ่าทำนุฟ้าซ่อนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อีกทั้งเหตุใดจึงสามารถหาที่ซ่อนของล้ำค่าได้เร็วถึงเพียงนั้น!” เจ้าเขาคลื่นเงาสีหน้าเปลี่ยนไป จากนั้นเอ่ยอย่างมั่นใจ

จากการคาดเดาของพวกเขา จ้าวเฟิงจึงถูกเข้าใจผิดไปว่าเป็นทายาทรุ่นหลังของเผ่าทำนุฟ้า

ในตอนนี้เอง

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว~ เสียงแหวกอากาศสามเสียงดังมาจากที่ไกลโพ้น

เมื่อเห็นคนเขาคลื่นเงา สีหน้าจอมเทพตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ทั้งสามตะลึงไปเล็กน้อย

เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์จำได้ว่าในตอนมาเขาคลื่นเงามีจอมเทพสี่คน ตอนนี้ไยจึงหายไปคนหนึ่ง? อีกทั้งสีหน้าของพวกเขาก็เหมือนจะไม่ดีเท่าใดนัก

หลังจากไต่ถาม จอมเทพเขาคลื่นเงาบอกเรื่องเมื่อครู่และการคาดเดาของพวกเขาไป เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน หรือว่าจ้าวเฟิงจะเป็นเผ่าทำนุฟ้า?

“ผู้เฒ่า มิสู้พวกเราร่วมมือกัน มิเช่นนั้นจะไม่มีทางเป็นคู่มือของเจ้านี่ได้เลย!”

เจ้าเขาคลื่นเงามองไปยังเจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ พูดด้วยนัยน์ตาวาววับ เหตุที่เขาพูดเรื่องก่อนหน้านี้ออกมาอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย ก็เพราะเขามีความคิดนี้

“ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ช่างขี้ขลาดตาขาวเสียจริง ของของตัวเองจะโดนคนอื่นแย่งไปเต็มทีแล้วยังจะหัวหดอยู่อีก” จอมเทพอีกคนหนึ่งพูดเสริมเกินจริง

“ได้ ตกลง!” เจ้าตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ลังเลชั่วครู่ ก่อนจะตอบตกลง เขาไม่อยากมอบของล้ำค่าเผ่าทำนุฟ้าให้คนอื่นไปเช่นนี้จริงๆ

เมื่อพวกตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์และเขาคลื่นเงาไล่ตามไปยังที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็พบว่ามิติปิดตัวลงแล้ว แน่นอน ด้วยพลังของพวกเขาจอมเทพทั้งหกย่อมทำให้มิติเปิดออกได้

“ช้าก่อน ให้เจ้านั่นมุ่งหน้าไปสำรวจทาง หากมันประสบเคราะห์ร้าย ของล้ำค่าก็ยังอยู่ที่นั่น พวกเราค่อยเข้าไปยังไม่สาย หากมันได้ของล้ำค่ามา พวกเราก็ซุ่มฆ่าอยู่ที่นี่ ไม่ให้มันได้ตั้งตัว!” สีหน้าเจ้าเขาคลื่นเงาชวนขนลุก ฉายแววเจ้าเล่ห์เพทุบาย

จอมเทพที่เหลือต่างพยักหน้า แผนของเจ้าเขาคลื่นเงาไม่เลวเลยจริงๆ ด้วยเหตุนี้ จอมเทพทั้งหกจึงซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่

โดยมีเจ้าเขาคลื่นเงาที่เชี่ยวชาญด้านการซุ่มโจมตีจัดการวางแผนด้วยตนเอง

ส่วนจ้าวเฟิงในตอนนี้ มาถึงยังมิติลึกลับอีกแห่งที่ไม่รู้ว่าถูกซ่อนเอาไว้นานเท่าใดผ่านรอยแยกมิติเล็กๆ ในตอนแรก

ในมิตินั้นมืดสลัว ประเดี๋ยวก็มีพลังบริสุทธิ์เฉียดผ่านข้างๆ

พลังบริสุทธิ์พวกนี้บางครั้งแข็งแกร่ง บางครั้งอ่อนกำลัง พลังอ่อนที่สุดเพิ่งจะถึงขั้นจอมเทพ ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดถึงจอมเทพขั้นสามสุดยอด แม้แต่จ้าวเฟิงก็ยังต้องหลบไป และเนื่องจากพลังบริสุทธิ์กลุ่มนี้ ประสาทสัมผัสเทของจ้าวเฟิงจึงไม่อาจแผ่ไปได้อย่างราบรื่น ทำได้เพียงแค่ค่อยๆคลำทางไปเท่านั้น

“แต่ก่อนพลังบริสุทธิ์ของมิติแห่งนี้อาจสะสมเอาไว้มากเกินไป จึงไหลรั่วออกจากรอยแยก ส่วนเทพแท้จริงทั่วไปของตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ที่เข้าร่วมการฝึกฝนไม่มีแรงต้านทานต่อพลังกลุ่มนี้แม้แต่น้อย มีแต่ต้องตายเท่านั้น!”

จ้าวเฟิงคาดเดาในใจ

อีกทั้งพลังนี้หลั่งไหลออกไปแค่ชั่วขณะเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เทพโบราณจึงไม่อาจสืบอะไรได้ ระหว่างทาง จ้าวเฟิงพบว่าพลังในกายของตนถูกชิงไปไม่หยุด

เขาอดกระตุ้นพลังเทพรวมศูนย์ขึ้นไม่ได้ ทันใดนั้น พลังสูบกินที่มาจากที่อื่นอ่อนกำลังลงไปมาก แต่ในขณะเดียวกัน ทั่วทั้งมิติมืดหม่นก็พลันปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น พลังบริสุทธิ์ข้างในพุ่งชนไปทั่วราวกับมีชีวิตชีวาขึ้นมา

ส่วนตรงสุดปลายทางที่ไกลออกไป จู่ๆ ก็มีประกายแสงหลากสีขมุกขมัวปรากฏขึ้น

“อยู่ที่นั่น!” แววตาจ้าวเฟิงเปล่งประกาย จากความรู้สึกของเขา ของที่เขาตามหาน่าจะอยู่ทางทิศนั้น

มิติแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังบริสุทธิ์ ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก พลังมองทะลุผ่านของดวงตาซ้ายก็ถูกรบกวนและขัดขวาง จนไม่อาจมองได้ชัด

จ้าวเฟิงรักษาความระมัดระวังเอาไว้ ค่อยๆ ใกล้เข้าไป

ยิ่งเข้าใกล้ พลังสูบกินกลุ่มนั้นก็ยิ่งแข็งแกร่ง แม้แต่จ้าวเฟิงก็ยากจะต้านทานไว้ สิ่งปลูกสร้างทรงกลมขนาดมหึมาที่ใหญ่โตโอ่อ่า ลึกลับเก่าแก่ ค่อยๆ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

จากประสบการณ์ของจ้าวเฟิง ย่อมมองออกว่านี่ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างธรมดา แต่เป็นแท่นเทวะ อีกทั้งยังเป็นแท่นเทวะสามชั้น!

แท่นเทวะสามชั้นนี้ถึงแม้จะเสียหายเล็กน้อย แต่บนนั้นสลักศาสตร์ฟ้าดินล้ำลึกเอาไว้ ข้างในยังมีพลังบริสุทธิ์ที่ทำให้จ้าวเฟิงต้องยำเกรงไหลวน

“แท่นเทวะงั้นรึ!” จ้าวเฟิงค่อนข้างผิดหวัง

ถึงแม้แท่นเทวะของจอมเทพขั้นสามก็เป็นของล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินได้ แต่สิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้คือเคล็ดวิชา!

ในตอนนี้เอง แท่นเทวะพลันเปล่งประกายแสงเทพมืดหม่นออกมา

“ผู้เยาว์ เจ้าทำท่าทางผิดหวังออกมา ดูถูกข้าอย่างนั้นรึ?” เสียงแก่ชราไม่สบอารมณ์ดังออกมาจากในแท่นเทวะ

เหตุการณ์นี้ทำให้จ้าวเฟิงตกใจไม่น้อย

เขาเดาว่าแท่นเทวะอยู่ที่นี่อย่างน้อยก็นานหลายพันล้านหรือกระทั่งหมื่นล้านปี แต่คิดไม่ถึงว่าข้างในจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่

พลังบริสุทธิ์ทะลักออกจากแท่นเทวะขนาดมหึมา ก่อตัวเป็นสัตว์ยักษ์เหี้ยมโหดทรงพลังตัวหนึ่งคล้ายกับกิเลน

โฮก~ กิเลนตัวนั้นคำราม พลังบริสุทธิ์ทั่วทั้งในมิติสั่นไหว ถูกมันควบคุมเอาไว้

“ผู้เยาว์ หากเจ้าจัดการมันไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ได้ทุกสิ่งจากที่นี่ไป และต้องตายอยู่ที่นี่!” ประโยคหนึ่งดังมาอีกครั้งจากในแท่นเทวะ

สีหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งเครียดเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรไป

แท่นเทวะมีสามชั้น นั่นหมายความว่าผู้ครอบครองอย่างน้อยก็เป็นจอมเทพขั้นสาม หรือกระทั่งราชาเทพ

เมื่ออยู่ในถิ่นของคนอื่น เผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ จ้าวเฟิงจึงทำตามที่อีกฝ่ายบอก นอกจากนั้น ไม่แน่ว่าบางทีอาจหลอกเอาเคล็ดวิชาของอีกฝ่ายมาได้

โฮก! กิเลนดำคล้ำตัวนั้นร้องคำราม จากนั้นกระโดดโถมเข้าหาจ้าวเฟิง

ทันใดนั้น พลังบริสุทธิ์มืดฟ้ามัวดินบดขยี้เข้ามา

กิเลนตัวนี้มีพลังบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนอยู่มหาศาล พลังฝึกตนของมันสูงถึงขั้นสองสุดยอด ขั้นหนึ่งสุดยอดทั่วไปอยู่ต่อหน้ามันจะไร้ซึ่งพลังต้านทานใดๆ มีแต่ชะตาที่จะโดนมันตะปบตายเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version