Skip to content

King of Gods 1503

King Of Gods

บทที่ 1503 เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าที่น่าสะพรึงกลัว

ทันทีที่หญิงชราผมเขียวเริ่มลงมือ สถานการณ์ศึกในอาณาจักรเทพเผ่าแสงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์เริ่มกู้สถานการณ์กลับมาได้ และเริ่มบุกโจมตีกลับ

แต่ว่าเรื่องยังไม่จบลง

“พวกเจ้าทั้งหมดก็เข้าร่วมรบด้วย!”

จอมเทพฮ่วนไฉ่มองเทพโบราณชั้นยอดและครึ่งก้าวสู่จอมเทพจำนวนมากที่อยู่ด้านข้าง พวกเขาตั้งกระบวนทัพนานแล้ว หากให้ร่วมมือกันโจมตี พลังต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

โครม วูบ วูบ! ทันใดนั้น สมาชิกหลายสิบคนก็ควบคุมกองทัพขนาดใหญ่สามกองตรงไปยังสนามรบ

ในทุกกองทัพ ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดขั้นจอมเทพลงไปน่าจะมีเจ็ดแปดคนเป็นอย่างน้อย เมื่อพวกเขาร่วมมือกันใช้พลังที่ค่ายกลปลดปล่อยออกมา จะแข็งแกร่งกว่าจอมเทพขั้นหนึ่งมาก นั่นแปลว่าการเข้าร่วมรบของผู้แข็งแกร่งเหล่านี้จะเท่ากับเพิ่มจอมเทพขั้นหนึ่งชั้นยอดสามคน

พลังกลุ่มนี้มากพอจะเพิ่มข้อได้เปรียบของแดนศักดิ์สิทธิ์ในพริบตาและบดขยี้ฝ่ายศัตรูได้

“ให้ข้าดูหน่อย พวกเจ้ายังมีเล่ห์กลอะไรอีก!” นัยน์ตางามจอมเทพฮ่วนไฉ่จ้องไปด้านหน้า

นางให้เทพโบราณกับครึ่งก้าวสู่จอมเทพพวกนี้เข้าร่วมการต่อสู้ เพียงเพื่อบีบให้ฝ่ายตรงข้ามใช้กลอุบายอื่นๆ เท่านั้น

ถึงแม้แดนศักดิ์สิทธิ์จะทรงพลัง แต่ที่นี่เป็นที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม จะประมาทไม่ได้ จอมเทพฮ่วนไฉ่ไม่ประมาทศัตรู นางบัญชาการการรบอย่างเข้มงวดยิ่ง

เมื่อเห็นสามกองทัพมาถึงสนามรบ ทางฟากเผ่าเทพยักษ์และเผ่าแสงแววตาเคร่งขรึมลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ลนลาน

ในกลุ่มหมอกด้านหลัง จ้าวเฟิงระบายยิ้มน้อยๆ “ถึงคราวพวกเจ้าออกโรงบ้างแล้ว!”

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ชุดมิติสะบัดพลิ้ว ร่างแยกทั้งสามร่างของจ้าวเฟิงก็ปรากฏกายขึ้นในฉับพลัน

ยามนี้จ้าวคง จ้าววั่น และจ้าวหวางเป็นจอมเทพขั้นหนึ่งทั้งหมด

จ้าวหวางและจ้าววั่นเพิ่งจะทะลวงขั้นจอมเทพได้ไม่นาน ยังไม่ได้เข้าร่วมรบมาก่อน ตอนนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะขัดเกลาพวกเขา

เปรี๊ยะ~ ทั้งสามพุ่งออกจากกลุ่มหมอกจนมาโผล่ที่สนามรบเพื่อช่วยเผ่าแสงและเผ่าเทพยักษ์ต่อสู้

“สามคนนี้คือ?” ใบหน้าชายประหลาดชั่วร้ายฉายแววฉงนสงสัย ในข่าวที่พวกเขาได้มาไม่ได้มีสามคนนี้อยู่ในนั้น

และยามนี้เอง ร่างแยกสามร่างของจ้าวเฟิงก็ปลดปล่อยพลังของสายเลือดดวงตาออกมา

“ดาบแหวกอากาศ!”

“หอกมรณะ!”

“กระบี่จินรุ่ย!”

ร่างแยกทั้งสามโคจรสายเลือดดวงตา รวบรวมวิชาดวงตาที่แก่กล้าโจมตีไปยังกองทัพทั้งสามที่แดนศักดิ์สิทธิ์ส่งมา!

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นทายาทเนตรเทพเจ้ากันทั้งหมด!”

ชายประหลาดตื่นตระหนก

เขาถึงขั้นคิดว่าสามคนนี้เป็นขั้วอำนาจทายาทเนตรเทพเจ้าแห่งใดหรือไม่ แต่เผ่าเทพยักษ์และเผ่าแสงจะไปรู้จักกับขั้วอำนาจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“พวกมันกลับมีผู้ช่วยเช่นนี้ด้วย?” จอมเทพฮ่วนไฉ่ก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าทางฝ่ายศัตรูจะมีแผนการรับมือเช่นนี้

ในสถานการณ์ทั่วไป สายเลือดของทายาทแปดเนตรเทพเจ้าค่อนข้างหายาก หายากยิ่งกว่าทายาทสายเลือดของเผ่าเทพมายาเสียอีก แต่วิชาและพลังของคนทั้งสามแข็งแกร่งยิ่งนัก โดยเฉพาะจ้าวคงที่เป็นจอมเทพได้ก่อนคนอื่น และยังมีเนตรมิติที่อยู่ในระดับเนตรปฐมเทพ พลังจึงอยู่เหนือทุกคน แต่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเป็นแค่กองทัพที่รวมจากเทพโบราณและครึ่งก้าวสู่จอมเทพ

ฝ่ายตรงข้ามใช้แผนการรับมือที่เหนือความคาดหมาย ทำให้จอมเทพฮ่วนไฉ่ต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ผลีผลามสั่งการอะไรลงไปโดยง่าย แต่สำรวจสถานการณ์ก่อน

โครม ตูม! ทายาทเนตรเทพเจ้าทั้งสามมีอาวุธเทพระดับสุดยอดกันทั้งสิ้น บวกกับมีเคล็ดวิชาดวงตาชั้นยอด จึงทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างรวดเร็ว

กองทัพที่เกิดจากการรวมตัวของเทพโบราณและครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งหลายต่างถอยร่นกันไป

ถึงขนาดที่จ้าวคงยังมีเวลาว่างไปต่อกรชายประหลาดคนนั้นได้เป็นครั้งคราว เพื่อลดแรงกดดันให้กับซินอู๋เหิน

มู่กู่ที่กำลังควบคุมต้นไม้แห่งกาลเวลาร้องอุทานออกมา “ดี!”

อันที่จริง เขาสามารถจัดแจงนำพลังระดับจอมเทพในอาณาจักรเทพมาร่วมรบด้วยได้ แต่หากทำแบบนั้นจะทำให้เขาแบ่งสมาธิไป จนส่งผลให้เขาเสียเปรียบจากการประมือกับพลังที่ไร้รูปร่างของหญิงชราผมเขียว

ตอนนี้จ้าวเฟิงออกโรง ทำลายแผนการของศัตรูได้อย่างราบรื่น สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

“ทำลาย!” จ้าวคงกระตุ้นอาวุธเทพระดับสุดยอดและเนตรมิติ สร้างคมดาบมายาสีเงินเรียวยาวเล่มหนึ่งออกมา

เปรี๊ยะ บึ้ม! วินาทีที่คมดาบปรากฏขึ้นก็ทะลวงผ่านไปในอากาศ ก่อนจะปะทะลงบนค่ายกลของศัตรูด้วยความเร็วดุจสายฟ้า และทำให้มันระเบิดกระจาย

คนเจ็ดแปดคนที่ควบคุมค่ายกลหน้าซีดเผือดโดยพลัน กระอักเลือดออกมา แล้วถอยไปด้านหลังอย่างรีบร้อน

ค่ายกลแหลกละเอียด และพลังของพวกเขาย่อมไม่มากพอจะรับมือกับจ้าวคง

“สังหาร!” ใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวคงเย็นชา เจตจำนงดวงตากระเพื่อมไหว คมดาบเล็กบางหลายเล่มพุ่งออกมา

โครม ฉัวะ! เทพโบราณขั้นเก้าผู้หนึ่งไม่มีแรงต้านทาน ถูกดาบหนึ่งสังหารลงไปในเสี้ยววินาที

ทางฟากจ้าววั่นและจ้าวหวางเป็นฝ่ายได้เปรียบเช่นกัน เกรงว่าอีกไม่นานเท่าไหร่นักก็จะทำลายกองทัพของฝ่ายศัตรูได้ สถานการณ์ในตอนนี้ดูแล้วน่าจะส่งผลดีต่ออาณาจักรเทพเผ่าแสง แต่ทุกคนกลับไม่มีท่าทีดีใจมากมาย

“จากนี้ไปน่าจะรับมือยากแล้ว!”

จ้าวเฟิงจับจ้องพวกจอมเทพฮ่วนไฉ่จากในหมอกควัน

ฟากแดนศักดิ์สิทธิ์ยังมีฮ่วนไฉ่จอมเทพขั้นสามที่ยังไม่ได้ลงมือ ข้างกายจอมเทพฮ่วนไฉ่ยังมีจอมเทพขั้นหนึ่งหนึ่งคน ขั้นสองสามคน

ขั้วอำนาจจอมเทพที่ยิ่งใหญ่นี้อยู่เหนืออาณาจักรเทพเผ่าแสงมาก

จ้าวเฟิงสามารถตรึงกำลังจอมเทพฮ่วนไฉ่เอาไว้ได้ แต่จอมเทพคนอื่นที่เหลือของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพลวงตาไม่ได้รับมือง่ายเท่าไหร่นัก ดังนั้นตอนนี้จ้าวเฟิงจึงไม่สามารถผลีผลามลงมือ เขาต้องลดกำลังของศัตรูเสียก่อน ทันทีที่เขาลงมือ ศัตรูแทบทั้งหมดก็จะลงมือทันที

ในตอนนี้เอง

โครม! ทางฟากแดนศักดิ์สิทธิ์ จู่ๆ ชายชุดเหลืองก็พุ่งตรงมาจู่โจมจ้าวคง

เขาโบกมือสองข้าง ฟาดฝ่ามือแสงขนาดยักษ์สีเหลืองเข้มจำนวนมากออกมาทำลายการโจมตีของจ้าวคงจนเป็นผุยผง แล้วตรงดิ่งไปจู่โจม

“ขอบคุณความช่วยเหลือจากนายท่านด้วย!”

ใบหน้าครึ่งก้าวสู่จอมเทพและเทพโบราณสี่คนที่เหลือฉายแววซาบซึ้งใจ ก่อนจะรีบถอยร่นไป

“ท่านกล้ายื่นมือเข้ายุ่งเรื่องของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพลวงตา พวกเราก็ไม่เกรงใจแล้ว!”

ชายชุดเหลืองแค่นเสียงต่ำ ลงมือโจมตีจ้าวคงอย่างรุนแรง ฝ่ามือแสงขนาดใหญ่สีเหลืองเข้มพุ่งโจมตีออกมาเรื่อยๆ หนำซ้ำหลังจากที่ฝ่ามือแสงสายหนึ่งสลายไป ก็กลายเป็นหมอกแสงสีเหลืองเข้มคลี่กระจายไปรอบบริเวณ

“คุกสวรรค์มายา!” จู่ๆ ชายชุดเหลืองก็ประสานมือกระตุ้นเคล็ดวิชา

หมอกแสงสีเหลืองเข้มในอากาศถูกเขาควบคุมให้ไปรวมตัวที่จ้าวคงไม่หยุด

เปรี๊ยะ! จ้าวคงรู้สึกว่าไม่ดี ต้องการจะเคลื่อนตัวหลบแต่ก็ไม่ทันแล้ว

หมอกแสงที่ยิ่งมากขึ้นทุกทีเกาะติดบนร่างจ้าวคง สาดพลังศาสตร์ลวงตาออกมา ส่งผลต่อสภาวะจิตใจของเขา แต่ตอนนั้นเอง พลังวิญญาณที่ทรงพลังกลุ่มหนึ่งทะลักออกมาจากในร่างจ้าวคง

พลังวิญญาณกลุ่มนี้ย่อมเป็นของจ้าวเฟิงนั่นเอง

วู้ม แซ่ด แซ่ด! ในชั้นดวงวิญญาณ หมื่นอัสนีปั่นป่วน หมอกแสงสีเหลืองเข้มถูกอัสนีบาตฟาดจนแหลกเป็นผุยผง

“อะไรกัน?” ชายชุดเหลืองถอยไปทันใดพลังดวงวิญญาณเมื่อครู่ทำให้เขารูสึกไม่ปลอดภัย

แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็โกรธเกรี้ยวอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าแผนการต่อสู้ของตนเองจะถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายไป มิฉะนั้นเป็นไปได้มากว่าจ้าวจะโดนเขาสังหารลงที่นี่!

“พลังวิญญาณกลุ่มนี้อีกแล้ว ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง แต่กลับไม่เข้าร่วมรบโดยตรง เป้าหมายของพวกมันคือยืดเวลาสงครามหรือ?”

สีหน้าจอมเทพฮ่วนไฉ่หนักอึ้ง ก่อนจะตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้าทั้งหลายบุกเข้าไปเดี๋ยวนี้!” ครั้งนี้นางระเบิดพลังอีกครั้ง บุกโจมตีเต็มกำลัง

นางเองก็อยากดูว่าฝ่ายตรงข้ามจะยังมีแผนการรับมืออะไรอีก!

ขณะเดียวกัน จอมเทพขั้นสองสองคนและจอมเทพขั้นหนึ่งสุดยอดหนึ่งคนข้างจอมเทพฮ่วนไฉ่ดวงตาเป็นประกาย

“ในที่สุดก็เริ่มส่งกำลังพลแล้วหรือ?”

หญิงชราผมเขียวหัวเราะน้อยๆ

วินาทีนี้ นอกจากจอมเทพฮ่วนไฉ่แล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนที่เหลือต่างลงมือกันทั้งหมด พลังแท้จริงที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้ ด้วยพลังของอาณาจักรเทพเผ่าแสงแล้วไม่อาจรับมือ ทำได้เพียงถอยร่นไป

ในหมอกควันเลือนราง

‘โดนนางจับได้แล้วหรือ?’ จ้าวเฟิงพึมพำในใจ

ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เขาใช้กลยุทธ์ยืดเยื้อการต่อสู้เพื่อตัดกำลังศัตรู อย่างไรเสียในอาณาจักรเทพเผ่าแสง ฝ่ายตนเองก็ได้เปรียบในด้านการฟื้นฟูรักษา

แต่จอมเทพฮ่วนไฉ่มองออกแล้ว จึงส่งกำลังพลที่แข็งแกร่งออกมา

ตอนนี้ถ้าหากจ้าวเฟิงไม่ลงมือ ก็ทำได้เพียงถอยไป ถึงอย่างไรพลังโดยรวมของศัตรูก็แข็งแกร่งจนเกินไป

“ถอย!” จู่ๆ จ้าวเฟิงก็ตะโกนขึ้น

เผ่าเทพยักษ์ เผ่าแสง และร่างแยกของจ้าวเฟิงเผยอาการหวาดกลัว ล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว

“จบลงแค่นี้เท่านั้นหรือ?” จอมเทพฮ่วนไฉ่หัวเราะเสียงเบา

เดิมทีนางคิดว่าฝ่ายตรงข้ามน่าจะยังมีไพ่ไม้ตายอะไรอีก ผลลัพธ์กลายเป็นว่าร่นถอยหนีไป! “ตาม คนเดียวก็อย่าปล่อยไป!”

จอมเทพฮ่วนไฉ่รีบตะโกนสั่ง

ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพลวงตาพากันไล่ตามไป

จอมเทพฮ่วนไฉ่อยู่รั้งท้ายกลุ่มโดยตลอด สังเกตสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมด และรับมือเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

พรึ่บ พรึ่บ~

พวกซินอู๋เหิน ยอดผู้อาวุโส และจอมเทพเฉิงอวิ๋นถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว และตรงดิ่งเข้าไปในกลุ่มหมอกควันที่หนาแน่น คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพลวงตาไล่ตามสังหารอยู่ด้านหลัง

“ให้ข้าเอง!” ตอนนี้เอง จู่ๆ จ้าวเฟิงก็พุ่งออกมา

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกำลังคนที่ทรงพลังของศัตรู มีเพียงสองวิธีเท่านั้น ไม่เขาลงมือก็ถอยหนีไป

แต่จ้าวเฟิงจะหนีได้อย่างไร นี่เป็นแค่แผนล่อศัตรูเท่านั้น ตัวเลือกจริงๆ ของเขาก็คือ…ลงมือ!

การลงมือของจ้าวเฟิงจะต้องทำโดยที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งรับไม่ทัน และในวินาทีที่ลงมือนั้นจะต้องทำร้ายฝ่ายตรงข้ามอย่างหนัก จนความต่างด้านพลังของทั้งสองฝ่ายลดลง

ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงไม่อาจเก็บงำพลังเอาไว้ได้อีก

“เปลี่ยนมายา!” พลังดั้งเดิมทะลักออกจากดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงอย่างบ้าคลั่ง หมอกแสงมายาชั้นแล้วชั้นเล่าหมุนวนออกมาก่อนจะหลอมรวมเข้าไปในอากาศ

“เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า จ้าวเฟิง!” พวกชายประหลาดและจอมเทพฮ่วนไฉ่ร้องอุทานด้วยความตกใจในทันที

เป้าหมายคราวนี้ของพวกเขาก็คือเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า และยามนี้เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าก็ปรากฏขึ้นแล้ว แต่การปรากฏกายนี้กะทันหันจนเกินไป

“รีบถอยเร็ว!” จอมเทพฮ่วนไฉ่สังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล ร้องตะโกนออกมาทันใด แต่ทั้งหมดนี้สายเกินไปแล้ว

วู้ม~ ในระยะหนึ่งรอบตัวจ้าวเฟิงค่อยๆ ถูกบดบังด้วยสีสันมายา

วินาทีนี้สภาวะในแต่ละด้านของจิตวิญญาณของทุกคนพลันลดลง ในจิตใจของพวกเขายังเกิดความรู้สึกอันตรายที่แปลกประหลาดด้วย

พวกเผ่าแสงและเผ่าเทพยักษ์ข้างจ้าวเฟิงก็มีความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน

“ทำลาย!” จ้าวเฟิงยื่นมือออกมา ในเวลาเดียวกันพลังความคิดก็โคจร ความปรารถนาอันแรงกล้าบังเกิดขึ้น พลังประหลาดกลุ่มหนึ่งเผยขึ้นในฟ้าดินโดยพลัน

ฟิ้ว~ ตรงหน้า จอมเทพขั้นหนึ่งผู้หนึ่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพลวงตาร่างสลายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ในเวลาเดียวกัน ข้างกายเขาก็มีจอมเทพขั้นสองผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้นอย่างเลือนราง

“ไม่!” จอมเทพขั้นสองผู้นี้ต่อต้านสุดแรง แต่ที่สุดแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร

พรึ่บ! ร่างของเขาก็อันตรธานหายไปในอากาศเช่นกัน!

จากนั้น ครึ่งก้าวสู่จอมเทพและเทพโบราณหลายคนข้างกายเขาล้วนหายไปกะทันหันราวฟองน้ำ

เปลี่ยนมายาของจ้าวเฟิงเป็นวิชาด้านอาณาเขต เพื่อจะปลดปล่อยพลังให้ได้ผลดีที่สุดในระยะเวลาอันสั้น เขาถึงได้ให้สมาชิกฝั่งตนถอยหนีไปก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ ในครรลองสายตาด้านหน้าจึงเหลือแค่สมาชิกฝั่งศัตรูแล้ว และการถอยของพวกเขาก็ทำให้ศัตรูคลายความระแวดระวังลงไปด้วย

“นี่มัน…เรื่องอะไรกัน?”

ภาพเหตุการณ์ที่น่ากลัวนี้ทำให้พวกแดนศักดิ์สิทธิ์ใจเต้นระรัว เสียวสันหลังวาบ

ฉับพลันนั้น สมาชิกในระดับต่ำกว่าขั้นจอมเทพฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ล้มตายและบาดเจ็บไปมากกว่าครึ่ง จอมเทพขั้นหนึ่งตายไปสองคน จอมเทพขั้นสองตายไปคนหนึ่ง

“นี่หรือคือพลังของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า?” น้ำเสียงชายประหลาดสั่นเครือ และจู่ๆ เขาก็ค้นพบว่าร่างกายของตนเองก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด ค่อยๆ พร่าเลือนขึ้นเช่นกัน

“แย่ล่ะ!” ชายประหลาดรีบเผาผลาญสายเลือดและถอยร่นไปด้านหลัง

“หยุดเดี๋ยวนี้!” ในเวลาเดียวกัน จอมเทพฮ่วนไฉ่ที่อยู่ด้านหลังก็ทะยานออกมาทันใด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version