Skip to content

King of Gods 1532

King Of Gods

บทที่ 1532 เผ่าเทพมาร

“พวกท่านไม่ต้องลงมือ ให้ข้ารับมือคนเดียว!” จ้าวเฟิงพูดเสียงเรียบ

“อะไรนะ?” จอมเทพแดนศักดิ์สิทธิ์สีหน้าตื่นตะลึง ปากแทบจะอ้าค้างถึงพื้น

จ้าวเฟิงจะอวดดีเกินไปหน่อยแล้วกระมัง คนที่พวกเขาสองคนยังจัดการไม่ได้ จ้าวเฟิงกลับบอกว่าจะจัดการเองคนเดียว นี่กำลังดูถูกพวกเขาสองคนงั้นรึ?

“ตอนนี้ชัยชนะของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตสำคัญที่สุด!” จ้าวเฟิงเอ่ยปากอีกครั้ง

จอมเทพขั้นสามทั้งสองขบคิดอยู่ชั่วขณะ สุดท้ายจึงพยักหน้า

สถานการณ์ในตอนนี้ ต่อให้พวกจ้าวเฟิงเข้าช่วยเหลือ แดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่หากจ้าวเฟิงสามารถตรึงกำลังผู้อาวุโสอู่ได้ พวกเขาสองคนที่เป็นจอมเทพขั้นสามก็จะสามารถแบ่งเบาความกดดันที่เหลือบนสนามรบ และพลิกสถานการณ์ขั้นต่อไปได้

ตอนนี้จอมเทพขั้นสามคือกำลังรบชั้นยอด หากจู่ๆ มีจอมเทพขั้นสามสองคนปรากฏตัวขึ้นจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทั้งหมดสูงมาก

“เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย!”

ผู้อาวุโสผมเขียวที่เป็นหนึ่งในนั้นเอ่ยเตือน จากนั้นทั้งสองก็ค่อยๆ ถอยไป

ทูตสวรรค์อู่และจ้าวเฟิงประจันหน้ากันจากไกลๆ บริเวณหลายหมื่นลี้รอบกายคนทั้งสองไร้ซึ่งผู้คน

“ข้าแซ่อู่ต้องนับถือในความกล้าหาญของเจ้าที่กล้าเผชิญหน้ากับข้าเพียงลำพัง!”ทูตสวรรค์อู่เผยรอยยิ้มน่าขนลุก

จ้าวเฟิงไม่พูดอะไร แต่กลับเปี่ยมล้นไปด้วยจิตกระหายต่อสู้

ทูตสวรรค์ฉางถูกเขาสังหารไปสองครั้ง ทูตสวรรค์ลี่และเป่ยหมิงฮุยก็ถูกเขาสังหารเช่นกัน

ตอนนี้ทูตสวรรค์ทั่วไปไม่สามารถดึงความสนใจจากจ้าวเฟิงได้แล้ว

เขาต้องการการต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ ไปถึงกระทั่งการต่อสู้ที่สร้างความกดดันให้กับเขา เช่นนี้ถึงจะกระตุ้นศักยภาพของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าได้

ในเมื่อจ้าวเฟิงไปถึงขั้นสองสุดยอดแล้ว การสำแดงพลังของเนตรเทพเจ้าได้เต็มศักยภาพก็อยู่อีกไม่ไกล!

“เจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนต่อความอวดดีของตัวเจ้าอย่างมหาศาล!”

สีหน้าของทูตสวรรค์อู่เย็นเยียบสุดขีดทันใด จิตสังหารชั่วร้ายไร้รูปร่างปลดปล่อยออกมา ทำเอาทั่วทั้งฟ้าดินมืดสลัว

ครืน!

กลิ่นอายสายเลือดเก่าแก่ทรงพลังพร้อมด้วยกลิ่นอายพลังชั่วร้ายเหี้ยมโหดแผ่ออกมาจากในกายของเขา ยิ่งสำแดงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พลังสายเลือดกลุ่มนั้นพร้อมด้วยกระแสอากาศม่วงดำพวยพุ่งขึ้นฟ้า ทำให้ท้องนภาสั่นไหว

วู้ม วู้ม!

กลิ่นอายสายเลือดและกระแสอากาศม่วงดำโอบล้อมร่างของทูตสวรรค์อู่ไว้

ในขณะเดียวกัน ร่าง ผิว และรูปลักษณ์ของทูตสวรรค์อู่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับกระแสอากาศกลุ่มนี้

“เกิดอะไรขึ้น!”

ทุกคนที่อยู่ในรัศมีหลายแสนลี้ต่างถูกอำนาจพลังสายเลือดกลุ่มนี้สยบ เลือดในกายสั่นสะท้านไม่หยุด โคจรไม่ได้

ความหวาดกลัวจากหัวใจเกิดขึ้นในส่วนลึกของสายเลือดพวกเขา

ฝั่งพวกฝืนชะตาฟ้า สีหน้าของทูตสวรรค์ทั้งหลายอึ้งตะลึง

“ทูตสวรรค์อู่จะเอาจริงแล้ว!”

ทูตสวรรค์อู่สามารถเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดได้ เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะในตอนแรกเขาผสานสายเลือดที่แข็งแกร่งชนิดนี้เข้าไปพอดี

“ช่างเป็นพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งนัก!” จ้าวเฟิงเคร่งเครียด สีหน้าหนักอึ้ง

เสี้ยวขณะนี้ พลังบริสุทธิ์ในกายของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย ลูกทรงกลมมายาสีเงินในมิติเนตรเทพเจ้าก็สั่นเทาไม่หยุด

ในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต

ราชาเทพหวาเฟิงและนายเหนือหัวเนตรชีวิตใจสั่นแทนจ้าวเฟิง

“พลังสายเลือดชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ทรงอำนาจนี่ น่าจะเป็น…เผ่าเทพมารที่อยู่ในอันดับสี่ของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!” ราชาเทพหวาเฟิงใจหนักอึ้ง

เผ่าเทพมารที่อยู่ในอันดับสี่ของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัวยิ่งนัก เป็นเผ่ามารร้ายที่มีกายเทพมารเช่นเดียวกัน

ว่ากันว่าในยุคบรรพกาล เผ่าพันธุ์นี้ท้าทายเผ่าบรรพกาลซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของรายชื่อหลายต่อหลายครั้ง เพียงแต่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ทุกครั้งไป ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เผ่าเทพมารที่อยู่ในอันดับสี่ของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ต่อสู้ได้แข็งแกร่งที่สุดรองจากเผ่าบรรพกาลอย่างแน่นอน

“เผ่าเทพมารงั้นรึ?” จ้าวเฟิงนึกถึงสายเลือดที่อยู่ในอันดับสี่นี้

“ข้าที่มีสายเลือดเผ่าเทพมารพอสูสีกับเจ้าที่สำแดงเนตรเทพเจ้าได้ไม่เต็มศักยภาพ แต่จากความแตกต่างของระดับพลังฝึกตน เจ้าจะต้องพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของข้าแน่!”

สีหน้าของทูตสวรรค์อู่เรียบนิ่ง กายเทพมารม่วงดำสูงใหญ่ปล่อยพลังมารชั่วร้ายบ้าอำนาจออกมาสยบทั่วทุกทิศ

“เช่นนั้นก็ลองดู!”

จิตกระหายต่อสู้ในใจจ้าวเฟิงลุกโชน รู้สึกได้ถึงความกดดันมหาศาลกลุ่มนี้

ในตอนแรก จ้าวเฟิงพบกับอวี่เหิงที่มีสายเลือดเผ่าบรรพกาล เนตรเทพเจ้าก็แปรสภาพจากการกระตุ้นของอีกฝ่าย

ครั้งนี้ สายเลือดเทพมารของทูตสวรรค์อู่ก็น่าจะมีผลกับเนตรเทพเจ้าในระดับหนึ่งเช่นกัน

“ฮ่าๆ!” ทูตสวรรค์อู่หัวเราะเหี้ยมเกรียม

ทุกการเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้แผ่กระจายกลิ่นอายสายมารที่ทรงพลังออกมา ราวกับเทพมารชั้นยอด ต่างกับความสงบนิ่งธรรมดาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

“ฝ่ามือมารสวรรค์!” ทูตสวรรค์อู่ลงมือทันที มือขวาหลอมรวมลำแสงสีดำม่วงกลุ่มหนึ่งขึ้นแล้วพลันซัดออกไป

ครืน!

เงาฝ่ามือม่วงดำที่แผ่ระลอกไปทุกที่มีปราณมารพลุ่งพล่าน พลังแข็งแกร่งไร้เทียมทาน พุ่งผ่านท้องฟ้าว่างเปล่าโจมตีไปยังจ้าวเฟิง

เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ จ้าวเฟิงพลิกฝ่ามือ ชิ้นส่วนอาวุธเหล็กมืดหม่นก็ปรากฏขึ้นด้านบน

นี่ก็คือเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทพลังบริสุทธิ์นั่นเอง จ้าวเฟิงไม่ได้ใช้มันในการต่อสู้กับทูตสวรรค์ลี่และทูตสวรรค์ฉางก่อนหน้านี้ เพราะพวกเขาไม่มีค่าถึงขั้นให้ต้องใช้

มือถือเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน พลังบริสุทธิ์และพลังอัสนีเทวะทะลักล้นออกมา ก่อร่างเป็นกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์ที่ใหญ่มหึมาเล่มหนึ่ง

ครืน ตูม~

ทั้งสองฝั่งปะทะกันอย่างรุนแรง พลังที่น่าหวาดเกรงเข้าโรมรันซึ่งกันและกัน

พายุอัสนีม่วงดำหอบม้วนไปทั่วทุกทิศสะเทือนไปทั้งดินฟ้า

“พลังแข็งแกร่งยิ่งนัก!”

มือทั้งสองของจ้าวเฟิงจับกระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์ไว้แน่น ยังคงรู้สึกเหนื่อยล้าเช่นเดิม

หากไม่มีพลังบริสุทธิ์และพลังอัสนีเทวะ เกรงว่าตนคงไม่มีแม้แต่พลังที่จะสู้กับทูตสวรรค์อู่อย่างซึ่งหน้าด้วยซ้ำ

“ฮ่าๆ ไม่เลวเลย ไม่ใช้พลังเนตรเทพเจ้าก็ยังสามารถต้านทานข้าได้!”

ทูตสวรรค์อู่หัวเราะดังลั่น ท่าทางทรงอำนาจ

“ไป!” จ้าวเฟิงกระตุ้นชุดคลุมมิติ โคจรเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมิติทั้งสองชิ้นและเศษเสี้ยวอาวุธประเภทเวลาที่อยู่ในนั้น

เคร้ง ฉัวะ~ คมสีเงินใหญ่มหึมาฟันลงไปยังฝ่ามือเทพมารม่วงดำ

ในขณะเดียวกัน กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์ก็ปลดปล่อยพลังฟาดฟันมันจนเป็นชิ้นๆ

จ้าวเฟิงพลันขับเคลื่อนคุณสมบัติสูบกินของพลังบริสุทธิ์ ดูดซับพลังของเผ่าเทพมารมา

ฟิ้ว! คมสีเงินสายนั้นทะลุผ่านท้องฟ้า ฟันฉับไปยังทูตสวรรค์อู่

“หึ!” ทูตสวรรค์อู่แค่นเสียงเย็น ปล่อยพลังสายมารองอาจทรงพลังออกมา หมอกแสงม่วงดำบิดม้วนพริ้วไหวบนร่างของเขา

ในยามที่คมสีเงินฟาดฟันมาถึงก็ถูกทำลายโดยพลังที่แข็งแกร่งกลุ่มนั้น อานุภาพค่อยๆ อ่อนกำลังลง

ครืน ฉัวะ!

คมดาบสีเงินที่เปล่งประกายหม่นแสงลงแล้วฟันเข้าไปในกายของทูตสวรรค์อู่ แต่หลังจากฟันทะลวงไม่หยุดยั้ง พลังของคมดาบสีเงินก็อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว และสลายหายไปในที่สุด ส่วนบาดแผลบนร่างของเขา ไม่ถึงชั่วอึดใจก็สมานตัวกันดี

“ถึงแม้กายเทพมารของเผ่าเทพมารจะเทียบกับเผ่าบรรพกาลไม่ได้ แต่ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน!” ทูตสวรรค์อู่หัวเราะลั่น

การโจมตีและการป้องกันไร้เทียมทาน จ้าวเฟิงทำอะไรศัตรูไม่ได้เลย

ฟิ้ว! ผืนฟ้าใต้เท้าทูตสวรรค์อู่บิดม้วนโดยพลัน พร้อมส่งเสียงอื้ออึง ร่างของเขาพุ่งเข้าประชิดจ้าวเฟิงอย่างว่องไว

แน่นอนว่าจ้าวเฟิงก็ไม่โง่ถึงขั้นต้านทานกับทูตสวรรค์ที่มีกายเทพมาร เขากระตุ้นกฎเกณฑ์มิติ โบยบินหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่กะพริบหลบหนี กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์ในมือจ้าวเฟิงก็ตวัดฟันออกไปอีกครั้ง

ครืน ตูม!

กระบี่ครั้งนี้ฟันไปยังร่างที่ราวกับเงามารสีดำม่วงของทูตสวรรค์อู่ ทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่ ที่ไหล่มีบาดแผลปรากฏขึ้น

“พลังแข็งแกร่งขึ้น? ดูดซับ ‘พลังเงามาร’ ของข้าไปแล้ว?”

สีหน้าของทูตสวรรค์อู่เคร่งขรึมลงทันที กระแสอากาศม่วงดำพุ่งออกมาจากบาดแผลบนไหล่ของเขา จากนั้นแผลจึงสมานตัวอย่างช้าๆ

เรื่องนี้ไม่สำคัญ ต่อให้การโจมตีของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง แต่มาเผชิญหน้ากับเขาที่เป็นกายเทพมารก็ไร้ประโยชน์

“ฝ่ามือมารสวรรค์!”

ทูตสวรรค์อู่ควบรวมพลังมารมืดทะมึน ซัดฝ่ามือมหึมาสีม่วงดำที่แข็งแกร่งทรงพลังและสยบฟ้าออกไปอีกครั้ง

“เขตแดนพลังบริสุทธิ์!” จ้าวเฟิงปล่อยพลังบริสุทธิ์มหาศาลออกมา ฟ้าดินกลายเป็นโลกที่มืดหม่นปั่นป่วนทันที

ในยามที่ฝ่ามือมารสวรรค์โจมตีมา จ้าวเฟิงก็ใช้พลังของเขตแดนพลังบริสุทธิ์ทั้งหมดต้านทานเอาไว้

ครืน ตูม เปรี้ยง~

การต่อสู้ของทั้งสองกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามของทั้งสนามรบ พายุพลังที่น่าสะพรึงนั้น ลำพังแค่มองก็ทำให้อกสั่นขวัญแขวนแล้ว

“เปลี่ยนมายา!” สีหน้าจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปทันใด ขับเคลื่อนพลังดั้งเดิมออกมา

ต้องเป็นฝ่ายถูกโจมตี ไม่ใช่วิถีของเขา

ทันใดนั้น สีสันมายาพร่างพรายชั้นหนึ่งก็ค่อยๆ ปกคลุมภายในเขตพื้นที่ต้องห้าม

ฝ่ามือเทพมารถูกลดทอนพลังลงทันที

ครืน! จ้าวเฟิงกระตุ้นกระบี่อัสนีเทวะและพลังของเขตแดนพลังบริสุทธิ์ บดขยี้มันในคราวเดียว

ในเวลาเดียวกันนี้ ทูตสวรรค์อู่ก็เป็นฝ่ายโจมตีมายังจ้าวเฟิง

ในเขตแดนของเปลี่ยนมายา ต่อให้เป็นกายเทพมารของเขาก็ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง

จ้าวเฟิงอาศัยการลดทอนพลังจากเปลี่ยนมายาและเขตแดนพลังบริสุทธิ์ เข้าปะทะกับทูตสวรรค์อู่อยู่ชั่วขณะหนึ่ง

พลังบริสุทธิ์โจมตีแข็งแกร่ง เหมาะที่จะเอามาใช้เป็นการป้องกันได้เช่นกัน รวมกับว่าจ้าวเฟิงเชี่ยวชาญด้านความเร็ว ยามสู้กับทูตสวรรค์อู่ ทั้งสองจึงฝีมือสูสีกัน

“หึ หัตถาเทพมารทมิฬ!”

ทูตสวรรค์อู่ขมวดคิ้วแน่น โคจรพลังมารที่มืดทะมึน แล้วซัดฝ่ามือออกไปทันที

เขาเองก็ค่อนข้างสงสัยเช่นกัน ถึงแม้ระดับการผสานรวมสายเลือดเผ่าเทพมารของตนจะมีเพียงแค่ห้าส่วน แต่ยามเผชิญหน้ากับเปลี่ยนมายาของจ้าวเฟิงแล้วแรงต้านทานเหมือนจะไม่แกร่งนัก รวมกับการรบกวนจากเขตแดนพลังบริสุทธิ์ เขาจึงเหมือนสู้อยู่ในบ่อโคลน เคลื่อนไหวไม่สะดวก

ด้วยเหตุนี้เขาจึงรวบรวมพลัง ปลดปล่อยการโจมตีสุดยอดออกไป

ฝ่ามือเทพมารที่มีกระแสอากาศม่วงดำโอบล้อมบดขยี้มาราวกับขุนเขายักษ์ใหญ่ สนั่นหวั่นไหวทั้งฟ้าและดิน

“ที่รออยู่ก็คือสิ่งนี้นี่แหละ!”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องเพ่งไปยังการโจมตีของทูตสวรรค์อู่ทันใด

“เนตรเทพลอกแบบ!”

หมอกแสงมายาแผ่ออกมาจากตาซ้ายจ้าวเฟิง หุ้มล้อมไปยังฝ่ามือเทพมารใหญ่ยักษ์

ต้องลอกเลียนไม้ตายของศัตรู จึงจะสามารถโจมตีศัตรูได้อย่างเห็นผล

ในขณะเดียวกับที่ลอกแบบกระบวนท่านี้จ้าวเฟิงก็โคจรพลังเขตแดนบริสุทธิ์ พยายามสกัดฝ่ามือนี้ไว้สุดกำลัง

“ไร้ประโยชน์!” ทูตสวรรค์อู่หัวเราะลั่น ท่าทีดุดันบ้าอำนาจ

ครืน ตูม!

ฝ่ามือเทพมารทำลายพลังบริสุทธิ์ที่คอยสกัดกั้นจนแหลกลาญ

แต่เสี้ยวขณะนี้เอง ระลอกคลื่นในตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็หดกลับไป เพราะการลอกแบบเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว

“เนตรเทพมายาทำลายล้าง!”

จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตาดั้งเดิมจำพวกมายาอีกครั้ง

ฝ่ามือเทพมารเบื้องหน้าค่อยๆ ถูกสีสันมายาที่เจิดจ้าพร่างพรายกว่าเดิมหุ้มล้อมไว้

เสี้ยวขณะต่อมา ฝ่ามือเทพมารสุกสว่างพร่างพรายก็เลือนหายไปทีละน้อย

“อะไรกัน? การโจมตีของข้า!”

ทูตสวรรค์อู่ตกใจมาก ถึงแม้เขาจะรู้ว่าจ้าวเฟิงมีความสามารถเช่นนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะส่งผลต่อพลังมารทมิฬของตนด้วย

“กระบี่เทพพลังบริสุทธิ์!”

แสงอัสนีแลบปลาบออกมาจากตาซ้ายของจ้าวเฟิง กระบี่อัสนีบริสุทธิ์เล่มหนึ่งพุ่งออกมาทันที

สีหน้าของทูตสวรรค์อู่หนักอึ้งเล็กน้อย ซัดฝ่ามือออกมา

“เนตรเทพลอกแบบ…หัตถาเทพมารทมิฬ!”

พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงหลุดลอยออกจากร่าง

เนตรสวรรค์สีเงินมายาปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าเบื้องหลังของทูตสวรรค์อู่

วู้ม วู้ม~

หมอกแสงมายาชั้นหนึ่งลอยอวล ฝ่ามือเทพมารมหึมาที่มีไอมารเดือดพล่านพลันซัดออกมาจากหมอกแสงมายา

“แย่แล้ว!” ทูตสวรรค์อู่หน้าถอดสีทันใด เขายื่นมืออีกข้างหนึ่ง ปลดปล่อยกระแสปั่นป่วนสีดำม่วง สร้างเป็นกำแพงที่หนาแน่นใหญ่โต

ครืน ตูม!

หัตถาเทพมารทมิฬและกระบี่เทพพลังบริสุทธิ์โจมตีไปยังร่างของทูตสวรรค์อู่จากทั้งสองด้าน

พลังมารและแสงอัสนีบริสุทธิ์ระเบิดปะทุทันที ฉีกทึ้งท้องฟ้าจนกลายเป็นรอยแยกมหึมาหลายเส้น

สมาชิกทั้งหลายในสนามรบถูกการต่อสู้ของจ้าวเฟิงและทูตสวรรค์อู่สะกดเอาไว้

“คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงจะสู้กับทูตสวรรค์อู่ได้อย่างสูสี!”

ทูตสวรรค์หลายคนที่เหลือใจสั่นสะท้าน

“สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง?”

ซินอู่เหินยิ่งเพิ่มความเป็นกังวลต่อสถานการณ์ศึก

จ้าวเฟิงจะสามารถเอาชนะทูตสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้หรือไม่?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version