บทที่ 1568 เนตรบรรพชนเทียมดวงใหม่
เจ้าสวรรค์สังหารเนตรเทพชีวิต และรับพลังของนายเหนือหัวเนตรชีวิตจากจักรวาล แต่ตอนนี้เขากลับไม่ใช่เป้าสายตาโดดเด่นที่สุดของทุกคน
อีกฟากของฟ้ามืดสลัว สีสันมายาที่ไม่อาจจำกัดความได้กระจายตัวออกช้าๆ พร้อมด้วยกลิ่นอายพลังดั้งเดิมที่ทุกคนหวาดผวา ดึงดูดความสนใจทุกคนเอาไว้
กลิ่นอายที่น่ากลัวกลุ่มนั้นอยู่เหนือกว่าเนตรเทพเจ้าในพริบตา ใกล้เคียงเนตรบรรพชนเทียมยิ่งนัก
“เป็นไปได้อย่างไร? กลิ่นอายแกร่งขนาดนี้!” นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ชะงักอยู่กับที่
ยามนี้เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์ของเขาสัมผัสได้ถึงความน่ายำเกรงอย่างลึกล้ำ
คนที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้ ก่อนนี้มีเพียงเนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์กับเนตรบรรพชนเทียมที่แปรสภาพแล้ว แต่ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง
“เป็นไปไม่ได้? ดวงตาของเขาไม่ใช่เนตรเทพเจ้าหรือ?”
นายเหนือหัวเนตรมรณะใจสั่นเล็กน้อย
ขีดจำกัดของเนตรเทพเจ้าก็คือเนตรเทพเจ้าเท่านั้น นอกเสียจากใช้วิธีการพิเศษ มิฉะนั้นพลังจะไม่อาจแข็งแกร่งขึ้น แต่เนตรเทพมายาของจ้าวเฟิงกลับทำลายขีดจำกัดของเนตรเทพเจ้า แปรสภาพด้วยตนเอง และพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น
หนำซ้ำนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทุกคนที่นี่ต่างหวาดเกรงดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงอย่างประหลาด
ในเรือรบสีเงินสว่าง
อวี่เทียนอูและหลิ่วฉินซินมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของจ้าวเฟิง หน้าเปลี่ยนสีไปไม่หยุด
“ดวงตาของเขาไม่ใช่เนตรเทพเจ้า?”
อวี่เทียนอูพึมพำอย่างตระหนก ตอนนี้มีเพียงความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น
“ถึงแม้สถานการณ์จะไม่ชัดเจนนัก แต่ทั้งหมดยังพอมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยเหลือ…”
เนตรเทพทำนายของหลิ่วฉินซินก็หวาดกลัวอย่างประหลาด สั่นระริกเล็กน้อยก่อนหน้าศึกใหญ่ นางก็ทำนายเอาไว้แล้วว่าจุดสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ที่จ้าวเฟิง
ตอนนี้คงต้องดูที่จ้าวเฟิงแล้ว
ห่างไปไกลลิบ เมื่อผู้แข็งแกร่งชั้นยอดทั้งหลายของดินแดนเทพรกร้างเห็นนายเหนือหัวเนตรชีวิตถูกสังหารแล้ว ก็คิดว่าทั้งหมดจะจบลงเช่นนี้ แต่ความผิดปกติของจ้าวเฟิงจุดประกายความหวังในใจพวกเขา
สีสันพร่างพราวตระการตานั้นคือความอบอุ่นภายในโลกที่จืดชืดหมองหม่น เย็นเยียบหนักอึ้งแห่งนี้ ชวนให้คนเฝ้าปรารถนา อยากจะเข้าไปใกล้ๆ
เจ้าสวรรค์ที่กำลังรับ ‘พลังของนายเหนือหัวเนตรชีวิต’ อยู่เบิกตาทั้งสามออกกว้าง เคร่งเครียดเกินบรรยาย
“ดวงตาของเจ้าเด็กนี่…” สีหน้าเจ้าสวรรค์โหดเหี้ยมมืดทะมึน
เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าพลังของจ้าวเฟิงอยู่เหนือเนตรเทพเจ้าไปแล้ว และเกือบจะถึงระดับเนตรบรรพชนเทียม
เรื่องนี้อยู่เหนือกว่าความรู้ความเข้าใจใดๆ แล้ว
อีกอย่าง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเนตรบรรพชนเทียมวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์ถึงพลันเต้นกระตุกขึ้น พลังดั้งเดิมวิถีฟ้าภายในนั้นปั่นป่วนบ้าคลั่ง เหมือนเป็นปฏิปักษ์กับเนตรเทพเจ้าของจ้าวเฟิงอย่างยิ่ง!
และอารมณ์ของเจ้าสวรรค์ก็ได้รับผลด้วย ความแค้นที่มีต่อจ้าวเฟิงเหนือกว่าที่ผ่านมา
“ตาย!” ดวงตาทั้งสามของเจ้าสวรรค์จ้องจ้าวเฟิงเขม็ง จิตสังหารลุกโชน
โครม!
เนตรบรรพชนเทียมวิถีฟ้าตรงหว่างคิ้วเขาสาดซัดกลิ่นอายเขย่าขวัญออกมา ลำแสงเทพสีเทาอ่อนสายหนึ่งพุ่งออกไปทันที มันเย็นชาไร้ความรู้สึก ลงทัณฑ์ทุกสิ่ง
“จ้าวเฟิง ระวัง!”
นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ตะโกนขึ้นทันใด
การโจมตีจากเนตรบรรพชนเทียม ถึงพวกเขาหลายคนร่วมมือกันก็ยังยากจะขวางเอาไว้ได้ นอกเสียจากว่าจะใช้วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง
พลังของเนตรบรรพชนเทียมวิถีฟ้าแข็งแกร่งเกินไป สามารถข่มพลังกฎเกณฑ์ใดๆ ในโลกได้ทั้งนั้น
นอกจากกฎเกณฑ์ขั้นบริบูรณ์แล้ว พลังกฎเกณฑ์อื่นๆ ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ต่อหน้าพลังวิถีฟ้าได้เลย
“แย่แล้ว!” จ้าวเฟิงสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ แต่เขาในตอนนี้ยากจะโคจรพลังในร่าง จึงไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีนี้
“ถอย…ถอยไป!” ในหัวเขามีความคิดนี้เพียงอย่างเดียว
หากไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ เขาจะต้องตายแน่ อะไรอย่างอื่นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว แต่เพราะมีเนตรเทพมายา จ้าวเฟิงในตอนนี้จึงทำได้เพียงรวมพลังบางส่วน แต่พลังนี้ส่งผลน้อยนิด ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ เมื่อโดนกดดันจากวิถีฟ้า
ตอนนี้ แสงเทพสีเทาอ่อนสายหนึ่งกำลังกวาดผ่านอย่างไร้ปรานี
วูบ~ แสงเทพสีเทาอ่อนสายนั้นกวาดผ่านไป
แต่สิ่งที่น่าประหลาดคือไม่โดนจ้าวเฟิง
“หืม?” จ้าวเฟิงที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงในลำคอ
เมื่อครู่ร่างกายเขาถอยไปด้านหลังหลายพันลี้ในพริบตาอย่างไร้สาเหตุ ด้วยเหตุนี้จึงหลบการโจมตีของเจ้าสวรรค์ได้
ทว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาในชั่วพริบตา ภายใต้พลังวิถีฟ้าระดับเนตรบรรพชนเทียม ต่อให้เป็นกฎเกณฑ์มิติบริบูรณ์ก็ใช้พลังเคลื่อนย้ายในพริบตาได้ยาก
และเวลานี้เอง ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงค่อยๆ มีความรู้สึกกลับมา ก่อนนี้เขาไม่รู้สึกถึงตัวตนของดวงตาซ้ายด้วยซ้ำ
กระแสคลื่นมายานับไม่ถ้วนรอบตัวค่อยๆ กลับคืนสู่ตาซ้ายของจ้าวเฟิง
“หรือว่าจะเป็นเนตรเทพมายา?” จ้าวเฟิงตระหนักได้ถึงเรื่องนี้
บางทีเมื่อครู่เขาอาจใช้พลังของแปรฝันให้เป็นจริง มีเพียงวิธีนี้ถึงจะอธิบายถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมเขาจึงมาโผล่อีกสถานที่หนึ่งได้อย่างไร้ร่องรอยและไร้สัญญาณใด
หนำซ้ำหลังจากนี้ จ้าวเฟิงก็สัมผัสดวงตาซ้ายได้ชัดเจนขึ้นทุกที จนสามารถกระตุ้นดวงตาซ้ายได้แล้ว…
“ยังไม่ตายอีก?” เจ้าสวรรค์ขมวดคิ้วมุ่น
สามารถหลบหลีกการโจมตีของเนตรบรรพชนเทียมได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ต่อให้เป็นพลังของหกเนตรเทพเจ้ารวมเป็นหนึ่งก็ยังยากจะทำได้เช่นนี้
“ข้าจะสังหารเจ้าเสีย เจ้าต้องตาย!” เจ้าสวรรค์แค่นเสียงต่ำ บันดาลโทสะทันใด
โครม~ แสงสีเทาอ่อนที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังพุ่งออกมาจากเนตรบรรพชนเทียมวิถีฟ้าของเขา
คราวนี้ อาณาเขตโจมตีของเจ้าสวรรค์กว้างมากขึ้น แรงกดดันที่มีต่อกฎเกณฑ์อื่นๆ รุนแรงยิ่งขึ้น ถึงจะเป็นกฎเกณฑ์บริบูรณ์ก็ยังยากจะสำแดงพลังที่แข็งแกร่งมากออกมา!
“ไปได้!” สีหน้าจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากระตุ้นเนตรเทพมายา
วู้ม~ ทั้งตัวเขาปรากฏแสงมายาชั้นหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ อ่อนแสงลง ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาอันสั้นเท่านั้น
พรึ่บ~
จ้าวเฟิงไปปรากฏตัวในที่ไกลออกไปแสนลี้โดยไร้วี่แววใดๆ หลุดออกจากขอบเขตการโจมตีของเจ้าสวรรค์
“นี่มันพลังอะไร? ไม่โดนพลังวิถีฟ้าของข้าควบคุมเลยหรือ?” สีหน้าเจ้าสวรรค์ตื่นตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะเคร่งขรึมลงทันที
พลังวิถีฟ้าสามารถข่มพลังทุกประเภทในฟ้าดิน แต่ทำไมกลับข่มพลังของจ้าวเฟิงไม่ได้?
นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าที่เหลือเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ต่างก็ตื่นตระหนกสะพรึงขวัญ
ก่อนที่เนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์จะเปลี่ยนเป็นเนตรบรรพชนเทียม พวกเขายังพอรับมือได้ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นเนตรบรรพชนเทียมแล้ว นอกจากเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งก็ไม่มีวิธีอื่นอีก แต่ตอนนี้จ้าวเฟิงเพียงคนเดียวก็สามารถรับมือกับเจ้าสวรรค์ได้แล้ว
“รนหาที่ตาย!” เจ้าสวรรค์ขมวดคิ้ว เกรี้ยวกราดไม่น้อย
ในตอนนี้เขาดูดซึมพลังของนายเหนือหัวเนตรชีวิตไปจนหมด ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็กำลังเยียวยาเขาอย่างรวดเร็ว
ฟิ้ว! ร่างเจ้าสวรรค์ขยับไหววูบ เข้าไปประชิดตัวจ้าวเฟิง
คราวนี้เจ้าสวรรค์ตั้งอกตั้งใจ จู่โจมจ้าวเฟิงด้วยตนเอง
“ระวัง จ้าวเฟิง…” นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์อุทานอย่างอดไม่ได้ เนตรเทพเจ้าทั้งหลายก็เกือบจะโผออกไป
“ตายซะ!” เจ้าสวรรค์ผลักหมัดขวาออกมา แสงสีเงินสายหนึ่งหอบเอาพลังที่ไม่สิ้นสุดพุ่งทะลวงไป
“ไป!” จ้าวเฟิงโคจรเนตรเทพมายา สำแดงพลังแปรฝันให้เป็นจริง เล็งเป้าหมายไปที่จุดใดจุดหนึ่ง
ฟิ้ว! ร่างของเขาถูกเกราะแสงมายาชั้นหนึ่งปกคลุมเอาไว้ ก่อนจะอันตรธานไปในชั่วขณะต่อมา และไปปรากฏตัวอีกที่หนึ่งแทน
“ไม่ใช่เคลื่อนย้ายมิตินี่!” เจ้าสวรรค์ที่อยู่ค่อนข้างใกล้กับจ้าวเฟิงแน่ใจได้ว่าวิธีการเคลื่อนย้ายในพริบตาของจ้าวเฟิงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกฎเกณฑ์มิติ
แต่ไม่ใช้กฎเกณฑ์มิติ ทำไมถึงสามารถเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปโผล่อีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าพลังวิถีฟ้าเป็นข้อยกเว้น
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!” เนตรบรรพชนเทียมของเจ้าสวรรค์หมุนโคจร
ฟิ้ว! ร่างเจ้าสวรรค์อับแสงลงทันที ก่อนจะอันตรธานหายไป
พริบตาต่อมา เจ้าสวรรค์ก็มาปรากฏตัวข้างกายจ้าวเฟิง
“ไป!” จ้าวเฟิงตกตะลึง เขารีบหนีไปอีกครั้ง
ทว่าเจ้าสวรรค์กัดจ้าวเฟิงไม่ปล่อย ไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย
ฟิ้ว ฟิ้ว… ในอากาศที่กว้างใหญ่ เงาคนสองร่างขยับไหววูบกลับไปมา
ความสามารถในการเดินทางไปไหนก็ได้โดยไม่ใช้กฎเกณฑ์มิติ นับว่าอยู่เหนือความคาดหมายจริงๆ หากเปลี่ยนเป็นมือสังหารแล้วมีความสามารถเช่นนี้ คงไม่มีทางทำภารกิจลอบสังหารล้มเหลวแน่นอน
“แข็งแกร่งนัก!” จ้าวเฟิงไม่กล้าประมาท เขาหนีไปไม่หยุด ตอนนี้เขาทำได้เพียงใช้ความสามารถเช่นนี้รักษาชีวิตเอาไว้
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เจ้าสวรรค์จึงยิ่งแค้นจ้าวเฟิงมากขึ้นทุกที เหมือนคนทั้งสองมีความแค้นมากมายจนเจ้าสวรรค์ไม่แยแสห้าเนตรเทพเจ้า
แน่นอนว่าความสามารถของเจ้าสวรรค์ในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมา จะสังหารห้าเนตรเทพเจ้าก็ง่ายดายมาก แต่ก่อนหน้านั้น เขาอยากจะสังหารจ้าวเฟิงมากกว่า
ฟิ้ว ฟิ้ว… แต่เจ้าสวรรค์ไม่หนทางใดเลยที่จะขัดขวางพลังเคลื่อนย้ายของจ้าวเฟิงได้ และก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าด้วยเช่นกัน
“ถล่มฟ้าทลายดิน!”
เจ้าสวรรค์ตะโกนเสียงดังขณะแหงนมองฟ้า สาดซัดพลังที่อยู่เหนือสรรพสิ่งนับหมื่น พุ่งขึ้นไปบนผืนฟ้าที่ไร้จุดสิ้นสุด
โครม ตูม!
อากาศในรัศมีหลายล้านลี้สั่นสะเทือน และส่งดังกัมปนาทดุเดือดขึ้นไปทุกที
วินาทีต่อมา ภายในมิติแห่งนี้ก็ระเบิดพลังทำลายล้างนับไม่ถ้วนปะทุออกมา ทั้งพายุ สายลม สายฟ้า เพลิง ก้อนหินสีทองตลบเต็มทุกพื้นที่…
เมื่อทอดสายตามองออกไป เหมือนโลกถล่มทลายลงไปแล้ว
ดีที่คนอื่นที่เหลืออยู่ค่อนข้างไกลจากพวกเขาสองคน มิฉะนั้นคนผู้นี้คงต้องรับเคราะห์นี้
“ข้ารอดูว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้!” เจ้าสวรรค์แค่นเสียงต่ำรีบตามจ้าวเฟิงไปติดๆ
ในวินาทีนี้จ้าวเฟิงไม่มีทางให้หนี ทุกที่ล้วนแต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่ากลัว จนสามารถทำลายพลังของนายเหนือหัวลงได้อย่างง่ายดาย
ถูกต้องแล้ว ตอนนี้จ้าวเฟิงรู้สึกได้ถึงอันตรายรุนแรง
พลังทำลายทั่วทิศ หนำซ้ำตนเองยังถูกเจ้าสวรรค์ไล่ล่าสังหาร และในแทบจะพริบตาต่อมา จ้าวเฟิงก็จะตาย
“มิติมายา!” จ้าวเฟิงกระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้า สร้างมิติห้วงฝันและสำแดงออกมา
ฟิ้ว! ภาพทิวทัศน์ที่สวยงามนั้นทับซ้อนกับฟ้าดินทั้งหมดโดยมีจ้าวเฟิงเป็นจุดศูนย์กลาง
ในอาณาเขตห้วงฝันของตนเอง พลังของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ถึงกระทั่งพลังของเนตรเทพมายาค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น จนกลายเป็นระดับขั้นเนตรบรรพชนเทียม
“หายไปเสีย…” จ้าวเฟิงโคจรพลังความคิด กวาดผ่านทุกอันตรายทั้งหมดในอาณาเขตห้วงฝัน
ชั่วขณะต่อมา วารี อัคคี อัสนี และวายุที่ไม่สิ้นสุด จู่ๆ ก็นิ่งสงบลง และพลังก็อ่อนแอลงช้าๆ
“อะไรนะ?” สีหน้าเจ้าสวรรค์ตื่นตะลึง
ด้วยความสามารถของจ้าวเฟิง คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้กระบวนท่านี้ของเขาไม่มีผลใดๆ?
“ลองรับกระบี่ข้าแล้วกัน!” ใบหน้าจ้าวเฟิงเย็นชา พลังอัสนีเทวะบริสุทธิ์ทะลักออกมา เกาะกลุ่มกันเป็นกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์เล่มหนึ่ง
เขาไม่ใช่คนประเภทที่ถูกโจมตีแล้วไม่เอาคืน หนำซ้ำจ้าวเฟิงค่อยๆ นึกย้อนความรู้สึก และใช้เนตรเทพมายาใช้ตามอำเภอใจ พอจะคาดเดาพลังที่แท้จริงของเนตรเทพมายาได้ ที่แท้ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังของเนตรเทพมายาออกมาทั้งหมด ไม่ใช่ปัญหาของเขาแต่เป็นเพราะเนตรเทพมายาไม่ได้มีขีดจำกัดต่างหาก!
ตอนนี้จ้าวเฟิงเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า เขาสามารถใช้พลังของเนตรเทพมายาในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“แข็งแกร่งอีก…แข็งแกร่งอีก…” จ้าวเฟิงโคจรมายาเนตรบรรพชนเทียม จ้องไปที่กระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์เล่มนั้น
ฟิ้ว~ ด้านบนนั้นปรากฏระลอกสีสันมายาชั้นหนึ่ง ทันใดนั้นเองกระบี่ยาวก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว พลานุภาพของพลังบริสุทธิ์และพลังอัสนีเทวะก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว กลายเป็นกระบี่ขนาดใหญ่ค้ำฟ้าดิ่งลงมา
ถึงแม้พลังบริสุทธิ์และอัสนีเทวะ จะด้อยกว่าพลังวิถีฟ้ามาก
แต่พลังที่แฝงอยู่ภายในกระบี่อัสนีเทวะบริสุทธิ์เล่มนี้ของจ้าวเฟิงอยู่เหนือกว่าที่คาดคิดเอาไว้มากนัก
ในตอนที่พลังไปถึงขีดจำกัดก็อยู่เหนือตรรกะใดๆ สามารถทำลายล้างแกนกลางที่สำคัญได้!
โครม~ ทั้งฟ้าดินสั่นไหว พลังบริสุทธิ์และอัสนีเทวะกระจายตัวออกมา