Skip to content

King of Gods 410

King Of Gods

บทที่ 410 : แลกเปลี่ยน

ในยามนี้

จ้าวเฟิงเผชิญหน้ากับกองกำลังของตำหนักผาดำเพียงคนเดียวด้วยใบหน้าสบายอารมณ์

“อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเด็กนี่คิดจะปะทะกับกองกำลังของตำหนักผาดำของเรา?”

อัจฉริยะจากตำหนักผาดำเค้นเสียงเย้ยหยัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความขบขัน

ทว่าในกลุ่มคน ดรุณีบัวดำกลับเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัวหวาดหวั่น ไม่กล้าที่จะเอ่ยยั่วยุจ้าวเฟิง

“ไอ้หนู… หรือเป็นว่าเจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมตำหนักผาดำ? แต่เจ้าก็นับเป็นอัจฉริยะในศาสตร์แห่งภูตผีที่หาได้ยากผู้หนึ่งจริงๆ ข้าสามารถแนะนำเจ้าให้ได้”

นัยน์ตาของชื่อกุ้ยส่องประกายเปลวเพลิงแผ่วจาง ชายหนุ่มเลียริมฝีปาก หางตาเหลือบมองไปยังเย่หยานหยูที่อยู่ห่างออกไปสองลี้อย่างรวดเร็ว

ในระยะทางเท่านี้ ชื่อกุ้ยมั่นใจว่าเขาสามารถฆ่าจ้าวเฟิงได้ก่อนที่เย่หยานหยูจะมาทัน

ทว่าจ้าวเฟิงที่เผชิญหน้ากับคนของตำหนักผาดำกลับมีท่าทีเยือกเย็น ไร้ซึ่งความหวาดกลัว

ที่แปลกไปกว่านั้นคือเย่หยานหยูที่ฟื้นตัวอยู่ห่างออกไปก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่นี่ตั้งแต่เริ่ม ราวกับไม่สนใจถึงความปลอดภัยของเด็กหนุ่มตระกูลจ้าว

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องผิดแปลก ทำให้ชื่อกุ้ยรู้สึกประหลาดใจอยู่ในใจ

อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเย่หยานหยูไม่สนใจในชีวิตของจ้าวเฟิง?

สายตาของคนจากตำหนักผาดำสั่นระริก ปรากฏความเคลือบแคลงสงสัยว่าอีกฝ่ายจะเล่นตุกติก

ความจริงแล้ว

ความรู้สึกของชื่อกุ้ยและคนอื่นๆ ถูกต้อง เย่หยานหยูไม่สนใจจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของจ้าวเฟิงจริงๆ นางกังวลเพียงว่าการตายของจ้าวเฟิงอาจส่งผลต่อแมวขโมยตัวน้อย

สำหรับจ้าวเฟิง

เขาไม่หวาดกลัวคนของตำหนักผาดำ ขอบเขตจิตวิญญาณของเขาในยามนี้สูงถึงขั้นนายเหนือแท้ระดับต่ำ ทั้งยังมี ‘หุ่นเชิดศพพิษเงินทมิฬ’ ที่มีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับขั้นนายเหนือแท้ได้ ผู้ฝึกตนขั้นนายเหนือแท้ทั่วไปไม่อาจนับเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

“มาแลกเปลี่ยนกัน”

สีหน้าของจ้าวเฟิงแทบไม่ปรากฏความรู้สึก เอ่ยยื่นข้อเสนอขึ้น

แลกเปลี่ยน?

บนใบหน้าของชื่อกุ้ยและคนอื่นๆ ปรากฏความตื่นตะลึงขึ้นเล็กๆ ก่อนจะเผยความเหยียดหยามออกมา

ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ จ้าวเฟิงก็ใช้ดวงตาเทพเจ้ากวาดมองคนทั้งหมดเล็กๆ

ฟุ่บ!

จิตสำนึกรับรู้ของคนจากตำหนักผาดำได้ปรากฏขึ้นในศาลาแสนธรรมดาแห่งหนึ่งในทันที

ในศาลา

จ้าวเฟิงนั่งอยู่ฝั่งหนึ่ง ชื่อกุ้ยและคนอื่นๆ นั่งอยู่อีกฝั่ง

“ภาพมายา? พวกเราถูกดึงเข้ามาได้เช่นนี้?”

“วิชามายาของเด็กนี่ยอดเยี่ยมโดยแท้ ใช้วิธีนี้ในการพูดคุยกับพวกเรา”

อัจฉริยะจากตำหนักผาดำหลายคนค่อนข้างประหลาดใจ เกิดความประทับใจในตัวจ้าวเฟิงอย่างมาก

สีหน้าของชื่อกุ้ยแปรเปลี่ยนไปเล็กๆ รูปลักษณ์ของศาลาที่สร้างขื้นจากพลังมายาของจ้าวเฟิงนั้นค่อนข้างสมจริง ที่สำคัญไปกว่านั้นกลับสามารถครอบคลุมทุกคนไว้ได้อย่างเงียบงัน

เขาเข้าใจขึ้นในทันทีว่าเหตุใดจ้าวเฟิงจึงกล้ามาเผชิญหน้ากับพวกเขาด้วยตัวคนเดียว

ขอบเขตจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มสูงถึงขั้นนายเหนือแท้ระดับต่ำ แตกต่างกับชื่อกุ้ยไม่มากนัก

หากใช้วิชาประเภทภาพลวงตา บางทีนอกจากชื่อกุ้ยแล้ว อัจฉริยะจากตำหนักผาดำคนอื่นๆ คงไม่อาจต่อต้าน

“เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนสิ่งใด? มีสิ่งใดที่มากค่าพอจะแลกเปลี่ยนกับข้า?”

ชื่อกุ้ยเอ่ยเข้าเรื่องตรงๆ

ในยามนี้ เขาไม่กล้าที่จะดูถูกจ้าวเฟิง

หากเย่หยานหยูและจ้าวเฟิงร่วมมือกันจริงๆ ไม่มีทางที่พวกเขาจะรอด

เป็นเรื่องดีที่จากที่เขาเห็น ระหว่างจ้าวเฟิงและเย่หยานหยูยังมีช่องว่างบางอย่างอยู่ ไม่ได้เชื่อมั่นใจอีกฝ่ายจริงๆ

“ข้าต้องการก้ามของแมงป่องยักษ์ ผลึกกระดูกมารหยิน แล้วก็หญ้าหมื่นศพ”

จ้าวเฟิงเอ่ยชื่อวัสดุสามอย่างออกมา

ในวัสดุทั้งสาม ‘ก้ามของแมงป่องยักษ์’ จ้าวเฟิงมั่นใจว่าตำหนักผาดำมีครอบครองอยู่

ในยามที่แบ่งศพแมงป่องยักษ์โบราณ ก้ามของแมงป่องยักษ์ได้ไปตกอยู่ในมือของตำหนักผาดำ

สำหรับผลึกกระดูกมารหยินและหญ้าหมื่นศพนั้นเด็กหนุ่มไม่แน่ใจ

“ก้ามแมงป่องยักษ์พวกข้ามีอยู่สี่ จะแลกเปลี่ยนสักหนึ่งใช่ว่าจะไม่ได้ สำหรับ ‘ผลึกกระดูกมารหยิน’ ที่สามารถเพิ่มพลังโจมตีของหุ่นเชิดศพนับเป็นของล้ำค่าหายาก ส่วนหญ้าหมื่นศพก็สามารถเพิ่มพลังฝึกตนของหุ่นเชิดศพ กระทั่งสามารถทำให้มันทะลวงขั้นได้ นับว่าเทียบเคียงได้กับ ‘เห็ดอินตู๋’ ของชิ้นนี้แม้เรามีก็จะไม่แลกเปลี่ยนกับเจ้า”

ชื่อกุ้ยอธิบายด้วยท่าทีเรียบเฉย

เขาครุ่นคิด จ้าวเฟิงต้องการของเหล่านี้ไปเพื่ออันใดกัน?

ไม่นาน

นัยน์ตาของชื่อกุ้ยก็ส่องประกายวาบ”ก้ามของแมงป่องยักษ์มาจากร่างของแมงป่องยักษ์โบราณ ความแหลมคมสูงนัก เมื่อรวมเข้ากับถุงพิษของแมงป่องยักษ์ก็จะมีพลังในการทะลุทะลวงที่ยากจะเทียบเคียง สามารถสร้างการโจมตีและพลังพิษที่รุนแรงกว่าเดิมได้ เขาต้องการก้ามของแมงป่องยักษ์ไปเสริมเขี้ยวเล็บให้กับหุ่นเชิดศพ ร่วมกับพิษของแมงป่องยักษ์…”

เขาควรค่าแล้วที่เป็นอัจฉริยะขั้นนายเหนือแท้ของตำหนักผาดำ เข้าใจความคิดของจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว

จ้าวเฟิงมีแผนเช่นนั้นอยู่จริงๆ

ใช้ก้ามของแมงป่องยักษ์เสริมความแหลมคมให้เขี้ยวเล็บของหุ่นเชิดศพ ที่สำคัญไปกว่านั้นยังทำให้พิษของแมงป่องยักษ์แสดงผลออกมาได้อย่างสมบูรณ์

“ทว่า ‘ผลึกกระดูกมารหยิน’ นั่นสามารถเพิ่มพลังโจมตีของหุ่นเชิดศพได้ มีเพียงแค่การโจมตีรุนแรงขึ้นจึงจะสามารถตัดผ่านการป้องกันของคู่ต่อสู้ พิษของแมงป่องยักษ์จึงสามารถส่งผล”

ชื่อกุ้ยไหลตามความคิด ยังคงวิเคราะห์ต่อไป

“แต่แม้ผลึกกระดูกมารหยินจะสามารถเพิ่มพลังโจมตีของหุ่นเชิดศพ หากระดับของหุ่นเชิดศพไม่เพียงพอ สุดท้ายแล้วก็ไม่อาจคุกคามขั้นนายเหนือแท้ได้อยู่ดี ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องการ ‘หญ้าหมื่นศพ’ ไปเพิ่มระดับให้เป็นหุ่นเชิดศพขั้นนายเหนือแท้”

สุดท้ายแล้ว

ชื่อกุ้ยก็ได้เข้าใจความคิดทั้งหมด สายตาโหดเหี้ยมดุดันมองไปยังจ้าวเฟิง

เมื่อสิ่งที่จ้าวเฟิงคิดไว้สำเร็จ พลังของเขาจะสร้างแรงคุกคามมหาศาลต่อสิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้

ในยามนั้น กระทั่งชื่อกุ้ยก็ต้องหวาดกลัวเด็กหนุ่ม

“ข้าจะไม่แลกเปลี่ยน”

ชื่อกุ้ยเอ่ยปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

จ้าวเฟิงไม่รู้สึกผิดคาด มีหรือที่ชื่อกุ้ยจะช่วยศัตรูเสริมความแข็งแกร่งโดยไร้ซึ่งเหตุผล

ทว่า

เหตุผลที่ทำให้เขายอมมาหาชื่อกุ้ยนั้นคือเขามั่นใจอยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่ร้อยส่วนก็ตาม

“ข้าจะแสดงวัสดุในการแลกเปลี่ยนให้ดู หากต้องการก็แลกเปลี่ยน หากไม่ก็แยกกัน”

สิ้นคำของจ้าวเฟิง ในมือของเด็กหนุ่มก็ปรากฏวัสดุขึ้นเป็น ‘น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา’ หนึ่งหยดและ ‘ศิลารอยหมึกสวรรค์’ ส่วนหนึ่ง

น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราในมือของจ้าวเฟิงยังเหลืออีกสามหยด ในแผนนี้ใช้แลกเปลี่ยนไปหนึ่งหยด

ศิลารอยหมึกสวรรค์กองใหญ่ได้ถูกจ้าวเฟิงแบ่งออกเป็นสามส่วน จากการเพิ่มพลังให้กับหุ่นเชิดศพทั้งสองเด็กหนุ่มได้ใช้ไปสองส่วน บัดนี้เหลือเพียงส่วนเดียวเท่านั้น

เมื่อเห็นวัสดุเหล่านั้น สีหน้าของชื่อกุ้ยก็แปรเปลี่ยนไปเล็กๆ

“หากข้าจดจำไม่ผิด ยามที่โครงกระดูกขั้นนายเหนือแท้ของเจ้าต่อสู้กับแมงป่องยักษ์โบราณก็แตกหักไปอยู่บ้าง ทั้งหุ่นเชิดศพขั้นนายเหนือแท้ของเจ้ายังเสียแขนไปข้างหนึ่งให้เย่หยานหยู ไม่รู้ว่าพี่ชายชุดแดงผู้นั้นช่วยซ่อมให้หรือไม่?”

จ้าวเฟิงแย้มยิ้มบาง

ใบหน้าของชื่อกุ้ยมืดทะมึนลง ไม่เอ่ยคำ

ในวันที่ผ่านมา หุ่นเชิดศพขั้นนายเหนือแท้ทั้งสองของเขาถูกซ่อมอย่างยากลำบาก ใช้วัสดุล้ำค่าไปมากมาย ทว่าหลังจากการซ่อมแซมนั้น ความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกมัน รวมทั้งพลังต่อสู้ก็ลดลงเล็กๆ

ทว่าศิลารอยหมึกสวรรค์ของจ้าวเฟิงสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กระดูก เพิ่มความสามารถของหุ่นเชิดศพได้จริงๆ

อาจกล่าวได้ว่าศิลารอยหมึกสวรรค์สร้างแรงดึงดูดมหาศาลให้กับชื่อกุ้ย

“หากได้ของพวกนั้น หุ่นเชิดศพขั้นนายเหนือแท้ทั้งสองของข้าจะไม่เพียงแค่ฟื้นฟูเข้าสู่สภาพสมบูรณ์ กระทั่งมีพื้นฐานมั่นคง พลังเพิ่มขึ้นเล็กๆ”

ชื่อกุ้ยตื่นเต้น ทว่าไม่ได้เอ่ยปากออกไปในทันที

“ฮี่ฮี่ เจ้าได้ใช้ ‘เนตรวิญญาณอาฆาต’ วิชาต้องห้ามในระดับนั้น ดวงวิญญาณย่อมได้รับผลกระทบจากการกัดกร่อนของวิญญาณอาฆาต ด้วย ‘น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา’ เพียงหนึ่งหยดก็สามารถฟื้นฟูได้ราวกับไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน”

จ้าวเฟิงแย้มยิ้ม

ในยามนี้ สีหน้าของชื่อกุ้ยแปรเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง

การใช้ ‘เนตรวิญญาณอาฆาต’ สิ่งที่เขาต้องเสียไปไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะการใช้กับเย่หยานหยูที่มีพลังฝึกตนสูงกว่า ตัวเขาได้รับบาดเจ็บทั้งทางกายภาพและจิตใจจริงๆ

แม้จะเป็นอัจฉริยะจากตำหนักผาดำ น้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราก็ทำให้เขาไม่ต้องพักฟื้นแล้ว

ขอบเขตจิตวิญญาณของเย่หยานหยูสูงกว่าเขา นี่ทำให้จ้าวเฟิงแลกเปลี่ยนน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทราสองหยดไปกับนางเพื่อให้แน่ใจว่านางจะหายดี

“หากไม่แลกเปลี่ยน ข้าก็จะเก็บล่ะนะ”

จ้าวเฟิงลุกขึ้นช้าๆ ยกมือโบกเล็กๆ

ฟุ่บ!

ประสาทสัมผัสของผู้คนกลับมายังท้องนภาเหนือหุบเขา

ทั้งหมดนั้นเป็นจ้าวเฟิงสร้างพื้นที่ลวงตาขึ้นพูดคุยอย่างเป็นส่วนตัว เว้นเสียแต่จะมีพลังสูงถึงในขอบเขตแก่นก่อกำเนิด ผู้อื่นก็ยากที่จะดักฟังได้

“เดี๋ยว…”

ชื่อกุ้ยขบฟันแน่น เรียกจ้าวเฟิงให้หยุด

จ้าวเฟิงยังมีท่าทีเยือกเย็นสงบนิ่งในขณะที่รับมือกับสถานการณ์กดดันจากตำหนักผาดำ

สาเหตุที่เขาเอ่ยยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนนับเป็นการฉกฉวยโอกาสอยู่บ้าง

หากจะพูดในยามนี้ ความแข็งแกร่งของชื่อกุ้ยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ต้องการศิลารอยหมึกสวรรค์และน้ำค้างยอดไผ่ตะวันจันทรา

“หากได้ของสองอย่างนั่นมา ไม่เพียงแค่พลังของข้าจะฟื้นคืน แต่อาจจะเพิ่มขึ้นด้วย”

ชื่อกุ้ยตัดสินใจในที่สุด

ชายหนุ่มนำก้ามของแมงป่องยักษ์ที่ใหญ่ราวกับกิ่งไม้ออกมาชิ้นหนึ่ง

“ก้ามแมงป่องยักษ์”

จ้าวเฟิงผงกศีรษะ

จากนั้นชื่อกุ้ยจึงให้ชายหนุ่มร่างผอมแห่งผู้หนึ่งนำผลึกสีเงินดำออกมา ท่าทีลนลานของอีกฝ่ายไม่จางหายไป

“ผลึกกระดูกมารหยิน”

จ้าวเฟิงพึงพอใจอย่างมาก

“มีเพียงแค่ ‘หญ้าหมื่นศพ’ ที่พวกเราไม่มี และแม้จะมี สองสิ่งที่เจ้าจะแลกเปลี่ยนก็นับว่ามีค่าไม่เพียงพอ”

น้ำเสียงกดต่ำของชื่อกุ้ยดังขึ้น

ชายหนุ่มเค้นเสียงอยู่ในใจ”ไม่มีหญ้าหมื่นศพ หุ่นเชิดศพของเจ้าย่อมยากที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นนายเหนือแท้ได้ แม้จะเพิ่มความรุนแรงของพิษ การโจมตีจะแหลมคมเพียงใดก็ไม่อาจคุกคามข้าได้”

ความจริงแล้ว

ชื่อกุ้ยและคนอื่นๆ ไม่มีหญ้าหมื่นศพอยู่ หากมีก็คงใช้กับหุ่นเชิดของตนเองไปแล้ว

“ได้”

จ้าวเฟิงเผยสีหน้าราวกับกล้ำกลืนฝืนใจออกมา

ยามแลกเปลี่ยน เขาจงใจเอ่ยถึง ‘หญ้าหมื่นศพ’ ออกมาเพื่อที่จะทำให้ชื่อกุ้ยไขว้เขว ให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการที่จะครอบครองสิ่งนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มระดับของหุ่นเชิดศพ

การทำให้ชื่อกุ้ยเข้าใจผิดเช่นนั้น หนึ่งคือจ้าวเฟิงจะสามารถปกปิดรายละเอียดได้ ทั้งยังทำให้อีกฝ่ายประเมินศัตรูต่ำจากการแลกเปลี่ยน

ตั้งแต่เริ่มจนจบ เด็กหนุ่มไม่เคยคาดหวังว่าจะได้ครอบครองหญ้าหมื่นศพ การที่สามารถได้ครอบครอง ‘ก้ามแมงป่องยักษ์’ และ ‘ผลึกกระดูกมารหยิน’ ได้พร้อมกันก็นับว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว

เพื่อความ ‘ปลอดภัย’ จ้าวเฟิงจึงให้ชื่อกุ้ยส่งอัจฉริยะขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสุดยอดสองคนออกมาแลกเปลี่ยน

จะอย่างไรในฉากหน้า ฝ่ายตำหนักผาดำก็ได้เปรียบกว่าโดยสิ้นเชิง

“เด็กนี่ระมัดระวังดี”

ชื่อกุ้ยผงกศีรษะตกลง

ไม่นาน

จ้าวเฟิงก็ได้ครอบครอง ‘ก้ามแมงป่องยักษ์’ และ ‘ผลึกกระดูกมารหยิน’ ชื่อกุ้ยเองก็ได้สิ่งที่ต้องการ

บางทียามที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันในยามแรกคงไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนกันเช่นวันนี้

“ก้ามแมงป่องยักษ์จะทำให้ ‘หุ่นเชิดศพพิษเงินทมิฬ’ มีกรงเล็บแหลมคมขึ้น สามารถตัดผ่านการป้องกันของคู่ต่อสู้ ทำให้ผลของพิษแสดงได้ดีขึ้น ส่วนผลึกกระดูกมารหยินสามารถเพิ่มพลังโจมตีโดยรวมของพวกมันได้”

จ้าวเฟิงยินดีอยู่ในใจ แผนการสำเร็จ

ทว่าฝ่ายตำหนักผาดำ

สีหน้าของชื่อกุ้ยและคนอื่นๆ มืดทะมึน จิตสังหารปรากฏขึ้นวูบ มองตามร่างที่แยกจากไปอย่างสบายๆ ของจ้าวเฟิง

“ศิษย์พี่ ท่านต้องการ…”

ชายหนุ่มร่างผอมแห้งยกมือขึ้น ทำท่าสับลง

ในยามนี้

แผ่นหลังของจ้าวเฟิงได้อยู่ห่างจากคนของตำหนักผาดำน้อยกว่าหนึ่งร้อยหลา

อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นโอกาสดีในการกำจัดอีกฝ่าย

“ไอ้เด็กนี่โง่หรือไง ไม่หวาดกลัวข้ากับคนอื่นๆ เลยหรือ?”

เปลวเพลิงอ่อนจางในดวงตาของชื่อกุ้ยส่องประกายวูบ สีหน้ามืดทะมึน มือหนึ่งยกขึ้นอย่างเชื่องช้า

อัจฉริยะจากตำหนักผาดำเงียบเสียงลง เลียริมฝีปากตนเองอย่างตื่นเต้น เพียงรอคำสั่งก็จะทำให้โลหิตของจ้าวเฟิงสาดกระจาย สูญสิ้นซึ่งทุกสิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version