Skip to content

King of Gods 57

King Of Gods

บทที่ 57 : ดรรชนีดาราระดับสี่

กำแพงเหล็กหวนกลับ!

การเปลี่ยนแปลงกะทันหันนั้นสร้างความตื่นตะลึงให้กับชายชราชุดเทา วิชากำแพงเหล็กนั้นนับเป็นวิชาที่เป็นที่นิยมในบรรดาวิชาเสริมกายาทั้งหมด ผู้ฝึกตนส่วนมากสามารถฝึกมันจนเข้าระดับสี่ได้

ทว่าจ้าวเฟิงได้ฝึกมันจนเข้าระดับห้า ระดับห้าของวิชากำแพงเหล็กนั้นหมายความว่าไม่เพียงแค่พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทว่ายังมีพลังสะท้อนการโจมตีในระดับหนึ่งด้วย หากนี่เป็นเพียงการวิวาท เด็กหนุ่มเพียงแค่ใช้กระบวนท่านั้นก็สามารถสะท้อนพลังของผู้ฝึกตนขั้นสี่และห้าพร้อมกับสร้างอาการบาดเจ็บสาหัสให้พวกเขาได้แล้ว

ชายวัยกลางคนไม่เคยคาดเลยว่าจ้าวเฟิงจะมีกระบวนท่าเช่นนี้ ร่างกายที่แข็งแกร่งของเด็กหนุ่มสั่นสะท้านจากการโจมตีและได้รับบาดเจ็บเล็กๆ จากการสะท้อนพลังกลับ

ดรรชนีดารา!

จ้าวเฟิงใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกขณะที่คู่ต่อสู้ยังนิ่งอึ้ง

ฟุ่บ

แสงสีเขียวซีดพุ่งออกก่อนจะทะลวงผ่านร่างของชายวัยกลางคน

ตุบ!

ผู้ฝึกตนขั้นหกอีกหนึ่งคนจบชีวิตลง ความเหลือเชื่อและตื่นตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชราชุดเทาขณะที่เขามองภาพนั้นจากที่ไกลๆ

นภาลอยล่อง!

จ้าวเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อยขณะที่ใช้วิชาเคลื่อนไหวของเขาพุ่งตัวตรงไปยังประตูหน้าของตระกูลจ้าว ยามนั้นเหลือระยะทางเพียง 9 ลี้ และด้วยความเร็วของเขาก็ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ไอ้เด็กเหลือขอ! คิดว่ากำลังหนีไปที่ใดกัน…?” ผู้อาวุโสตระกูลชิวตวาดลั่นขณะที่ร่างของเขากลายเป็นเพียงเงาเลือนลาง ไล่ล่าเด็กหนุ่มด้วยความเร็วที่มากกว่าเก่า

แม้ว่าวิชาเคลื่อนไหวของจ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งอย่างมาก ทว่าผู้ที่ไล่ล่าเขาคือจอมยุทธ์ หนทางแห่งผู้ฝึกตนนั้นแบ่งเป็นเก้าขั้นโดยที่ทุกๆ สามขั้นมีความแตกต่างอย่างมากมาย ผู้ฝึกตนขั้นสี่ถึงขั้นหกนั้นถูกเรียกเป็นผู้ฝึกตน และผู้ฝึกตนขั้นเจ็ดถึงขั้นเก้านั้นเป็นที่รู้จักกันในนามจอมยุทธ์

ความแตกต่างของทั้งสองนั้นราวฟ้ากับเหว

จ้าวเฟิงโคจรนภาลอยล่องจนถึงขีดสุด ทว่าเขายังคงรู้สึกได้ว่าสายลมเบื้องหลังของเขาเข้าใกล้เข้าไปเรื่อยๆ

เร็วนัก!

จ้าวเฟิงประมาณความเร็วของอีกฝ่ายว่าเหนือกว่าเขาอย่างน้อยเท่าตัวหนึ่ง สิบห้าลมหายใจถัดมา ร่างของชายชราก็ห่างจากเด็กหนุ่มเพียงสิบหลา จ้าวเฟิงสูดลมหายใจลึกและผลักดันเคล็ดลมหายใจตัดอากาศสู่ขีดจำกัด ภายใต้สถานการณ์นี้ ความเร็วของจ้าวเฟิงกระทั่งเร็วขึ้นกว่าปกติ 10-20% วิชานภาลอยล่องของเขาต้องการความสมบูรณ์อีกเล็กน้อยก็จะเข้าสู่ขั้นสูง

“มันต้องถูกกำจัด!” หัวใจของผู้อาวุโสตระกูลชิวสั่นสะท้านเมื่อเห็นความสามารถของจ้าวเฟิง

หากอัจฉริยะเช่นเขามีชีวิตอยู่ เขาย่อมสามารถกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองประกายอรุณได้ภายในสิบปี

ใกล้แล้ว! มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ…

เหลือระยะทางเพียง 6 ลี้ระหว่างจ้าวเฟิงกับประตู ทว่าในขณะเดียวกัน ชายชราชุดเทาเองก็เข้าใกล้เขามาเช่นกัน

“ตาย!”

ชายชราชุดเทาส่งฝ่ามือที่ส่องประกายสีทองออก ขณะที่เขาทำเช่นนั้น คลื่นอากาศก็อัดกระแทกร่างของเด็กหนุ่ม ในฐานะของจอมยุทธ์ ผู้อาวุโสชุดเทาไม่จำเป็นต้องสู้ในระยะประชิดเมื่อเขาสามารถโจมตีผ่านอากาศได้

พลั่ก!

คลื่นอากาศกระแทกเข้าที่ร่างของจ้าวเฟิงก่อน

“ลอยล่องเหนือนภา!” จ้าวเฟิงพลันกระโดด

ปึก!

เขากระโดดอีกครั้งโดยใช้คลื่นอากาศในการเพิ่มความเร็วของตน

“อันใดกัน!?”

การโจมตีของชายชราพลาด

หนี!

จ้าวเฟิงเริ่มร้องขอความช่วยเหลือขณะที่เขาหนี หวังจะดึงดูดความสนใจ

“ตาย! กระโดดสองครั้งรึ… ข้าก็ทำได้!” ชายชราชุดเทากระโดดสองครั้งกลางอากาศเช่นกัน

ในฐานะของหนึ่งในผู้อาวุโสแห่งตระกูลชิว เขาย่อมได้รับวิชาเคลื่อนไหวระดับสุดยอดและได้ฝึกฝนจนเข้าขั้นสูง

ปึก! ปึก!

แน่นอนว่าจ้าวเฟิงย่อมมิใช่คนที่จะรอความตายอยู่เฉยๆ ในระยะเวลาสำคัญนั้น เขากระทั่งสามารถกระโดดได้สามครั้ง ทว่าบัดนี้ทั้งสองได้เข้าใกล้กันเรื่อยๆ ร่างทั้งสองเหยียบลงบนพื้นแทบจะพร้อมเพรียงกัน

“ฝ่ามือปัดเมฆา!”

ชายชราชุดเทาโจมตีอีกครั้ง เพียงแค่คลื่นอากาศอย่างเดียวก็สามารถฆ่าผู้ฝึกตนขั้นห้าได้ในเสี้ยววินาที

อั่ก!

จ้าวเฟิงพลันใช้วิชากำแพงเหล็กในการป้องกัน ทว่าแม้จะทำเช่นนั้นเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บ หากเป็นผู้อื่นที่อยู่ในขั้นหก พวกเขาอาจพิการไปในทันที การโจมตีผ่านอากาศของจอมยุทธ์นั้นพลังจะอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อมันผ่านออกมาจากร่าง ทว่าเมื่อคนผู้นั้นเข้าสู่ขั้นแปด พลังทำลายของการโจมตีผ่านอากาศจะสามารถเทียบเท่าได้กับการโจมตีระยะใกล้ ตามตำนานนั้น หากคนผู้นั้นเข้าสู่ขั้นเก้า การโจมตีผ่านอากาศจะยิ่งแข็งแกร่งกว่าการโจมตีระยะประชิดเสียอีก

โชคดีที่ผู้อาวุโสตระกูลชิวนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นเจ็ดมิใช่แปด หลังจากที่จ้าวเฟิงรับการโจมตีตรงๆ ไปอีกสองสามครั้ง เขาก็ใช้คลื่นกระแทกในการส่งร่างตัวเองออกไปเบื้องหน้าอีกครั้ง

“เมฆาเปิดผา!”

ในเสี้ยววินาทีนั้น ชายชราชุดเทาก็ได้ส่งฝ่ามือซึ่งเต็มไปด้วยพลังกราดเกรี้ยวไปยังร่างของจ้าวเฟิง การโจมตีนี้ไม่อาจหลบหลีกได้ หากเป็นผู้อื่นที่มีขั้นหกในเมืองประกายอรุณ พวกเขาย่อมตายตกภายใต้ฝ่ามือนี้เป็นแน่ ภายใต้แรงกดดันนั้น ดวงตาของจ้าวเฟิงถูกพลักดันจนถึงขีดสุด ภายใต้ดวงตาของเขา การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายกลายเป็นเชื่องช้าลงเรื่อยๆ กระทั่งการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายก็ถูกเห็นโดยเขา

กระทั่งจุดอ่อนเล็กๆ ก็ถูกจับได้ในทันที

ฝ่ามือลมลี้ลับ!

ในชั่วระยะเวลาที่สำคัญที่สุดนั้น จ้าวเฟิงได้ใช้กระบวนท่าแปลกประหลาด

ฟู่ววว

จ้าวเฟิงพลันปลดปล่อยกลิ่นอายหนึ่งเดียวกับสวรรค์ออกมา ในตอนนั้นเองที่ภาพของเด็กสาวที่ใช้กระบวนท่านั้นปรากฏขึ้นในมิติสีดำสนิทในดวงตาซ้ายของเขาอีกครั้ง ความจริงที่ว่าเขาสามารถคัดลอกกลิ่นอายหนึ่งเดียวกับสวรรค์ของซินหวู่เฮิงได้ทำให้จ้าวเฟิงมีความเข้าใจกับฝ่ามือนี้มากขึ้น

เป็นกระบวนท่าอันใดกัน?

ผู้อาวุโสตระกูลชิวรู้สึกราวกับว่าฝ่ามือของคู่ต่อสู้นั้นมีความธรรมดาทว่าไม่อาจเข้าใจได้อยู่ประการหนึ่ง

ฝ่ามือลมลี้ลับ!

จ้าวเฟิงทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนแสงสีครามจะปรากฏขึ้นภายในอุ้งมือขณะที่เขาโจมตี ฝ่ามือนี้ราวกับมาจากธรรมชาติ

เมฆาเปิดผา!

ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง

เปรี้ยง!

หลุมขนาดใหญ่หลงเหลือจากการปะทะกันของกระบวนท่าทั้งสอง จ้าวเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังภายในที่ทั้งกราดเกรี้ยวและทรงพลังแผ่พุ่งเข้ามาในร่างของเขา กระทั่งวิชากำแพงหล็กระดับห้าก็ไม่อาจหยุดยั้งมันได้ ความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างพวกเขาคือพลังฝึกตน

พรวด!

จ้าวเฟิงกระอักเลือดคำโต ทว่ายังเหลือแรงในการส่งตนออกไปเบื้องหน้า

“ได้อย่างไร…?”

ใบหน้าของชายชราขาวซีด มุมปากปรากฏโลหิตสายหนึ่ง หากมีผู้อื่นพบเห็น พวกเขาย่อมต้องนิ่งงันไปเพราะจอมยุทธ์ขั้นเจ็ดได้บาดเจ็บด้วยน้ำมือของผู้ฝึกตนขั้นหก

ในด้านของพลังนั้น ฝ่ามือของจ้าวเฟิงย่อมไม่อาจเทียบเท่าได้กับดรรชนีดารา ทว่าความลึกล้ำนั้นเหนือกว่าขีดจำกัดของขั้นสุดยอด มันยังมีตัวสร้างความแตกต่างจำนวนหนึ่งในระหว่างวิชา เหนือวิชาระดับสุดยอดนั้นคือวิชาระดับเทพเจ้า ความแตกต่างของทั้งสองนั้นราวกับฟ้าและดิน

ฝ่ามือลมลี้ลับของจ้าวเฟิงนั้นเหนือกว่าการโจมตีของชายชราในด้านของความซับซ้อน นั่นเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของเขา อีกหนึ่งนั้นคือวิชากำแพงเหล็กของเขานั้นได้ถึงระดับห้า ทำให้แรงของเขานั้นมีมากกว่าผู้อาวุโส และข้อได้เปรียบสุดท้ายนั้นคือผู้อาวุโสตระกูลชิวนั้นบาดเจ็บจากการปะทะกับร่างในชุดสีเงิน ทั้งจ้าวเฟิงยังเห็นอาการบาดเจ็บนั้นและสามารถโจมตีได้อย่างตรงจุด

ดังนั้นแล้ว ชายชรานั้นทั้งบาดเจ็บและไม่มีเวลาเยียวยาตนเอง ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะสิ้นชีวิตลง

“ฮะฮะฮะ… แล้วเจอกัน!” จ้าวเฟิงหัวเราะขณะที่พุ่งทะยานไปยังประตูหน้า

ชายชราผู้ใบหน้าขาวซีดทำได้เพียงกัดฟันกรอดและมองตามร่างที่วิ่งหนีไปของจ้าวเฟิง เด็กหนุ่มเข้าใกล้ประตูหน้าเข้าไปทุกที และในยามนี้เขาก็เห็นว่าร่างของชายชรากลมกลืนเข้ากับความมืดยามค่ำคืนกลับไป

ฟู่วว

จ้าวเฟิงพ่นลมหายใจจากนั้นจึงกินยาเข้าไปจำนวนหนึ่ง

ภายในห้อง

จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิพยายามฟื้นตัว

“นอกจากใช้เวลา 10-15 วันข้าคงไม่อาจฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ทว่าผู้อาวุโสจากตระกูลชิวนั่นบาดเจ็บมากกว่าเสียอีก…” จ้าวเฟิงพึมพำกับตนเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นพึงพอใจ

เขามีสิทธิที่จะภูมิใจเมื่อเขาสามารถหลบหนีจากการไล่ล่าของจอมยุทธ์และสร้างอาการบาดเจ็บให้อีกฝ่ายได้ ทว่าจ้าวเฟิงก็รู้ว่ามันเป็นเพราะศัตรูได้บาดเจ็บอยู่ก่อนและฝ่ามือลมลี้ลับของเขาได้โจมตีเข้าที่จุดสำคัญ

ไม่กี่วันต่อมา

จ้าวเฟิงยังคงอยู่ที่บ้าน เพ่งความสนใจไปในการเยียวยาตนเอง ในขณะที่เขากำลังฟื้นฟูตนเองนั้น เขาไม่อาจฝึกฝนวิชาเช่นกำแพงเหล็กหรือดรรชนีดาราได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงได้ใช้เวลานั้นในการทำความเข้าใจจากภาพที่แตกต่างกันสองภาพ

ภาพทั้งสองนั้นหนึ่งมาจากเด็กสาวในหุบเขา และอีกหนึ่งมาซินหวู่เฮิง การเคลื่อนไหวของซินหวู่เฮิงนั้นง่ายที่จะเข้าใจ ภายในสองวันเด็กหนุ่มก็สามารถเรียนรู้มันได้ จากนั้นจ้าวเฟิงจึงได้เริ่มทำความเข้าใจฝ่ามือลมลี้ลับและดรรชนีดารา แม้ฝ่ามือลมลี้ลับนั้นจะมีเพียงกระบวนท่าเดียว ความยากของมันนั้นวิปลาสนัก ดังนั้นแล้วการทำความเข้าใจจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

จ้าวเฟิงเพ่งความสนใจไปยังการทำความเข้าใจดรรชนีดารามากขึ้น เมื่อเทียบมันกับฝ่ามือลมลี้ลับแล้วมันนับว่าง่ายกว่า และการที่เขาได้เรียนรู้กระบวนท่าของซินหวู่เฮิงก็ยิ่งทำให้มันเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เชื่องช้าทว่ามั่นคง ความเข้าใจของเด็กหนุ่มต่อดรรชนีดาราค่อยๆ ขยับเคลื่อนเข้าสู่ระดับสี่

ในสองสามวันแรกนั้น เขาไม่อาจฝึกฝนได้ในทันทีเพราะอาการบาดเจ็บ ทว่าเมื่อเขาฟื้นฟูได้ราวๆ 70-80% เด็กหนุ่มก็เริ่มฝึกฝนอีกครั้ง

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ปลายนิ้วของจ้าวเฟิงทะลวงไปครั้งแล้วครั้งเล่า พลังภายในของเขาแหลมคมยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ที่เขาเรียนรู้กระบวนท่าของซินหวู่เฮิง ดรรชนีดาราของเด็กหนุ่มก็ได้พัฒนาขึ้นด้วยความเร็วอันน่าขัน

ฟุ่บบ

ทันใดนั้น แสงสีฟ้าซีดก็พุ่งวาบออกจากปลายนิ้วของจ้าวเฟิง

ฟิ้ว!

รูเล็กปรากฏขึ้นบนกำแพง

ดรรชนีเหนือดาราฝึกสำเร็จแล้ว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version