Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 167

Lord of the Mysteries 167

ตอนที่ 167 : สมบัติศักดิ์สิทธิ์

“ตกลง”

เครสไทน์·ซีสม่าผงกศีรษะพร้อมกับก้มตัวลงเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นก็สาบานต่อสมบัติศักดิ์สิทธิ์”

ขณะกล่าว มันเหยียดแขนเอื้อมไปยกกระเป๋ากล่องสีเงินข้างฝ่าเท้า

สมบัติศักดิ์สิทธิ์…?

สมบัติศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมอบฉายาดาบแห่งเทพธิดาให้คุณ…?

ไคลน์จ้องมองพฤติกรรมอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ

เครสไทน์วางกระเป๋าลงบนตัก นัยน์ตาเขียวเข้มของมันแปรเปลี่ยนเป็นดำสนิทในพริบตา

มันใช้มือสองข้างกดลงบนกระเป๋าอย่างแผ่วเบา ผิวกล่องโลหะสีเงินพลันสั่นกระเพื่อมคล้ายคลื่นทะเล

ขณะเดียวกัน ไคลน์เริ่มสัมผัสว่าแสงสว่างภายในห้องเริ่มเจือจาง ราวกับถูกกระเป๋าตรงหน้าดูดซับไว้จนหมด

แม้จะมีแสงไฟจากตะเกียงแก๊สเรียงรายตามทางเดิน รวมถึงแสงสว่างสีเงินซึ่งส่องลอดผ่านจากช่องขอบกระเป๋า อย่างไรก็ตาม บรรยากาศรอบตัวไคลน์กลับมืดสนิทจนมองไม่เห็นแม้แต่ฝ่ามือตัวเอง

แกร๊ก!

เสียงเครสไทน์·ซีสม่าเปิดกลไกกระเป๋า

หลังจากฝาถูกเปิดอ้า ไคลน์พบดาบกระดูกสีขาวบริสุทธิ์ด้านใน

ใช่แล้ว ดาบกระดูก…

ในวินาทีสายตากระทบกับวัตถุ สัญชาตญาณไคลน์บ่งบอกว่าศาสตราตรงหน้าถูกสร้างจากกระดูกเป็นส่วนใหญ่

ดาบขนาดไม่ยาวนักกำลังแผ่แสงสว่างสีขาวบริสุทธิ์ด้วยบรรยากาศสุขสงบ ท่ามกลางห้องแปรธาตุมืดสนิทถ้วนทั่ว กึ่งกลางห้องคลับคล้ายมีดวงจันทร์เป็นของตัวเอง

หากมองผ่านๆ จะเหมือนกับผิวดาบเรียบสนิทไร้จุดตำหนิ แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจะพบอักษรอักขระ สัญลักษณ์ และตราประทับจำนวนมากอัดแน่นบนผิวดาบจนแทบไม่มีช่องว่างปรากฏ มันเรียบเนียนกลมกลืนจนเหมือนเนื้อเดียว

ไคลน์เพ่งพิจารณาดาบศักดิ์สิทธิ์ครู่หนึ่ง

จนกระทั่งพบว่าตัวมันไม่สามารถละสายตาออกจากศาสตราเล่มนี้ได้เลย!

สายตาถูกบังคับให้จ้องมองอาวุธเบื้องหน้าโดยไม่กะพริบ นัยน์ตาน้ำตาลเข้มเริ่มสูญเสียความแวววาวไปทีละน้อย

เครสไทน์ออกแรงยกกระเป๋ากล่องแผ่วเบา ส่งผลให้ดาบกระดูกถูกเลื่อนตำแหน่งไปจากจุดเดิม

ทันใดนั้น จิตไคลน์ถูกกระตุกให้หลุดพ้นจากภวังค์ เป็นอิสระจากฝันร้ายซึ่งมิอาจหลีกหนีได้ด้วยพลังของตัวเอง

ชายหนุ่มรีบจ้องมองไปด้านข้างเพื่อไม่ให้สายตาส่องกระทบดาบ ก่อนจะซักถามด้วยน้ำเสียงตึงเครียด

“ท่านครับ ให้ผมใช้ฝ่ามือแตะดาบใช่ไหม”

“ถูกต้อง ขยับเข้ามาใกล้อีกสักหน่อย”

เสียงเครสไทน์ก้องกังวานราวกับกำลังขับขานเพลงกล่อมเด็ก

ไคลน์ยืนขึ้น สายตายังคงจดจ่อกับความมืดมิดด้านข้างลำตัว มันเดินตรงไปทีละนิดโดยไม่มองทาง ไม่เห็นแม้กระทั่งท่อนขาหรือรองเท้าบูตหนังของอาวุโสใหญ่แห่งโบสถ์

“หยุด” เครสไทน์ให้สัญญาณ

ไคลน์ชะงักฝีเท้า มันยืนค้างไว้ตรงนั้นโดยไม่กล้าขยับตัว หางตาแอบชำเลืองผิวดาบกระดูกชั่วครู่ จากนั้นรีบเบือนหน้าหนีทันควันอย่างหวาดกลัว

การชำเลืองช่วยให้ไคลน์สามารถกะระยะห่างจากดาบได้แม่นยำ มันเหยียดมือขวาออกไปวางทาบพอดิบพอดี

ทันใดนั้น ความเย็นเฉียบแผ่ซ่านทุกรูขุมขนร่างกาย ไม่เว้นกระทั่งจิตใจหรือวิญญาณ อารมณ์หลากหลายภายในหัวถูกปัดเป่าชำระล้างจนบริสุทธิ์ ร่างกายผ่อนคลายประหนึ่งนอนแผ่หลาบนหลังคาในหมู่บ้านห่างไกล จมูกสูดกลิ่นทุ่งข้าวใหม่เพิ่งถูกเก็บเกี่ยว สายตาเชยชมความงามของท้องฟ้ายามราตรี

“ท่องตามผม” เครสไทน์กล่าวเสียงขรึม

“ครับ” ไคลน์ผงกศีรษะ

ทันใดนั้น ชายหนุ่มได้ยินอาวุโสใหญ่พูดเป็นภาษาเฮอร์มิส

“ข้าแต่ท่านเทพธิดาผู้สูงสง่ากว่าดาราและยาวนานกว่าห้วงนิรันดร์ ข้าขอสาบานกับท่านด้วยนามจริงและพลังวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ นับแต่นี้เป็นต้นไป.ตัวข้า.ไคลน์.จักไม่เปิดเผยรายละเอียดของเทคนิคสวมบทบาทให้กับบุคคลซึ่งยังไม่เคยทราบมาก่อน หากตัวข้าฝ่าฝืน กรุณาลงโทษอย่างสาสมตามแต่ท่านเทพธิดาเห็นสมควร ได้โปรดท่านเทพธิดาเป็นสักขีพยานต่อหน้าคำสาบานของข้าด้วย”

ไคลน์รวบรวมสมาธิก่อนจะกล่าวตามบทพูดของเครสไทน์ทุกกระเบียดนิ้ว

เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มพลันตระหนักว่า ระหว่างตนและดาบกระดูกสีขาวมี ‘พันธะ’ ลึกลับถูกสร้างขึ้น

หลังจากหดมือกลับ ไคลน์รีบทำสัญลักษณ์จันทร์แดงกลางหน้าอก

“เทพธิดาจงเจริญ”

“เทพธิดาจงเจริญ”

เครสไทน์ยิ้มตอบ มันผงกศีรษะแผ่วเบาเป็นเชิงตอบรับ ขณะเดียวกันก็ปิดฝากระเป๋ากล่องสีเงินจนสนิท จากนั้นก็ใช้มือขวากดซ้ำอย่างแรงหนึ่งหน

บรรยากาศมืดมิดภายในห้องสลายไปราวกับเรื่องโกหก แสงไฟจากตะเกียงแก๊สทางเดินส่องเข้ามาด้านในอีกครั้ง

ดวงตาของเครสไทน์เปลี่ยนจากดำสนิทกลับเป็นเขียวเข้มตามเดิม

ไคลน์เดินกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเก่าพร้อมกับขมวดคิ้วถามอย่างฉงน

“เทคนิคสวมบทบาท?”

เครสไทน์กระแอมล้างคอหนึ่งหน มันยังไม่ตอบตามตรง

เพียงอมยิ้มและเล่าว่า

‘คุณมีสิทธิ์ได้รับคำอธิบายหลังจากกลายเป็นบุคลากรระดับสูงของโบสถ์แล้วเท่านั้น หากไม่ใช่อาร์คบิชอปก็ต้องอาวุโสใหญ่…’

ใช่ไหม…? ไคลน์เสริมเอาเองในใจ

“ขอเตือนไว้ก่อน คุณอาจรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจความหมายของคำพูดผมหลังจากนี้ แต่ผมไม่สามารถอธิบายเพิ่มเติมมากกว่านั้นได้ เนื่องจากขัดต่อหลักความลับของโบสถ์ คุณจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลหลังจากกลายเป็นบุคลากรระดับสูงของโบสถ์แล้วเท่านั้น เช่นอาร์คบิชอปหรืออาวุโสใหญ่”

เครสไทน์เน้นย้ำ

นั่นปะไร… ไคลน์ผงกศีรษะรับ

เครสไทน์วางกระเป๋าไว้ข้างเท้าในจุดเดิม

“จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของโบสถ์รัตติกาล เหล่าอัจฉริยะรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ค้นพบวิธีช่วยลดอัตราการคลุ้มคลั่งของผู้วิเศษ โดยหัวใจสำคัญของวิธีการดังกล่าวคือชื่อของโอสถแต่ละชนิด ไม่เพียงสำคัญมาก แต่ยังเป็นกุญแจ…”

ขณะเห็นไคลน์แสดงสีหน้าครุ่นคิด มันทำการอธิบายเพิ่มเติม

“พวกเราจึงเริ่มตระหนักว่า ชื่อของโอสถคือการแบ่งกลุ่มรูปแบบหนึ่ง แต่ละกลุ่มจะมีวิธีรับมือต่างกัน… สรุปโดยสั้นก็คือ โอสถทุกชนิดจะมีชุด ‘กฎระเบียบ’ แฝงมาด้วย โอสถแต่ละชนิดจะใช้ชุดของกฎไม่เหมือนกัน หากปฏิบัติตามกฎเหล่านั้นอย่างเคร่งครัด โอกาสคลุ้มคลั่งจะลดลงจากเดิมหลายเท่าตัว”

“กฎ…? เหมือนกับหลักปฏิบัติของนักทำนายซึ่งผมคิดขึ้นเองใช่ไหม”

ไคลน์ฉวยโอกาสซักถาม

มันตระหนักว่าคำอธิบายของเครสไทน์ฟังดูซับซ้อนวุ่นวาย ไม่ง่ายเหมือนกับเมื่อครั้งตนสอนจัสติสและแฮงแมน

“ถูกต้อง” อาวุโสใหญ่ยืนยันหนักแน่น

“เมื่อปฏิบัติตามกฎของโอสถอย่างเคร่งครัด พวกเราจะกลายเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตคล้ายคลึงกับชื่อโอสถ หรือก็คือ พวกเราต้องสวมรอยเป็น ‘อาชีพ’ ตามชื่อโอสถบอกใบ้ นี่คือเทคนิคสวมบทบาท คุณต้องไม่ลืมว่า มนุษย์ทุกคนมีลักษณะพลังวิญญาณแตกต่างกันไป กฎของแต่ละคนจึงแตกต่างกันเล็กน้อย ส่วนนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ คำบอกเล่าในอดีตเป็นได้แค่แนวทางเท่านั้น”

ถือเป็นข้อมูลน่าสนใจ เพราะเราไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องกฎในตอนแรก… ไคลน์ผงกศีรษะอย่างซาบซึ้ง

“ขอบคุณครับ ผมจะจำใส่ใจเอาไว้”

เครสไทน์อมยิ้ม

“สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์สั่งสมจากเหยี่ยวราตรีรุ่นสู่รุ่น หลังจากใช้เทคนิคสวมบทบาท พวกเราไม่เพียงกลมกลืนไปกับโอสถ แต่ยัง ‘ย่อย’ พวกมันอีกด้วย คล้ายกับการย่อยอาหารมื้อใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลา หากย่อยหมดเมื่อไร ร่างกายจะเกิดความรู้สึกมหัศจรรย์เหนือคำบรรยาย… เข้าใจหรือยัง?”

“เข้าใจแล้วครับ… คำว่า ‘ย่อย’ ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนกว่าเดิมมาก”

ไคลน์แสร้งก้มหน้าครุ่นคิดราวกับเป็นความรู้ใหม่แกะกล่อง

เมื่อตระหนักว่าเครสไทน์ยอมอธิบายเชิงลึกให้ตนฟัง มันตัดสินใจถามประเด็นค้างคาใจ

“ท่านครับ… ในเมื่อชื่อของโอสถสำคัญมาก นอกจากเป็นหัวใจสำคัญ ยังเป็นกุญแจช่วยในการย่อยด้วย แล้วผู้วิเศษรุ่นแรกได้รับชื่อโอสถจากไหน? ผมเคยได้ยินว่า ชื่อโอสถทุกชนิดและทุกลำดับ ได้ถูกบันทึกไว้ในศิลาเย้ยเทพอย่างสมบูรณ์”

“ถูกต้อง” เครสไทน์ตอบเถรตรง

“แต่แผ่นศิลาเย้ยเทพถูกจารึกด้วยชื่อเก่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน บางชื่อได้มาจาก ‘สารแห่งเทพ’ ส่วนบางชื่อเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ของผู้วิเศษ”

ไคลน์พยักหน้าเชื่องช้า มันเม้มริมฝีปากและแสร้งถามด้วยความฉงน

“ท่านครับ… ในเมื่อเทคนิคสวมบทบาทมีประสิทธิภาพสูงขนาดนี้ เหตุใดทางโบสถ์ถึงไม่แจ้งให้บุคลากรระดับล่างทราบ”

“ผมบอกได้เพียงว่า มันคือความลับระดับสูงสุดของโบสถ์ คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงก็ต่อเมื่อกลายเป็นอาร์คบิชอปหรืออาวุโสใหญ่เท่านั้น”

เครสไทน์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เอาล่ะ กลับขึ้นไปข้างบนและบอกให้เหยี่ยวราตรีคนอื่นลงมาหาผมทีละคน พวกเราจะได้จบพิธีการทดสอบของคุณสักที”

ให้ฟรายและคนอื่นสาบานต่อหน้าดาบศักดิ์สิทธิ์สินะ ว่าจะไม่แพร่งพรายเทคนิคสวมบทบาทให้ใครทราบ… ไคลน์ครุ่นคิดพลางลุกขึ้นยืนและกล่าวคำอำลาตามมารยาทของเหยี่ยวราตรี

ขณะเดินกลับขึ้นไปยังสำนักงานบริษัทหนามทมิฬ ชายหนุ่มเหลือบเห็นดันน์กำลังสูบไปป์ในห้องบันไดหิน

ไคลน์ฉีกยิ้มและเป็นฝ่ายเริ่มทัก

“น่าจะเสร็จแล้วครับ แต่ท่านอาวุโสบอกว่าให้ฟรายและคนอื่นลงไปพูดคุยกับเขาทีละคนจนครบ…”

ขณะยืนมองฟรายและซิกาในห้องนันทนาการ มันพลันฉุกคิดบางสิ่ง

“หัวหน้า แล้วพวกเราควรทำอย่างไรกับมาดามรอยัลซึ่งกำลังเข้าเวรประตูยานิส? ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของโคเฮนรี ส่วนเลียวนาร์ดกำลังทำภารกิจเฝ้าโรงพยาบาลจิตเวช… แล้วผมจะได้ผ่านการทดสอบไหม?”

ดันน์ยืนแข็งทื่อสักพัก ก่อนจะเลื่อนมือขวาขึ้นมาบีบหน้าผาก

“ผมลืมไปเลย…”

มันเว้นวรรคเล็กน้อย

“แต่คุณไม่ต้องกังวลเกินไป ข้อดีของการมีอาวุโสใหญ่มาช่วยทดสอบคือ เขาสามารถตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ต้องส่งโทรเลขกลับไปหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ให้วุ่นวาย ชายคนนั้นสามารถตัดสินให้คุณสอบผ่านและมอบสูตรโอสถตัวตลกรวมถึงวัตถุดิบหลักได้ทันที”

“ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจ”

ไคลน์มิอาจระงับอาการตื่นเต้น

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

โคเฮนรีเดินกลับขึ้นชั้นบนด้วยสีหน้าสับสนสุดขีด ขณะเดียวกันก็มีคำสั่งเรียกตัวไคลน์กลับไปหาเครสไทน์ ดาบแห่งเทพธิดาอีกรอบ

ในหนนี้ อาวุโสใหญ่ผู้มีดวงตาสีเขียวเข้มและเส้นผมสีน้ำตาลทองมิได้กำลังนั่งเก้าอี้ มันยืนรับสายลมเย็นเฉียบของชั้นใต้ดินและปล่อยให้เสื้อกันลมตัวโคร่งสะบัดพลิ้ว

ปกเสื้อตั้งสูงเช่นเคย ปกปิดส่วนคางและริมฝีปากจนเกือบหมด

มันจ้องมองไคลน์พลางอมยิ้ม

“เหยี่ยวราตรีไคลน์·โมเรตติ ผมขอประกาศให้คุณผ่านการทดสอบของวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการ และขอแสดงความยินดี จากคะแนนคุณประโยชน์ก่อนหน้า คุณสามารถเลื่อนลำดับกลายเป็นผู้วิเศษลำดับ 8 ได้ทันที”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version