ตอนที่ 172 : ชันสูตร
“ท่านส.ส.เสียชีวิตนานแค่ไหนแล้วครับ?”
ถ้านานกว่าสิบห้านาที ข้อมูลจากปากวิญญาณจะลดลงอย่างมาก ถ้านานกว่าหนึ่งชั่วโมงก็แทบหมดโอกาสสนทนา
หรือถ้านานกว่าหนึ่งเดือน ก็จะไม่สามารถติดต่อกับวิญญาณผู้ตายได้เลย
“…น่าเสียดาย การชันสูตรเบื้องต้นจากกรมตำรวจระบุว่า ส.ส.เมย์นาร์ดเสียชีวิตระหว่างสามถึงห้าทุ่มของคืนวาน”
ดันน์ส่ายศีรษะ
“พวกเราแค่ทำตามคำเรียกร้องของทางกรมก็พอ ผมไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์”
“เข้าใจแล้วครับ”
ไคลน์สวมโค้ตพร้อมกับเดินออกจากห้อง
มือซ้ายถือไม้ค้ำ มือขวาจัดระเบียบหมวกให้เรียบร้อย ส่วนดันน์·สมิทเดินสวนเข้ามาเพราะต้องรับงานเฝ้าประตูยานิสแทนชั่วคราว
ในทางทฤษฎีของโลกผู้วิเศษ ยิ่งมีพลังวิญญาณมาก ก็ยิ่งใช้เทคนิคพิเศษเกี่ยวกับวิญญาณได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเนตรวิญญาณ เวทมนตร์ ศาสตร์การทำนาย หรือพิธีกรรม
ดังนั้นเส้นทางผู้ไร้หลับซึ่งขึ้นชื่อในด้านปริมาณพลังวิญญาณจึงค่อนข้างได้เปรียบกว่าสายอื่น
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงมิได้ง่ายดายเช่นนั้น ‘ความถนัด’ ของผู้วิเศษแต่ละเส้นทางได้สร้างข้อแตกต่างอย่างชัดเจน ต่อให้ผู้ไร้หลับมีพลังวิญญาณมากเท่าใด ก็มิอาจใช้พลังทำนายได้ดีกว่านักทำนายแน่นอน
อีกตัวอย่างชัดเจนคือเนตรวิญญาณ เส้นทางผู้ไร้หลับทุกคนล้วนใช้เนตรวิญญาณเป็น แต่กลับไม่มีโอกาสได้ใช้มากนัก เนื่องจากเนตรวิญญาณของผู้ไร้หลับจะเห็นเป็นเพียงแสงออร่าเจือจาง ไม่ได้ระบุแยกชั้นอย่างละเอียดเหมือนกับผู้ส่องความลับและนักทำนาย
จริงอยู่ อาจใช้เนตรวิญญาณสำหรับมองเห็นภูตผีหรือวิญญาณได้ แต่ผู้ไร้หลับขั้นสูงทุกคนจะมี ‘สัมผัสวิญญาณ’ รุนแรงจนไม่ต้องพึ่งพาเนตรวิญญาณ
ด้วยเหตุนี้ เหล่าผู้ไร้หลับ นักกวีเที่ยงคืน รวมถึงฝันร้าย ต่างไม่ค่อยเปิดใช้เนตรวิญญาณกันสักเท่าไร
เฉกเช่นศาสตร์ทำนายอย่างลูกตุ้มวิญญาณ แท่งวิญญาณ รวมถึงทำนายฝัน หากผู้ไร้หลับต้องการศึกษาก็สามารถกระทำได้ แต่ประสิทธิภาพก็ยังด้อยกว่านักทำนายมือใหม่
รวมถึงพิธีกรรมเวทมนตร์ด้วย
ขณะไคลน์เดินสวนกับดันน์เพื่อเปลี่ยนงาน หัวหน้าเหยี่ยวราตรีกระซิบเสียงค่อย
“ผมลืมบอกไป …สารวัตรทอเร่เป็นผู้ดูแลคดีนี้ เขากำลังรอคุณในห้องรับแขกของบริษัทหนามทมิฬ อย่าลืมเปลี่ยนชุดก่อนออกไป รวมถึงอินทรธนูกับบัตรประจำตัวใหม่ด้วย”
ไคลน์ไม่ประหลาดใจ มันเพียงยิ้ม
“อินทรธนูกับตราประจำตัวใหม่มาถึงแล้วหรือครับ? กรมตำรวจทำงานฉับไวมาก”
…ตนเพิ่งกลายเป็นลำดับ 8 เมื่อวันก่อน
“เพราะคดีนี้สำคัญมาก”
ดันน์ขยับเก้าอี้และนั่งแทนไคลน์
ชายหนุ่มเดินกลับขึ้นไปด้านบน มันไม่รีบร้อนออกไปยังห้องรับแขก จุดหมายแรกคือห้องพักผ่อนของเหยี่ยวราตรี ไคลน์ต้องการผ่อนคลายตัวเองในห้องน้ำส่วนตัวของเหยี่ยวราตรีสักพัก ด้านในประกอบด้วยชักโครก โถฉี่ และถังขยะ
ถัดมา ชายหนุ่มสวมเครื่องแบบตำรวจพร้อมอินทรธนูใหม่-ดาวเงินสองดวง แสดงถึงตำแหน่งสารวัตร จากนั้นก็สวมหมวกตำรวจและจัดแจงให้เข้ารูป
ขั้นตอนสุดท้ายคือการย้ายสิ่งของจิปาถะมายังชุดตำรวจ จำพวกยันต์เพลิงสุริยัน นกหวีดทองแดงของอะซิก วัตถุดิบประกอบพิธีกรรม รวมถึงสิ่งของปลีกย่อยอื่น
เมื่อเสร็จสรรพ ไคลน์คว้าไม้ค้ำพร้อมกับเดินออกจากห้องพักด้วยมาดทะมัดทะแมง
มันผ่านฉากกั้นและพบสารวัตรทอเร่กำลังนั่งบนโซฟาตัวใหญ่
ไคลน์ไม่ได้พบกับทอเร่นานแล้ว ครั้งสุดท้ายคือคดีของเซอร์เดอไวล์ ดูเหมือนสารวัตรร่างใหญ่ผู้นี้จะอ้วนขึ้นจากแต่ก่อนมากพอสมควร พุงยื่นเด่นชัด แถมเส้นผมและขนเครายังดกหนา ไม่ต่างกับหมีป่าเพิ่งหลุดออกจากคณะละครสัตว์
“ใช่คุณจริงด้วย…ได้ร่วมงานกันอีกแล้วนะครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
เมื่อทอเร่เห็นเหยี่ยวราตรีคนคุ้นเคยเดินออกจากฉากกั้น มันกล่าวทักทายพร้อมกับยื่นอุ้งเท้าหมี-
ไม่สิ…ฝ่ามือ
ไคลน์แก้คำผิดในใจ ก่อนจับมืออีกฝ่ายตอบตามมารยาท
“ทางนี้ก็เช่นกัน”
ทอเร่ชำเลืองมองดาวเงินสองดวงบนบ่าชายหนุ่มด้วยสีหน้าอิจฉา
“พวกเรายศเท่ากันแล้ว …ยังผ่านมาไม่ถึงหนึ่งเดือนเลย”
ตอนแรกไคลน์คิดจะตอบกลับไปว่า ‘ทางนี้ต้องเสี่ยงอันตรายมากกว่าสิบเท่า’ แต่มันฉุกคิดได้ว่าอาชีพใหม่ของตนคือตัวตลก
…ลองดูสักตั้ง
ชายหนุ่มปลดปล่อยพลังวิญญาณเพื่อสำรวจใบหน้าตัวเองในมุมมองบุคคลสาม จากนั้นก็ควบคุมมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้ฉีกมุมปากสองข้างออกจนคล้ายตัวตลก
“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คุณอาจต้องเรียกผมว่า ‘ท่านเซอร์’”
“…ฮะฮะ! มุกตลกของคุณเจ๋งมาก!”
ทอเร่หัวเราะพลางชี้ยิ้วไปยังประตู
“พวกเราไปกันเลยไหม”
“ตกลง”
ไคลน์ไม่เก็บไม้ค้ำเหมือนทุกที ในเมื่อมันกลายเป็นตัวตลก สมรรถภาพร่างกายจะช่วยให้ไม้ค้ำกลายเป็นอาวุธทรงพลัง
หลังจากทั้งคู่เดินออกจากบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ หุ่นของพวกมันเกิดข้อเปรียบเทียบชัดเจน เนื่องจากฝั่งหนึ่งผอมเพรียว ส่วนอีกฝั่งอ้วนเป็นหมี
“ผมคิดว่าถ้าพวกเราอยู่ในคณะละครสัตว์ ผู้ชมต้องหัวเราะพร้อมกับปรบมือให้แน่”
ไคลน์ติดตลก ทอเร่พยักหน้าสนับสนุน
“ถูกต้อง ผมสัมผัสได้ว่า ความแตกต่างทางร่างกายมักถูกนำมาใช้สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชมในคณะละครสัตว์ บางคณะเจาะจงเลือกใช้ตัวตลกอ้วนมากและผอมเป็นพิเศษ”
…เปล่าเลย ฉันหมายถึงคนฝึกสัตว์กับหมีน้ำตาลต่างหาก
อย่างไรก็ตาม ไคลน์ตัดสินใจไม่หยาบคายกับอีกฝ่ายมากเกินไป
“น่าเสียดาย ทิงเก็นไม่มีคณะละครสัตว์แบบถาวรสักที”
“นั่นสินะ พวกเรามีแค่โอเปร่า โรงละคร และหอดนตรี”
ทอเร่ตอบเสียงค่อย
ทั้งสองสนทนาเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเดินถึงรถม้าตำรวจ ทันใดนั้น ไคลน์รีบวกกลับเข้าเนื้อหาของคดีทันที
“แน่ใจแล้วหรือว่าส.ส.เมย์นาร์ดถูกฆาตกรรมโดยใครบางคน?”
“ยังไม่แน่ใจ ของแบบนี้ไม่มีทางแน่ใจได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้านภรรยาและบุตรชายทั้งสองยังไม่ปักใจเชื่อว่าส.ส.เมย์นาร์ดจะเสียชีวิตกะทันหันจากปัญหาสุขภาพ แถมจุดเกิดเหตุยังพบความผิดปรกติบางอย่าง …ท่านส.ส.ตายในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน”
ทอเร่กล่าวพลางครุ่นคิด
“เขาไม่ได้นอนกับภรรยาหรือ?”
ไคลน์เอนหลังพิงเบาะรถม้า มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าด้วยมาดเลียนแบบนักสืบในภาพยนตร์
ทอเร่ส่ายศีรษะ
“เปล่าครับ บังเอิญภรรยาของเขาต้องเดินทางไปเบ็คลันด์เพื่อร่วมงานลีลาศสำหรับชนชั้นสูง คุณอาจไม่ทราบ แต่เธอเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ขณะเดียวกันก็เป็นบุตรสาวของหนึ่งในสมาชิกสภาสามัญ ปัจจุบันกำลังเร่งเดินทางกลับทิงเก็นด้วยรถจักรไอน้ำ ความเห็นเบื้องต้นของเธอถูกส่งผ่านโทรเลข กล่าวกันว่า ส.ส.เมย์นาร์ดได้เตรียมสมัครเข้าร่วมพรรคใหม่นี้ด้วย ในฐานะส.ส.ประจำเมืองทิงเก็นติดต่อกันนานกว่าสิบปี เขามีแผนลงสมัครท้าชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองทิงเก็นในปีถัดไป”
“หรือก็คือ …เขาอาจถูกฆาตกรรมด้วยสาเหตุดังกล่าว?”
ไคลน์ถามออกไปโดยไม่คิดมาก ก่อนจะฉุกคิดบางสิ่งได้ มันเพียงอมยิ้มมุมปากและกล่าวเสริม
“…ลืมไปเลย งานของผมมีแค่การชันสูตรศพ คุณไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเมื่อครู่ก็ได้”
ทอเร่ไม่ได้ถือสา มันเพียงถอนหายใจเบา
“ชันสูตรศพสินะ …ใช้คำรอบคอบมาก ส่วนข้อสันนิษฐานของคุณ ผมคงไม่สามารถยืนยันได้เต็มปาก แต่ก็มีโอกาสสูงพอสมควร ค่ำคืนก่อนส.ส.เมย์นาร์ดเสียชีวิต ได้มีการจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในบ้านพักส่วนตัวของเขา แขกร่วมงานมีจำนวนมากเกินไป พวกเราไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น แขกแต่ละคนล้วนมีเบื้องหลังไม่ธรรมดา มิอาจสืบสวนส่งเดชได้เลย”
“เข้าใจแล้ว”
ไคลน์ผงกศีรษะก่อนจะซักถามถึงสภาพแวดล้อมจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
…
บ้านพักของเมย์นาร์ดอยู่ในเขตไม้ฟินิกซ์ ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ล้อมรอบด้วยลานหญ้าและแปลงดอกไม้ มีคอกม้า น้ำพุ รวมถึงทางเดินสร้างจากซีเมนต์
ไคลน์ขยับจัดแจงปีกหมวกขณะเดินตามหลังทอเร่เข้าไป ทั้งสองแทรกตัวผ่านมวลมหาตำรวจจนกระทั่งผ่านประตูบ้านหลังเกิดเหตุ พวกมันได้รับความสนใจจากสายตาตำรวจรอบข้างจำนวนมาก
ภายในห้องนั่งเล่น นายตำรวจยศรองสารวัตร ชายสองหญิงสี่ กำลังเร่งสอบปากคำแขกร่วมงานเพื่อรวบรวมเบาะแสโดยด่วน
ไคลน์กวาดสายตามองรอบตัว มันได้พบสุภาพบุรุษสุภาพสตรีในชุดหรูหราจำนวนมาก
“ทั้งหมดคือแขกพักค้างคืน”
ทอเร่อธิบายพร้อมกับพาไคลน์เดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
ระหว่างทาง ขณะตำรวจทั่วไปกำลังยืนปฏิบัติงาน พวกมันต่างรีบทำความเคารพเมื่อเหลือบเห็นไคลน์และทอเร่เดินผ่าน ไม่มีใครกล้ากีดขวางแม้แต่คนเดียว
…คงเป็นเพราะดาวเงินสองดวงบนบ่า
“ห้องนี้คือจุดพบศพส.ส.เมย์นาร์ด”
ทอเร่กล่าวขณะหยุดยืนหน้าห้อง บานประตูไม้ถูกทาด้วยสีแดงเข้มสวยงาม
ไคลน์ไตร่ตรองสักพักก่อนซักถาม
“แขกคนใดถูกจัดแจงให้พักห้องนี้?”
“ไม่มี เนื่องจากบ้านพักของส.ส.เมย์นาร์ด กว้างใหญ่จนรับแขกได้เหลือเฟือ ห้องนี้จึงไม่ถูกใช้งาน”
ทอเร่ส่งสัญญาณบอกให้ตำรวจซึ่งกำลังยืนเฝ้าศพในห้องออกไปชั่วคราว จากนั้นก็หันมาพูดกับไคลน์
“สารวัตรโมเร็ตติ …ฝากด้วยนะครับ”
“ขอให้เทพธิดาอวยพร ขอให้ผมโชคดีได้พบเบาะแสบางสิ่ง”
ไคลน์นำถุงมือสีขาวออกมาสวมก่อนจะปิดประตูห้องนอนพร้อมลงกลอนมิดชิด
มันเดินตรงไปยังปลายเตียง สายตาเพ่งพิจารณาจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด
ชายหนุ่มพบว่าผ้าคลุมเตียงสีแดงยับยู่ยี่ผิดธรรมชาติ ด้านบนผ้าแดงเป็นศพมนุษย์เพศชายถูกคลุมด้วยผ้าขาว
ปัจจุบัน ไคลน์ค่อนข้างมีประสบการณ์ในด้านนี้ มันจึงดึงผ้าคลุมศพออกโดยไม่ลังเล และได้พบร่างส.ส.เมย์นาร์ดตามคาดหมาย
อายุราวสี่สิบ ผมทองถูกตัดสั้นเป็นระเบียบ สีหน้าของศพเป็นการผสมผสานระหว่างความเจ็บปวดและความสุข
ชายหนุ่มถอยหลังสองก้าวพร้อมกับหยิบขวดวัตถุดิบออกมาเตรียมประกอบพิธีกรรมสื่อวิญญาณ
เมื่อกลิ่นหอมสุขสงบเริ่มฟุ้งรอบตัว ไคลน์เริ่มท่องประโยคทำนายด้วยเสียงแผ่วเบา
“สาเหตุการตายของส.ส.เมย์นาร์ด สาเหตุการตายของส.ส.เมย์นาร์ด”
…
ขณะท่อง ชายหนุ่มเดินไปนั่งเก้าอี้พนักสูงภายในห้องอย่างไม่รีบร้อน
เมื่อนัยน์ตากลายเป็นสีดำสนิท มันเอนหลังพิงเก้าอี้และนั่งหลับไปในเวลาอันสั้น
…
ท่ามกลางโลกมายาพร่ามัว ไคลน์เห็นตัวเอกในนิมิตเป็นสุภาพบุรุษเจ้าของศพ
ด้วยดวงตาสีฟ้าเบิกโพลง เมย์นาร์ดกำลังโน้มตัวคร่อมสตรีรูปร่างสมส่วนผิวพรรณขาวเนียน อวัยวะท่อนล่างของมันรัวกระทุ้งใส่หล่อนไม่หยุดหย่อนพลางส่งเสียงเหนื่อยหอบเป็นระยะ
เมื่อเสร็จกามกิจ ใบหน้าเมย์นาร์ดพลันสุขสมสุดขีด แต่ทันใดนั้นกลับใช้มือขวากุมหน้าอกพร้อมแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวด
ตุ้บ
เมย์นาร์ดล้มฟุบบนเตียง
ภาพความฝันไคลน์แตกละเอียดคล้ายเศษกระจก จากนั้นก็ลืมตาตื่นขึ้นจากนิมิต
…นี่มันเหมือนกับ
…ได้ดูหนังโป๊
ขณะเดียวกันก็หมายความว่า เมย์นาร์ดเสียชีวิตเพราะใช้แรงมากเกินไป?
ไคลน์คิกคักเสียงค่อยพลางบีบนวดขมับ
มันหยิบปากกากับกระดาษออกมาพร้อมกับเริ่มประกอบพิธีกรรมใหม่ คราวนี้เป็นการวาดภาพหญิงสาวในนิมิตโดยอาศัยพลังมิติสายหมอกเข้าช่วย
แน่นอน ไคลน์วาดเฉพาะส่วนศีรษะ ถึงจะจดจำท่อนล่างได้แม่นยำก็ตาม
อีกฝ่ายคือหญิงสาวงดงามจนยากระบุอายุชัดเจน มองผิวเผินอาจคล้ายสตรีวัยสามสิบ แต่ก็ยังหลงเหลือความอ่อนเยาว์ให้เห็น ดวงตากระจ่างสดใส ใบหน้าเลอโฉมไร้จุดตำหนิ
ไคลน์ยืนพิจารณาฝีมือวาดภาพของตนพลางสลายกำแพงวิญญาณรอบตัวทิ้ง
เมื่อเสร็จสิ้นการสืบสวน ชายหนุ่มเตรียมตัวออกจากจุดเกิดเหตุ มันเอื้อมมือไปหยิบไม้ค้ำซึ่งวางพิงขอบเตียงไว้
ทันใดนั้น ไคลน์ได้ยินใครบางคนกระแอมล้างคอเสียงดังฟังชัดในระยะประชิด เส้นขนทั้งร่างมันพลันตั้งชันพร้อมเพรียง
ชายหนุ่มรีบหันกลับไปมองเตียงนอน และได้พบศพเมย์นาร์ดกำลังใช้สองมือขยำผ้าปูเตียงสีแดงสดจนเส้นเลือดปูดโปน
เกิดเสียง ‘ฟุ่บ’ แผ่วเบาหนึ่งหน
สมาชิกรัฐสภาซึ่งควรเสียชีวิตตั้งแต่สามทุ่มถึงห้าทุ่มของเมื่อคืนวาน …ทำการดีดตัวขึ้นมานั่งพร้อมกับฟองน้ำลายฟูมท่วมปาก
ดวงตาแดงฉานเบิกโพลงจ้องเขม็งตัวตลกมือใหม่อย่างไม่กะพริบ
……………………