Skip to content

Outside Of Time 1045


บทที่ 1045 รับราชโองการกระทำกำเริบเสิบสาน

เสียงของสวี่ชิงดังก้องไปในตำหนักใหญ่ภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 10

จักรพรรดินีเงยหน้า สายตาจับจ้องไปที่ร่างของสวี่ชิง

“อำนาจเทพนี้สูงส่งสูงสุด โดยเฉพาะตัวแปรที่ไม่แน่นอนของวาสนา แม้แต่ข้าก็ยังมองไม่ทะลุ”

“ข้าบอกเจ้าได้เพียงว่าอำนาจเทพของเสี้ยวหน้าซ่างฮวงก็คือชะตาวาสนา”

“เจ้ากับรัชทายาทรัฐม่วงคราม คนหนึ่งใช้เลือดเนื้อซ่างฮวงสร้างกายเนื้อ คนหนึ่งเป็นผู้มีสายสัมพันธ์พิเศษกับซ่างฮวงได้รับชีวิตใหม่”

“ขณะเดียวกัน ภายใต้ดาบนั้นของอาจารย์เจ้าเมื่อคราวนั้น โชคชะตาของรัฐม่วงครามก็ชิงเอามาให้เจ้าบางส่วน ทำให้การกลับมาของรัฐม่วงครามเปลี่ยนไปไม่สมบูรณ์”

“และความสัมพันธ์ของเจ้ากับรัชทายาทรัฐม่วงคราม ในชาตินี้ยังเป็นพี่น้องกันอีก”

“เรื่องเหล่านี้เหมือนการเกี่ยวพันของชะตาวาสนา และในอนาคตก็จะต้องหลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างแน่นอน”

“นี่คือแนวคิดว่าด้วยสิ่งที่กำหนดแน่นอนและตัวแปรที่ไม่แน่นอน และเป็นการต่อสู้ของชะตาและวาสนา ยิ่งเป็นศึกตัดสินชะตาชีวิตระหว่างเจ้าและรัชทายาทรัฐม่วงคราม”

จักรพรรดินีดึงสายตาที่มองสวี่ชิงกลับมา ทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าที่ไกล ในดวงตาของนางคล้ายมีลำแสงไหลวนฉายวูบ เหมือนว่า…องค์ท่านมองเห็นวันนั้น

จากนั้นก็หมองหม่นลง

สวี่ชิงเงียบนิ่ง

เขาเห็นแสงมองหม่นในดวงตาจักรพรรดินี แต่กลับไม่เอ่ยถามอะไรแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายเห็นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ความจริงแล้วล้วนเป็นในขอบเขตของสิ่งที่กำหนดเอาไว้แน่นอนแล้ว

ตัวแปรที่ไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองได้เห็น

ชะตาชีวิต ในเมื่อสุดท้ายแล้วตนก็ควบคุมมัน เช่นนั้นในอนาคต ก็ต้องเป็นตัวเองใช้มีดสลักไปกำหนดมันเอง

ทั้งสลักชะตาของคนอื่นและสลักชีวิตของตัวเอง

ดังนั้น สวี่ชิงนิ่งสงบ ไม่หวั่นไหว มองไปทางจักรพรรดินี โค้งคารวะ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ช่วยไขปัญหา ไม่ทราบว่าฝ่าบาทอยู่ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารแห่งนี้ มีเรื่องอะไรให้ข้าแซ่สวี่ผู้นี้จัดการหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“หากมี สวี่ชิงจะต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดให้สำเร็จอย่างแน่นอน!”

จักรพรรดินีได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อย “เดิมนั้นไม่มี”

สวี่ชิงกะพริบตาปริบๆ ฟังถึงนัยยะที่แฝงเอาไว้ของประโยคนี้ออก

“แต่คำนึงถึงว่าเจ้าไม่ค่อยจะสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวสักเท่าไร ดังนั้น นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าคอยติดตามอยู่ข้างกายข้าก็แล้วกัน”

“3 วันหลังจากนี้ ข้าจะไปเผ่าปีกมารฝั่งประจิมสักหน่อย ใช้ฐานะของหลี่ว์หลิงจื่อไปคารวะมหาจักรพรรดิปีกมารรุ่นนี้ ปรึกษาเรื่องรายละเอียดของการเปิดสถานที่ปิดด่านของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน”

“ถึงตอนนั้น เจ้าไปด้วยกันกับข้า”

“ตอนนี้เจ้าพักที่นอกตำหนักก่อนก็ได้ ฟื้นฟูวิญญาณของเจ้าที่ตอนนี้อ่อนแอสักหน่อย”

จักรพรรดินียกมือ ขวดลูกกลอนและแผ่นหยกแผ่นหนึ่งก็ลอยไปหาสวี่ชิง

สวี่ชิงรับมา สัมผัสได้ว่าในขวดมีลูกกลอน 1 เม็ด เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกกลอนหล่อเลี้ยงวิญญาณ ส่วนแผ่นหยกก็มีคุณสมบัตินี้เช่นกัน ในใจของเขาเกิดความรู้สึกขอบคุณ โค้งคารวะอีกครั้ง จากนั้นก็ถอยไปจากตำหนัก

นอกตำหนัก สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก นั่งขัดสมาธิสมาธิ กลืนลูกกลอนในขวดที่ถืออยู่ลงไปในทีเดียว

ลูกกลอนนี้เมื่อเข้าปากก็ละลายทันที เกิดเป็นฤทธิ์ยาหล่อเลี้ยงวิญญาณ ผสานไปในทะเลความรู้สึก

ลูกกลอนนี้มีสรรพคุณที่ไม่ธรรมดา เมื่อแทรกซึมไปในทะเลความรู้สึกก็เหมือนผืนแผ่นดินที่แห้งแล้งได้น้ำฝน ต้นไม้ใบหญ้าที่แห้งเหี่ยวได้ชีวิตใหม่ วิญญาณของสวี่ชิงที่หมองหม่นเนื่องจากแดนลับต้นกำเนิดโลกก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว

3 วันผ่านไป

วิญญาณของสวี่ชิง ภายใต้ฤทธิ์ของยาลูกกลอนก็ฟื้นคืนกลับมา 5 ส่วน

แม้จะไม่ได้ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ แต่ส่งอิทธิพลต่อกำลังรบไม่น้อยเลย จากนี้ต้องใช้เวลาไปหล่อเลี้ยง ขณะเดียวกัน พลังของแผ่นหยกก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น สวี่ชิงคาดว่าอย่างมาก 1 เดือน ตัวเองก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูถึงสภาวะสมบูรณ์ที่สุด

ส่วนจักรพรรดินี ในพลบค่ำของวันนี้ก็เดินออกจากตำหนักใหญ่ ก้าวไปทางท้องฟ้า

สวี่ชิงลุกขึ้นทันที ติดตามอยู่ข้างหลัง

ดังนั้น ที่เชิงเขาเจ้าเหนือหัวที่ 10 ผู้บำเพ็ญเผ่าปีกมารมากมายที่รวมตัวอยู่ที่นั่น ในยามพลบค่ำวันนี้ ก็ต่างเห็นภาพที่ทำให้พวกเขาต้องหมอบคารวะ

เจ้าเหนือหัวเหาะเหินกลางอากาศจากไป

นี่เป็นการเดินทางจากไปอย่างเป็นสาธารณะครั้งแรก หลังจากที่หลี่ว์หลิงจื่อสร้างเขาเจ้าเหนือหัว

ส่วนสวี่ชิงที่ตามติดอยู่ข้างหลังก็เป็นครั้งแรกที่ได้รับการจับจ้องจากคนทั้งหลาย เหล่าผู้บำเพ็ญต่างจิตใจสั่นสะท้าน

ในบรรดาพวกเขามีคนรู้จักเสี่ยเฉินจื่อ แต่คนส่วนมากยิ่งได้เห็นภาพที่เขามาคำนับฝากตัวกับตา และต่างจิตใจเกิดความสั่นสะท้านเมื่อสวี่ชิงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในภูเขาเจ้าเหนือหัวเมื่อตอนนั้น

แต่ตอนนี้ เห็นสวี่ชิงคอยติดตาม พวกเขาเข้าใจความหมายในนั้นทันที

เขากลายเป็นผู้ติดตามของเจ้าเหนือหัวที่ 10 !

นับจากนี้ ฐานะและตำแหน่งของเขาจะต่างจากอดีตไปโดยสิ้นเชิง หากลงจากเขาเพียงลำพัง กระทั่งว่าสามารถให้ผู้บำเพ็ญที่รวมตัวอยู่ที่นี่เหล่านั้นทำความเคารพอย่างนอบน้อมได้

ดังนั้นอารมณ์ซับซ้อนและไม่ยอมจำนนของแต่ละคน ผุดขึ้นมาในใจคนทั้งหลาย

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร อารมณ์เหล่านี้ต่างถูกฝืนสะกดลงไปทั้งสิ้น ไม่อาจเปิดเผยออกมาได้แม้เพียงน้อยนิด สิ่งที่แสดงออกมาได้…มีเพียงความเคารพนอบน้อม

ท่ามกลางการหมอบคารวะของคนทั้งหลาย สวี่ชิงติดตามจักรพรรดินีเดินไปทางท้องฟ้า

ความเร็วของจักรพรรดินีไม่เร็วนัก แต่ทุกก้าวที่เหยียบย่างลงมา ฟ้าดินล้วนรางเลือน ระลอกคลื่นพลังเจ้าเหนือหัวทั้งร่างชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง

และการเดินออกมาของจักรพรรดินีก็ดึงสายตาจับจ้องมาจากเจ้าเหนือหัวคนอื่นๆ ของเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาทันที สายตาที่แฝงไว้ด้วยการประเมินชั่งน้ำหนักเป็นทางๆ ต่างจับจ้องมาผ่านอากาศ

สวี่ชิงเก็บกลิ่นอายลงไปตามสัญชาตญาณ แต่เห็นความสุขุมเยือกเย็นทั่วทั้งร่างของจักรพรรดินีแล้ว เขาก็มีความมั่นใจ

จะอย่างไร นี่ก็เป็นผู้บำเพ็ญระดับแท่นเทวะสุดยอด อีกทั้งกล้าไปพบมหาจักรพรรดิปีกมาร เห็นได้ชัดว่าทางจักรพรรดินีก็จะต้องมั่นใจเป็นอย่างมากแน่นอน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ติดตามอยู่ข้างกายอีกฝ่าย ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องขบคิดอะไรให้มาก

คิดถึงตรงนี้ สวี่ชิงเลยหน้า สุขุมเยือกเย็นขึ้นมาเช่นกัน

เช่นนี้เอง ท่ามกลางสายตาของผู้บำเพ็ญเจ้าเหนือหัวเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาคนอื่นๆ จักรพรรดินีพาสวี่ชิงเดินข้ามผืนฟ้า หลังจากไม่กี่ก้าวก็ไปจากพื้นที่เขตเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา เหยียบเข้ามาในเขตของเผ่าปีกมารฝั่งประจิม

ในพริบตาที่มาปรากฏตัวขึ้นที่เผ่าปีกมารฝั่งประจิม สายตาของเจ้าเหนือหัวที่มากยิ่งขึ้นก็จับจ้องมาท่ามกลางความว่างเปล่า

เพียงพริบตา ผืนดินคำรามเลื่อนลั่น มิติบิดเบี้ยว รอยกฎเกณฑ์และกฎระเบียบเป็นทางๆ กะพริบวูบวาบรอบๆ ยิ่งในทันทีที่สายตาจับจ้องมา ก็ยังมีจิตเทพทางหนึ่งกราดมาอย่างแข็งแกร่งทรงพลัง

ไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย จับจ้องมาบนร่างของจักรพรรดินี

จักรพรรดินีใบหน้าไร้อารมณ์ เดินไปข้างหน้าต่อไป

สวี่ชิงสีหน้าเป็นปกติ ก้มหน้าติดตามไป

แม้เผ่าปีกมารฝั่งประจิมจะอยู่เหนือกว่าเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา มีภูเขา 21 ลูก

แต่สวี่ชิงสัมผัสได้ว่า สายตาของเจ้าเหนือหัวเหล่านี้แค่กวาดๆ มองมาที่ตนทางนี้เท่านั้น ที่เน้นให้ความสำคัญเป็นจักรพรรดินีทางนั้น

นี่ทำให้สวี่ชิงแทบจะไม่มีความกดดันอะไรเลย

เขาก็แค่ทำหน้าที่ผู้ติดตามให้ดีเท่านั้นก็พอแล้ว

แต่ว่า เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาเจ้าเหนือหัวที่มาจากความว่างเปล่าเหล่านั้นแฝงด้วยจิตที่ไม่เป็นมิตร อีกทั้งท่าทีแข็งก้าวเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าแฝงด้วยการแจ้งเตือนและดูถูกหลี่ว์หลิงจื่อ เจ้าเหนือหัวที่เลื่อนขั้นขึ้นมาใหม่อย่างหลี่ว์หลิงจื่อ แดนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาคนนี้อีกด้วย

การดูถูกนี้ ย่อมมีเป้าหมายที่ระดับขั้นลึกลงไป ดังนั้นจึงไม่ได้มาจากแค่เจ้าเหนือหัวเท่านั้น

แต่รวมมหาจักรพรรดิปีกมารรุ่นนี้เอาไว้ด้วย

การขอเข้าพบของจักรพรรดินีไม่เป็นผล

แท่นเต๋าของมหาจักรพรรดิปีกมาร หลังจากจักรพรรดินีบอกถึงวัตถุประสงค์ที่มาแล้วก็ไม่ได้มีทีท่าจะเรียกให้เข้าพบในทันที แต่ให้ลูกศิษย์ของมหาจักรพรรดิคนนั้นที่เป็นผู้บำเพ็ญกลางเพิ่งจะเลื่อนระดับเป็นเจ้าเหนือหัวเหมือนกัน มาแจ้งโองการให้กับจักรพรรดินี

โองการนี้มีเพียงคำเดียวเท่านั้น

“รอ!”

พูดจบ เจ้าเหนือหัวที่เพิ่งเลื่อนขั้นใหม่คนนี้ ในดวงตาแฝงด้วยรอยพินิจพิเคราะห์ มองจักรพรรดินี เอ่ยเสียงเย็นชา

“หลี่ว์หลิงจื่อ ตอนนั้นเจ้ากับข้าประลองฝีมือแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน แต่ไม่รู้ผลแพ้ชนะ วันนี้ในเมื่อเจ้าก็เลื่อนขั้นแล้วเช่นกัน มิสู้มาสู้กันอีกครั้ง!”

คำพูดนี้ดังออกมา ท้องฟ้าสายอัสนีคำรามลั่น ความรู้สึกกดดันลงมาเยือนทันที

จักรพรรดินีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ มาโดยตลอด ตอนนี้ยิ่งไม่แม้แต่จะมองลูกศิษย์มหาจักรพรรดิคนนั้น แต่หันไปหาสวี่ชิง เอ่ยราบเรียบ “เสี่ยเฉินจื่อ”

“ขอรับ!” สวี่ชิงลุกขึ้นโค้งคารวะทันที

“ไปที่เผ่าปีกมารฝั่งประจิม ทำการต่อสู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บำเพ็ญระดับต่ำกว่าเจ้าเหนือหัวลงไปให้หมดทุกคน อย่าทำให้เผ่าปีกมารฝั่งบูรพาต้องตกต่ำเสียชื่อ”

คำนี้เมื่อดังออกมา เจ้าเหนือหัวที่จ้องมองมาที่นี่ทุกคนมองไปทางสวี่ชิงทันที แม้แต่เจ้าเหนือหัวที่มาประกาศโองการของมหาจักรพรรดิคนนั้น ก็ยังเบนสายตาจากจักรพรรดินีมาทางสวี่ชิงเช่นกัน

สวี่ชิงสายตาจ้องเพ่ง เขาฟังออกถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของจักรพรรดินี นี่คือบอกอย่างชัดเจนว่าให้ตนแสดงออกอย่างเต็มที่ไม่ต้องปกปิด

แต่อำนาจเทพและอำนาจถึงจะเป็นฝีมือการสังหารทำลายล้างที่สำคัญของตน ดังนั้นปัญหาที่หนักหน่วงที่สุดของตนคือหากลงมือก็จะต้องเปิดเผยออกมาอย่างแน่นอน

แต่ในเมื่อจักรพรรดินีพูดเช่นนี้ ไม่มีทางไม่คำนึงถึงจุดนี้ ดังนั้นสวี่ชิงไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ร่างมีจิตสังหารปะทุขึ้น เอ่ยรับคำสั่งเสียงต่ำ “น้อมรับบัญชา!”

พูดจบ ร่างของเขาก็เพียงไหววูบ พุ่งตรงไปยังขอบฟ้าที่ไกล

จักรพรรดินีหลับตา ไม่พูดอะไรอีก

ส่วนสวี่ชิงทางนั้น ในใจคิดวิเคราะห์ ด้านหนึ่งคาดเดาถึงวิธีที่จักรพรรดินีปกปิดการลงมือของตน อีกด้านหนึ่งนึกย้อนถึงความเข้าใจต่อเผ่าปีกมารฝั่งประจิมในความทรงจำของเสี่ยเฉินจื่อ

“เผ่าปีกมารฝั่งประจิมมีเขาเจ้าเหนือหัว 21 ลูก ในนั้นที่แข็งแกร่งที่สุดคือลูกที่ 2 จากนั้นก็เป็นลูกที่ 1 ลูกที่ 3 และลูกที่ 17”

“จักรพรรดินีให้ข้าไปต่อสู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เช่นนั้นภูเขาที่เหมาะต่อการสู้ศึกแรกที่สุดก็เป็น…”

สวี่ชิงมองไปทางเหนือ

นั่นเป็นทางที่ภูเขาเจ้าเหนือหัวลูกที่ 17 ตั้งอยู่

“เป็นที่นั่น!”

“ส่วนวิธีที่จักรพรรดินีปกปิดการลงมือของข้า มีความเป็นไปได้ว่า…” สวี่ชิงลูบแผ่นหยกที่จักรพรรดินีประทานให้ก่อนหน้านี้

แผ่นหยกนี้ เดิมเขาคิดว่าแค่หล่อเลี้ยงวิญญาณเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อวิเคราะห์แล้ว วัตถุชิ้นนี้มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเป็นวัตถุปิดบังอำพรางที่จักรพรรดินีเตรียมเอาไว้ให้ตนเป็นพิเศษ

คิดถึงตรงนี้ สวี่ชิงไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ทะยานไปอย่างเร็วรี่ ตรงไปยังภูเขาเจ้าเหนือหัวลูกที่ 17

ความเร็วที่เขาสำแดงออกมาถึงขีดสูงสุด ยิ่งมีเสียงของระเบิดอากาศดังก้องไปทั่วทิศ หลังจากนั้น 1 ก้านธูป ภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 17 ที่สูงตระหง่านก็ปรากฏขึ้นในสายตาของสวี่ชิง

ทันทีที่เข้าใกล้ เสียงของสวี่ชิงก็ประดุจอัสนีสวรรค์ พลันฟาดเปรี้ยงลงมาที่ภูเขาลูกนี้

“เสี่ยเฉินจื่อผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 10 แห่งเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา ขอท้าประลองผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะทั้งหมดในภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 17 แห่งเผ่าปีกมารฝั่งประจิม!”

แทบจะในพริบตาที่คำพูดของสวี่ชิงดังออกมา เสียงแค่นหัวเราะเสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากในภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 17 “เฉินเฟย เจ้าไปกำราบเจ้านี่เสีย!”

คำพูดที่จักรพรรดินีพูดกับสวี่ชิงก่อนหน้านี้ เจ้าเหนือหัวทุกคนของเผ่าปีกมารฝั่งประจิมล้วนได้ยินหมดแล้ว

และสำหรับพวกเขา ในเมื่อหลี่ว์หลิงจื่อไม่สู้เอง ส่งข้ารับใช้ออกมา เช่นนั้น…หลังจากกำราบข้ารับใช้คนนี้แล้ว หลี่ว์หลิงจื่อก็จะไม่มีเหตุผลที่จะไม่ต่อสู้อีกต่อไป

ดังนั้นเพียงพริบตา ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะนี้ เงาร่างหนึ่งก็เหาะออกมาจากในภูเขา

นี่เป็นผู้บำเพ็ญกลางคนคนหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ ระลอกคลื่นพลังบำเพ็ญทั้งร่างแข็งแกร่ง มีโลกใบใหญ่ 7 ใบ สาดกะพริบแสงเจิดจ้าจากร่างของเขา

ตอนนี้หลังจากที่เงาร่างของเขาเหาะออกมา ก็มาหยุดอยู่กลางอากาศ โค้งคารวะไปทางยอดเขาก่อน จากนั้นก็หันมามองสวี่ชิง แววตาดุดัน

จากนั้นเพียงก้าวเดียวก็พุ่งตรงไปหาสวี่ชิง

โลกใบใหญ่ 7 ใบพลันปะทุขึ้น ก่อเป็นพลังน่าครั่นคร้าม ส่วนสวี่ชิงสีหน้าสุขุมเยือกเย็น มือขวายกขึ้น กดไปทางทิศที่เฉินเฟยเหาะมา จากนั้นฝ่ามือก็พลันบีบ

ทันใดนั้นอำนาจแห่งเสียงในร่างเขาก็ปะทุขึ้นทันใด

เสียงที่เกิดขึ้นรอบๆ เฉินเฟย ในเสี้ยวขณะนี้เปลี่ยนแปลงเป็นพลังสังหารทำลายล้างทั้งหมด หอบม้วนไป ก่อเป็นลูกทรงกลมขนาดมหึมา เสียงสังหารในนั้นกลายเป็นระลอกคลื่น ยิ่งใหญ่ทรงพลัง สะท้านสะเทือนทุกสิ่ง

ฝีมือเช่นนี้ทำให้เฉินเฟยหน้าเปลี่ยนสี ในใจเกิดระลอกคลื่น ส่วนสิ่งที่เห็นในสายตาของเขากลับไม่ใช่เสียงสังหาร แต่เป็นตราประทับเลือดน่าครั่นคร้ามมากมายนับไม่ถ้วน

ทุกตราประทับล้วนส่งกลิ่นคาวเลือดคลุ้งออกมา แฝงไว้ด้วยพลังไม่ธรรมดา อีกทั้งจากการจับกลุ่มของพวกมัน ยิ่งมีความรู้สึกแปลกประหลาดอัศจรรย์

ทำให้เขาสูญเสียการเป็นฝ่ายได้เปรียบในทันที

ดังนั้นในช่วงวิกฤตอันตราย โลกใบใหญ่ทั้ง 7 ของเขาประกายแสงฉายวูบ มือทั้ง 2 ประสานปางมือ พลันมีรูปสลักแปลกประหลาดแตกต่างกันไป 7 รูป ลอยขึ้นมาอย่างเหี้ยมเกรียมจากในโลกใบใหญ่

ต่างไหววูบก็ปรากฏร่างจริง พุ่งออกมาจากในโลกที่อยู่ สังหารมาทางสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว

สวี่ชิงใบหน้าไร้อารมณ์ ทันทีที่ร่างจริงทั้ง 7 เข้ามาใกล้ ตัวเขาก็หายไปในทันที หลอมผสานไปในเสียง ในตอนที่ปรากฏตัวขึ้นก็มาอยู่ข้างหลังเฉินเฟยแล้ว

อำนาจ 2 อำนาจในดวงตาฉายประกายเจิดจ้าพร่างพรายทันที

มองเห็นเส้นไหมแห่งผลกรรมเวรของเฉินเฟย ส่งอิทธิพลต่อ 7 จิต 6 ปรารถนาของเขา

ใช้ผลกรรมเวรจับเป้าหมายชะตาของเขา ใช้อารมณ์แปรเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่น

โจมตีจิตใจ

จากนั้นแสงเซียนอาทิตย์ทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ ลอยขึ้นในทะเลความรู้สึก เกิดเป็นแสงและความร้อนไม่สิ้นสุด เพียงพริบตาก็ปกคลุมเฉินเฟยเอาไว้ สะกดไปอย่างเหี้ยมเกรียม

เสียงระเบิดดังท่วมฟ้า เฉินเฟยแค่เสียจังหวะในอำนาจเสียงเท่านั้น และจากนั้นก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกก้าว ตอนนี้ความสามารถทั้งหมดที่มียังไม่ทันได้สำแดง ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแสงเซียนอาทิตย์ทมิฬ ร่างส่งเสียงระเบิดบึ้ม ก็ร่วงลงไปยังพื้นดิน

สวี่ชิงไล่ตามไปทันใด เข้าประชิดทันที ยกมือแล้วชกออกไป ซัดไปที่หน้าอกของเฉินเฟย ทำให้อาการบาดเจ็บของเขายิ่งสาหัส

และทุกอย่างนี้พูดแล้วเหมือนยาวนาน แต่ความจริงแล้วเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวพริบตา

แทบจะในพริบตาที่สวี่ชิงก่อนหน้านี้สำแดงอำนาจเทพและอำนาจ แผ่นหยกที่จักรพรรดินีประทานให้แผ่นนั้นก็หลอมผสานกับเขาอย่างเงียบงัน ทำการปกปิดอำพรางวิชาทั้งหมดของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ดังนั้น อำนาจเสียงที่แสดงให้เห็นภายนอกในศึกนี้กลายเป็นตราประทับที่เกี่ยวกับเลือด อำนาจกลายเป็นวิชาเต๋า แสงเซียนอาทิตย์ทมิฬกลายเป็นวิชาลับ

และการต่อสู้ที่จบลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ก็ทำให้ผู้บำเพ็ญทั้งหลายของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 17 ที่จับตามองศึกนี้ จิตใจต่างสั่นสะท้าน เสียงสงัดไปในเสี้ยวพริบตาหนึ่ง

สวี่ชิงนึกถึงคำสั่งของจักรพรรดินี ดังนั้นจึงมองต่ำลงมาอย่างเหยียดหยามไปที่เฉินเฟย

“เจ้า ช่างกระจอกเสียจริง”

ขณะพูด เขาก็เตะออกไป เตะร่างของเฉินเฟยไปทางเขาเจ้าเหนือหัว

จากนั้นก็เอ่ยเสียงราบเรียบ “ผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะของเขานี้ยังมีใครออกมาสู้อีก”

เฉินเฟยได้ยิน ในใจเกิดความไม่ยอมจำนน เขายังมีวิชาอีกมากมายที่ยังไม่ได้ใช้ และก่อนหน้านี้ที่เขาแพ้ ในความเข้าใจของเขาเป็นเพราะความประมาทของตัวเอง

ดังนั้นกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไร แต่จากการร่วงลงมา ความสาหัสของอาการบาดเจ็บก็ทำให้เขาไม่ทันได้พูดออกมาก็กระอักเลือดสดๆ อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน เสียงต่ำทุ้มเสียงหนึ่งก็พลันดังออกมาจากในภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 17

“เดิมไม่อยากจะข่มเหงผู้อ่อนแอกว่า แต่ในเมื่อเสี่ยเฉินจื่อ เจ้าเป็นฝ่ายร้องขอเอง เช่นนั้น…ข้าก็จะมากำราบเจ้า”

ขณะพูด กลิ่นอายน่าหวาดกลัวที่เหนือกว่าเฉินเฟยกลุ่มหนึ่งก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างน่าตื่นตะลึงจากในภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 17 มีเงาร่างชายชราร่างหนึ่งเดินออกมาจากความว่างเปล่า

ชายชราคนนี้ผมแดง ทั่วร่างแผ่ความน่าครั่นคร้ามออกมา โลกใบใหญ่ 9 ใบ ไม่ได้อยู่บนร่าง แต่ปรากฏออกมาจากโลกแต่ละใบๆ ข้างหลังเขา ภายใต้การขับเน้นจากโลก ชายชราคนนี้จึงทำให้คนรู้สึกเหมือนเข้าใกล้เทพเจ้าเป็นที่สุด

เขาเดินมาหาสวี่ชิงทีละก้าวๆ

ผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะโลก 9 ใบ!

ในดวงตาสวี่ชิงฉายประกายวาบอย่างแทบจะจับไม่ได้ สำหรับผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะโลก 9 ใบ เขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสั่นคลอนได้ ดังนั้น มองผู้บำเพ็ญที่เดินมา สวี่ชิงส่ายหน้า “เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าเช่นกัน”

“แต่ว่าในเมื่อเจ้าบอกว่าไม่อยากข่มเหงผู้อ่อนแอกว่า เช่นนั้นข้าจะยืนอยู่ที่นี่ ให้เจ้าลงมือได้ 3 กระบวนท่า ขอเพียงเจ้าทำร้ายข้าได้แม้เพียงเศษเสี้ยว ก็เท่ากับว่าเจ้าชนะ”

สวี่ชิงพูดจบ ร่างก็ลอยต่ำลงสู่พื้นดิน มือไพล่หลัง มองไปทางชายชรา

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version