Skip to content

Outside Of Time 1065


บทที่ 1065 ข้าสยบดาวดวงนี้แล้ว!

โลกที่แปลงมาจากเศษชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับเผ่าสวรรค์สร้างสืบของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน

วังใต้ดินอันกว้างใหญ่ แสงมืดสลัว กำแพงรอบๆ สลักภาพเอาไว้ แต่เมื่อมองไปกลับรางเลือน

มองรายละเอียดไม่ชัด ทำได้เพียงสัมผัสได้ว่ารูปภาพเหล่านั้นเหมือนจะเป็นของเหลว กำลังไหลวน แปรเปลี่ยนเป็นภาพนับไม่ถ้วน

ส่วนในวังใต้ดินแห่งนี้ว่างโล่ง นอกจากสระน้ำสีเขียวที่อยู่ตรงกลางแล้ว ก็มีเพียงสวี่ชิงและหนูสีทองเท่านั้น

นอกจากนี้แล้วไม่มีใครอีก และไม่มีเสียงใดๆ

มีเพียงเวลาที่ไหลไปช้าๆ

1 ก้านธูป ผ่านไปเกือบครึ่งแล้ว

สวี่ชิงก้มหน้า จ้องมองน้ำในสระข้างหน้า สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่น่ากลัวในนั้นไหลทะลักเข้ามาตามมือขวาไม่หยุด รักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตน หล่อเลี้ยงกายเนื้อ

ความรู้สึกของพลังกลุ่มหนึ่ง และความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติกำลังรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เผ่าสวรรค์สร้างสืบ…”

เผ่านี้สวี่ชิงไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ความน่าตื่นตะลึงของสระน้ำแห่งนี้ ในระดับหนึ่งก็ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งของเผ่านี้ออกมาได้อย่างแจ่มชัด

ในเมื่อ จนถึงตอนนี้ นี่เป็นวัตถุเพียงอย่างเดียวที่ได้เจอว่ามันสามารถชดเชยกายเนื้อของตนได้ถึงขั้นนี้

นอกจากนั้น อาศัยการดูดซับเล็กน้อยเมื่อครู่ เขาก็มั่นใจ น้ำในสระแห่งนี้ไม่เป็นอันตราย!

“น่าเสียดาย มากะทันหันไป”

สวี่ชิงพึมพำ สายตาฉายแววเย็นเยือก เงยหน้ามองไปทางลูกหนูสีทองในสระน้ำ

การดูดซับของลูกหนูสีทองยังคงดำเนินต่อไป สระน้ำแปลกประหลาดนี้เห็นได้ชัดว่ามันมีแรงดึงดูดต่ออย่างมหาศาล ทำให้มันไม่ยอมเสียเวลาไปแม้แต่น้อย ชดเชยอย่างบ้าคลั่ง

สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด แต่ยังไม่ได้ทำเหมือนอีกฝ่ายที่ลงไปในสระโดยสมบูรณ์แบบนั้น

ดังนั้นแค่แตะมือขวาไปในน้ำเท่านั้น หักห้ามใจไว้

จวบจนกระทั่งหลังจากนั้น ในยามที่สวี่ชิงชดเชยไปได้ในระดับหนึ่ง ท้องของลูกหนูสีทองก็พองขึ้นมา ดูดซับจนถึงขีดสูงสุดแล้ว กลับมาข้างกายสวี่ชิงอย่างอาลัยอาวรณ์

บนใบหน้าสวี่ชิงฉายแววลังเล แต่ก็เลือกที่จะยกมือขึ้น สิ้นสุดโอกาสครั้งนี้

ขณะเดียวกันก็เอาขวดที่สามารถบรรจุของเหลวได้อย่างมหาศาลหลายขวดออกมาจากถุงเก็บของ ลองเอาน้ำพวกนี้ไป

“โอกาสนี้ไม่รู้ที่มาที่ไป จำต้องเพิ่มความไตร่ตรองให้มากก่อน ถึงจะตัดสินใจว่าจะใช้น้ำนี้มาชำระล้างกายเนื้อได้หรือไม่”

“หากเอาไปไม่ได้ โอกาสนี้อย่าได้สัมผัสอีกเลยจะเป็นดี หวังว่าจะเอามันไปได้”

สวี่ชิงพึมพำ เสียงดังสะท้อนแผ่งเบาไปในวังใต้ดินแห่งนี้ อีกทั้งการกระทำทุกอย่างก่อนหน้านี้ ล้วนแต่ฉายความระมัดระวังออกมาทั้งสิ้น

และไม่นานนัก เขาก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ถอนหายใจเบาๆ สีหน้าฉายความลังเลและความเสียดาย

น้ำในสระไม่อาจเอาไปได้

“น่าเสียดาย น่าเสียดาย…”

สวี่ชิงนึกๆ เผยสีหน้าไม่ยอมจำนนออกมา ทดลองใช้วิธีมากมายไปลองอีกครั้ง ลองเอามันไปอีกหน แต่ไม่ว่าจะลองอย่างไร สุดท้ายล้วนล้มเหลวทั้งสิ้น

น้ำในสระเหล่านั้นดูเหมือนลงไปในขวดแล้ว แต่ทันทีที่ไหลลงไปมันก็หายไปเองหมด

สวี่ชิงถอนหายใจยาว ลุกขึ้นไปจากสระ ขณะเดียวกันก็เรียกหนูสีทองออกมาแทะมิตินี้ให้เป็นรู

ลูกหนูสีทองเรอออกมาทีหนึ่ง สีหน้ายินดีปรีดา อ้าปากกว้าง กัดไปกลางอากาศเต็มแรง เสียงกร๊อบดังขึ้น ภาพฉากที่เหมือนกับโลกที่ดอกบุปผาสราญรมย์อยู่ปรากฏอีกครั้ง

มิติถูกมันกัดเกิดรอยแยก เผยช่องออกมา

แต่ว่าครั้งนี้ ลูกหนูสีทองเหมือนไม่สนใจไยดีเศษมิติแล้ว ไม่ได้ไปกินมัน แต่กลับมาเกาะอย่างเกียจคร้านบนไหล่สวี่ชิง

สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก ร่างเพียงไหววูบก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทอง พุ่งตรงไปยังรอยแยกมิติ

เพียงพริบตาก็หายไปในนั้น

ทุกอย่างเป็นปกติ

เวลา 1 ก้านธูปตอนนี้ผ่านไปแล้วกว่าครึ่ง

และเสี้ยวขณะต่อมา เงาร่างของสวี่ชิงก็กลับมาในรูโหว่แห่งนี้ สายตาเป็นประกาย ต่างจากความลังเลก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

“ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำของข้าล้วนแสดงออกมาถึงความระมัดระวัง และความสงสัยตลอดจนความเสียดายต่อโอกาสนี้ อีกทั้งสุดท้ายแล้วก็เลือกที่จะจากไป”

“จากไปอย่างราบรื่น”

“เช่นนั้นมีความเป็นไปได้กี่ประเภท”

“1 ข้ามาที่นี่ไม่มีคนวางแผนแอบลอบควบคุม ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องบังเอิญ เป็นข้าที่คิดมากระแวงไปเอง”

“ในเมื่อหากมีผู้วางแผนนำโอกาสที่ไม่รู้ถึงจุดประสงค์มาให้ข้าจริงๆ เช่นนั้นเห็นการกระทำของข้าเช่นนี้ มีโอกาสเป็นอย่างสูงมากว่าเพื่อทำให้ข้าวางใจ ก็เลือกที่จะให้ข้านำน้ำนี้ไปได้ เอาไปใช้อย่างวางใจ”

“แต่การที่จะเอามันไปก็ยังคงล้มเหลว อีกทั้งในตอนที่ข้าเลือกที่จะจากไป ก็ไม่เจอกับการขัดขวางอะไร นี่ไม่ตรงกับหลักเหตุผล”

“2 มีคนแอบวางแผนอยู่จริงๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ให้ข้าเอาไป ขณะเดียวกันก็ปล่อยให้ข้าจากไป เช่นนั้น เป้าหมายของเขาคือ…”

ประกายแวววาวในดวงตาสวี่ชิงฉายวาบ

“หากเป็นเช่นนั้นจริง มีโอกาสเป็นอย่างมากว่าเป็นหมากที่ไม่ได้หวังผลตาหนึ่ง”

“แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากมีผู้วางแผนลอบวางแผนข้าจริงๆ โอกาสนี้ข้าจะคว้าหรือไม่ สุดท้ายแล้วก็เหมือนกัน อีกฝ่ายเมื่อควรจะลงมือก็จะลงมือ”

สวี่ชิงสายตาเด็ดเดี่ยว ต่อให้โอกาสนี้ในใจของเขาจะยังมีความสงสัยลังเล แต่วาสนานี้ยิ่งใหญ่เกินไป หลังจากที่เขาผ่านการหยั่งเชิง ตอนนี้ก็กัดฟันกรอด

ร่างเพียงไหววูบก็ก้าวไปบนสระน้ำทันที นั่งขัดสมาธิไปในนั้น ดูดซับด้วยพลังทั้งหมด

น้ำทั้งสระระเบิดเสียงครืนครั่นทันที เกิดคลื่นวนขึ้นมา

ภายใต้การดูดซับและเหนี่ยวนำจากสวี่ชิง ทะลักไปทั่วทุกที่ของร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว

ความรู้สึกได้รับการหล่อเลี้ยงมากกว่าก่อนหน้านี้ร้อยเท่า

พลังชีวิตก็เช่นกัน

จวบจนทันทีที่เวลามาถึง 1 ก้านธูป ดวงตาทั้ง 2 ของสวี่ชิงก็พลันลืมตื่นขึ้นมา

การหล่อเลี้ยงร่างกายเขามาจนถึงจุดอิ่มตัว

น้ำในสระนี้จะอย่างไรก็ไม่สามารถหล่อเลี้ยงกายเนื้อที่สร้างขึ้นจากซ่างฮวงได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ขณะเดียวกัน โลกเบื้องหน้าของเขาก็เริ่มรางเลือน อยู่ในสภาวะสลายไป

และจิตเทพที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แฝงอยู่ที่ดังสะท้อนที่นี่ก่อนหน้านี้ ก็ดังออกมาอีกครั้งในตอนนี้

“ครบ 1 ก้านธูปแล้ว วาสนาของเจ้าสิ้นสุดแล้ว”

จากเสียงที่ดังแผ่มา โลกทั้งใบสลายไป ส่วนเงาร่างของสวี่ชิงก็มาปรากฏอยู่กลางท้องฟ้าดาราอีกครั้ง

เถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ร่วงมาอยู่ที่เท้า

สวี่ชิงจ้องมองรอบๆ นึกย้อนถึงรายละเอียดแต่ละฉากๆ ในวังใต้ดินเผ่าสวรร์สร้างสืบอย่างละเอียด สุดท้ายก็ยกระดับความระมัดระวังในใจขึ้นอีกครั้ง แล้วจึงบังคับเถาวัลย์เทพทะยานไปที่ไกลอย่างรวดเร็ว

เวลาหมุนผ่านไปช้าๆ

หลายวันหลังจากนั้น กลางท้องฟ้าดารา สวี่ชิงที่กำลังสำรวจโลกเศษเสี้ยวความทรงจำทุกฉากทุกตอน ทันใดนั้นก็พลันรู้สึกอะไรในใจ

เถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ใต้เท้าเขาส่งระลอกคลื่นอารมณ์ที่พบต้นกำเนิดเดียวกันออกมา

มีต้นกำเนิดพลังเดียวกับเถาวัลย์เทพของเขาได้ย่อมเป็นเอ้อร์หนิวนั่นเอง

สวี่ชิงหลังจากสัมผัสรับรู้ก็ส่งจิตเทพออกไปทันที เถาวัลย์เทพใต้เท้าเขาเปลี่ยนทิศทาง ตรงไปทางต้นกำเนิดพลังเดียวกัน

ไม่นานก็หาเจอ

สิ่งที่สะท้อนปรากฏในสายตาสวี่ชิงเป็นเศษเสี้ยวความทรงจำที่เล็กมากๆ ชิ้นหนึ่ง ภาพในนั้นเป็นดวงดาวรกร้างดวงนั้น ตลบอวลไปด้วยสิ่งสกปรกและความเน่าเปื่อย

เอ้อร์หนิว…อยู่ในนั้นนั่นเอง

ทันทีที่มองเห็นอย่างชัดเจน สวี่ชิงสีหน้าแปลกประหลาด ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ควบคุมเถาวัลย์เทพไปทางนั้น จะย่างเข้าไป

แต่เสี้ยวขณะต่อมาร่างของเขาก็ถอยร่น ดวงตาฉายประกาย

ไม่อาจผสานเข้าไปในโลกใบนี้ได้!

“หรือว่า โลกเศษเสี้ยวความทรงจำที่มีใครอยู่ ไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าไปอย่างนั้นหรือ”

“เพราะในโลกเศษเสี้ยวความทรงจำเหล่านี้ หมิงเหยียนมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นคนอื่นๆ จึงยากจะเหยียบย่างเข้าไปได้…”

สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด แล้วมองไปทางเศษเสี้ยวชิ้นส่วนที่เอ้อร์หนิวอยู่อีกครั้ง ยกมือสะบัด หนูสีทองกระโจนออกมา

“แทะมัน!”

……

บนดวงดาวรกร้าง เอ้อร์หนิวกำลังกระโดดอย่างสุดกำลัง

เขามีเพียงขาเดียวเท่านั้น

กระโดดไปด้วย ก็อดเอ่ยปากสบถด่าออกมาด้วยไม่ได้

“นี่มันสถานที่บ้าบออะไรกัน พลังวิญญาณแห้งเหือดก็ช่างเถิด พลังกดดันน่าหวาดหวั่นนัก อีกทั้งยังมีผนึกที่น่ากลัวอีกด้วย…”

“พลังบำเพ็ญทั้งร่างของข้าอยู่ที่นี่ไม่อาจสำแดงได้เลยแม้แต่น้อย”

“หากเป็นแค่นี้ก็ช่างเถิด แต่หมิงเหยียนที่ข้าอวตารมาดันแทบจะใกล้ตายแล้ว กายเนื้อขาดไม่ครบส่วน…”

“ที่เกินสมควรไปมากที่สุดก็คือหนอนพวกนี้!!”

“หนอนที่นี่ทำไมถึงเยอะขนาดนี้ อีกทั้งแต่ละตัวยังมีระลอกคลื่นความเป็นเทพที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย มารดามันสิ…หนอนมีความเป็นเทพ นี่มันสถานที่บ้าอะไรกัน! เทพหนอนอย่างนั้นหรือ”

เอ้อร์หนิวคำรามอย่างโมโห

เขากระโดดอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว คิดอยากจะหาวิธีออกไป หาการตัดสินใจของหมิงเหยียนตอนนั้นให้เจอ แต่เขาพบว่าไม่ว่าตัวเองจะตัดสินใจแบบใดก็ล้วนผิดทั้งนั้น

ตอนนี้เห็นทั่วทุกสารทิศล้วนเป็นหนอนทั้งนั้น ในดวงตาเอ้อร์หนิวก็ฉายความบ้าคลั่งออกมา

“ยังมีอีกตัวเลือกหนึ่ง พวกเจ้าจะกินข้า เช่นนั้นข้าก็จะกินพวกเจ้าเหมือนกัน ดูสิว่าใครจะกินใครก่อน!”

เพียงแต่คิดว่าต้องกินหนอนพวกนี้ เขาที่คิดว่าตัวเองไม่เลือกกินมาโดยตลอดก็อดไม่ได้ที่มีความคิดอยากจะเลือกกินขึ้นมา

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาหมดหนทาง ดังนั้นเขาจึงคำรามเสียงดังขึ้นมา กำลังจะไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว

แต่ในตอนนี้เอง ท้องฟ้าสีเทาพลันมีเสียงสายฟ้าสะท้านสะเทือนขึ้นมา

ในยามที่เสียงดังสะท้านสะเทือนฟาดผ่านท้องฟ้า ม่านฟ้าเกิดรอยยุบลงไป คล้ายมีตัวตนอะไรอยู่หลังม่านฟ้า กระแทกมาอย่างเต็มแรง

แต่ไม่นานนักก็ฟื้นสภาพ

เอ้อร์หนิวอึ้งตะลึง เงยหน้ามองไป

“เกิดอะไรขึ้น”

ในพริบตาที่เขาเอ่ยออกไป ท้องฟ้าส่งเสียงดังเลื่อนลั่นอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงครืนครั่นฟาดผ่า แต่เป็นเสียงแตกร้าว

ม่านฟ้าที่ฟื้นฟูกลับมาเหมือนถูกอะไรกัดอยู่ข้างหลัง เผยรอยแยกเล็กบางทางหนึ่งออกมา

สิ่งที่ปรากฏตามรอยแยกขึ้นมาคือช่องโหว่เล็กๆ ช่องหนึ่ง จากเสียงเปรี๊ยะที่ดังไม่หยุด รูโหว่ก็ขยายใหญ่ขึ้น

เอ้อร์หนิวในใจหล่นวูบ

หลังจากนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง ในสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เขามองเห็นแสงดาว

แสงดาวมหาศาล วนล้อมรอบเถาวัลย์เทพมหึมาเส้นหนึ่ง

ใบเถาวัลย์คลี่ออก ลำต้นเถาวัลย์ส่องแสงพริบพราวพร่างพราย มาตามรูโหว่บนม่านฟ้า ราวมังกรตัวยาวตัวหนึ่ง พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทะยานไปในท้องฟ้าแห่งนี้อย่างรวดเร็ว

ภาพนี้ทรงพลังมหาศาล สั่นคลอนฟ้าดิน

และบนเถาวัลย์น่าครั่นคร้ามเส้นนั้นมีคนยืนอยู่คนหนึ่ง

คนคนนี้ผมยาวปลิวพริ้ว เสื้อคลุมสีเลือดทั้งร่างสะบัด เป็นสวี่ชิงที่แปลงเป็นเสี่ยเฉินจื่อนั่นเอง

ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น เถาวัลย์เทพก็กลายเป็นสิ่งขับเน้น แสงดาวก็กลายเป็นภาพฉากหลังที่อาบย้อมทุกสิ่ง รวมกับการปะทุของกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่น สยบที่นี่

เพราะม่านฟ้ามิติแตกสลาย พลังผนึกของที่นี่ก็เริ่มหายไปเช่นกัน ดังนั้นภายใต้การกวาดโหมจากพลังสวี่ชิง หนอนมหาศาลรอบตัวเอ้อร์หนิวก็ถูกพายุหอบม้วน หมุนตลบลอยออกไป

มีเพียงเอ้อร์หนิวที่ทั่วร่างสะบักสะบอม ยืนขาเดียวโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้น เงยหน้ามองสวี่ชิงที่ราวเทพลงมาเยือนอย่างเหม่อลอย สูดลมหายใจลึก

จากนั้นก็ตั้งสติขึ้นมาได้ทันควัน ยืนอดขึ้น เอ่ยอย่างหยิ่งทะนง

“ศิษย์น้องเล็ก เจ้ามาช้าไปแล้ว ดาวดวงนี้ ศิษย์พี่ของเจ้าคนนี้สยบได้โดยสมบูรณ์แล้ว”

……

ขณะเดียวกัน ในท้องฟ้าดารา จักรพรรดินีก็เดินทางอยู่เช่นกัน ไม่เหมือนกับสวี่ชิงทางนั้น

องค์ท่านเดินทางมาตลอดทาง โลกเศษชิ้นส่วนความทรงจำใดก็ตามที่ปรากฏต่อหน้าองค์ท่านต่างสั่นสะท้านขึ้นเองทันทีที่เข้าไปใกล้ สุดท้ายก็พลังทลายไปอย่างไร้สุ้มเสียง กลายเป็นแสงสว่างระยิบระยับเป็นจุดๆ เลือนหายไป

ส่วนจักรพรรดินีก็เห็นได้ชัดว่ามีสัมผัสรับรู้ต่อเส้นทางที่เคลื่อนไปข้างหน้านี้ รู้ถึงทิศทางที่ถูกต้อง

ดังนั้น หลังจากที่องค์ท่านเดินมาตลอดทาง ในที่สุด…

เศษชิ้นส่วนความทรงจำที่พิเศษมากชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาองค์ท่าน

อีกทั้งจากการเข้าไปใกล้ขององค์ท่านก็ไม่ได้พังทลาย

ในโลกเศษชิ้นส่วนใบนี้ มืดมนไปทั้งใบ ตลบอวลไปด้วยกลิ่นอายความตาย

ฝนกำลังตก…

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version