บทที่ 1170 ไม้ฉากวาดสี่เหลี่ยม วงเวียนวาดวงกลม
ท่ามกลางฟ้าแลบและเสียงฟ้าร้อง เงาร่างของอริยะเซียนที่ 4 พาดผ่านท้องฟ้า ฉีกทึ้งมิติ
รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ประดุจทวนยาวที่สามารถทำลายฟ้าดินได้ มาด้วยพลังถล่มภูเขาล่มมหาสมุทร หอบม้วนสายฟ้านับไม่ถ้วน
มาอย่างทรงพลังเกินต้านทาน!
ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก็ทำลายเกราะป้องกันของบริเวณเตาหลอมกระบี่ มาพร้อมด้วยเสียงเปรี๊ยะๆ ของปราการที่แตกสลาย ในสายลมฝน เงาร่างของเขา…พลันปรากฏขึ้นตระหง่าน
ยืนอยู่ข้างเตาหลอมกระบี่!
ยืนอยู่ข้างหน้าสวี่ชิง!
พลังที่ปะทุขึ้นซัดกวาดไปทั่วทุกสารทิศ ประดุจว่าที่นี่เกิดพายุขึ้น
อาภรณ์ของสวี่ชิงปลิวสะบัดอย่างรุนแรง ลมยาวปลิวสยายไปในลมพายุ แต่เงาร่างประดุจภูเขา ไม่ได้ถอยหลังไปแม้เพียงครึ่งก้าว
สีหน้าของเขายิ่งเป็นปกติ มองอริยะเซียนที่ 4 ที่ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของตนอย่างสงบนิ่ง เอ่ยราบเรียบ “ศิษย์พี่สี่คืนนี้ช่างมีอารมณ์สุนทรีย์จริงๆ”
“เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!” เสียงแหบแห้งมาพร้อมด้วยความคิดที่ซับซ้อน ดังออกมาจากปากผู้มาเยือนอย่างเนิบนาบ
ขณะที่คำพูดดังก้อง ทั่วทั้งร่างของอริยะเซียนที่ 4 สายฟ้าแลบมหาศาลกำลังวิ่งวนแปลบปลาบ สุดท้ายก็แผ่ไปบนพื้นตามขาทั้ง 2 ข้างของเขา แผ่ลามไปรอบๆ ครืนครั่นเลื่อนลั่น
ดวงตาทั้ง 2 ข้างของเขาในเสี้ยวพริบตา…ก็จับจ้องไปที่ร่างของสวี่ชิง เพียงแต่ความหวังสุดท้ายในใจได้สลายไปแล้ว
มาพร้อมด้วยความปั่นป่วนของความคิด สีหน้าของอริยะเซียนที่ 4 เคร่งขรึมเป็นที่สุด จิตสังหารในสายตาก็รุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ในด้านการอำพรางตัว เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจมากจริงๆ…”
อริยะเซียนที่ 4 ยกเท้า ก้าวไปทางสวี่ชิง เดินไปก้าวหนึ่ง
“ข่าวลือก่อนหน้านี้เป็นเจ้าที่ปล่อยออกไป!”
“และหลังจากนั้นข้าใช้การวางแผนต่อเสียหลิงจื่อหวังจะล่อเจ้าออกมา เจ้ากลับโยนสาวงามจิ้งจอกมา”
อริยะเซียนที่ 4 ก้าวออกมาอีกก้าวหนึ่ง
“ส่วนข้าวางแผนให้หย่วนซานซู่ลงมือ กลับถูกเจ้าใช้พันธมิตรที่มีต่อเสียหลิงจื่อ ทำให้สาวงามจิ้งจอกได้รับฐานะ ทำให้ข้าขับไล่ไม่สำเร็จ”
“จากนั้นข้าเปิดโปงทุกสิ่ง ทำให้เสียหลิงจื่อหักหลังก่อกบฏได้สำเร็จ ส่วนเจ้า…ทำให้หย่วนซานซู่ต้องยอมแพ้ ทำให้จงฉือทำสำเร็จ ทำให้เสียหลิงจื่อฆ่าตัวตาย ให้หลี่เทียนเจียวขัดขวางข้า”
“ข้ายอมรับ กลวิธีของเจ้าช่างแยบยลนัก!”
“ในเมื่อสุดท้ายแล้วฐานะที่ไม่มีทางที่จะได้ไป กลับมีคนเปลี่ยนแปลงไป นั่นก็หมายความว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้ ข้าไม่มีโอกาสชนะแล้ว”
“กระทั่งว่าตอนนี้ ข้ามาปรากฏตัวที่นี่ ขอเพียงลงมือ…ก็คือระลอกคลื่น!”
“ท่าทางนี่ก็อยู่ในแผนของเจ้าด้วยเช่นกัน”
อริยะเซียนที่ 4 เดินออกมาก้าวที่ 3
เขารู้เป็นอย่างดีว่าฐานะในโลกชั้นที่ 4 ของตัวเองกับฐานะของอีกฝ่าย ในประวัติศาสตร์ปกติแล้ว ไม่มีทางที่จะต่อสู้ห้ำหั่นกันเอง ดังนั้นทันทีที่ตนลงมือ ก็จะเกิดระลอกคลื่นขึ้นมาทันที
อีกทั้งจากการดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ของการต่อสู้ จากการเกิดขึ้นของบาดแผล ระลอกคลื่นก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น
“แต่…หมากกระดานนี้ ข้าเองก็มีหนทางที่จะไม่แพ้เช่นกัน!”
ในเสี้ยวพริบตาที่ก้าวที่ 4 ของอริยะเซียนที่ 4 เหยียบลงมา ทั่วทั้งร่างพลังปะทุดังเลื่อนลั่น ท้องฟ้ารอบๆ สายฟ้าฟาดผ่า กลิ่นอายน่าครั่นคร้ามพลันพวยพุ่ง
จิตสังหารในดวงตาปะทุขึ้นมาทันที พุ่งตรงไปหาสวี่ชิง!
หนทางที่เขาจะไม่แพ้ก็คือขับไล่จิตสำนึกรับรู้ของสวี่ชิงออกไป!
ขอเพียงทำได้ถึงจุดนี้ ต่อให้การรักษากฎระเบียบของเขาจะล้มเหลว แต่ขับไล่อีกฝ่ายออกไปได้ สำหรับเขาแล้วก็คือไม่แพ้
อีกทั้ง เรื่องราวหลังจากนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกสถานการณ์กลับมา
ในเมื่อ เรื่องสำคัญในกาลอวกาศของโลกชั้นที่ 4 ก็คือวันมงคลสมรส!
และตอนนี้ จากเสียงสะท้อนก้องจากเสียงของเขา การปะทุพวยพุ่งของพลัง การพุ่งทะยานไปของเงาร่าง โซ่เหล็กที่ก่อขึ้นจากธรรมนูญแห่งกฎระเบียบแต่ละเส้น…แต่ละเส้น ก็ปรากฏขึ้นในฟ้าดินจากความว่างเปล่า
จำนวนของโซ่เหล็กมากมายมหาศาล มากถึงหลายหมื่นเส้น
กระจายเต็มฟ้าดิน ส่องประกายแวววาว ทำให้ท้องฟ้าบริเวณที่เตาหลอมกระบี่ตั้งอยู่เปลี่ยนจากราตรีมืดเป็นสว่างเจิดจ้า สายฟ้าก็ยังหมองหม่นไป ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนอับแสงมืดมัวไปภายใต้กฎระเบียบ
ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้น ข้างหลังของอริยะเซียนที่ 4 ยิ่งมีค่ายกลเป็นชั้นๆ ก่อตัวครืนครั่นสะท้านเลื่อนลั่น
ทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นซับซ้อนทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ กะพริบแสงสีสันที่แตกต่างกันไป
7 สีอยู่ภายใน สีดำขาวก็อยู่ภายในเช่นกัน
9 สี 9 ค่ายกล ต่างหมุนวน แผ่พลังกดดันที่น่าหวาดกลัว สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ร่วมกับโซ่เหล็กหลายหมื่นเส้น ร่วมกับพลังของอริยะเซียนที่ 4 ตอนนี้ต่างพุ่งมาทางสวี่ชิง สะกดควบคุมไป
ลงมือ…ก็ต้องทุ่มสุดกำลัง!
ขณะเดียวกัน ในเตาหลอมกระบี่ เชียนจวินและปี้อี้ที่ตื่นตะลึงหวาดหวั่นเพราะคำพูดประโยคนั้นของสวี่ชิง ก็สังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกได้อย่างชัดเจน
“ไม่ว่านายน้อยนั่นจะเป็นผู้มาเยือนจากภายนอกเหมือนพวกเราหรือไม่…”
“ตอนนี้สำหรับพวกเราแล้วก็คือโอกาสที่ดีที่สุดและโอกาสสุดท้ายแล้ว”
“ฉวยโอกาสที่พวกเขาต่อสู้กัน พวกเราทุ่มเทสุดกำลัง กระตุ้นให้กระบี่เซียนก่อเป็นรูปร่างขึ้น!”
“หลังจากนี้เรื่องทุกอย่างที่นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราทั้งสิ้น ต่อให้พวกเขาทำกาลอวกาศแหลกละเอียด สร้างความวุ่นวายให้แก่กัน ก็ไม่มีผลกรรมเวรอะไรกับพวกเรา!”
“วาสนาสำหรับพวกเราในโลกชั้นที่4 ใกล้จะคว้ามาได้แล้ว!”
ในเตาหลอมกระบี่ จิตเทพของเชียนจวินและปี้อี้แผ่ระลอก จากนั้นก็คว้าโอกาส ต่างปะทุพลังทั้งหมดที่มี ไม่เสียดายที่จะกระตุ้นกระบี่เซียน ทำให้ความเร็วในการก่อร่างของมันเพิ่มเป็นทบเท่าทวี
เพียงพริบตา เตาหลอมกระบี่ก็ส่งเสียงเลื่อนลั่น ปราณกระบี่ในนั้นท่วมฟ้า เชื่อมต่อกับผืนฟ้าอย่างรางเลือน
กระบี่เซียนใกล้จะถือกำเนิดแล้ว!
ประกายแวววาวในดวงตาสวี่ชิงฉายวูบ การเปลี่ยนแปลงของเตาหลอมกระบี่เขาย่อมมองเห็น และรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะฉวยโอกาสที่ตนสู้กับซิงหวนจื่อ ใช้วิธีการถือกำเนิดก่อนกำหนด หลีกเลี่ยงผลกรรมเวร
ขณะเดียวกันเขาก็รู้ดีว่า หากอยู่ที่โลกภายนอก การต่อสู้ระหว่างตนกับซิงหวนจื่อ ตนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้
อีกฝ่ายเป็นดวงดาวอันดับ 1 ทั้งยังมีธรรมนูญที่สัมผัสรับรู้ด้วยตัวเอง อีกทั้งพลังของธรรมนูญยังอัศจรรย์ล้ำลึก ตัวซิงหวนจื่อก็ยิ่งเป็นระดับเจ้าเหนือหัวสุดยอด ครึ่งก้าวสู่มหาจักรพรรดิ
กระทั่งว่ายังมีวีรกรรมการต่อสู้ที่เอาชนะมหาจักรพรรดิได้…
แต่ที่นี่คือโลกชั้นที่ 4
กายเนื้อของเจ้าของร่างสามารถชดเชยข้อบกพร่องที่พลังบำเพ็ญไม่เพียงพอของตัวเองได้
ต่อให้อีกฝ่ายสิงร่างอยู่ในกายเนื้อของอริยะเซียนที่ 4 สามารถสำแดงพลังที่เหนือกว่าร่างของตัวเอง ทว่า ระลอกคลื่นกาลอวกาศรอบๆ ที่นี่ก็เป็นอาวุธของสวี่ชิงเช่นกัน
และตัวอยู่ในนั้นก็เป็นสนามรบที่เหมาะที่สุดของเขา
นอกจากนี้ยังมี…ฐานะของเจ้าของร่าง ยิ่งเป็นอาวุธ
ดังนั้น เผชิญหน้ากับการมาเยือนของอริยะเซียนที่ 4 สวี่ชิงมือขวายกขึ้นสะบัด ทันใดนั้นพายุกาลอวกาศไร้รูปร่างก็ระเบิดตูมตามสนั่นหวั่นไหวมาข้างหน้าเขา
ทำให้โซ่เหล็กที่พุ่งมาอย่างรวดเร็วเหล่านั้นต่างรางเลือน
ขณะเดียวกัน พอมือขวาของสวี่ชิงสะบัด ทรายกาลอวกาศผืนหนึ่งก็ลอยอยู่ข้างหน้าเขาทันที ปกคลุมทั่วทั้งร่าง ทำให้ตัวตนของเขาผสานไปในกาลอวกาศ
เปลี่ยนมารางเลือน
“การวางแผนของเจ้าแยบยลจริงๆ แต่ข้อบกพร่องของเจ้า…คือเจ้าอ่อนแอเกินไป!”
อริยะเซียนที่ 4 จ้องมองสวี่ชิง ยกมือชี้ไปทางท้องฟ้า
ทันใดนั้นค่ายกล 9 ชั้นที่ปรากฏออกมาเมื่อก่อนหน้านี้ ความเร็วที่หมุนวนต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ท่ามกลางเสียงครืนครั่นเกิดเป็นคลื่นวน กลิ่นอายเก่าแก่โบราณแผ่ออกมาจากในค่ายกล
จากนั้น หลักศิลาสีเขียวครามหลักหนึ่งก็พลันถูกเหนี่ยวนำออกมาจากในคลื่นวนลูกนั้น
ทันทีที่ปรากฏขึ้น ความรู้สึกของห้วงวันเวลาเข้มข้น ความทรงพลังยิ่งใหญ่รุนแรง
จะเห็นว่าบนหลักศิลามีตัวอักษรที่ไม่รู้จัก ประดุจอักขระไหลริน อัศจรรย์แปลกประหลาดนัก
โซ่เหล็กกฎระเบียบรอบๆ ยิ่งสั่นสะเทือนขึ้นมา ส่วนพลังของกฎระเบียบในเสี้ยวขณะนี้ก็พุ่งเพิ่มตาม
เหมือนว่าหลักศิลานี่เป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของกฎระเบียบ!
ตอนนี้ถูกอริยะเซียนที่ 4 เหนี่ยวนำออกมาเป็นศูนย์กลางของค่ายกล แล้วพลันกดไปทางสวี่ชิงทางนั้น
“ใช้ระเบียบเป็นแนวทาง ขับไล่!”
ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆหอบทะลัก หลักศิลาสีเขียวครามส่งเสียงคำรามลั่น หอบม้วนค่ายกลคลื่นวน มาพร้อมด้วยพลังแห่งกฎระเบียบ แผ่พลังขับไล่ สะกดมาทางสวี่ชิง
ระลอกคลื่นกาลอวกาศอยู่ต่อหน้าเขา ก็เกิดทีท่าว่าจะสลายไปเช่นกัน
ต่อให้สวี่ชิงผสานหลอมรวมไปในกาลอวกาศ ก็ไม่อาจหลบหลีกได้
ใกล้จะควบคุมได้โดยสมบูรณ์แล้วเต็มที
สวี่ชิงพลันเงยหน้าขึ้น เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ศิษย์พี่สี่ การเคลื่อนไหวของท่านที่นี่มากเกินไป…ได้เดินเข้ามาในทะเลปั่นป่วนห้วงกาลอวกาศของข้าแล้ว”
ขณะพูด เขายกมือขึ้น สะบัดเบาๆ ไปข้างหน้า
เขาควบคุมทรายแห่งกาลอวกาศที่ลอยคลุ้งอยู่โดยรอบ ทำให้ทรายเหล่านั้นกระจายล่องลอยไปทั่วทั้งฟ้าดิน
ต่างกระทบกัน ต่างลอยล่อง ทำให้เกิดเป็นเส้นเวลาที่แตกต่างกันเส้นแล้วเส้นเล่า
นั่นคือเส้นเวลาที่ไม่เป็นลำดับ
เวลา ไม่ใช่แค่การไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว การย้อนกลับของวันเวลาและการหยุดนิ่งเท่านั้น
ยังแต่ยังมีการแสดงออกที่ลึกซึ้งกว่านั้น
มันเหมือนแม่น้ำมิติที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งหน
แต่ก็ไม่ใช่ว่ากำหนดตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากพลังโลกภายนอก หรือจะเป็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอื่นๆ ล้วนแต่ทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไปได้ทั้งสิ้น
ยกตัวอย่างเช่นทะเลทรายแห่งกาลเวลาผืนนั้นที่แปลงมาจากแก่นวิญญาณของภรรยาผู้นำเซียน
สิ่งที่สำแดงก็คือแขนงของเวลา
“ผู้ที่เข้ามาในห้วงสมุทรปั่นป่วนของข้าจะต้องแบกรับพลังของกาลเวลา ทุกการกระทำของท่านล้วนแต่ทำให้เกิดเส้นเวลาที่ไม่เป็นลำดับ จมอยู่ในความปั่นป่วน ในเส้นเวลานับไม่ถ้วนหากไม่ตายก็เป็นบ้า!”
ดวงตาสวี่ชิงเกิดความเย็นเยือกผุดขึ้นมา
“เข้าสู่มหาสมุทรล้วนทุกข์ทรมาน จนประสบพบเคราะห์กรรม กาลเวลาไม่สิ้นสุด จึงเรียกว่า…ห้วงนรก!”
ทันทีที่เสียงดังสะท้อนก้อง บนโซ่เหล็กทุกเส้นที่อยู่รอบๆ บนอักขระทุกตัวของค่ายกล กระทั่งหลักศิลาสีครามที่ลอยลงมา กระทั่งตัวของอริยะเซียนที่ 4
ล้วนแต่ในเสี้ยวขณะนี้…จากการแผ่ลามและกระทบกันของทรายกาลอวกาศก็เกิดเส้นแห่งกาลเวลานับไม่ถ้วน
พันธนาการพวกเขาทั้งหมดไว้ภายใน ทำให้โซ่เหล็ก ค่ายกล หลักศิลาสีเขียวคราม และอริยะเซียนที่ 4 ต่างบิดเบี้ยว พร่าเลือน จวบจนกระทั่งทับซ้อนกัน
ห้วงสมุทรปั่นป่วนกาลอวกาศพลันระเบิดปะทุขึ้นมาทันที
ใช้ความปั่นป่วนสู้กับกฎระเบียบ!
เผชิญหน้ากับห้วงสมุทรปั่นป่วนไร้ลำดับเช่นนี้ อริยะเซียนที่ 4 ที่ตัวอยู่ภายใน ถูกเส้นเวลามหาศาลพันรัด ในดวงตาของเขาฉายประกายเฉียบคม จ้องมองสวี่ชิง
“วิธีการทำลายระเบียบเช่นนี้…”
“หากอยู่โลกภายนอก ก็อาจจะสร้างความลำบากให้ข้าได้บ้างจริงๆ”
“แต่เจ้ารู้ไหมว่า ทำไมข้าจึงมาสิงอยู่ในร่างของอริยะเซียนที่ 4”
อริยะเซียนที่ 4 ยกเท้าขึ้น เหยียบย่างไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ท่ามกลางเสียงดังเลื่อนลั่น ห้วงสมุทรปั่นป่วนกาลอวกาศไร้ลำดับกระเพื่อมก่อเป็นระลอกคลื่น
ห้วงสมุทรไร้ลำดับ แต่ระลอกคลื่นที่เกิดขึ้นกลับเกิดระเบียบวงแล้ววงเล่า!
“นั่นเป็นเพราะ อริยะเซียนที่ 4 คือผู้ที่สร้างหอคอยวงแหวนดาราในยามแรกสุดนั่นเอง!”
“แม้เขาจะแตกดับไปในมหาเคราะห์วังเซียน แต่หอกฎระเบียบที่เขาสร้างอยู่นอกวังเวียน สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อเป็นวงแหวนดาราก็เท่านั้น!”
“และข้าสืบทอดชื่อซิงหวน สิ่งที่สัมผัสรับรู้ก็คือกฎระเบียบ ดังนั้น…อยู่ที่นี่ ข้ากับอริยะเซียนที่ 4 กฎระเบียบเหมือนกัน สามารถสำแดงต้นกำเนิดกฎระเบียบของอริยะเซียนที่ 4 ได้”
อริยะเซียนที่ 4 เงยหน้า ในดวงตาฉายประกายดาว
ในดวงตาทั้ง 2 ของเขาในเสี้ยวขณะนี้เกิดมหาสมุทรดวงดาว 2 ผืน!
ในมหาสมุทรดวงดาวทุกผืนล้วนมีดวงดาวนับแสนล้าน พวกมันต่างกะพริบ ต่างเรียงลำดับ…
ยิ่งมีเสียงทรงอำนาจ ดังก้องในฟ้าดิน
“กฎระเบียบคือวงเวียนและไม้ฉาก”
“ไม่ใช้วงเวียนและไม้ฉาก ก็ไม่อาจเป็นวงกลมและสี่เหลี่ยม”
“และกฎคือวงเวียน ระเบียบคือไม้ฉาก”
“ว่ากันว่า ใช้ฉากวางราบใช้ต่างเชือกตั้งตรง วางตั้งเพื่อวัดความสูง กลับด้านเพื่อวัดความลึก วางนอนเพื่อวัดระยะไกล ใช้วงเวียนเพื่อสร้างวงกลม และใช้ฉากกำหนดรูปสี่เหลี่ยม”
เสียงแต่ละคำๆ กลายเป็นเสียงแห่งเต๋า ในเสี้ยวขณะที่ก้องกังวาน ทะเลดวงดาวในตาซ้ายของอริยะเซียนที่ 4 ดวงดาวเรียงตัวกัน ก่อรูปเป็นไม้ฉาก!
ดวงตาขวาหมุนวน ก่อกลุ่มเป็นวงเวียนแห่งฟ้าดิน!
ซึ่งก็คือ…ใช้ไม้ฉากกำหนดเป็นตาย ใช้วงเวียนวาดห้วงสังสารวัฏ!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
