บทที่ 1171 : 2 กระบี่ซึ่งตื่นเต้นยินดี
ตอนนี้ซิงหวนจื่อสำแดงพลังแท้จริงของอริยะเซียนที่ 4 ออกมา
แม้ว่าไม่อาจใช้งานได้อย่างสมบูรณ์เหมือน 13 โลงนั่น แต่อย่างน้อยก็สร้างอานุภาพยิ่งใหญ่เป็นฐานพลังได้
ตอนนี้เสียงเขาเหนือกว่าเสียงสวรรค์ ทั้งเหนือกว่าทำนองเต๋า คล้ายระเบียบจักรวาลกับลำดับดาว
เมื่อส่งเสียงนัยน์ตาซ้ายทรงจัตุรัสซึ่งรวมตัวจากดาวนับหมื่นแสนสร้างภาพมายาออกมา สำแดงพลังระเบียบบนฟ้า!
อาศัยความเสมอภาคเป็นเกณฑ์ สร้างเขตแดนขึ้นมา
อาศัยความสังเกตการณ์ ร่างขีดจำกัด
อาศัยการทับซ้อนหยั่งความลึก กำหนดส่วนล่างของเขตแดน
อาศัยความสงบมองภาพรวม ขีดเส้นระยะห่าง!
รวมตัวทบชั้นเป็นทรงเหลี่ยม ปกคลุมรอบตัวสวี่ชิงเป็น…เขตแดน
ดินแดนนี้เป็นเอกเทศ โซ่ระเบียบมากมายพาดผ่านราวกรงขัง ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง!
เท่ากับแยกสวี่ชิงจากกาลอวกาศแห่งนี้!
ทำให้เขาขาดรากฐาน!
ใช้วิชานี้ทำลายทะเลปั่นป่วน!
นัยน์ตาสวี่ชิงหดรัด สัมผัสได้ว่าระเบียบนี้ไม่อาจขวาง
ทั้งรับรู้ว่าจิตสำนึกตน เมื่ออยู่บนแดนนี้แล้วเหมือนคนธรรมดาขาดอากาศหายใจ ไม่สบายตัวอย่างมาก
ด้วยถูกแยกจากกาลอวกาศบนโลกชั้น 4 ไม่มีพลังหนุนจากกาลอวกาศ จิตสำนึกเขาที่หลอมรวมกับตัวนายน้อยจี๋กวง แน่นอนว่าย่อมขาดรากฐาน
เพียงพริบตาบนตัวเขาเผยเงาทับซ้อน
เงานี้พร่ามัว นั่นคือจิตสำนึกแห่งตนซึ่งหลอมรวมกับกายเนื้อนายน้อยจี๋กวงยามเขามาเยือนที่นี่
ตอนนี้…เมื่อถูกเว้นระยะห่าง จิตสำนึกเขากำลังแบ่งแยก
ไม่เพียงเท่านี้ ครู่ต่อมานัยน์ตาทรงกลมด้านขวาของอริยะเซียนที่ 4 ส่องประกาย สร้างภาพมายาออกมาเช่นเดียวกัน หมุนวนเป็นวงกลมเหนือร่างสวี่ชิง!
เมื่อวงกลมปรากฏ ฟ้าดินสั่นสะเทือน มหามรรคปั่นป่วน
ทั้งเห็นว่าด้านในยังมีวงกลมนับไม่ถ้วน ล้อมรอบเป็นชั้นไร้สิ้นสุด!
แฝงความเป็นตายราววัฏจักร
ตอนนี้วงกลมทั้งหมดหมุนวนต่างระดับ สร้างแรงดูดชวนประหวั่น!
กดดันมาทางสวี่ชิง ร่วมกับการแยกจากเขตแดน กลายเป็นพลังขับไล่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
คิดขับจิตสำนึกสวี่ชิงออกจากกายเนื้อนายน้อย ไล่ออกจากกาลอวกาศแห่งนี้
อานุภาพเช่นนี้ สวี่ชิงยังทอดถอนใจ ตามประวัติศาสตร์อริยะเซียนที่ 4 ถือเป็นพวกครองจักรวาลจริงๆ
เขาทราบว่าไม่ใช่สิ่งที่ตนต้านทานได้ แต่ความคิดกลับไม่ปั่นป่วนนัก เมื่อตกลงที่จะเปิดศึกตัดสินกับซิงหวนจื่อแล้ว เขาย่อมเตรียมการทุกอย่างพร้อมสรรพ
ตอนนี้เมื่อเกิดการทับซ้อนทั้งจิตสำนึกจวนสลาย สวี่ชิงยกมือขวาขึ้น เช็ดปากตัวเองเบาๆ
เมื่อเช็ดปากฟ้าพลันคำราม อัสนีบาตนับไม่ถ้วนรวมตัวกลางอากาศ ท่ามกลางเสียงดังกระหึ่ม สายฟ้าพลันก่อตัวเป็นมือชราข้างหนึ่ง
เมื่อมือนี้ปรากฏ สรรพสิ่งหยุดนิ่ง
จากนั้นค่อยยืดเหยียดเนิบช้า ทำมุทรากลางอากาศ
เมื่อทำมุทราเสร็จ ฟ้าดินขานรับ หมื่นวิชาสั่นสะเทือน หลักการข้อบังคับทั่วโลกตอบสนอง กฎระเบียบไม่ใช่ข้อยกเว้น
นั่นคือบัญญัติของนายน้อยจี๋กวง…ผนึก 3 กรรม 10 บาป!
เพลิงกรรมสีดำปะทุออกจากตัวสวี่ชิง เคลื่อนกวาดทั่วสารทิศ
เปลวเพลิงลุกโชนเหมือนแผดเผาสรรพสิ่งได้ เปลี่ยนพื้นดินที่ถูกแยกจากเป็นทะเลเพลิงชั่วพริบตา
ต่อมาค่อยตวัดม้วนหวนคืนสู่กายเนื้อของสวี่ชิง ปกคลุมเขาไว้เหมือนผนึก!
ดังคำกล่าวว่าปากไม่พูดเพ้อเจ้อ กรรมวาจาบริสุทธิ์ กายจิตสงบ ทั่วร่างปราศจากกังวล ความคิดเปี่ยมล้น!
นี่คือผนึกกรรมวาจา!
อาศัยผนึกนี้ต้านการแยกจากเขตแดน!
ครู่ต่อมาเขตแดนสะเทือนกึกก้อง สวี่ชิงที่ถูกเพลิงกรรมสีดำปกคลุม เงยหน้ามองอริยะเซียนที่ 4 นัยน์ตาฉายแววล้ำลึก
มืออัสนีเปลี่ยนประทับอีกครั้ง
เสียงอัสนีดังกัมปนาท
ดังคำกล่าวว่าไม่ทำตัวผิดครรลอง ไม่ทำลายชีวิต ไม่สังหาร ไม่ลักทรัพย์ ไม่หลงกามารมณ์ กรรมกายาผุดผ่อง
เมื่อกายผ่องแผ้ว สรรพสิ่งไม่แปดเปื้อน สิ่งชั่วร้ายไม่กล้ำกราย
นั่นคือกรรมที่ 2 จาก 3 กรรม ผนึกกรรมกายา!
กายข้าไม่ขยับ ไม่ขึ้นต่อกฎกรรม ทำให้การแยกจากขาดสิ่งอ้างอิง
คล้ายไม่มีตัวตนบนโลก ทำให้การขับไล่ไม่มีที่พึ่งพา
อาศัยกรรมนี้ต้านวัฏจักร!
สวี่ชิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น คล้ายโขดหินกลางคลื่นคลั่ง ต่อให้ลมฝนกรรโชกอย่างไร ข้ายังยืนตระหง่าน
ดูว่าวัฏจักรเจ้าจะขับไล่อย่างไร!
เขตแดนอลหม่าน วัฏจักรสั่นรุนแรง
เสียงกึกก้องดังทั่วทิศ
เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้ อริยะเซียนที่ 4 ตัดสินใจเด็ดขาด เขารู้ดีว่าศึกนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของตน
นัยน์ตาเขาฉายแวววาบ ยกมือขวาแทงนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าดวงตา 2 ข้าง
ก่อนออกแรงกด!
นัยน์ตาเขาแดงก่ำชั่วพริบตา คล้ายธารดาราตรงดวงตาถูกเลือดแดงสดหยาดย้อม
ในธารดาราสีเลือด พลังระเบียบแผ่ออกมา ก่อตัวเป็นอาญา มุ่งตรงหาสวี่ชิง
“ลงทัณฑ์!”
เพียงพริบตาเขตแดนกับวัฏจักรถูกพลังนี้เกื้อหนุน ยามแสงโลหิตล้นฟ้า อานุภาพพลันปะทุ ฝืนแบ่งแยกเริ่มวงจร
สวี่ชิงตัวสั่นสะท้าน ตอนนี้เงาทับซ้อนบนร่างแยกจากกันอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นชัดเจนกว่าก่อน ถึงขั้นลอยออกจากกายเนื้อนายน้อยจี๋กวงกว่าครึ่ง
ก่อตัวเป็น…เงาร่างตน!
“เป็นเจ้าดังคาด!”
เมื่อเห็นร่างจิตสำนึกสวี่ชิงชัดเจน นัยน์ตาอริยะเซียนที่ 4 เผยจิตสังหารสะท้านฟ้า กำลังคิดขับเขาออกจากโลกแห่งนี้โดยไม่คำนึงถึงอะไร
ตอนนี้เงาจิตสำนึกสวี่ชิงเงื้อมือขึ้น กายเนื้อนายน้อยจี๋กวงยกมือขึ้นเช่นกัน มืออัสนีบนฟ้าขานรับตามการเปลี่ยนแปลง
กรรมที่ 3 จากผนึก 3 กรรม 10 บาป… ผนึกกรรมจิตตามาเยือน!
ความคิดก่อเกิดการกระทำ มีทั้งดีร้าย
ความดีต้องรักษา ความชั่วต้องกำจัด!
กรรมดีคือไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่เห็นผิด เสริมด้วยตัวตน กลายเป็นความยิ่งใหญ่ไร้สิ้นสุด โชติช่วงเป็นมงคล นั่นคือตัวเอง
กรรมชั่วคือโลภ โกรธ เห็นผิด ตกต่ำเป็นจิตปฏิปักษ์ กลายเป็นความมืดมิดชั่วร้าย ชีวิตไม่ชัดเจน โชคร้ายมาเยือน กำหนดว่าเป็นศัตรู!
ผนึกนี้ไม่ยึดติดกับร่างกาย ไม่ผูกมัดวาจา สิ่งที่พันธนาการคือบัญญัติ!
หากบอกว่า 2 กรรมแรกส่งผลกับตัวเอง ถ้าอย่างนั้นกรรมที่ 3 ก็คือส่งผลกับศัตรู!
ตอนนี้เมื่อมาเยือน สิ่งที่พันธนาการคือระเบียบ สิ่งที่ผูกมัดคือกฎเกณฑ์
ทั้งปกคลุมตัวอริยะเซียนที่ 4
อริยะเซียนที่ 4 ตัวสั่นสะท้าน ร่างเขาทับซ้อน เงาจิตสำนึกของซิงหวนจื่อถูกกำหนดว่าเป็นกรรมชั่ว ดังนั้น…ผนึกกรรมจิตตาจึงเริ่มขับไล่!
พวกเขา 2 คนกำลังขับไล่กันเอง!
เมื่อกวาดสายตามองจะเห็นเงาจิตสำนึกของซิงหวนจื่อกับสวี่ชิง เหนือศีรษะอริยะเซียนที่ 4 กับนายน้อยจี๋กวงชัดเจน
สวี่ชิงถูกวัฏจักรกับเขตแดนกำราบ
ซิงหวนจื่อถูกเพลิงกรรมแผดเผา ทั้งถูกกำหนดเป็นกรรมชั่ว ฟ้าดินจึงไม่อาจอภัย เริ่มการขับไล่
ต่างฝ่ายต่างกำลังต้านทาน!
นี่คือการประลองบัญญัติ การต่อสู้ของอริยะเซียนที่ 4 กับนายน้อยจี๋กวง การปะทะระหว่างระเบียบกับความเป็นอมตะ ทั้งเป็นศึกระหว่างสวี่ชิงกับซิงหวนจื่อ!
ภายใต้การประลองนี้ การแบ่งแยกเขตแดนเริ่มคลาดเคลื่อน การขับไล่ของวัฏจักรเปลี่ยนเป็นช้าลง
แต่ยังไม่ซ่านสลาย
ต่อให้เปลี่ยนเป็นเนิบช้า แต่เหมือนน้ำหลากสาดลงมา ถูกต้านทานเพียงครู่ แต่กลับไม่อาจพลิกผัน
เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้ ซิงหวนจื่อรับเพลิงกรรมแผดเผาพลางข่มพลังต่อต้าน ขณะเดียวกันยังยกมือขึ้นช้าๆ นัยน์ตาฉายแววเด็ดเดี่ยว
ต่อให้ต้องจ่ายค่าตอบแทน แต่เขาต้องขับไล่คนตรงหน้าไป
นัยน์ตาสวี่ชิงส่องประกายเช่นกัน คิดหยิบหนังสือสมรสออกมา…
นั่นคือไพ่ตายสุดท้ายที่เขาเตรียมไว้สำหรับศึกนี้ สำแดงพลังออกมาตรงช่วงเหมาะสมย่อมลิขิตฟ้าดินได้
แต่ยามสวี่ชิงกับอริยะเซียนที่ 4 คิดระเบิดพลัง หวังเผยไพ่ตายที่ต่างคิดว่าตัดสินแพ้ชนะได้…
เตากระบี่เบื้องล่างพลันส่งเสียงกัมปนาท!
เจตจำนงดุดันอหังการกำลังปะทุในเตากระบี่!
นั่นคือกระบี่เซียน ส่งสัญญาณว่าจวนปรากฏตัว!
จิตสำนึกของเชียนจวินกับปี้อี้หลอมรวมกับโครงกระบี่ เดิมคิดปล่อยตามธรรมชาติ ปรากฏตัววันแต่งงานตามวิถีประวัติศาสตร์
แต่สถานการณ์ภายนอกสร้างแรงกดดันมหาศาลแก่พวกเขา
โดยเฉพาะสวี่ชิงกับซิงหวนจื่อ ถึงขั้นเปิดศึกใหญ่ตรงหน้า…ทำให้พวกเขากดดันยิ่งขึ้น
ดังนั้นจึงเค้นพลังเต็มที่ ยอมเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ก่อคลื่นสะเทือน คิดปรากฏตัวคืนนี้
ต่อให้การเผยตัวก่อนกำหนดอาจสร้างปัญหาแก่คนภายนอก แต่พวกเขาไม่สนใจ
ซิงหวนจื่อแพ้หรือชนะ ไม่เกี่ยวกับพวกเขา
สวี่ชิงเป็นหรือตาย พวกเขายิ่งไม่ใส่ใจ
ต่อให้ทั้ง 2 คนคิดล้มล้างกาลอวกาศจนหัวแตกก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขา
สิ่งที่พวกเขาสนใจคือเป้าหมายของตน!
ตอนนี้คลื่นกาลอวกาศเด่นชัดขึ้นมา
กระบี่เซียนปรากฏตัวล่วงหน้า การเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ถือว่า…ไม่น้อย!
อริยะเซียนที่ 4 จึงหน้าเปลี่ยนสี
‘เขาเลือกที่นี่เพื่อกดดันพวกเขา!’
ทว่าตอนนี้เป็นช่วงสำคัญในการต่อสู้ของเขากับสวี่ชิง ไม่อาจไปขัดขวาง
แค่ชั่วขณะเวิ้งฟ้าเปลี่ยนสี อัสนีบาตม้วนกลืนทั่วทิศ มุ่งตรงมาทางเตากระบี่
สายฟ้าแลบหลายสายตามมาติดๆ กระหน่ำเหนือเตากระบี่
เพียงพริบตาแสงจากเตากระบี่พลันระเบิด ก่อตัวเป็นรุ้งกระบี่ทะยานฟ้า
เวิ้งฟ้าหมุนตัวเกิดวังวนดังครั่นครื้น
สิ่งที่พุ่งออกมาพร้อมรุ้งกระบี่…คือกระบี่เซียนขาวดำส่องประกาย 2 เล่ม!
กระบี่เซียนปรากฏ!
เมื่อพุ่งออกมา อัสนีเปลี่ยนเป็นขาวดำ ล้อมรอบกระบี่ 2 เล่ม เสียงกระบี่ครวญสะท้านฟ้า อานุภาพกระบี่ที่แผ่ออกมาสั่นคลอนใต้หล้า กลิ่นอายดุดันยิ่งเหมือนทำลายฟ้าดินได้
ในนั้นยังมีเสียงหัวเราะฮึกเหิมของเชียนจวินกับปี้อี้
“ซิงหวนจื่อ รวมถึงผู้บำเพ็ญปริศนาน่ารังเกียจ พวกเรา 2 พี่น้องต้องขอบคุณพวกเจ้าจริงๆ”
“หากไม่ใช่เพราะการเดิมพันกับแรงกระตุ้นจากพวกเจ้า พวกเรา 2 พี่น้องคงหยั่งรู้ช่วงกระบี่เซียนปรากฏได้ไม่มาก”
“มีโอกาสว่าจะหยั่งรู้ล้มเหลว”
“แต่ด้วยความช่วยเหลือของพวกเจ้า พวกเราไม่เพียงแต่ปรากฏตัวล่วงหน้า ทั้งยังตระหนักรู้ถึงขีดสุด!”
“เมื่อจบเรื่องนี้ บัญญัติของพวกเรา 2 พี่น้อง รวมถึงพลังระเบียบย่อมเพิ่มขึ้น!”
เสียงหัวเราะดังก้อง
ในกระบี่เซียน 2 เล่ม เชียนจวินกับปี้อี้ฮึกเหิมยิ่ง ตอนนี้กำลังดึงจิตสำนึกกลับ ไม่คิดอยู่บนโลกนี้ต่อ
ก่อนจากไปเสียงพวกเขายังดังก้อง
“พวกเจ้า 2 คนเล่นกันไปเถอะ พวกเราไม่ร่วมด้วยแล้ว!”
“ถ้าวันหน้ามีโอกาส พวกเจ้ามาแดนเหนือย่อมเห็นความสง่างามของพวกเรา นี่เป็นผลงานของพวกเจ้า 2 คนด้วย!”
“โดยเฉพาะเจ้าคนไร้ยางอายน่ารังเกียจปริศนาที่ยึดร่างนายน้อย เจ้ารอก่อนเถอะ บังอาจให้พวกเราสวามิภักดิ์!”
“เจ้าฝันไปเถอะ!”
ตอนนี้ทั้ง 2 ตื่นเต้นยินดีนัก
ฝ่ายสวี่ชิงเห็นกระบี่เซียนปรากฏ ฟังคำพูดทั้ง 2 แล้วหรี่ตา
ครู่ต่อมา…แผ่นหยกว่างเปล่าหนึ่งลอยออกมาจากตัวเจ้าของร่างเขา!
แผ่นหยกนี้คือหนึ่งในของหมั้นซึ่งผู้นำเซียนจี๋กวงให้ผู้นำเซียนจิ่วอั้นเมื่อตอนนั้น ในนั้นว่างเปล่า แต่ประทับจิตเทพไว้ มีสิทธิ์เป็นเจ้าของสมบัติทั่ววังเซียน!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
