บทที่ 788 ชำระล้างสำนัก
นอกแผ่นดินเผ่ามนุษย์ เรื่องเผ่ามนุษย์ถูกฆ่า ในเวลาเนิ่นนานนับไม่ถ้วนนี้เกิดขึ้นมากมาย อย่างไรเสียเผ่ามนุษย์เคยเป็นเผ่าแข็ง แกร่งอันดับหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดล้วนมีเผ่ามนุษย์จำนวนมหาศาลอยู่อาศัย
และหลังจากที่ตกตํ่า แผ่นดินแต่ละแห่งถูกแย่งชิง นี่
ทำให้เผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วนกลายเป็นปศุสัตว์ของต่างเผ่าในชั่ว
ข้ามคน
ดังนั้นการเซ่นสังเวยพบเห็นได้บ่อยครั้ง แต่…ในดินแดนเผ่ามนุษย์ในตอนนี้นอกจากสงครามแล้ว น้อยนักที่จะเกิดเรื่องเลวร้ายขนาดใหญ่เช่นนี้ขึ้น
การสังเวยที่เกิดขึ้นที่เขตปกครองประจักษ์ฟ้า ไม่ใช่แค่ที่เดียว แต่มีถึง 3 ที่!
จำนวนคนอยู่ที่ประมาณหลายแสนถึงล้านคน และส่วนใหญ่เป็นรัฐเล็กๆ คนธรรมดา วิญญาณของพวกเขาถูกหลอมทั้งเป็น สภาพการตายสลดน่าสังเวชนัก
เรื่องเลวร้ายสุดโต่งเช่นนี้เหมือนแตะรากฐานของเผ่า
มนุษย์ ดังนั้นตอนที่เรื่องนี้ส่งมาถึงจักรพรรดิมนุษย์ จักรพรรดิ มนุษย์ก็พิโรธเดือดดาล
เพราะเป็นไปได้อย่างมากว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 เหตุการณ์ในเขตปกครองประจักษ์ฟ้าอาจเป็นเพียงแค่ ส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ใหญ่ เป็นไปได้มากว่าเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กันจะเกิดขึ้นอีกในที่อื่นๆ
ในเมื่อการกระทำเช่นนี้เป็นการเซ่นสังเวยหรือเป็น ความต้องการในการฝึกบำเพ็ญอย่างชัดเจน จำนวนนับล้าน เห็นได้ชัดว่ายังไม่เพียงพอ
ที่อื่นๆ อาจเป็นเพราะลงมืออย่างเงียบเชียบหรือผู้ที่ดูแล อาจละเลย จึงยังไม่ถูกพบ
ดังนั้นจักรพรรดิมนุษย์จึงประกาศราชโองการทันที ให้ ดินแดนเผ่ามนุษย์ทั้งหมดปูพรมตรวจสอบ ขณะเดียวกันก็ รับสั่งให้ 5 กรมวังทมิฬบนเดินทางออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ สุดท้ายยังมีราชโองการที่พุ่งเป้ามายังสายเซียนต่างวิถี
ปิดเจดีย์ขาวสายเซียนต่างวิถีชั่วคราว กักบริเวณเจ้า สายเซียนต่างวิถีและบรรพจารย์ของสาย
ทันทีที่ประกาศราชโองการนี้ในเมืองหลวง ในวังศึกษา ล้วนเกิดระลอกคลื่นโถมฟ้า
กระทั่งว่ามีคนเอ่ยถึงคำพูดที่เจ้าสายผสานเทพกล่าว ออกมาเมื่อครั้งนั้นในยามนี้
เพียงพริบตา คำกล่าวที่ว่าในสายเซียนต่างวิถีมีสิ่งชั่วร้าย ก็ลือกันไปอีกครั้ง
ปลายหอกทั้งหมดล้วนชี้ไปที่เมล็ดพันธุ์วิถีสายเซียนต่างวิถี
ทั้งสายเซียนต่างวิถี ในช่วงเวลาสำคัญที่จะได้ฟื้นฟูในตอนนี้ ผจญกับเคราะห์ครั้งใหญ่อีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นราชโองการของจักรพรรดิมนุษย์ หรือความเฟื่องฟูของหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ล้วนทำให้สายเซียนต่างวิถี เหมือนถูกผลักไปในกองเพลิง แรงกดดันมหาศาล
โดยเฉพาะ…คนที่ผสานเมล็ดพันธุ์วิถี การชี้แจงของ พวกเขาก็ไร้ผล
พวกเขาเข้าใจความพิเศษของเมล็ดพันธุ์วิถีมากกว่าคนภายนอก
มันกลืนกินวิญญาณของผู้มีชีวิตทั้งหมดได้จริงๆ เพียงแต่การกลืนกินเช่นนี้นอกจากจะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งแล้ว ยังเร่งการก่อตัวของไหมวิญญาณด้วย สรุปแล้ว จากทฤษฎี วิญญาณของผู้มีชีวิตทำให้ผู้บำเพ็ญที่ผสานเมล็ดพันธุ์วิถีฝึกบำเพ็ญได้เร็วขึ้นจริงๆ
แต่ก็มีความแตกต่าง วิญญาณที่เมล็ดพันธุ์วิถีต้องการ ไม่จำกัดแค่เผ่ามนุษย์ วิญญาณของทุกเผ่าในแผ่นดินใหญ่ ต้องประสงค์ล้วนถูกกลืนกินดูดซับได้ทั้งสิ้น
แต่เรื่องเช่นนี้เป็นหลักฐานพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ ดังนั้น เวลาเพียงสั้นๆ จากการดำเนินต่อไปของเรื่อง สายเซียนต่างวิถีจากที่คึกคักแต่เดิมเปลี่ยนเป็นเงียบเหงา จากการฟื้นฟูก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นล่มสลาย
กระทั่งมีคนไม่เสียดายค่าตอบแทน เอาเมล็ดพันธุ์วิถีใน ร่างออกมา ส่งมอบขึ้นไป
ส่วนสวี่ชิงทางนี้ เห็นสภาพการฟื้นฟูของสายเซียนต่าง วิถีที่ตัวเองเป็นคนผลักดันได้รับเคราะห์ ความรู้สึกเหมือน ตึกสูงใกล้จะพังถล่มเช่นนั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถึงวิกฤตอันตราย แต่เป็นจิตสังหาร
ในเมื่อเรื่องนี้ในระดับหนึ่งแล้วก็เป็นเพราะตัวเขา เช่นนั้นเขาอยากจะทำการตรวจสอบเอง
หากเรื่องนี้เป็นการกระทำของคนที่ผสานเมล็ดพันธุ์วิญ ญาณของตนจริงๆ เช่นนั้นเขาก็จะชำระล้างสำนัก ขณะเดียวกันก็จะเก็บเมล็ดพันธุ์วิญญาณทั้งหมดที่อยู่ข้างนอกกลับมา อีกทั้งพยายามชดเชยให้กับเรื่องนี้สุดความสามารถ
แต่หากเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของสายเซียนต่างวิถี แต่เป็น คนอื่นที่ใส่ร้ายและใช้ผลประโยชน์ เช่นนั้นไม่ว่าเบื้องหลังของ อีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาจะต้องสังหารมันให้สิ้นซาก ขุดรากถอนโคน
คนที่ตายไปมากมายมหาศาลนัก
ดังนั้นสวี่ชิงหลังจากที่ออกจากวังศึกษาในทันที ก็เดิน เข้าไปในค่ายกลส่งข้ามอย่างไม่ลังเล ไปจากเมืองหลวง นอกเมืองหลวง สวี่ชิงไม่ควบคุมระลอกคลื่นพลังเมล็ดพันธุ์วิญญาณของตัวเองอีกต่อไป แผ่ออกไปสุดกำลัง ขณะเดียวกันก็เพิ่มพลังในการสัมผัสรับรู้
เพียงพริบตา ในสมองของเขาเหมือนมีสายฟ้าฟาดผ่า เส้นไหมแต่ละเส้นปรากฏขึ้นในใจ ทั้งหมดหลายร้อยเส้น เชื่อมโยงกับผู้ที่ผสานเมล็ดพันธุ์วิถีทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง สีเขียว หรือจะเป็นสีขาว ล้วนอยู่ใน สัมผัสรับรู้ทั้งสิ้น
เส้นไหมส่วนมากในนั้นล้วนชี้ไปที่เมืองหลวง ส่วนที่ชี้ ไปโลกภายนอก…มี 11 เส้น
พวกมันบ้างอยู่ใกล้ บ้างห่างออกไปไกลมาก หาก เปลี่ยนเป็นเจ้าสายเซียนต่างวิถี อาจด้วยสาเหตุทางด้านพื้นที่ ก็ยากที่จะสัมผัสได้อย่างแมนยำ แต่สวี่ชิงเป็นต้นกำเนิดพลัง ตอนนี้ภายใต้การลงมือสุดกำลัง อาศัยความรู้สึกอันรางเลือน
เขาถึงสัมผัสตำแหน่งและสภาวะของเส้นไหมทุกเส้นได้อย่าง ชัดเจน
‘มีเมล็ดพันธุ์วิญญาณ 10 เมล็ดที่อยู่ในสภาวะผสานแล้ว อีก 1 เมล็ดกลับต่างออกไป’
สวี่ชิงเดาได้ว่าเมล็ดพันธุ์วิญญาณที่อยู่ข้างนอกไม่ได้ ผสานเมล็ดนั้นน่าจะเป็นเมล็ดที่เจ้าเขตปกครองประจักษ์ฟ้า ส่งมาและอยู่ในระหว่างทางเมล็ดนั้นในตอนนี้
สวี่ชิงหลับตา สัมผัสเส้นไหมในสมองอย่างละเอียด หลังจากจับเป้าหมายเมล็ดพันธุ์วิญญาณเมล็ดนั้น ก็นึกย้อน ไปตอนที่เมล็ดพันธุ์วิญญาณนี้ไปจากเมืองหลวง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ดวงตาทั้งสองของสวี่ชิงก็พลันลืมขึ้นมา
‘เมื่อประมาณครึ่งเดือนก่อน เมล็ดพันธุ์วิญญาณที่ออก ไปพร้อมกับมันในตอนนั้นมีทั้งหมด 3 เมล็ด
‘อีก 2 เมล็ด…’
ดวงตาสวี่ชิงประกายแสงเย็นเยือกฉายวูบ จากบรรดาเส้นไหมที่อยู่ข้างนอกเส้นอื่นๆ ก็พุ่งเป้าไป 2 เส้นทันที
หนึ่งในนั้นอยู่ที่วงแหวนที่ 97 ของแดนใหญ่เมืองหลวงจักรพรรดิ และยังมีอีก 1 เส้นที่ไกลกว่ามาก ไม่ได้อยู่ในแดนใหญ่แห่งนี้ แต่ไปยังเขตปกครอง 9 แผ่นดินที่เป็น 1 ใน 7 เขตปกครอง
จิตสังหารในใจสวี่ชิงพลุ่งพล่าน ร่างพุ่งทะยานออกไปทันที ยิ่งเอาดวงอาทิตย์บรรพกาลออกมา อาศัยความเร็วที่น่าตื่นตะลึงของมัน ตะบึงไปยังวงแหวนที่ 97
ระยะทางไกลลิบลับ ดีที่การส่งข้ามระหว่างนั้นราบรื่น ดังนั้น 1 วันให้หลัง สวี่ชิงผ่านการส่งข้ามหลายครั้ง ทั้งยัง อาศัยความเร็วของดวงอาทิตย์บรรพกาล จากวงแหวนรอบใน ของแดนใหญ่มาถึงยังวงแหวนที่ 97 ที่อยู่ติดรอบนอก
วงแหวนของแดนใหญ่เมืองหลวงจักรพรรดิมีทั้งหมด 110 วง บริเวณที่วงแหวนที่ 97 ตั้งอยู่ เผ่ามนุษย์ที่เป็นคนธรรมดาอาศัยอยู่จำนวนไม่น้อย ตอนที่สวี่ชิงมาถึงก็เป็นเวลาพลบคํ่าแล้ว กวาดตามองไป วงแหวนทั้งวงสงบสุข คล้ายไม่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
สวี่ชิงหรี่ตา เก็บดวงอาทิตย์บรรพกาลลงไป จากการ ชี้นำของเส้นไหมเมล็ดพันธุ์วิญญาณ ก็ทะยานไปทางทิศตะวัน ของวงแหวนอย่างรวดเร็ว
แสงพรายสีเลือดแผ่ลามไปในท้องฟ้าในตอนนี้ สวี่ชิงที่อยู่ท่ามกลางแสงพรายสีแดง ทะลุผ่านไปพร้อมจิตสังหารรุนแรง หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม เงาร่างของเขาก็ปรากฏที่ ทิศตะวันตกของวงแหวนแห่งนี้
ที่นี่กว้างขวางนัก สภาพภูมิประเทศมีที่ราบเป็นหลัก ดูแล้วค่อนข้างโล่ง ในนั้นมีรัฐเล็กๆ ของเผ่ามนุษย์อยู่ 9 รัฐ
พูดว่าเป็นรัฐเล็กๆ แต่ความจริงแล้วก็เป็นแค่เมืองที่ ปกครองตนเองเท่านั้น
เพราะตั้งอยู่ในแดนใหญ่เมืองหลวงจักรพรรดิ ดังนั้น เมืองเผ่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ที่นี่เทียบกันแล้วสงบปลอดภัยอย่างยิ่ง สายตาของสวี่ชิงที่มองไปตอนนี้เป็นรัฐหนึ่งในนั้นที่ชื่อว่าหมื่นคม
ในตอนนี้จะเห็นว่าเมืองในรัฐนี้ควันลอยอ้อยอิ่ง มองจากบนฟ้า ถนนที่นั่นคึกคักจอแจ คนที่สัญจรไปมาไม่น้อย บ่าวทาสรับใช้ พ่อค้าแม่ขาย มีทั้งนั้น
ผู้,บำเพ็ญก็มีอยู่บ้าง แต่กลับไม่มาก ในนั้นพลังบำเพ็ญที่แสดงออกมาให้เห็นระดับสูงที่สุดคือ ปราณก่อกำเนิด อยู่ในวังหลวงของรัฐนี้
สวี่ชิงกวาดจิตเทพออกไป ร่างเพียงไหววูบก็หายไปจากท้องฟ้า ตอนที่มาปรากฏตัวก็อยู่ที่มุมถนนของเมืองนี้แล้ว ก้าวไปข้างหน้า
เขาเดินอยู่ในเมือง ทุกที่ที่ผ่าน ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือผู้บำเพ็ญล้วนสัมผัสถึงตัวเขาไม่ได้ เหมือนว่าในสายตาของคนอื่น สวี่ชิงนั้นไม่มีตัวตน
นี่เป็นเพราะกลิ่นอายบนร่างของตัวผู้บำเพ็ญระดับสูง เพราะมีวิถีสวรรค์ของตัวเอง สร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองได้ ดังนั้นหากไม่อยากให้คนมองเห็น นอกเสียจากผู้ที่มีพลังบำเพ็ญสูงกว่าแล้วไม่เช่นนั้นสัมผัสรับรู้ไม่ได้เลย
และอารมณ์ของสวี่ชิงในตอนนี้ก็ทำให้เขาไม่มีกะใจ สัมผัสกับความธรรมดา ตอนนี้ขณะที่ก้าวเดิน เขาก็มาปรากฏ ที่นอกร้านค้าแห่งหนึ่ง
นี่เป็นร้านขายของชำร้านหนึ่ง เจ้าของร้านเป็นชายชรา กำลังหนุนแขนทั้งสองฟุบหลับอยู่บนโต๊ะรับแขก กิจการในร้าน ปล่อยให้ลูกจ้างในร้านคนหนึ่งดูแล
การมาถึงของสวี่ชิงย่อมไม่มีทางดึงความสนใจของ ลูกจ้างตัวเล็กๆ ได้ แต่เจ้าของร้านที่หลับลึกคนนั้นกลับสะดุ้งเฮือก เสี้ยวขณะต่อมาเงาร่างก็รางเลือนหายไป สวี่ชิงใบหน้าไร้อารมณ์ เอ่ยราบเรียบ “กลับมา”
เพียงพูดก็เกิดผล กฎเกณฑ์ถูกเปลี่ยน การส่งข้ามได้รับอิทธิพล เพียงพริบตา ที่โต๊ะรับลูกค้า เงาร่างของเจ้าของร้าน รางเลือนปรากฏขึ้นอีกครั้ง ค่อยๆ แจ่มชัดขึ้น
สีหน้าของเขาตื่นกลัว คิดจะลุกขึ้นแต่สายไปแล้ว สวี่ชิงเพียงสะบัดแขนเสื้อ ที่นี่ก็พลิกกลับตาลปัตร มิติเปลี่ยนไป ไม่อยู่ในเมืองแล้ว แต่มาอยู่บนท้องฟ้าสูงหมื่นลี้
ลมกรรโชกเป็นระยะๆ เสียงหวีดหวิวแสบแก้วหู เจ้าของร้านที่ยืนอยู่ตรงนั้น ตอนนี้ในใจเกิดระลอกคลื่นหมื่นจั้ง ตกใจสงสัยเป็นอย่างยิ่ง มองสวี่ชิงอย่างหวาดระแวงสุดขีด
เขาระมัดระวังรอบคอบเป็นที่สุดแล้ว นับจากสืบทราบว่า สหายร่วมแผนการพลาดพลั้งถูกฆ่าตาย เขาก็ทิ้งภารกิจทันที อาศัยวิชาลับสร้างร่องรอยตามวงแหวนแห่งอื่นหลายจุด ร่าง จริงเลือกที่จะซ่อนตัวยูที่นี่
คิดว่าจะคอยสังเกตการณ์ รอประกาศจากเบื้องบนค่อยตัดสินใจ
แต่ตอนนี้ร่องรอยของเขาไม่มีระลอกคลื่นถูกแตะต้องใดๆ แต่กลับมีคนหาร่างจริงของตนเจอในทันที
เดิมนี่ก็ทำให้เขาระแวดระวังตัวอยู่แล้ว และสิ่งที่ทำให้ เขายิ่งตกใจคือ ตัวตนของสวี่ชิง เขาย่อมเคยเห็นสวี่ชิงมาก่อน ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำให้เขาตื่นกลัวสุดขั้วหัวใจคือการ สั่นสะท้านของเมล็ดพันธุ์วิถีในร่างเขาตอนนี้ และความรู้สึกที่ ไม่ได้เป็นของตัวเองที่จู่ๆ เกิดขึ้นมา
ทุกอย่างนี้เหมือนกำลังบอกเขาว่า เมล็ดพันธุ์วิถีของเขา คนที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงคือเจ้าแดนสวี่ชิงที่ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายสายเซียนต่างวิถีน่าครั่นคร้ามตรงหน้าคนนี้
‘เบื้องหลังของสายเซียนต่างวิถีเป็นเขาอย่างนั้นหรือ!’
เจ้าของร้านรู้สึกสิ้นหวัง ไม่จำเป็นต้องถาม ในช่วงเวลานี้ หาตนเจอ คำตอบมีเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น ในดวงตาของเขาฉายกลิ่นอายความตาย ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น กัดเม็ดยาพิษที่ซ่อนอยู่ในฟันจนแหลกละเอียด พลังชีวิตค่อยๆ สลายไป
ร่างยิ่งสะท้านเฮือก ปะทุพันธนาการที่เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ให้กายเนื้อเริ่มแหลกสลายไร้ร่องรอย ขณะเดียวกันวิญญาณของเขาก็ถูกเพลิงแห่งความว่างเปล่าที่ฝังเอาไว้นานก่อนหน้านี้เผาไหม้ในพริบตา การกระทำที่เป็นขั้นเป็นตอนนี้ล้วนเป็นวิธีการของเขาใน ฐานะที่เป็นนักรบพลีชีพ เพื่อรับประกันว่าจะไม่เหลือร่องรอยใดๆ
ตอนนี้ทำเสร็จในพริบตา ก่อนตาย ความสิ้นหวังใน ดวงตาของเขาหายไป ฉายแววเสียดสีออกมา
เหมือนจะบอกสวี่ชิงว่า เจ้าหาข้าเจอ เจ้าคือต้นกำเนิด พลังเซียนต่างวิถี เรื่องพวกนี้…แล้วอย่างไรเล่า!
สวี่ชิงมองเจ้าของร้านที่ลงมือกระทำทุกอย่างเบื้องหน้านิ่งๆ ไม่ได้ขัดขวาง แต่สังเกตวิธีการของเขา ตอนนี้ดูวิธี การฆ่าตัวตายของอีกฝ่ายจบ เขายกมือขวาขึ้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
เข็มนาฬิกาแดดในร่างขยับทันที ปรากฏเป็นเงามายา มหึมาด้านหลัง สะท้านสะเทือนฟ้าดินไหมวิญญาณ 1,300,000 เส้นในร่างทะลักเข้าไป ทำให้เงานี้เปลี่ยนจากภาพมายาเป็นวัตถุจริง
มองไกลๆ ราวเทพมาเยือน
เมื่อครึ่งเดือนก่อน สวี่ชิงได้ทดลองในห้องลับแล้ว ใช้ไหม วิญญาณลอกเลียนแบบนาฬิกาแดดของตัวเองสามารถ ทำลายข้อจำกัด ควบคุมเวลาของศัตรูได้ 7 อึดใจ ตอนนี้เขา กำหนดให้เป็นขั้นที่ 4 ครึ่งขั้นชั่วคราว
เวลาหมุนย้อนกลับ
บริเวณที่มือขวาของเขาชี้ไป เจ้าของร้านที่ร่างสลายวิญ ญาณหมองหม่น ร่างกายฟื้นฟูเหมือนก่อนในพริบตา อึ้งตะลึง อยู่ตรงนั้น
“นี่…”
