บทที่ 860 เผ่านภามหาเวท
“กายเนื้อฝืนลงไปใต้โคลนตมพันจั้งยากเกินไป แม้เสริมด้วยสภาวะของข้าในปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม”
“สำคัญที่สุดคือข้ากลับมาด้วยนาฬิกาแดดหมุนย้อนเวลา อย่างไรเรื่องนี้ก็มีขีดจำกัด ใช้บ่อยจะพังเละแน่นอน”
“และความล้มเหลวจากการช้อนจันทรากลางบ่อ ด้านหนึ่งเพราะหมอกเทารบกวน อีกสาเหตุหนึ่งที่ใหญ่กว่าอาจจะเป็น…ระยะห่างเกินไป วิชาช้อนจันทรากลางบ่อไม่อาจส่งผลได้โดยตรง”
“รวมกับที่พูดมา หากมีวิธีสร้างทางผ่านบนโคลนตมนี้ทะลุพันจั้ง ให้มันเชื่อมกับพื้นที่ที่กะโหลกอยู่ เช่นนั้นใช้วิชาช้อนจันทรากลางบ่ออีกครั้ง…”
นัยน์ตาสวี่ชิงฉายแววครุ่นคิด หากวิธีนี้สำเร็จ เช่นนั้นสำหรับเขาความอันตรายต่อตัวเองจะลดลง ทั้ง 3 สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จไปพร้อมกัน
“ทางผ่านนี้ก็ไม่ต้องใหญ่เกินไป เป็นรอยแยกหรือแม้แต่ช่องทางเล็กก็ได้ทั้งนั้น”
สวี่ชิงก้มหน้าจ้องมองโคลนตมเบื้องล่าง ในหัวผุดวิธีการมากมาย
ทว่าโคลนตมนี้ประหลาดด้วยตัวมันเอง ทั้งยังมีหมอกเทา วิธีการที่ผุดขึ้นมาเหล่านี้จึงถูกเขาตัดทิ้งทีละอันหลังคิดวิเคราะห์ กระทั่งถึงสุดท้าย สวี่ชิงตัดสินใจเด็ดขาด โบกมือเอาบางสิ่งออกมา
นั่นคือเปลวเพลิงสีน้ำตาล!
เป็นสิ่งคล้ายเพลิงเทวะที่เกิดขึ้นหลังเจ้าเงากลืนกินสรรพสิ่งรวมถึงพื้นที่ต้องห้าม
เพลิงนี้น่าหวาดกลัว มันไม่เข้ากับโลกใบนี้ หากปรากฏภายนอกจะนำอสนีบาตมาทำให้โลกมอดไหม้
แต่ในเขตต้องห้ามจิ่วหลีนี้ วิถีสวรรค์ก็ถูกขับไล่ การปรากฏของมันจึงไม่ได้นำอสนีบาตมา แต่หมอกเทารอบด้านกลับเริ่มพลิกม้วนอย่างรวดเร็วราวกับถูกกระตุ้น
ในความเลือนราง เสียงกระซิบกระซาบนับไม่ถ้วนรวมตัวอีกครั้ง เกิดเป็นเสียงคำรามแผดออกไปทั่วทิศ
ขณะเดียวกันไอหมอกเคลื่อนม้วนคำรนมาทางสวี่ชิงประหนึ่งย้ายภูเขาพลิกสมุทร กลืนวงแหวนควันรอบกายเขา หมายจะพุ่งเข้ามาดับเปลวเพลิงนี้
ราวกับพวกมันเป็นน้ำกับไฟที่ไม่อาจเข้ากันได้
สายตาสวี่ชิงจับจ้อง ทำมุทราชี้กระถางกำยานสัมฤทธิ์ให้มันเผาเร็วขึ้นและแผ่วงแหวนควันมากกว่าเดิม ป้องกันไอหมอกรอบด้านที่เริ่มบ้าคลั่ง
“หมอกเทาที่นี่ถึงกับมีปฏิกิริยาเช่นนี้…”
สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิดบางอย่าง ก้มหน้ามองโคลนตมแล้วมองไปยังเปลวเพลิงอีกครั้ง
เปลวเพลิงเช่นนี้ เขามีแค่ 3 ดวง
ดวงหนึ่งใช้กับจี้ตงจื่อไปแล้ว ตอนนี้ยังเหลือ 2 ดวง
“ลองสักตั้ง!”
สวี่ชิงหรี่ตา โบกมือเอาเปลงเพลิวสีน้ำตาลลงบนโคลนตมที่พื้นโดยไม่ลังเล พริบตาที่สัมผัส โคลนตมผืนนั้นถึงกับละลายชนิดเห็นด้วยตาเปล่าราวกับเกล็ดหิมะเจอน้ำร้อน!
เปลวเพลิงจมลงไปเป็นทางอย่างราบรื่นไร้อุปสรรค
ผ่านจุดใดโคลนตมล้วนละลายต่อเนื่อง ขณะเดียวกันหมอกเทาที่โอบล้อมวงแหวนควันของสวี่ชิง รวมถึงหมอกเทาที่แยกมาอยู่ในโคลนจมก็ถูกดึงดูดทันใด มันผสานเข้าโคลนตมจากทั่วทิศและมุ่งตรงไปหาเปลวเพลิง
เมื่อสัมผัสกัน ราวกับดับไฟกระนั้น หมอกเทาแผ่คลุมเปลวเพลิงหมายจะดับมัน
แต่เปลวเพลิงนี้มหัศจรรย์ แม้ส่อแววถูกดับ แต่ความเร็วที่มันจมลงยังคงเหมือนเดิม เพียงโคลนตมสัมผัสมันระหว่างทางก็ละลายอย่างรวดเร็ว
100 จั้ง 300 จั้ง 500 จั้ง 700 จั้ง…
ไอหมอกโถมเข้ามามากขึ้น
ขั้นตอนนี้วนเวียนไม่รู้จบ พลังขับไล่ที่แผ่ออกจากโคลนตมก็ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง ถึงขั้นเหนือกว่าตอนสวี่ชิงกับเจ้าเงาจมลงไปก่อนหน้านี้
เปลวเพลิงสีน้ำตาลนั้นจึงอ่อนแรงลงทุกที ทว่าพลังที่แฝงอยู่ภายในยังประคองให้มันทะลวงถึงพันจั้ง!
เพียงแต่หลังจากทะลวง โคลนตมในส่วนที่เปลวเพลิงผ่านไปก็เชื่อมกันอย่างรวดเร็ว ทางเล็กลงเรื่อยๆ
สุดท้าย เปลวเพลิงทะลุผ่านชั้นโคลนตมมาถึงในถ้ำที่เจ้าเงาส่งภาพมาให้ก่อนหน้านี้
ชั่วขณะที่ปรากฏ หมอกเทาในถ้ำนั้นพลันกระจายม้วนเข้ามาทันใด
หมอกเทาไร้สิ้นสุดโถมเข้ามาตามกัน เปลวเพลิงสีน้ำตาลนั้นดับสลายในพริบตา
หลังสลายไป โคลนตมที่มันดิ่งละลายลงมาตลอดทางก็เชื่อมสนิททันที
สวี่ชิงเห็นฉากนี้แล้วสีหน้าเคร่งขรึม
ระหว่างนี้เขาเคยคิดจะเอาเปลวเพลิงสุดท้ายออกมา ทั้งเคยคิดจะใช้วิชาช้อนจันทรากลางบ่อ แต่อย่างไรการทำเช่นนี้ก็ไม่แน่นอน โอกาสน้อยนัก สุดท้ายเขาจึงเลือกสังเกตการณ์
ถือครั้งนี้เป็นการทดลอง
บัดนี้มีคำตอบแล้ว
“เปลวเพลิงดวงเดียวใช่ว่าไม่พอ แต่ขาดความต่อเนื่อง ประคองไว้ได้ไม่นานก็จะถูกหมอกเทาดับ”
“อีกอย่าง โคลนตมที่ละลายนั้นก็ยากอยู่ได้นาน”
“บัดนี้หลังจากข้าแก้ไข วิชาช้อนจันทรากลางบ่อยังใช้ได้ชั่วคราวครั้งหนึ่ง แต่ถ้าอยากใช้ครั้งที่ 2 ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูจิตวิญญาณ”
สวี่ชิงตริตรอง เริ่มขบคิดวิธีรับมือกับ 2 ประเด็นที่ค้นพบ
ผ่านไปชั่วครู่ เขามองโคลนตมผาดหนึ่ง
กับการทำอย่างไรให้โคลนตมคืนสภาพช้าหลังละลาย ในใจมีคำตอบแล้ว
“ใช้พลังของนาฬิกาแดดให้มันหยุดนิ่ง!”
สวี่ชิงหรี่ตา หลังจากผ่านการย้อนเวลาใต้โคลนตม เขามั่นใจในระดับหนึ่งว่าเรื่องนี้ทำได้ เช่นนั้นตอนนี้ก็เหลือแค่ปัญหาสุดท้าย
“จะทำให้เปลวเพลิงลุกไหม้สว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร!”
สวี่ชิงเงยหน้ามองกระถางกำยาน โบกมือเอาเลือดเนื้อชื่อหมู่ออกมาก้อนหนึ่ง
“เลือดเนื้อชื่อหมู่เพิ่มการเผาไหม้ให้กระถางกำยานได้ เช่นนั้นตามทฤษฎีก็เสริมพลังให้เปลวเพลิงสีน้ำตาลได้เหมือนกัน…”
คิดถึงตรงนี้ สวี่ชิงหายใจเข้าลึก เอาเปลวเพลิงสีน้ำตาลดวงที่ 3 ออกมา และควบคุมมันให้เข้าใกล้เลือดเนื้อชื่อหมู่อย่างช้าๆ
ในขั้นตอนนี้สวี่ชิงสีหน้าเคร่งเครียดอย่างยิ่ง
นี่เป็นความหวังสุดท้ายของเขา หากล้มเหลวสวี่ชิงก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ได้แต่ลองระเบิดเลือดเนื้อชื่อหมู่ทั้งหมดสักตั้ง ดูว่าจะทะลวงออกจากเขตต้องห้ามจิ่วหลีได้หรือไม่
ดังนั้นด้วยการจดจ่อของเขา เปลวเพลิงจึงปะทะเข้ากับเลือดเนื้อชื่อหมู่
ชั่วขณะที่สัมผัส สวี่ชิงก็เตรียมเจอเหตุการณ์เหนือความคาดหมายแล้ว แต่หลังจากที่โชคชะตาคล้ายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามมาตลอด ในที่สุดครั้งนี้ก็เอนเอียงมาทางเขาบ้างแล้ว
พริบตาที่เลือดเนื้อชื่อหมู่ปะทะกับเปลวเพลิง เสียงระเบิดดึงกึกก้อง เลือดเนื้อชื่อหมู่ถึงกับส่อแววลุกไหม้ ทั้งยังมีท่าทีว่าจะละลาย
และเปลวเพลิงสีน้ำตาลดวงนั้นก็ยังไม่ดับ กลับทำให้เค้าลางที่เลือดเนื้อชื่อหมู่จะละลายค่อยๆ เด่นชัดด้วยการเผาไหม้ต่อเนื่อง
สุดท้าย ของเหลวสีทองดุจน้ำมันหยดหนึ่งละลายออกจากเลือดเนื้อชื่อหมู่
น้ำมันนี้ใสแจ๋วแวววาว ขณะปรากฏแผ่กลิ่นอายเทพเจ้าเข้มข้น ยังมีคลื่นกระจายสู่ภายนอก ทำให้หมอกเทารอบด้านพลิกม้วนอีกครั้ง
สวี่ชิงกำลังจะไปเอาของเหลวสีทองหยดนี้ แต่หลังใคร่ครวญ เขาเลือกควบคุมเปลวเพลิงสีน้ำตาลให้เผาไหม้ต่อ ไม่นาน หลังจากสั่งสมอย่างต่อเนื่อง ของเหลวสีทองที่ถูกละลายหยดนั้นก็ตกลงมาหยดใส่พื้นโคลนตม
พริบตาต่อมา โคลนตมละลายอย่างรวดเร็วเหมือนตอนสัมผัสเปลวเพลิงก่อนหน้านี้ ทำให้ของเหลวสีทองหยดนี้จมลงไป
เห็นเป็นเช่นนั้น สวี่ชิงพลันมีแรงใจ แม้ผิดไปจากแผนของเขาเล็กน้อย แต่เป็นทิศทางเดียวกัน เขาจึงควบคุมให้เปลวเพลิงเผาไหม้เต็มกำลังโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ไม่นาน ยามเมื่อของเหลวสีทองหยดแรกจมถึงหลายร้อยจั้งจนถูกหมอกเทาปกคลุมใกล้จะสลาย และช่องเล็กที่ทะลวงมาตลอดทางก็ใกล้จะเชื่อมสนิท ของเหลวสีทองหยดที่ 2 ก็ตกลงไป!
ตำแหน่งเดียวกัน ช่องทางเล็กเดียวกัน ของเหลวสีทองหยดที่ 2 รุดหน้าดุจผ่าไผ่ ทำลายการเชื่อมทั้งหมดในพริบตา หลอมรวมกับของเหลวหยดแรกลึกลงไปหลายร้อยจั้งที่ใกล้สลาย เพิ่มแรงขับเคลื่อนให้มันต่อจากนั้น
พื้นดินสั่นสะเทือน
ของเหลวสีทองที่อยู่ลึกลงไปหลายร้อยจั้งมีกำลังเสริมแล้วแผ่กลิ่นอายเทพเจ้าเข้มข้นกว่าเดิม เกิดการละลายอีกครั้งกระทั่งถึงระดับความลึก 700 จั้ง
ตามด้วยของเหลวสีทองหยดที่ 3 หยดที่ 4 หยดที่ 5 ตกลงไปด้วยวิธีเดิม
ทะลุและรวมตัวต่อเนื่อง สุดท้ายทะลวงถึงชั้นโคลนตมพันจั้ง เกิดเป็นช่องเล็กที่เชื่อมจากบนลงล่าง
พริบตาที่ช่องว่างขนาดเล็กปรากฏ มือซ้ายสวี่ชิงทำมุทราชี้โดยพลัน ทันใดนั้นนาฬิกาแดดแปลงออกมาอยู่ด้านหลังเขา พลังหยุดความเคลื่อนไหวพลันระเบิดขยายไปตามช่องทางเล็ก ทำให้ทางเส้นนี้หยุดเชื่อมติดกัน
อาศัยจังหวะนี้ นัยน์ตาสวี่ชิงฉายแววบ้าคลั่ง พลังบำเพ็ญกับพลังต้นกำเนิดเทพระเบิดออกมาในคราวเดียว สภาวะเทพเจ้าขั้นที่ 4 ก่อร่างทันใด 2 มือทำมุทราอัดไปยังช่องทางเล็ก
ฟ้าดินโลกใบนี้ พินิจเปรียบดั่งหนึ่งบ่อ
ชั่วลมปราณ พลังยิ่งใหญ่แผ่กระจายอยู่เบื้องหน้าสวี่ชิง รอบด้านเกิดระลอกคลื่น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลายเป็นผืนบ่อน้ำ
ยังทะลุผ่านช่องว่างแคบเล็กนี้เชื่อมไปถึงถ้ำที่อยู่ลึกลงไปพันจั้ง และสะท้อนทุกสิ่งในนั้นไว้บนผืนน้ำ
แม้ครั้งนี้ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น แต่ดีกว่าก่อนหน้านี้มากนัก อย่างน้อย…กะโหลกที่อยู่ใกล้ช่องทางเล็กนี้มากที่สุดก็สะท้อนเข้านัยน์ตาสวี่ชิงอย่างแท้จริง
เพียงแต่การกระทำของสวี่ชิงโดยแก่นแล้วยังเป็นแมลงเม่าเขย่าต้นไม้ แม้เขาเปิดทางด้วยวิธีการเหล่านั้น และน้ำมันสีทองยังจมลงต่อเนื่อง การหยุดเวลาของนาฬิกาแดดก็คอยเสริมกำลัง
แต่สุดท้ายยังไม่มั่นคง ยามนี้นาฬิกาแดดเกิดรอยร้าวดังแกรกกราก และหมอกเทาในถ้ำก็โถมเข้ามาดุจมหาสมุทร เห็นใกล้จะกลืนกินทางผ่านนี้หมดแล้ว
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มือขวาที่ยกขึ้นของสวี่ชิงฉวยไปทางกะโหลกที่สะท้อนในผิวน้ำเบื้องหน้าเต็มแรง!
ขณะฉวยดึงขึ้น ทั้งกายสวี่ชิงสั่นเทา แรงขืนที่แผ่ซ่านทำให้เขาไม่อาจฉวยมันออกมา ยังถูกพลังแว้งกัดจนกระอักเลือดสด
นาฬิกาแดดร้าวกว่าเดิม
หมอกเทาหนายิ่งขึ้น
ทางผ่านใกล้ปิดสนิท
สีโลหิตขยายทั่วนัยน์ตาสวี่ชิง เขากัดฟันรุนแรง ฉวยดึงอีกครั้งโดยไม่สนสิ่งใด!
ครั้งนี้ทั่วกายเขาเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว ร่างกายพลันปรากฏบาดแผลฉีกขาด เลือดสดกระจายจากทั่วเรือนกาย ร่างทั้งร่างคล้ายจะแหลกสลาย ในปากยังคำรามเสียงต่ำ
ในที่สุด มือขวาที่สั่นเทาของเขาก็ตักคราบน้ำออกจากผืนน้ำ
ในคราบน้ำสะท้อนกะโหลกอันหนึ่ง!
ขณะตักขึ้น นาฬิกาแดดของสวี่ชิงประคองไม่ไหวจนต้องสลายไป และในทางผ่านนั้นก็ถูกไอหมอกมากมายบุกเข้ามา แม้ของเหลวสีทองจมลงก็ไม่อาจขัดขวาง เชื่อมกันสนิททันใด
สวี่ชิงกระอักเลือดสดอีกครั้ง บาดแผลสาหัสทั่วกาย เบื้องหน้าถึงกับพร่าเลือน แต่ในใจเขากลับฮึกเหิม ก้มมองไปยังมือขวาที่ยับเยินของตน
ทว่าสวี่ชิงมองแล้วสีหน้าพลันเปลี่ยน
กะโหลกที่สะท้อนในคราบน้ำบนมือขวาเขาถึงกับเลือนรางอย่างรวดเร็ว คล้ายอีกไม่นานก็จะสลายไป
เขาไม่อาจเก็บมันไว้อย่างแท้จริง ทั้งไม่อาจทำให้มันกลายเป็นของจริง!
ถึงช่วงสำคัญ สวี่ชิงร้อนรน เห็นเงากะโหลกในคราบน้ำกำลังจะหายไปโดยสมบูรณ์ นัยน์ตาเขาฉายแววบ้าคลั่ง ถึงกับอ้าปากสูบมัน กลืนน้ำในฝ่ามือรวมถึงเงาสะท้อนบนนั้นเข้าปาก พร้อมกระตุ้นผลึกวารีสีม่วงของตน
พริบตาที่เข้าปาก ร่างกายสวี่ชิงสะท้านสะเทือน พลังระเบิดตัวเองปะทุขึ้นภายในอย่างไม่อาจควบคุม เห็นใกล้จะระเบิด แสงสีม่วงตรงหน้าอกเขาเปล่งแสงปกคลุมทั่วกาย พลังผนึกปรากฏตามมา
ขณะเดียวกัน เสียงคร่ำโลกเจือแววขมขื่นไม่ยินยอมสายหนึ่งดังก้องในหัวสวี่ชิง คล้ายขว้างกั้นด้วยวันเวลาไร้สิ้นสุด
‘บิดรผู้ใช้เวท ลูกหลีละอายใจต่อเผ่านภามหาเวทของเรา!’
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)