บทที่ 958 ชักกระบี่
ดึงห้วงเวลา ตัดเฉือนอดีต ความสามารถเช่นนี้ผู้บำเพ็ญสามารถควบคุมได้ แต่ไม่มีทางทำได้อย่างล้ำลึกเช่นนี้เด็ดขาด
เพราะนี่คืออำนาจของเทพเจ้า
เพราะนี่คือความหมายของรอบรู้
ในสายตาของเทพเจ้า ในร่างของสรรพชีวิตทั้งหลายบันทึกเรื่องราวทุกอย่าง ทุกอย่างในอดีตล้วนทับซ้อนกับปัจจุบัน ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้แม่น้ำแห่งกาลเวลาเดือดพล่าน ปกคลุมไปทั่วทั้งโลกมนุษย์ ร่างในอดีตของเจ้าโหย่วเต๋อนับไม่ถ้วน ประชิดเข้ามายังเจ้าโหย่วเต๋ออย่างรวดเร็ว
แต่ระดับเจ้าเหนือหัวคือระดับที่ในระบบฝึกบำเพ็ญนั้นสูสีกับระดับเตรียมเซียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าโหย่วเต๋อที่ซ่อนอำพรางในเผ่ามนุษย์นานหลายปีที่เป็นระดับครึ่งก้าวสู่เทวะขั้นสุดยอดเลย
พลังบำเพ็ญเช่นนี้ เผชิญหน้ากับเทพเจ้าก็มีพลังที่จะต่อสู้ด้วย
ตอนนี้เผชิญหน้ากับอำนาจเทพเจ้าที่คล้ายว่าไม่อาจเข้าใจได้ หลังจากที่เขาสีหน้าเคร่งขรึม มือขวาก็พลันยกขึ้นแล้วคว้าไปยังม่านฟ้าที่อยู่ข้างหน้า
ภายใต้การคว้านี้ ท้องฟ้าหมุนย้อนเหมือนเปลี่ยนฟ้าผืนใหม่
ผืนฟ้าถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าดารากว้างใหญ่
ความใหญ่ของท้องฟ้าผืนนี้ปกคลุมไปทั่วสารทิศ ในขณะที่ปกคลุมก็เหมือนจะแบ่งแยกพื้นที่บริเวณนี้ไปจากแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ให้กลายเป็น…จักรวาลที่เป็นเพียงของเจ้าโหย่วเต๋อ
ในจักรวาลนี้แม้จะมีร่างในอดีตของเขานับไม่ถ้วน แต่ที่มีจำนวนมากยิ่งกว่ากลับเป็นดวงดาว
ดวงดาวนับไม่ถ้วน ในพริบตาที่กะพริบแสงวาบ จากความคิดที่ผุดเป็นระลอกขึ้นลงของเจ้าโหย่ว ก็ต่างดับสลายไป
การดับสลายของดวงดาวนับไม่ถ้วนส่งผลกระทบต่อทั้งจักรวาล ทำให้จักรวาลแห่งนี้เกิดการพังถล่ม
และการพังถล่มก็จะเกิดการยุบลงไป การยุบตัวจะนำแรงดูดมหาศาลมา
เหมือนจักรวาลกลายเป็นหลุมดำขนาดมหึมาหลุมหนึ่ง
เพียงพริบตา ร่างในอดีตของเจ้าโหย่วเต๋อทั้งหมด ภายใต้แรงดูดอันมหาศาลนี้ต่างถูกจักรวาลที่พังถล่มลงมากลืนกิน
ไม่เหลือแม้แต่ร่างเดียว!
ตัดเฉือนเวลาสร้างร่างในอดีตให้ย้อนทำลายร่างจริง ดูเหมือนยากที่จะอธิบาย ต่างไม่อาจแตกดับไปได้ เช่นนั้นวิธีการแก้ก็คือทำให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ควบคุม ผนึก ทำให้กลับเป็นหนึ่งใหม่อีกครั้งก็ได้แล้ว
ทุกอย่างนี้พูดเหมือนนานแต่ความจริงแล้วเกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยวพริบตา ไม่นานนัก ร่างในอดีตทั้งหมดทันทีที่ถูกจักรวาลที่พังถล่มลงมากลืนกิน มือขวาที่ยกขึ้นมาของเจ้าโหย่วเต๋อก็คว้าไปเต็มแรง
ทันใดนั้นฟ้าดินก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
จักรวาลที่เป็นของเขาพลันหดเล็กลง สุดท้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นมุกสีดำเม็ดหนึ่ง ลอยมาอยู่ข้างหน้าเจ้าโหย่วเต๋อ
เขาไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น เงยหน้ามองรัชทายาทรัฐม่วงคราม นิ้วชี้ขวาดีดไปบนมุกเม็ดนี้
มุกเม็ดนี้ลอยขึ้นท้องฟ้าทันที
ส่วนร่างของเขาก็หายไปในทันใด มาปรากฏอยู่บนท้องฟ้า บนมุกเม็ดนั้น
“สะกด!” เจ้าโหย่วเต๋อพลันเอ่ยขึ้นมา
เสี้ยวขณะต่อมา มุกสีดำที่ลอยไปบนท้องฟ้าก็พลันระเบิด แผ่ไปในม่านฟ้า เปลี่ยนผืนฟ้าอีกครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้แปรเปลี่ยนเป็นแม่น้ำดาราผืนหนึ่ง
สะกดไปยังผืนแผ่นดิน ไปยังแม่น้ำแห่งกาลเวลาที่รัชทายาทรัฐม่วงครามเหนี่ยวนำออกมา
ใช้แม่น้ำดาราสะกดแม่น้ำกาลเวลา
รัชทายาทรัฐม่วงครามมองภาพนี้ก็ยิ้มออกมา “น่าสนใจ”
“เวลาของเจ้า เจ้าควบคุมมันได้ เช่นนั้น เวลาของข้าเล่า” รัชทายาทรัฐม่วงครามขณะพูดมือขวาก็ยกขึ้น แตะไปที่หว่างคิ้วของตัวเอง
ในพริบตาที่แตะลงมา มิติรอบๆ รัชทายาทรัฐม่วงครามก็บิดเบี้ยวทันที อดีตของเขาปรากฏขึ้นทั่วทุกสารทิศเช่นกัน
เพียงแต่ทั้งหมดล้วนรางเลือน มองเห็นไม่ชัด
เพียงสัมผัสได้ถึงความแค้นและความบ้าคลั่งอันไม่สิ้นสุดเท่านั้น แฝงด้วยความไม่ยอมจำนน แปรเปลี่ยนเป็นเสียงคำรามดังท่วมฟ้าเป็นระลอกๆ ปะทุมาในโลก
ส่วนตัวของเขาสีหน้ายังคงอ่อนโยน ตอนนี้นิ้วยกขึ้นมา คว้าไปในภาพมายารางเลือนที่อยู่รอบๆ ไปง่ายๆ
เขาเฉือนห้วงเวลาของตัวเองช่วงหนึ่งออกมาจากในโลกเมื่อชาติที่แล้วของตัวเองให้มาปรากฏในโลกปัจจุบันนี้ แล้วกดไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลา
แม่น้ำแห่งกาลเวลาอันกว้างใหญ่ ในเสี้ยวขณะนี้ซัดโหมเดือดพล่านอย่างรุนแรง คลื่นลูกใหญ่ในนั้นท่วมฟ้า
ในแม่น้ำ นิ้วหยกขาวขนาดมหึมา มาด้วยพลังแข็งแกร่งไม่อาจต้านทาน ทะลุผิวน้ำ หอบม้วนพลังชาติที่แล้ว สั่นคลอนวิถีแห่งฟ้าดิน พุ่งออกมาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลา
มองไปไกลๆ เหมือนเสาค้ำฟ้าดิน
พลังแข็งแกร่งเหลือล้ำ ฟ้าดินต่างสั่นสะเทือน
กดอัดไปยังแม่น้ำดาราที่ร่วงลงมาจากม่านฟ้า
แม่น้ำดาราสั่นคลอน กะพริบแสงวูบวาบรุนแรง สุดท้ายก็ระเบิดออก เผยให้เห็นเจ้าโหย่วเต๋อที่สีหน้าเคร่งเครียดอยู่ข้างหลัง
ส่วนนิ้วหยกขาวที่สะท้านฟ้าดินนิ้วนั้น ตอนนี้ไม่หยุดรั้งรีรอแม้แต่น้อย พุ่งตรงไปหาเจ้าโหย่วเต๋อ
จะประชิดเข้าไปใกล้แล้วเต็มที
บนท้องฟ้า เจ้าโหย่วเต๋อสูดลมหายใจลึก มือทั้ง 2 ประสานปางมืออย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงสั้นๆ สำแดงปางมือไปไม่รู้ต่อเท่าไร สุดท้ายมือทั้ง 2 ก็มาอยู่ที่หน้าอก นิ้วโป้งและนิ้วชี้กางออก แล้วพลันแตะเข้าหากัน
เป็นรูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว
แล้วพลันกดอัดไปยังนิ้วหยกขาวที่ประชิดเข้ามา
ทันใดนั้นจักรวาลปะทุบนร่างของเขา ยิ่งมีพลังมหาวิถีอยู่ในร่างกายราวแม่น้ำที่โหมบ่า ซัดไปหานิ้วหยกขาว
ในมหาวิถีแฝงไว้ด้วยพลังแห่งมิติ
นี่คือวิถีของเจ้าโหย่วเต๋อ และเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงแอบซ่อนอยู่ในเผ่ามนุษย์มาได้จนถึงตอนนี้
ตอนนี้จากการกวาดโหมมาของพลังมหาวิถีของเขา นิ้วหยกขาวของรัชทายาทรัฐม่วงครามก็พลันสั่นสะเทือน
มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามันแปรเปลี่ยนเป็นภาพภาพหนึ่งกลางท้องฟ้า
ภาพนี้ไม่เสถียร คล้ายว่าจะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ
เจ้าโหย่วเต๋อลมหายใจหอบถี่ มือทั้ง 2 ประสานปางมือกดไปอีกครั้ง
ทันใดนั้นนิ้วหยกขาวที่แปรเปลี่ยนเป็นภาพ ภายใต้พลังมหาวิถีก็พลันพับซ้อน กลายเป็นเส้นสีขาวเส้นหนึ่ง
จากนั้น ในดวงตาเจ้าโหย่วเต๋อก็เกิดเส้นเลือดขึ้น ก่อนจะกดไปครั้งที่ 3
เส้นสีขาวเส้นนี้พลันกลายเป็นจุดสีขาว!
จากนั้น เจ้าโหย่วเต๋อกำลังจะสำแดงเป็นครั้งที่ 4 แต่ตอนนี้เอง กลิ่นอายสะท้านฟ้าน่าตื่นตะลึงที่แผ่ออกมาจากในจุดสีขาว มาพร้อมด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้อง
จุดนี้ระเบิดมาทันที
ในนั้น นิ้วหยกขาวนิ้วนั้นฉีกทึ้งมิติออกมา พุ่งมาอยู่ข้างหน้าเจ้าโหย่วเต๋อ
เสียงระเบิดกึกก้องดังไปทั่วโลกหล้า
เจ้าโหย่วเต๋อกระอักเลือดออกมา ร่างพลันถอยไปข้างหลัง สีหน้าของเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ถอย บนร่างล้วนมีรอยแผลดวงดาวอยู่ทุกชั่วขณะ เลือดสาดกระเซ็น
“ดัชนีเซียนจันทรา!”
“เจ้า คือรัชทายาทรัฐม่วงครามในตอนนั้นคนนั้น!”
“แต่ตอนนี้…ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ ไม่ใช่เทพ ไม่มีชีวิต ไม่ตาย ไม่คงอยู่!”
เจ้าโหย่วเต๋อรูม่านตาหดเล็ก
และคนที่ตื่นตะลึงยิ่งไปกว่าเขาคือผู้บำเพ็ญทั้งหลายที่นี่
ราชครูลึกลับ ทุกคนล้วนรู้จุดนี้ แต่กำลังรบถึงระดับขั้นนี้อยู่เหนือกว่าจินตนาการ จนกระทั่งตอนนี้ถูกชี้ฐานะออกมา…
รัชทายาทรัฐม่วงคราม 4 คำนี้ดังขึ้น ประดุจสายฟ้าฟาดผ่าผืนดิน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ตัวตนของราชครู สำหรับขุนนางส่วนใหญ่แล้ว เสี้ยวขณะนี้ในใจต่างมีสายฟ้าฟาดผ่า
สวี่ชิงทางนี้สีหน้าเย็นชา เขาได้เห็นภาพที่อยากเห็นแล้ว และมั่นใจในการวิเคราะห์ในใจ
มีเพียงจักรพรรดินีที่ตอนนี้ไม่ได้มองรัชทายาทรัฐม่วงครามแม้เพียงผาดเดียว บนร่างของนางการเผาไหม้ของเพลิงเทวะมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว พลังอำนาจเทพยิ่งใหญ่กำลังปะทุ
ส่วนมหาจักรพรรดิครองกระบี่ก็ยังคงเงียบนิ่ง
เห็นเช่นนี้ เจ้าโหย่วเต๋อที่อยู่กลางท้องฟ้าก็หันหลังร่างไหววูบ คิดจะจากไป
เขารู้ว่าวันนี้ไม่มีทางดับเพลิงเทวะได้แล้ว
แต่รัชทายาทรัฐม่วงครามเห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะให้เจ้าเหนือหัวผู้นี้จากไปแบบนี้
“ตอนแรกเป็นจักรวาล จากนั้นก็เป็นมหาวิถี พูดกับเจ้ามามากมายขนาดนี้ความจริงเป้าหมายสุดท้ายของข้าก็เพื่อจะดูชะตาชีวิตของเจ้า”
“ตอนนี้ข้ามองเห็นแล้ว”
รัชทายาทรัฐม่วงครามเอ่ยเสียงแผ่วเบา มือขวายกขึ้นคว้าไปยังท้องฟ้า ทันใดนั้นเลือดที่ไหลมาจากร่างของเจ้าโหย่วเต๋อก็ต่างรวมกันมา สุดท้ายก็มาลอยอยู่บนฝ่ามือของรัชทายาทรัฐม่วงคราม
จากการที่ถูกบีบไปในฝ่ามือของเขา เลือดนี้กลายเป็นเส้นสีเลือดเส้นหนึ่ง
จากนั้น เขาที่อยู่ภายใต้การจับตามองมาจองทุกคน ท่ามกลางสีหน้าของเจ้าโหย่วเต๋อที่เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล เส้นนี้ก็เชื่อมต่อไปบนผมของเขา
ผสานเป็นหนึ่งเดียว
จากนั้นก็สูด
ภาพที่แปลกประหลาดและคาดไม่ถึงภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของคนทั้งหลายขึ้นในเสี้ยวพริบตานี้
เจ้าโหย่วเต๋อที่อยู่กลางอากาศร่างสะท้านอย่างรุนแรง ปากส่งเสียงร้องครวญครางโหยหวน ร่างของเขาอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า เหมือนว่ามีของวิเศษอะไรหายไปจากร่างของเขา
ถูกรัชทายาทรัฐม่วงครามที่มองเห็นชะตาชีวิตของเขาดูดเอาไป
ช่วงวิกฤตอันตราย เจ้าโหย่วเต๋อยกมือกดไปที่หว่างคิ้วของตัวเอง
ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นภาพหนึ่งทันที แล้วกลายเป็นเส้นเส้นหนึ่ง จากนั้นก็กลายเป็นจุด สุดท้าย…หายไปไร้ร่องรอย
“เขาถูกดูดชะตาทั้งหมดไป” เทพดวงอาทิตย์พลันเอ่ยขึ้น
ภาพนี้ผู้ที่มองความลึกลับอัศจรรย์ออกมีไม่มาก มีเพียงพลังบำเพ็ญถึงระดับสมบูรณ์แบบไร้ที่ติถึงจะมองเห็นความจริง
“ใช้โชคชะตาเชื่อม ดูดซับดวงชะตาของอีกฝ่าย…”
“วิชาเทพเช่นนี้ เทียบกับวิธีการกลืนกินแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ของเทพบิดร ต่างวิถีทางแต่ผลลัพธ์เหมือนกัน”
สีหน้าของเทพดวงอาทิตย์ก็มีความเคร่งเครียดเช่นกัน มองไปทางรัชทายาทรัฐม่วงคราม
“ท่าทาง นี่ก็คือวิธีที่เจ้าหลังจากนี้จะไปฟื้นฟูพลังบำเพ็ญเมื่อชาติที่แล้วสินะ”
รัชทายาทรัฐม่วงครามยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่ได้พูดอะไร แต่ยกเท้าก้าวไปยังท้องฟ้า
สำหรับยาบำรุงอย่างเจ้าโหย่วเต๋อ เขาย่อมไม่มีทางปล่อยไปอยู่แล้ว
ตอนนี้จากการย่างก้าวลงมาของฝีเท้า ก็ไล่ตามร่องรอยของเจ้าโหย่วเต๋อ หายไปที่ขอบฟ้า
ฟ้าดินเผ่ามนุษย์ตอนนี้เงียบสงัด
เทพเจ้าที่มาขัดขวาง ไม่ว่าจะเป็นเพลิงแผดเผาก่อนหน้านี้หรือราตรีมืด หรือจะเป็นตัวตนอย่างเผ่าราชันประกาศิตอุดรท่านนั้น ต่างอยู่ในความเงียบงัน ถอยร่นไป
ในเมื่อไม่อาจขัดขวางวิถีได้ สู้ต่อไปก็ไร้ความหมาย
ดังนั้นเพลิงเทวะบนดาวจักรพรรดิโบราณก็เปลี่ยนเป็นสีทองได้ 9 ส่วนแล้ว และจักรพรรดิมนุษย์ทุกรุ่นที่อยู่ในคลื่นวนทั้ง 5 รอบๆ กลิ่นอายเทพเจ้าบนร่างจากการก่อขึ้นของอำนาจเทพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จักรพรรดินีที่อยู่กลางท้องฟ้าก็เช่นกัน
ห่างจากพิธีสำเร็จเสร็จสิ้นเหลืออีกเพียง 1 ก้านธูปเท่านั้น
บนท้องฟ้าในตอนนี้กลับมีเสียงแตกร้าวดังมา
นั่นเป็นเสียงลมที่พัดมายังม่านฟ้าแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
ดังนั้นในเมืองหลวงเผ่ามนุษย์เกิดลมพัดขึ้น
มีคนอยู่นอกแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ในแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนโยว ฟันดาบหนึ่งมาทางแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
ดาบนี้ข้ามผ่านท้องฟ้าดารา สะบั้นอดีตตัดขาดปัจจุบัน หอบมาด้วยพลังอำนาจไร้ขีดจำกัด มาพร้อมด้วยพลังไร้เทียมทานบดขยี้ทุกสิ่ง มาด้วยพลังทำลายฟ้าดิน ลงมาเยือนยังแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
มาปรากฏยังท้องฟ้าเหนือวังหลวงเผ่ามนุษย์
เกิดเป็นรอยร้าวขนาดมหึมาที่มีความยาวถึง 1 ล้านลี้ สุดลูกหูลูกตา เกิดเป็นเงาดาบ ราวดาบสวรรค์ของจริง
ทันทีที่ปรากฏขึ้น ท้องฟ้าเปลี่ยนสี ลมเมฆหอบทะลัก อาการหายใจไม่ออกเกิดในโลก
เทียบกับเทพเจ้าแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เทียบกับเผ่าทั้งหลายในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ผู้ที่ไม่อยากให้จักรพรรดินีสำเร็จเทพหนีไปจากเงื้อมมือได้มากที่สุดย่อมเป็น…แดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนโยวที่อยู่ภายในแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอยู่แล้ว
ดังนั้นจึงมีอำนาจแห่งจักรพรรดิลงมา!
ดังนั้นจึงมีดาบของมหาจักรพรรดิ!
ดังนั้นในโลกมนุษย์ที่เกิดลมพัด มีเสียงถอนหายใจดังมา
เงาร่างแห้งเหี่ยวในวังครองกระบี่ ในเสี้ยวขณะนี้ลืมตาทั้ง 2 ขึ้นมา
กระบี่นั้นของเขาเก็บไว้ใช้กับเทพเจ้า และเก็บไว้ใช้กับ…แดนศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นกัน!
“เจ้า สุดท้ายแล้วก็ลงมือสินะ”
เงาร่างในวังครองกระบี่เอ่ยขึ้นเสียงแหบแห้ง ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยการผันผ่านมาอย่างยาวนาน แฝงไว้ด้วยความซับซ้อนไม่สิ้นสุด
จากนั้น…
กระบี่จักรพรรดิในร่างสวี่ชิง ในเสี้ยวขณะนี้ก็สั่นขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แสงกระบี่นับไม่ถ้วนสาดแสงออกมาอย่างน่าตื่นตะลึงสะท้านฟ้าจากร่างของเขา
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
