Chapter 6
เลขาคนใหม่
ส่วนอากิโอะก็กำลังนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างอย่างสบายใจ เขารู้ว่ามีกล้องติดในห้องน้ำ แต่เขาไม่สนใจ เพราะเขาเป็นผู้ชาย ต่อให้มีภาพหลุดออกไปก็ไม่เสียหายอะไรนัก ส่วนยามาโตะจะดูภาพก็ดูไปซิ ดูได้แต่แตะต้องไม่ได้จะเกิดประโยชน์อะไร เหอะ!
ภายในรถ ยามาโตะเอามือถือมาดูกล้องที่ติดเอาไว้ในบ้านพักของซึบาสะ เขาเห็นซึบาสะกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างก็มองภาพอย่างหลงใหล “ซึบาสะ คุณจะต้องเป็นของผมคนเดียว!”
ซึบาสะขนลุกซู่ๆ เขาลูบๆ แขนตัวเองไปมา แต่ความรู้สึกขนลุกนั้นก็ไม่หายไปซะที เขาจึงทะลุผ่านประตูเข้าไปในห้องน้ำ อากิโอะเห็นซึบาสะเข้ามาก็ตกใจ “เฮ้ย! คุณเข้ามาทำไม? ผมอาบน้ำอยู่นะ”
“ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเลย” ซึบาสะบอก แต่พอเห็นอากิโอะความรู้สึกขนลุกก็จางหายไป เขาจึงบอกว่า “แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว หรือว่าเพราะเมื่อกี้อยู่ห่างจากร่างล่ะมั้ง”
“งั้นเหรอ” อากิโอะมองแล้วบอกว่า “งั้นคุณก็หันไป ไม่ต้องมองผม”
“อืม” ซึบาสะหันหลังให้อากิโอะ เขานั่งลงพิงอ่าง “แปลกจัง ผมไม่รู้สึกขนลุกแล้ว”
“เฮ้อ…ผมต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่เนี่ย?” อากิโอะบ่น เขาเป็นผู้ชาย ซึบาสะก็เป็นผู้ชายดังนั้นเขาจึงไม่ถือสาที่ซึบาสะจะมองเขาเปลือย ถึงยังไงร่างนี้ก็เป็นร่างของซึบาสะ ก็เหมือนกับซึบาสะมองตัวเองนั่นแหละ แต่อากิโอะที่อยู่ในร่างซึบาสะก็ยังรู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่ดีที่จะถูกวิญญาณเจ้าของร่างมองอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
“ไม่รู้ซิ” ซึบาสะเอ่ยเสียงเบา นั่งกอดเข่าคุดคู้เหมือนเด็กหลงทางที่หาทางกลับบ้านไม่เจอสักที อากิโอะมองแล้วรู้สึกสงสาร เขาจึงยื่นมือไปลูบๆ หัวอีกฝ่าย “เอาน่าๆ อย่าคิดมากเลย ช่วยคุณก็เหมือนผมได้ช่วยตัวเองให้ไปสู่สุขคตินั่นแหละ บางทีที่ผมไม่อาจไปสู่สุขคติได้ก็คงเป็นเพราะผมยังมีเรื่องติดค้างในใจมั้ง เรื่องแรกก็คือเรื่องคนร้ายที่ฆ่าผม เรื่องที่สองก็คือเรื่องกลุ่มโทมิกรุ๊ปที่ครองเศรษฐกิจของประเทศนี้มายาวนานเกินไป กดประชาชนจนโงหัวไม่ขึ้น ผมอยากให้ประเทศเราเหมือนกับทางยุโรปหรืออเมริกาที่มีสิทธิ์มีเสียงเต็มที่ เป็นประชาธิปไตยเต็มตัวไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ นโยบายอะไรๆ ก็เอื้อกลุ่มโทมิกรุ๊ปไปซะหมดแบบนี้ เฮ้อ…สงสารประเทศจริงๆ”
“นั่นซิ ผมก็สงสารตัวเองในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง ของกินของใช้ทุกวันนี้แทบจะเป็นของในเครือโทมิกรุ๊ปเกินกว่า 3 ใน 4 แล้ว คนอื่นผลิตสินค้าอะไรมาขาย พอขายดีหน่อยก็ถูกกลุ่มโทมิกรุ๊ปออกสินค้ามาเหมือนกันแล้วแย่งลูกค้าไปซะหมด ทำให้นักธุรกิจรายย่อยขาดทุนจนต้องเลิกทำธุรกิจไปหลายรายแล้ว พวกเกษตรกรก็เหมือนกัน ถ้าไม่ส่งให้โทมิกรุ๊ปก็ขายไม่ค่อยได้ เฮ้อ…” ซึบาสะบ่นอย่างอัดอั้นตันใจ อากิโอะลูบๆ หัวอีกฝ่ายแล้วดึงมือกลับไป เขานอนคิดอยู่ในอ่าง จะโค่นอำนาจของพวกโทมิกรุ๊ปได้ยังไง? อืม?
ซึบาสะนั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่ข้างอ่าง อากิโอะก็นอนคิดๆ อะไรไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำไม่ร้อนแล้วเขาจึงลุกออกจากอ่าง ซึบาสะเงยหน้ามองอากิโอะในร่างตัวเอง เขามองแล้วกะพริบตาอีกที เขาเหมือนเห็นภาพซ้อนของอากิโอะทับซ้อนอยู่บนร่างของเขา แต่ว่าภาพซ้อนของอากิโอะดูมีพลังยิ่งใหญ่ยังไงไม่รู้ ทำเขารู้สึกเหมือนกำลังมองผู้นำที่มีอำนาจเต็มเปี่ยมยังไงอย่างงั้นแหละ
“มองอะไร? ทำยังกะไม่เคยเห็นร่างตัวเองงั้นแหละ” อากิโอะก้มมองซึบาสะที่ยังนั่งอยู่ข้างอ่าง ซึบาสะสะดุ้งรู้สึกตัว ภาพซ้อนหายไป เขาเห็นแต่ร่างตัวเองจึงละสายตาลงมองพื้นกระเบื้อง อากิโอะหยิบผ้ามาเช็ดๆ ตัว “ทำยังกะพวกหลงตัวเอง”
“เปล่าซะหน่อย” ซึบาสะพูดอุบอิบเสียงเบา เขาไม่ได้เป็นพวกหลงตัวเองนะ ก็แค่เมื่อกี้นี้ที่เขาเหมือนเห็นออร่าเปล่งประกายออกมาจากร่างเขา เป็นออร่าที่ผู้นำทั้งหลายมีกันนั่นแหละ ออร่าประเภทนี้จะเห็นได้จากคนที่เป็นผู้นำของประเทศต่างๆ มักจะมีความดึงดูดสายตา มีความน่าเกรงขาม ดูหนักแน่นทรงพลัง มันอธิบายไม่ค่อยถูก
อย่างเช่นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาไง ที่แค่ปรากฏตัวต่อสาธารณะชนก็ดึงดูดสายตาประชาชน ให้ฟังคำพูดของเขาได้โดยไม่ต้องพูดจูงใจอะไรเลย
“ว่าแต่เลขาของคุณนี่ใครเหรอ?” อากิโอะถาม ซึบาสะบอก “เขาชื่อโคเฮ โกโร่น่ะ เห็นว่าเป็นญาติห่างๆ ของไคโตะน่ะ”
“ไคโตะที่ว่าเป็นเลขาของยามาโตะ โทมิน่ะเหรอ?” อากิโอะถาม ซึบาสะพยักหน้า “อืม”
อากิโอะส่ายๆ หน้า “เฮ้อ…คุณนี่นะ ถูกควบคุมทุกฝีก้าวจริงๆ”
“ทำไงได้ล่ะ ยามาโตะส่งเขามาเป็นเลขาผมนี่ ผมจะขัดขืนได้ไง” ซึบาสะบอกอย่างอัดอั้นตันใจ อากิโอะโยนผ้าเช็ดตัวลงตะกร้าแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นก็เดินออกไปหยิบมือถือขึ้นมา กดหมายเลขแล้วโทรออก ตู๊ด…ตู๊ด…ตู๊ด…ตู๊ด…
เสียงมือถือดังขึ้น เซริน ไอริมองเบอร์มือถือที่ไม่คุ้น “ใคร?”
เธอกดรับสาย “ฮาโหล”
“สวัสดีคุณเซริน ไอริ ผมอา…เอ่อซึบาสะ ยามะ คิดว่าคุณคงรู้จักผมนะ” อากิโอะบอก
“อ๋อ นายกรัฐมนตรี ว่าแต่คุณโทรหาฉันมีอะไรเหรอ?” เซรินถาม อากิโอะบอก “ผมต้องการให้คุณมาเป็นเลขาของผม”
“ขอโทษด้วย ฉันไม่ทำงานให้พวกโทมิกรุ๊ป” เซรินตอบ แล้วจะวางสาย อากิโอะรีบบอก “ผมอยากทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นกว่าเดิม ผมหวังว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันประเทศนี้ไปด้วยกัน”
เซรินฟังแล้วอึ้งไป คำพูดนี้เธอเคยได้ยินคนๆ หนึ่งพูดเอาไว้ แต่ตอนนี้คนๆ นั้นไม่อาจพูดประโยคนั้นได้อีกแล้ว ทำให้น้ำตาเธอไหลออกมา “อึก…”
เธอตัดสายไป อากิโอะได้ยินเสียงตู๊ดๆๆๆ… เขามองจอมือถือ หวังว่าเซรินจะยอมมาทำงานให้เขานะ เธอเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุก่อการร้ายในครั้งนั้น ตามข่าวบอกว่าเธอรอดตายอย่างหวุดหวิดเพราะลงจากรถคันนั้นจึงทำให้เธอรอดตายไปได้ ไม่ได้ถูกระเบิดไปพร้อมกับรถ เซรินเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุด เขาเชื่อใจเธอว่าเธอจะไม่ทรยศเขา หากจะมีใครทรยศเขาคนๆ นั้นต้องไม่ใช่เซรินแน่นอน!
เซรินมองมือถือคิดๆ “เขาโทรหาฉันทำไม? หรือว่าเขาวางแผนดึงฉันไปเป็นหมารับใช้โทมิกรุ๊ป?”
ถ้าเธอไปทำงานให้ซึบาสะ ยามะ บางทีเธออาจจะสามารถสืบเรื่องคนร้ายที่ฆ่าอากิโอะได้ เพราะหนึ่งในคนร้ายที่เธอคิดเอาไว้ก็คือ ‘โทมิกรุ๊ป’ ที่หวังจะผลักดันคนของตัวเองขึ้นมาเป็นนายกฯ แทนอากิโอะ! เธออาจต้องลองเสี่ยงดู หลังจากคิดๆ ดีแล้วเธอจึงโทรกลับไปตามเบอร์ที่โทรเข้ามา ตู๊ด…ตู๊ด…ตู๊ด…
“ฮาโหลเซริน” อากิโอะรับสาย เซรินถามว่า “คุณยังต้องการให้ฉันไปเป็นเลขาให้คุณอยู่ไหม?”
“แน่นอน” อากิโอะพยักหน้า เซรินจึงบอก “งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปพบคุณค่ะ”
“ได้ เจอกัน 9 โมงเช้า” อากิโอะบอก เซรินตอบ “ค่ะ” แล้วเธอก็ตัดสายไป ตู๊ดๆๆๆ…
อากิโอะยิ้มบางๆ “Yes!”
หลังจากนั้นเขาก็เข้านอน ซึบาสะก็นั่งอยู่บนเตียงมองดูอากิโอะในร่างของเขา เขาเป็นวิญญาณจึงไม่ต้องนอนพักผ่อน เขาได้แต่มองดูอยู่เงียบๆ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
วันต่อมา อากิโอะก็ตื่นแต่เช้าอย่างเคยชิน เขาตื่นขึ้นมาแล้วอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย สวมกางเกงสีดำกับเชิ้ตสีฟ้าอ่อน เขามองเงาในกระจกแล้วทำใจ ใบหน้าในกระจกช่างสวยเหมือนผู้หญิงมากกว่าที่จะดูเป็นผู้ชาย ถ้าแต่งหน้าซะหน่อย ก็เหมือนผู้หญิงเลยล่ะ “เฮ้อ…”
เขาลงไปทานอาหารมื้อเช้าข้างล่าง แล้วหยิบมือถือมาเปิดดูข่าว บัตเลอร์ก็คอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นบัตเลอร์ประจำบ้านพักนายกรัฐมนตรีมานาน รับใช้นายกฯ มาแล้ว 4 คน แต่มีคนเดียวเท่านั้นที่มาจากพรรคการเมืองหน้าใหม่อย่างพรรค ‘คนรุ่นใหม่’ นอกนั้นล้วนมาจากพรรค ‘เสรี’ นายกฯ คนนี้ก็เช่นกัน เป็นหัวหน้าพรรคเสรีที่เข้ามาเป็นนายกฯ แทนคนก่อน
จนกระทั่ง เวลา 8.30 น. บอดี้การ์ดก็รายงานว่า “ท่านครับ…มีผู้หญิงชื่อเซริน ไอริ มาครับ เธอบอกว่านัดกับท่านไว้ครับ”
“โอ้! มาแล้วรึ?” อากิโอะมองนาฬิกาข้อมือแล้วบอกว่า “ให้เธอเข้ามา”
“ครับท่าน” บอดี้การ์ดรับคำสั่งแล้วแจ้งไปยังยามรักษาการณ์ที่ประตูว่า “ให้เธอเข้ามาได้”
“ครับ” ยามรักษาการณ์ตอบแล้วก็ตรวจสอบความปลอดภัยตามขั้นตอน เซรินก็ยอมให้ตรวจโดยดี เธอเคยทำงานกับนายกฯ มาก่อน คุ้นเคยกับระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่เป็นอย่างดี คนทุกคนที่จะเข้าจะออกที่นี่ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หลังจากผ่านการตรวจแล้วบอดี้การ์ดก็นำเธอไปพบท่านนายกฯ
“ท่านครับ คุณเซริน ไอริ ครับ” บอดี้การ์ดรายงาน อากิโอะลุกขึ้นยืนมองเซรินที่ยืนอยู่ด้านหลังบอดี้การ์ด “สวัสดีคุณเซริน เชิญนั่งครับ”
“สวัสดีค่ะ” เซรินโค้งคำนับแล้วนั่งลง สาวใช้ก็ยกน้ำชาไปวางตรงหน้าแขกที่คุ้นหน้าคุ้นตาดี เพราะเธอคนนี้เคยเป็นเลขาของท่านนายกฯ คนก่อน “น้ำชาค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เซรินบอก สาวใช้ถอยออกไป อากิโอะก็ไล่คน “พวกคุณออกไปได้แล้ว”
“ครับ”
“ค่ะ”
ทั้งสาวใช้ ทั้งบัตเลอร์รับคำแล้วพากันถอยออกไป เหลือแต่บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน อากิโอะจึงไล่ “พวกคุณก็ออกไปด้วย”
“เอ่อ…” บอดี้การ์ดอึกอักไม่กล้าออกไป อากิโอะจึงไล่เสียงดุ “ผมสั่งให้ออกไปไง!”
“ครับๆ” บอดี้การ์ดรับคำสั่งแล้วเดินออกไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไปไกล ยังคงไปเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตู พร้อมที่จะพุ่งเข้าไปในห้องตลอดเวลา อากิโอะมองบอดี้การ์ดแล้วทำหน้าเซ็งพลางนั่งลง เซรินมองแล้วพูดว่า “ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยฟังคำสั่งคุณสักเท่าไหร่”
“พวกเขาไม่ใช่คนของผม” อากิโอะบอก เซรินเลิกคิ้วขึ้น “หือ?”
“คนพวกนั้นเป็นคนของยามาโตะ” อากิโอะบอกน้ำเสียงราบเรียบ เซรินจึงเอ่ยว่า “คุณก็เป็นคนของยามาโตะเหมือนกัน”
“ไม่ใช่” อากิโอะบอก เซรินเลิกคิ้วขึ้นสูง “หือ?”
“เอาเป็นว่าคุณทำงานกับผมไปเรื่อยๆ แล้วก็จะรู้เองนั่นแหละ” อากิโอะบอก ไม่ต้องการอธิบายอะไรมากนัก เซรินยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันจะทำงานให้คุณล่ะคะ?”
“ถ้าคุณไม่คิดทำงานให้ผม คุณคงไม่มาหรอก” อากิโอะบอก เซรินมองซึบาสะอย่างพินิจแล้วคิดๆ ในใจ หรือว่าจะมีการแตกคอกันเอง?
“ท่านนายกฯ ครับ” โคเฮ โกโร่ เดินเข้าไป เขาโค้งคำนับแล้วยืดตัวขึ้นทันที ซึบาสะที่อยู่ข้างๆ อากิโอะรีบบอก “เขาคือโคเฮ โกโร่”
อากิโอะฟังแล้วมอง โคเฮ พลางบอกว่า “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องเป็นเลขาให้ผมแล้ว ผมจ้างเลขาคนใหม่แล้ว”
“จ้างคนใหม่?” โคเฮมองท่านนายกฯ แล้วมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามท่านนายกฯ เขาจำผู้หญิงคนนั้นได้ เธอเคยเป็นเลขาของนายกฯ คนก่อนไม่ใช่เหรอ!? นี่มันหมายความว่าไง!?
“คุณก็ย้ายไปทำตำแหน่งอื่นเถอะ” อากิโอะบอก โคเฮมองอย่างงงๆ “ย้าย?”
“เอาเป็นว่าระหว่างนี้คุณก็ทำตำแหน่ง…อืม?” อากิโอะคิดๆ แล้วบอกว่า “ดูแลต้นไม้ในสวนล่ะกัน บัตเลอร์ คุณพาเขาไปทำงานตำแหน่งใหม่ที”
เขาหันไปสั่งบัตเลอร์ที่ยืนฟังอยู่นอกประตู บัตเลอร์จึงเดินเข้าไป “ครับท่าน”
เขาหันไปพูดกับโคเฮว่า “ตามผมมาซิ ผมจะแนะนำเองว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง”
โคเฮมึนงงไปหมด จู่ๆ เขาก็ถูกย้ายไปเป็นคนสวนเนี่ยนะ!?
“เอ้า ไปได้แล้ว รึว่าคุณไม่ชอบตำแหน่งใหม่ก็ลาออกไปได้เลย” อากิโอะบอกอย่างไม่ใส่ใจ โคเฮถูกกดดันจนไม่มีทางเลือก เขาจึงยอมเดินตามบัตเลอร์ไป ระหว่างที่เดินตามบัตเลอร์ไป เขาก็โทรรายงานไคโตะว่า “คุณไคโตะครับ ผมถูกย้ายไปเป็นคนสวนครับ”
“หือ?” ไคโตะงงๆ โคเฮก็รายงานว่า “ท่านนายกฯ ย้ายผมไปเป็นคนสวนครับ แล้วยังรับเลขาของนายกฯ คนก่อนเข้ามาทำงานด้วยครับ”
“เลขาของนายกฯ คนก่อน?” ไคโตะทวนคำ “ผู้หญิงที่ชื่อเซริน ไอริ น่ะเหรอ?”
“ใช่ครับคุณไคโตะ ผู้หญิงคนนั้นแหละครับ” โคเฮบอก ไคโตะคิดๆ แล้วจึงสั่งว่า “คุณจับตาดูท่านนายกฯ กับผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ก่อน”
“ครับ” โคเฮรับคำสั่ง แล้วสายก็ตัดไป
“เอ้า รีบตามมาซิ” บัตเลอร์เร่ง โคเฮจึงได้แต่เดินตามบัลเตอร์ไป
ส่วนไคโตะก็รายงานเจ้านายว่า “โคเฮโทรมารายงานว่าเขาถูกย้ายไปเป็นคนสวนครับ แล้วท่านนายกฯ ยังรับเลขาของนายกฯ คนก่อนมาทำงานด้วยครับ”
“หือ?” ยามาโตะเลิกคิ้วขึ้น พึมพำว่า “เขาคิดจะทำอะไร?”
ไคโตะเงียบไป ไม่สามารถตอบได้ ยามาโตะจึงสั่ง “จับตาดู ถ้ามีอะไรก็รายงานผมทันที”
“ครับท่าน” ไคโตะรับคำสั่ง ยามาโตะคิดๆ อยู่เงียบๆ
ซึบาสะก็มองเซริน ไอริ อย่างพินิจพิจารณา เธอสวมสูทตัวหลวมนิดๆ ใส่แว่นตากลมๆ ใหญ่ๆ ผมยาวรวบเป็นหางม้าอย่างเรียบร้อย สวมรองเท้าคัทชูสูงแค่นิ้วเดียว ให้ความรู้สึกเหมือนคุณครูแก่ๆ จอมเฮี้ยบที่พร้อมจะฟาดก้นนักเรียนเกเรยังไงอย่างงั้น
เซรินก็มองท่านนายกฯ อย่างพินิจพิจารณาเช่นกัน เธอยกชาขึ้นจิบช้าๆ คิดเหตุผลที่เขาชวนเธอมาทำงานด้วยไม่ออกจริงๆ
“เอาล่ะ งานเลขาของนายกฯ คุณเคยทำมาแล้ว ผมคงไม่ต้องสอนงานอะไรมากมาย คุณเริ่มงานได้เลย” อากิโอะบอก เซรินวางถ้วยชาลงแล้วรับคำว่า “ค่ะ”
เธอเอาโน๊ตบุ๊คของเธอออกมาวางแล้วเริ่มทำงานทันที เธอมองท่านนายกฯ แล้วถามว่า “ท่านจะเริ่มทำงานวันไหนคะ?”
“พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปที่ทำเนียบ วันนี้ขอผมลาหยุดต่ออีกวันเถอะ” อากิโอะบอก เซรินรับคำ “ค่ะ”
แล้วเธอก็จิ้มคีย์บอร์ดรัวๆ อากิโอะก็ดื่มชาไปเงียบๆ เขาคุ้นเคยกับเซรินดีจึงไม่รู้สึกแปลกหน้าแม้แต่น้อย ส่วนเซรินก็รู้สึกทั้งแปลกหน้าและมีความคุ้นเคยรางๆ ที่บอกไม่ถูก ทำให้เธอคอยมองเจ้านายใหม่อย่างพินิจพิจารณา
การเปลี่ยนแปลงของท่านนายกฯ ถูกพวกบอดี้การ์ดจับตามอง โคเฮก็จับตามองเช่นกัน เซรินนั่งทำงานท่ามกลางความรู้สึกที่ถูกจับตามอง เธอมองไปตามความรู้สึกก็เห็นพวกบอดี้การ์ดรีบหลบสายตาของเธอทันที บางคนก็ไม่หลบ มองเธออย่างประเมินสถานการณ์อยู่ในใจ เธอเหยียดมุมปากนิดหนึ่ง อยากมองก็มองไปซิ เธอไม่ใช่ประเภทที่จะเหนียมอายเมื่อถูกมองซะหน่อย ตำแหน่งเลขาของอากิโอะเมื่อก่อนนี้ก็ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมาแล้ว ดังนั้นแค่สายตาของคนไม่กี่คนแค่นี้ จิ๊บๆ!
“เพื่อความสะดวกในการทำงาน ผมว่าคุณย้ายมาพักที่นี่เถอะ” อากิโอะบอก เซรินมองท่านนายกฯ “ย้ายมาพักที่นี่?”
“ใช่ เมื่อก่อนคุณก็พักที่นี่ไม่ใช่เหรอ?” อากิโอะย้อนถาม ตอนที่เธอเป็นเลขาให้เขา เธอก็พักที่นี่เหมือนกัน เพื่อความสะดวกในการทำงาน ตอนที่เขายังเป็นหัวหน้าพรรคคนรุ่นใหม่อยู่ เธอก็พักที่บ้านของเขา จนเธอแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาไปแล้ว
“ใช่ค่ะ” เซรินตอบ “แต่ว่านั่นเพราะว่าท่านนายกฯ คือคุณอากิโอะ ฉันถึงได้พักที่นี่ ทำงานให้เขาอย่างเต็มเวลา”
“หมายความว่าผมไม่ใช่อากิโอะ คุณก็เลยจะไม่ทุ่มเททำงานให้เหรอ?” อากิโอะถาม เซรินตอบ “ค่ะ”
“ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีล่ะ?” อากิโอะพูดลอยๆ เซรินมองอย่างไม่เข้าใจ “คะ?”
“เอาเถอะ คุณไม่อยากทุ่มเทให้ผมก็ช่างเถอะ” อากิโอะบอกพลางโบกๆ มือ “แต่ผมอยากให้คุณพักที่นี่นะ มันสะดวกดีเวลาทำงาน”
“ฉันพักที่นี่ก็ได้ แต่ว่าเวลาทำงานของฉันคือ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นเท่านั้นค่ะ” เซรินบอก อากิโอะยิ้มบางๆ “ผมก็ไม่คิดจะใช้คุณทำโอหรอกนะ”
“ถ้างั้นฉันกลับไปเก็บของที่บ้านก่อนล่ะกัน” เซรินบอก อากิโอะพยักหน้า “ครับ แล้วผมจะให้คนจัดห้องเดิมไว้ให้คุณล่ะกัน”
“ห้องเดิม?” เซรินทวนคำ แล้วนึกขึ้นได้ว่าบัลเลอร์กับคนรับใช้ย่อมรู้เรื่องนี้ดี ส่วนท่านนายกฯ ก็คงไม่รู้หรอกว่าเธอเคยพักที่ห้องไหน เขาก็คงพูดไปงั้นแหละ
“งั้นฉันกลับไปเก็บของก่อน” เธอบอกแล้วเก็บโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นโค้งคำนับตามมารยาททีนึง จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินออกไป อากิโอะมองตาม ซึบาสะถอนหายใจ “เฮ้อ…”
“เป็นไร?” อากิโอะถามเบาๆ ซึบาสะบอก “ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักเรียนอยู่ต่อหน้าคุณครูจอมเฮี้ยบงั้นแหละ เมื่อก่อนเธอเป็นครูมาก่อนเหรอ?”
“ไม่หรอก เธอเป็นเลขาผมมาตลอด เธอเรียนจบมาก็เป็นเลขาผมเลย ผมเห็นเธอคล่องดีจึงใช้งานเธอ” อากิโอะบอก ซึบาสะบอก “แต่เธอทำให้ผมรู้สึกเหมือนเธอเป็นคุณครูจอมเฮี้ยบงั้นแหละ นี่ถ้าเธอแก่กว่านี้อีกซัก 10 ปีล่ะใช่เลย”
“หึๆๆๆ…” อากิโอะหัวเราะเบาๆ พวกบอดี้การ์ดคอยมองดูอยู่ก็งงๆ ที่ช่วงนี้ท่านนายกฯ มักจะพูดคนเดียวบ่อยๆ หรือว่าท่านคุยโทรศัพท์กับใคร?
ทุกความเคลื่อนไหวของท่านนายกฯ ถูกรายงานต่อไคโตะอย่างไม่มีตกหล่น ไคโตะก็รายงานเจ้านายอีกที หลังจากยามาโตะฟังแล้วก็คิดๆ “หรือว่าเขามีผู้หญิงในใจ ถึงได้พยายามแข็งข้อกับผม?”
ทั้งเปลี่ยนมือถือ ทั้งเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คใหม่ PC ใหม่ แล้วยังคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ที่ดูน่าสงสัย เขาคิดๆ แล้วจึงสั่งว่า “จับตาดูเอาไว้ดีๆ ถ้าเจอผู้หญิงที่น่าสงสัยก็รีบบอก จะได้ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมซะ!”