1028. วิชายับยั้ง
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสักรับรู้การเปลี่ยนแปลงอันเบาบางในรอยสักวิหคเพลิงของหวังหลินได้เช่นเดียวกันแต่นางไม่สนใจ นางไม่เห็นร่างฉิงหลินที่ปรากฏขึ้นมาด้วยซ้ำแต่รับรู้ได้อย่างชัดเจน
นางอยู่ที่นี่มาหลายหมื่นปี ดังนั้นนางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าภายในผนึกจะไม่มีสัมผัสวิญญาณทิ้งไว้? เป้าหมายเดียวของมันคือผนึกนางไว้ที่นี่ตลอดกาล
หลังจากสัมผัสร่างอวตารของฉิงหลิน ความเกลียดก็ยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น ดวงตากลวงโบ๋จ้องมองฉิงหลิน ความทรงจำมากมายแล่นผ่านความคิด
“ฉิงหลิน!!” เอ่ยด้วยฟันที่ขบกันแน่น จังหวะฉิงหลินปรากฏ รอยสักอันซับซ้อนกระพริบระหว่างคิ้ว จากนั้นกระดูกอสูรสีแดงดุร้ายพุ่งเข้าใส่ฉิงหลิน!
เมื่อกระดูกอสูรปรากฏ กลิ่นอายปิศาจมหึมาจึงเกิดขึ้น อุณหภูมิลดลงราวกับฤดูหนาว กลิ่นอายปิศาจแพร่กระจายออกมาเริ่มปรากฏชั้นน้ำแข็งรอบด้าน
พลังดั้งเดิมของหวังหลินโคจรอย่างรวดเร็ว ความร้อนของวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์เต็มไปทั่วร่างกาย ทว่าสายตาจับจ้องไปบนกระดูกอสูร คลื่นความร้อนก่อตัวขึ้นในใจ
‘ชุดเต๋าร่วงโรย?’ หวังหลินมองแผ่นหลังบนแขนขวา ภาพลักษณ์ดุร้ายของชุดเต๋าร่วงโรยอยู่ตรงนั้น
‘วิชาที่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสักใช้ขึ้นมาไม่คาดคิดว่ามันจะดูเหมือนชุดเต๋าร่วงโรย แม้สีจะแตกต่างกัน ผลกระทบก็ไม่เหมือนกันอีก’
อวตารสัมผัสวิญญาณของฉิงหลินจ้องมองนางด้วยความเยือกเย็นและชี้เข้าใส่!
เพียงแค่ชี้นิ้ว ละอองแสงเริ่มปรากฏขึ้น ละอองแสงนี้มาจากฉิงหลินและรวมกันที่ปลายนิ้ว ยิงลำแสงผลึกออกมาล้อมรอบกระดูกอสูรราวกับแม่น้ำกำลังไหลเอื่อย
ลำแสงก่อเป็นวงกลม เชื่อมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว แทงทะลุใส่กระดูกอสูรด้วยความเร็วเหนือจินตนาการและเข้าไปในกระดูกอสูรนั้น
ละอองแสงควบแน่นเข้าหาใจกลางกระดูกอสูร เมื่อมันเข้าไปแล้วกระดูกอสูรคล้ายจะไม่มีพลังอำนาจต่อต้าน ควันสีแดงหลบหนีออกมาจากกระดูกอสูร กระดูกนั้นผสานเข้ากับละอองแสง ยิ่งมีควันสีแดงออกมามากขึ้น กระดูกอสูรจึงคล้ายจะสูญเสียความเปล่งปลั่ง
ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ ผลึกขนาดเท่ากำปั้นจึงก่อตัวขึ้นข้างในกระดูกอสูร
มันเรืองแสงสว่างดุจกระบี่นับหมื่นเล่มแทงออกมาข้างนอก ทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง
‘วิธีผนึกเกรี้ยวกราดอะไรกันนี่ มันไม่ได้ใช้อวตารสัมผัสวิญญาณเล็กน้อยแต่กลับดึงพลังแห่งกฏจากวิชาฝ่ายตรงข้ามมาใช้ผนึกวิชาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่พี่ใหญ่ก็ทำแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ!’ ปรมาจารย์ชีกงอ้าปากค้าง รูม่านตาหรี่แคบ ในไม่นานก็ปรากฏความโลภ
‘แม้ฉิงหลินจะแข็งแกร่ง จากการสังเกตและข้อมูลของพันธมิตรเซียน ข้ามั่นใจว่าเขาอยู่ในเตียงมรณะ หากข้าสามารถจับเขาไว้และควบคุมผ่านกรรมวิธีวิพเศษ จากนั้นพันธมิตรเซียนจะไม่มีศัตรูหน้าไหนอีกเลย!’
เสียงดังสนั่นกึกก้อง กระดูกอสูรสั่นเทาพร้อมกับมีแสงแทงทะลุออกมาจากข้างใน กระดูกอสูรกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แม้จะดูเหมือนเกิดขึ้นไปเยอะมากแต่ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา ขณะที่แสงส่องสว่างกระจายออกมามันทำให้ดวงตาทุกคนรู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงและบังคับให้ต้องล่าถอย
ฉิงหลินจ้องมองบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสักด้วยความเยือกเย็น เขายกแขนขวาขึ้นมาอีกครั้งและปรากฏอักขระรูนลึกลับ อักขระหวีดหวิวผ่านอากาศจนกระทั่งอยู่เหนือหญิงสาวและปลดปล่อยแสงสีเขียว
เมื่ออักขระรูนปรากฏ เสียงร้องคำรามดังออกมาจากวังวนฝังเทพที่นางดึงขึ้นมาจากพื้น
ดวงวิญญาณพุ่งออกมาจากสระน้ำฝังเทพทีละดวง ตอนแรกมีไม่มากนักแต่ในไม่นานก็ผุดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
วังวนยักษ์ทำลายให้เป็นอิสระอย่างรวดเร็วจากการควบคุมของนาง เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจากนั้นวังวนก็เริ่มหมุนเร็วยิ่งกว่าก่อน เกิดเสียงฉีกกระชากทำให้ดูเหมือนโลกกำลังฉีกขาด
ดวงวิญญาณมากมายเหนือจินตนาการเคลื่อนไปกับวังวน สายตาพวกมันดุร้ายและร้องโศกเศร้าคล้ายกับประตูสู่นรกได้เปิดขึ้น
มีดวงวิญญาณมากเกินไป หวังหลินแค่มองครั้งเดียวก็หนังศีรษะด้านชาได้แล้ว มีทั้งเหล่าเทพ เผ่ารอยสัก เซียนฉีโบราณและแม้แต่อสูรที่หวังหลินไม่เคยเห็นมาก่อน
ทุกดวงวิญญาณข้างในปลดปล่อยแรงกดดันน่าหวาดกลัว แม้จะตายไปนานแล้วแต่แรงกดดันที่เผยออกมาแต่ละดวงนับว่าทรงที่สุดตอนที่มีชีวิต!
มีแค่พวกที่มีคุณสมบัติดีเด่นเท่านั้นจะถูกโยนเข้าไปในสระน้ำฝังเทพของจักรพรรดิเทพฉิงหลิน!
ดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนร้องคำราม สระฝังเทพพุ่งขึ้นมาดุจทะเลโกรธเกรี้ยว มันหมุนอย่างรวดเร็วข้างใต้นางและเกิดพลังดึงดูดมากกว่าก่อนหลายเท่าตัว
ทว่าเรื่องประหลาดก็คือพลังดึงดูดนั้นส่งผลกระทบต่อนางคนเดียวและไม่ส่งผลกระทบต่อคนอื่นเลย
ฉิงหลินไม่หยุดแค่นี้ ฝ่ามือเคลื่อนไหวปรากฏอักขระรูนอีกแห่งเข้าล้อมรอบนาง วังวนหมุนเร็วกว่าเดิมสองเท่าราวกับกลายเป็นปากแห่งนรกต้องการจะกลืนกินนางอย่างสมบูรณ์
โลหิตสีดำไหลออกมาจากดวงตากลวงโบ๋ซึ่งเริ่มจะไหลรวดเร็วขึ้น ราวกับนางกำลังสะบัดคราบน้ำตา
“ทำไมเจ้าถึงโกหกข้า…ทำไมเจ้าโกหกข้า ทำไม!?!” น้ำเสียงแฝงพลังทะลุทะลวงรุนแรง อักขระรูนสองชิ้นเบื้องหน้าสั่นไหวราวกับแตกสลายได้ทุกเมื่อ
สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าก็คืออวกาศที่อยู่รอบตัวนางแตกสลายไปพร้อมเสียงแหลมและเริ่มแพร่กระจาย
น้ำเสียงนางแทงทะลุผ่านอากาศ สร้างคลื่นกระแทกกวาดผ่านบริเวณ ในไม่นานมันก็เกิดพายุกวาดเข้าใส่ฉิงหลิน
โลหิตไหลออกมาจากหูหวังหลิน แม้เขาจะโคจรพลังดั้งเดิมอย่างต่อเนื่องและมีร่างเทพโบราณ ก็ยังได้รับบาดเจ็บ
ราวกับมีเสียงหึ่งๆในหูและคำพูดเดียวกันดังสะท้อนอ้อยอิ่งอยู่ภายใน
“ทำไม…ทำไม…”
หวังหลินตกตะลึงกับสถานการณ์ เขาเห็นซือถูหนานและคนอื่นๆแทบจะเป็นเหมือนกัน มีเพียงเทียนหยุน ปรมาจารย์ชีกงและชายชุดดำเท่านั้นที่มีสีหน้ามืดมนและไม่ได้รับผลกระทบ
น้ำเสียงนางก่อเป็นพายุพุ่งใส่ฉิงหลิน ฉิงหลินยังมีท่าทีเยือกเย็นพลางยกแขนขวาขึ้นมาชี้ไปข้างหน้า พายุที่กำลังเข้ามาพลันหยุดชะงัก!
ราวกับกฏเหนือจินตนาการตกลงมาจากสวรรค์ ตามความต้องการของผู้ร่าย กฏนี้สามารถหยุดทุกสิ่ง มันเปลี่ยนกลายเป็นพลังอำนาจแห่งกฏหลายเส้นที่เข้าพัวพันและหยุดยั้งไม่ให้เคลื่อนไหว
‘วิชายับยั้ง!!’ หวังหลินเผยแววตาแสงประหลาด ในนั้นมีร่องรอยแห่งความตื่นเต้นด้วย สำหรับเขาแล้ววิชายับยั้งเป็นวิชาเทพที่สำคัญยิ่ง
หวังหลินผ่านอันตรายมากมายในชีวิตมาได้ก็เพราะวิชายับยั้งนี้ กล่าวได้ว่าวิชายับยั้งเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตได้เลย
ทว่าวิชายับยั้งที่เขาเรียนรู้มาคอืสิ่งที่เขาเรียนรู้จากหยกที่จักรพรรดิเทพฉิงหลินทิ้งเอาไว้ เขาไม่เคยเห็นคนอื่นใช้มันเลย ไม่ว่าจะพยายามศึกษามันหนักแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสทะลวงผ่านขีดจำกัดของวิชานี้ได้
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นพยานการเห็นคนอื่นใช้วิชายับยั้ง และคนที่ใช้มันก็คือฉิงหลิน!
ตอนนี้นั้นคนอื่นๆอาจจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นมากนัก แต่กับหวังหลินซึ่งเป็นผู้สืบทอดวิชายับยั้ง มันจึงมีความสำคัญยิ่งที่เขาจะได้เห็นฉิงหลินใช้มัน
นี่มันไม่ต่างอะไรจากฉิงหลินสอนเขาเป็นการส่วนตัว ราวกับฉิงหลินเป็นอาจารย์และหวังหลินเป็นนักเรียน พอศึกษาเรียนรู้จนเสร็จสิ้น อาจารย์ก็จะร่ายวิชาครั้งนึงเพื่อให้ผู้เรียนยืนยันและปรับปรุงสิ่งที่เรียนรู้มา
เป็นโอกาสที่หวังหลินทำได้แค่เพียงฝันเท่านั้น หากป๋ายฟ่านปรากฏตัวขึ้นมาและใช้วิชาเรียกขานสายลม อัญเชิญสายฝน ไสยเวทย์ ป่นขุนเขา ทลายดินแดน และจันทรามืดฟ้ากระจ่างอยู่เบื้องหน้า!
แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาขบคิดอย่างละเอียด หวังหลินทำได้เพียงจดจำเหตุการณ์นี้ไว้เพื่อศึกษาทีหลังเท่านั้น
แขนขวาฉิงหลินไม่หยุดแค่นั้น หลังจากหยุดพายุ เขาก็รีบเคลื่อนฝ่ามือ จากนั้นอักขระรูนอีกเจ็ดชิ้นลอยออกมาอยู่ข้างนางทันที
พวกมันผสานเข้ากับสองผนึกก่อนหน้านี้ก่อตัวเป็นค่ายกลเก้าผนึก!
เก้าผนึกหมุนเป็นวงกลมรอบร่างกายนางและปลดปล่อยแสงลึกลับ วินาทีที่เก้าผนึกปรากฏขึ้น สระฝังเทพด้านล่างนางก็พลันปะทุ!
สระฝังเทพก่อตัวเป็นวังวนยักษ์และหมุนอย่างรวดเร็ว ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดวงวิญญาณมากมายลอยออกมาหานาง
พริบตาเดียวนางก็ถูกล้อมด้วยดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณพวกนี้รวมเข้าด้วยกันก่อเกิดเป็นโซ่ตรวนสีดำกักขังนางเอาไว้และลากลงไปอย่างโหดเหี้ยม