Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1027

Cover Renegade Immortal 1

1027. ดาววิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

ลึกไปภายในดาราจักรพันธมิตรเซียน มีสถานที่น้อยแห่งที่แม้กระทั่งพันธมิตรเซียนก็ควบคุมไม่ได้ ถึงแม้จะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม ไม่มีสมาชิกแม้แต่คนเดียวที่สามารถก้าวเข้ามาในสถานที่เหล่านี้ได้!

เมื่อเข้ามาจะเผชิญหน้ากับความตายโดยไม่มีโอกาสแม้แต่รอดชีวิต แม้แต่เซียนขั้นชำระสวรรค์ก็ไม่กล้าก้าวเข้ามาในนี้แม้เพียงครึ่งก้าว

มีเพียงพวกขั้นทลายสวรรค์เท่านั้นที่กล้าพอจะเข้ามา ถึงกระนั้นพวกเข้าก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง พลาดเพียงก้าวเพียงจบลงด้วยความตายเท่านั้น

พื้นที่พวกนี้ถูกเรียกกันว่าเขตต้องห้ามภายในพันธมิตรเซียน! ทุกคนที่บรรลุขั้นที่สองในดาราจักรแห่งนี้จะรู้จักสถานที่พวกนี้เป็นอย่างดี

มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับพวกเขา แต่มีไม่มากนักที่รู้เหตุผลที่แท้จริง

สถานที่แห่งหนึ่งภายในเขตต้องห้ามนั้นมักจะเผาไหม้อยู่ตลอดเวลา เพียงแค่ชำเลืองมองก็เห็นทะเลเพลิงปกคลุมตลอดทั้งพื้นที่ดวงดาวแล้ว ความร้อนน่ากลัวจากเปลวเพลิงเพียงพอจะทำให้จิตใจผู้คนสั่นเทา

มองไกลๆดูเหมือนเป็นพื้นที่ดวงดาวเผาไหม้ไร้จุดสิ้นสุด มันคือฉากเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืมสำหรับคนพบเห็น ถึงแม้จะไปเกิดใหม่ก็คงไม่อาจลบเลือนฉากเหตุการณ์อันล้ำลึกของพื้นที่ทะเลเพลิงนี้ไปได้

ทะเลเพลิงแห่งนี้แตกต่างจากวิชาเผาสวรรค์ของฉิงหลิน วิชาเผาสวรรค์คือวิชาที่ทรงพลังแต่ทะเลเพลิงแห่งนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ!

ข่าวลือว่าทะเลเพลิงแห่งนี้คงอยู่ตั้งแต่ยังมีแดนสวรรค์ หากค้นกลับไปลึกกว่านั้นมันคงอยู่มากระทั่งยุคแรกเริ่ม

ไม่มีใครรู้ว่าทะเลเพลิงแห่งนี้เผาไหม้มานานแค่ไหน เหล่าเซียนแต่รุ่นผ่านไป แดนสวรรค์ล่มสลาย ยุคโลกแห่งเซียนโบราณหมดสิ้นแต่เพลิงนี้ก็ยังเผาไหมอยู่แบบนั้น

ไม่มีใครรู้ว่ามันคือพลังแบบไหน พลังอำนาจแบบใดกันถึงทำให้ทะเลเพลิงแห่งนี้เผาไหม้ได้ตลอดกาลและไม่เคยมอดดับแม้จะผ่านกาลเวลาไปเนิ่นนาน

เพลิงนิรันดร์ทำให้พื้นที่ดวงดาวกลายเป็นโลกแห่งเปลวไฟ

ดวงดาวและก้อนหินทั้งหมดสูญสลายหลังจากผ่านการเผาไหม้ชั่วกาลนาน มีเพียงดาวหลงเหลืออยู่เก้าแห่งเท่านั้นและพวกมันก็ก่อตัวเป็นวงกลม

มีแค่เก้าดวงดาวนี้เท่านั้นที่สามารถทนอยู่กับเปลวเพลิงเหนือจินตนาการได้ ถึงกระนั้นเก้าดวงดาวนี้ก็ไม่ได้ครบถ้วนและเป็นเหมือนเสี้ยวจันทรา

เปลวเพลิงหนาแน่นห้อมล้อมเก้าดวงดาวราวกับพยายามเผาไหม้พวกมันให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

ดาวดวงแรกไม่มีทะเล แม้มันจะเคยมีเมื่อนานมาแล้วมันก็ระเหยไปหมดเหลือไว้แต่ก้นทะเลแห้งๆ

ชำเลืองมองครั้งแรก ดาวดวงนี้ไม่มีสีเขียวเลย ถึงจะมีต้นไม้แต่ก็เป็นสีแดงเข้มทั้งหมด แม้จะพวกมันจะแพรวพราวแต่กลับซ่อนความตายอยู่ภายใต้ไว้ด้วย

ต้นไม้ที่สามารถอยู่รอดภายใต้เงื่อนไขแบบนี้ไม่ใช่ของธรรมดา

สถานที่แห่งนี้มีพลังปราณเหมือนดาวเคราะห์เซียนทั่วไปแต่พลังปราณที่นี่มีพิษอัคคีอยู่ด้วย หากคนธรรมดาสูดดม ร่างกายรวมถึงกระดูกจะเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านในทันที

แม้แต่พวกเซียนเองก็ไม่สามารถอดทนกับพิษอัคคีได้นานนัก พื้นที่ดวงดาวแห่งนี้มีชื่อว่าดินแดนวิหคเพลิงและเก้าดวงดาวนี้คือกลุ่มดาวเคราะห์วิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

ดาวศักดิ์สิทธิ์แรกเป็นที่เคารพมากที่สุด! ทางฝั่งใต้ของดวงดาวมีรูปปั้นสีแดงเข้มขนาดยักษ์ มันคือรูปปั้นวิหคเพลิงกำลังทะยาน!

มันเปิดหางราวกับเปิดเปลวเพลิงและปกคลุมพื้นที่ระยะห้าลี้ หากแค่หางก็ใหญ่ขนาดนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงร่างของวิหคเพลิง!

มันครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยลี้และวิหคเพลิงยักษ์นี้ก็มอบเห็นได้ง่ายๆจากอวกาศ!

ดวงตาของวิหคเพลิงก่อขึ้นมาจากเปลวเพลิงอันบริสุทธิ์ ทุกชั่วโมงจะมีเพลิงหนาแน่นสองสายตกลงมาจากท้องฟ้าและเข้าสู่ดวงตาวิหคเพลิง

ไม่ใช่เพียงแค่รูปปั้นวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้เท่านั้น แต่ดาวเคราะห์อีกแปดดวงต่างก็มรูปปั้นแบบเดียวกัน มันคือสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!

มีคนอยู่ประมาณสิบคนสวมชุดคลุมจันทร์เสี้ยวนั่งอยู่รอบรูปปั้นวิหคเพลิง พวกเขามีทั้งชายและหญิง ดูดซับเปลวเพลิงรอบตัวเอง

หางวิหคเพลิงถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน แต่ละส่วนมีชายชรานั่งอยู่บนนั้น แต่ละคนสร้างผนึกและร่ายบทสวดประหลาด ขนนกแต่ละเส้นของวิหคเพลิงปลดปล่อยเพลิงที่ถูกเซียนรอบด้านดูดซับไป

นี่คือการบ่มเพาะกิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้นในสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพวกเขาหยิบยืมพลังของรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์เพื่อดูดซับพลังอำนาจของเปลวเพลิง นอกจากคนหลายสิบคนที่อยู่ข้างรูปปั้นแล้วยังมีอีกหลายร้อยคนที่อยู่ห่างออกไปอีก

หากมองออกไปไกลยิ่งกว่านั้นยังมีเซียนอีกหลายคนที่กำลังบ่มเพาะโดยมีรูปปั้นเป็นจุดศูนย์กลาง จากไม่กี่สิบคนใกล้รูปปั้น ไปจนถึงหลายร้อย หลายพันและหลายหมื่นคนห่างออกไป!

เซียนนับไม่ถ้วนสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันดูดซับเปลวเพลิงจากรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์อย่างเงียบๆ

เวลาค่อยๆผ่านไปและเพียงพริบตา เปลวเพลิงจากรูปปั้นวิหคเพลิงก็เริ่มค่อยๆสูญหาย เหล่าเซียนเตรียมพร้อมจะสิ้นสุดการบ่มเพาะแล้ว ปกติในเวลาแบบนี้การบ่มเพาะของวันนี้กำลังจะเสร็จสิ้น

ขอบนอกสุดคือคนที่ไม่ได้ดูดซับเปลวเพลิงมากนักได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว ในไม่นานทุกคนก็ลืมตาและฟื้นคืนสติ

แม้กระทั่งสามผู้อาวุโสบนหางแต่ละส่วนก็ตื่นจากความเคลิบเคลิ้ม หนึ่งในนั้นยืนขึ้นมองไปยังเหล่าศิษย์สำนักวิหคเพลิงและกำลังจะเอ่ย

ทว่าในขณะนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงแบบฉับพลัน!

รูปปั้นวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์สั่นเทาและปกติร่างมัวหมองพลันระเบิดอยู่ในเปลวเพลิง! รูปปั้นเรืองแสงสีแดงทรงพลัง

เปลวเพลิงจากรูปปั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆและมีขนาดใหญ่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสสามคนสีหน้าเปลี่ยนไปและเหาะเหินออกจากรูปปั้นทันที หนึ่งในนั้นร้องตะโกน “ศิษย์สำนักวิหคเพลิง รีบถอย! ถอยให้เร็วที่สุด!”

ผู้อาวุโสอีกสองคนโบกแขนเสื้อสร้างสายลมกรรโชกรุนแรง พัดพาเหล่าศิษย์หลายสิบคนใกล้รูปปั้นให้ปลิวขึ้นอากาศ สีหน้าศิษย์ทั้งหมดเปลี่ยนไปและล่าถอยโดยไม่ลังเล

ศิษย์ทั้งหมดถอยร่นจากรูปปั้นวิหคเพลิงในพริบตา มองจากเบื้องบน เหล่าศิษย์ดูคล้ายกำลังถอยหนีเหมือนคลื่นฝูงชน

เปลวเพลิงจากรูปปั้นยิ่งรุนแรงมากขึ้น จากนั้นพุ่งขึ้นสู่อากาศและปกคลุมท้องฟ้า! เปลวเพลิงหนาแน่นแพร่กระจายออกไปเป็นคลื่นรูปทรงวงแหวน

เรื่องเช่นนี้ไม่ได้เกิดกับที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น เหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นบนอีกแปดดาวเคราะห์ด้วย! การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้ท่าทางของคนจำนวนมากของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้องเปลี่ยนไป ทว่ามีผู้อาวุโสบางคนที่มีอาการแตกต่าง ร่างแต่ละคนเริ่มสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ มันไม่ได้สั่นจากความหวาดกลัวแต่เป็นความตื่นเต้น!

“การเปลี่ยนร่างวิหคเพลิง…การเปลี่ยนร่างวิหคเพลิง!! ข้าไม่คิดว่าในชั่วชีวิตนี้จะได้เห็นการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิง!” ชายชราผมขาวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและหัวเราะ มองออกไปยังรูปปั้นวิหคเพลิงด้วยสายตาที่อยู่มานาน

เขาไม่ใช่เพียงคนเดียว ทุกคนที่รู้เรื่องการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงต่างก็มองไปบนท้องฟ้าด้วยสายตาตื่นเต้น ท่ามกลางดาวเคราะห์ทั้งเก้ามีไม่มากนักที่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และทุกคนที่รู้ต่างก็มีระดับบ่มเพาะอันแข็งแกร่ง!

บนดาวเคราะห์แรกมีดินแดนทิศตะวันออกแห่งหนึ่งปกคลุมอยู่ในเปลวเพลิงสีแดงม่วง วินาทีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น พื้นดินพลันพังทลายและร่างสีม่วงผู้หนึ่งพุ่งออกมา

เมื่อร่างนี้ปรากฏ ทะเลเพลิงที่ล้อมรอบเริ่มรวมกันรอบตัวเขา เปลวเพลิงกระพริบวูบวาบทำให้เห็นว่ามันคือชายชราใบหน้าเหี่ยวย่น เขาจ้องมองท้องฟ้าอย่างตกตะลึง ร่างกายสั่นไหวหนึ่งครา

“การเปลี่ยนร่างวิหคเพลิง!” ไม่รู้ว่าน้ำตาสองสายไหลลงมาเมื่อไหร่และเขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “มันเป็นการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงจริงๆ!”

ฉากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้เกิดขึ้นกับกลุ่มดาวเคราะห์วิหคเพลิงที่เหลืออีกแปดดวงด้วยเช่นเดียวกัน!

รูปปั้นวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยเปลวเพลิงหนาแน่น ขณะที่เปลวเพลิงผลักออกไปข้างนอก พวกมันก็หวนกลับคืนมา เปลวเพลิงทั้งหมดที่กระจัดกระจายเริ่มพรั่งพรูกลับเข้าไปในรูปปั้น

ไม่ใช่แค่เปลวเพลิงจากใกล้เคียงเท่านั้น แต่เปลวเพลิงจากในท้องฟ้าและทั่วดวงดาวกำลังดูดดึงเข้าไป ราวกับมีพลังดึงดูดปรากฏขึ้นภายในรูปปั้น

มองไกลๆดาวเคราะห์คล้ายจะกลายเป็นมหาสมุทรแห่งเปลวเพลิงที่รวบรวมจากทุกทิศทาง

วินาทีนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีและโลกก็เปลี่ยนไป!

ขณะที่รูปปั้นวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์กำลังดูดซับเปลวเพลิง มันดูเหมือนภูเขาไฟกำลังปะทุ เสาเพลิงพุ่งออกมาจากรูปปั้นตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า!

ดุจรูปปั้นอยู่ตรงกลางรวบรวมเปลวเพลิงทั้งหมดแล้วยิงเสาเพลิงทะลุผ่านก้อนเมฆและออกไปนอกดวงดาว!

เสาเพลิงดังกึกก้องแทงทะลุผ่านก้อนเมฆ ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศและทะลุผ่านความร้อนที่ปรากฏขึ้นในพื้นที่เผาไหม้

เมื่อมันพุ่งออกไป เสาเพลิงอีกแปดสายพุ่งออกมาจากดาวเคราะห์อีกแปดดวงตอนที่รูปปั้นรวบรวมเปลวเพลิงได้เพียงพอ! ในไม่นานนักเสาเพลิงแปดสายก็รวมตัวกันที่ใจกลางของดาวเคราะห์เก้าดวง!

วินาทีที่เสาเพลิงทั้งเก้ารวมตัวกัน เสียงร้องวิหคเพลิงดังยิ่งกว่าครั้งที่หวังหลินสร้างขึ้นและทรงพลังมากกว่าหลายเท่าพลันสะท้อนไปทั่วพื้นดินเผาไหม้แห่งนี้!

สิ่งที่ปรากฏขึ้นตามมาก็คือวิหคเพลิงตัวหนึ่งขนาดเท่าดาวเคราะห์ เปลวเพลิงธรรมชาติที่เหล่าเซียนทั้งหมดในพันธมิตรเซียนหวาดหวั่นจึงเริ่มพรั่งพรูเข้าหาตำแหน่งนั้น!

เกิดแรงสั่นสะเทือนจนทำให้รู้สึกราวกับทั้งดินแดนแห่งดวงดาวกำลังสั่นไหว เสียงร้องดังคะนองกึกก้องข้ามพื้นที่ดวงดาว!

มันคือการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิง! เป็นการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงครั้งแรกนับตั้งแต่ที่พวกเขาสูญเสียให้แก่พันธมิตรเซียน! การเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงถือเป็นความสำคัญยิ่งใหญ่แก่สำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!

ซึ่งหมายถึงมีสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มวิหคเพลิงมีรอยวิหคเพลิงตื่นขึ้นและเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นจักรพรรดิวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์คนถัดไป นี่เป็นหนทางเดียวที่จะเกิดการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงและเรียกจิตวิญญาณวิหคเพลิงของจริงซึ่งไม่ปรากฏขึ้นมาหลายหมื่นปีขึ้นมาได้!

ณ ตอนนี้ ลำแสงสีแดงม่วงมีคนเก้าคนลอยออกมาจากทั้งเก้าดวงดาว แต่ละคนมีระดับขั้นทลายสวรรค์ พวกเขาออกมาเพื่อการเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงครั้งนี้!

เมื่อทั้งเก้าคนเข้าใกล้จิตวิญญาณวิหคเพลิง มันร้องออกมาอีกครั้ง เสียร้องเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนแพร่กระจายออกไปทั่วพื้นที่ดวงดาว ทั้งยังผลักเปลวเพลิงมหึมาไปพร้อมกันด้วย

ขณะเดียวกันจิตวิญญาณวิหคเพลิงก็หมุนอย่างรวดเร็วเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเปลวเพลิงยักษ์ เปลวเพลิงเริ่มบิดเบี้ยวและปรากฏเป็นรูปภาพ

คนที่อยู่ในรูปเส้นผมยาวพริ้วไหว รอยสักวิหคเพลิงปกคลุมร่างกาย ปลดปล่อยเปลวเพลิงจำนวนมากออกมา มองไกลๆเขาจึงดูเหมือนวิหคเพลิงไม่มีผิด!

เขาคือหวังหลิน!

ในรูปนั้นนอกจากหวังหลินยังมีบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสักซึ่งมีดวงตากลวงโบ๋ภาพลักษณ์โศกเศร้า เบื้องหน้านางคือฉิงหลินที่ก่อขึ้นมาจากแสงผลึก!

วินาทีที่ฉากเหตุการณ์ปรากฏ นางก็พลันมองข้ามมา ดวงตาว่างเปล่าของนางทำให้ความคิดแต่ละคนต้องสั่นสะท้าน

“สตรีคนนี้คือ…”

“บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ารอยสัก ฉิวเย่า!”

“คนเบื้องหน้านาง หรือจะเป็นจักรพรรดิเทพฉิงหลิน?!”

ปรมาจารย์ชีกง เทียนหยุนและคนอื่นๆก็ปรากฏในรูปด้วย!

“ปรมาจารย์ชีกงและเทียนหยุนอยู่ที่นั่นด้วย!”

“คนที่พึ่งผ่านการตื่นของวิหคเพลิงกำลังตกอยู่ในสถานที่อันตราย ปรมาจารย์ชีกงเป็นกุญแจสำคัญในพันธมิตรเซียน เขาจะไม่ยอมให้สำนักวิหคเพลิงของเราต้องมีคนที่ตื่นขึ้นมาแน่นอน!”

“อย่างไรก็ตามข้าไม่เคยพบเห็นคนที่ตื่นขึ้นมาคนนั้น เขาไปได้รับรุ่นวิหคเพลิงมาได้อย่างไร?”

ทั้งเก้าคนมองฉากเหตุการณ์ข้างในก้อนเปลวเพลิง ณ วินาทีนั้นสัมผัสวิญญาณอันทรงพลังก็ผุดออกมาจากส่วนลึกของดาราจักรที่กำลังเผาไหม้ สัมผัสวิญญาณนี้แข็.แกร่งรุนแรงจนแม้กระทั่งทำให้เปลวเพลิงภายในดาราจักรต้องหยุดชะงัก!

“ไม่จำเป็นต้องสงสัยตัวตนของเด็กคนนี้ สัญลักษณ์ที่เขาได้รับมาจากหนึ่งในร่างอวตารของข้า จงใช้กำลังของทั้งสำนักและใช้จิตวิญญาณที่แท้จริงเป็นตัวนำทาง พาเขากลับมาอย่างปลอดภัย!”

หลังจากสัมผัสวิญญาณนี้กวาดผ่านไป ทั้งเก้าคนพลันเผยความเคารพอย่างแรงกล้า

“น้อมรับคำสั่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”

“ข้าไม่มีเวลาเหลือมากแล้วเนื่องจากอาการบาดเจ็บจากตอนนี้ยิ่งรุนแรงมากขึ้น เด็กคนนี้คือความหวังของสำนักวิหคศักดิ์สิทธิ์ของเรา…ไม่ว่าจะใช้อะไรแลกก็ตาม เจ้าต้องรับประกันความปลอดภัยของเขา!”

ณ ตอนนี้ในถ้ำจักรพรรดิเทพ ขณะที่ฉิงหลินปรากฏตัวขึ้นมา หวังหลินรู้สึกถึงความร้อนในรอยสักวิหคเพลิง เขาไม่มีเวลาตรวจสอบเพราะสายตาหลายคู่ตกลงมาหาเขา

ปรมาจารย์ชีกงกระพริบจิตสังหารออกมา เขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงในรอยสักบนร่างหวังหลินได้ทันที

‘สำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์รับรู้การตื่นของเขาแล้ว!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version