1036. ชื่อเจ้าคือเหยาซีเชว่
กฏเกณฑ์ดอกไม้ในถ้ำจักรพรรดิเทพได้ถูกกระตุ้นขึ้นอย่างสมบูรณ์เนื่องจากการต่อสู้ระหว่างหวังหลินและปิศาจวายุ แขนยักษ์คว้าใส่หอกสังหารเทพเจ้าและพยายามจะลากลงไปทันที
แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบและร้องตะโกน “ทำลาย!”
หลังสิ้นเสียง แสงสีดำจากหอกสังหารเทพก็เข้มข้นจนเหมือนดวงอาทิตย์สีดำ แม้แต่แขนที่เกิดขึ้นมาจากมหาสมุทรก็ยังดูดำจากแสงนี้
เมื่อแสงสีดำเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เกิดเสียงดังปังกึกก้องไปทั่วโลก พลังทำลายล้างกวาดผ่านเข้ามา แขนที่สร้างขึ้นจากน้ำทะเลจึงแตกสลาย แม้แต่น้ำเองก็เลือนหายไปด้วย
ไม่เพียงแต่หวังหลินจะไม่ผ่อนคลายแต่ยังเคร่งเครียดมากขึ้น กระทั่งปิศาจวายุยังเปลี่ยนสีหน้าจ้องมองไปยังมหาสมุทร
กรรร!!
เสียงคำรามต่ำดังออกมาจากมหาสมุทร สั่นสะเทือนสวรรค์และเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียงกึกก้องไปทั่วโลก
ขณะเดียวกันมหาสมุทรก็หมุนปั่นรุนแรงและเริ่มยกขึ้นมา หวังหลินหรี่สายตามองฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าจนอ้าปากค้าง
ไม่ใช่ว่าน้ำกำลังยกขึ้นสู่อากาศ แต่ร่างมนุษย์ที่ก่อตัวจากมหาสมุทรกำลังลุกขึ้น!
เป็นร่างใหญ่ยักษ์ที่มิอาจประเมินได้ แค่มันลุกขึ้นนั่งก็ทำให้รู้สึกราวกับกำลังแทงทะลุท้องฟ้า ร่างยักษ์นี้ถูกควบแน่นมาจากน้ำและเมื่อมันลุกขึ้น ก้นทะเลลึกจึงเผยตัวตนออกมา
ที่นี่ไม่มีมหาสมุทรอีกแล้ว เหลือแต่เพียงยักษ์ที่สร้างขึ้นจากมหาสมุทรเท่านั้น
ยักษ์ทะเล!
ด้วยใบหน้าอันยุ่งเหยิงจึงไม่อาจเห็นรูปร่างของมันได้ชัดเจน แต่ใบหูยักษ์ดูไม่เหมือนเซียน มันจ้องมองหวังหลินและปิศาจวายุด้วยความเยือกเย็น จากนั้นค่อยๆยกแขนขึ้นก่อเกิดคลื่นยักษ์พุ่งเข้าหาหวังหลิน
ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้ เสียงดังสนั่นพุ่งเข้ามาใส่ดุจสายลมกรรโชค หวังหลินถอยทันทีและหลบฝ่ามือนั้น
“แค่กฏเกณฑ์จากหยาดน้ำค้าง เจ้าไม่คู่ควรให้ข้าสนใจหรอก!” ในแววตาหวังหลินปรากฏเปลวเพลิงสองก้อน รอยสักวิหคเพลิงบนร่างเรืองแสงสีแดง
ขณะที่ฝ่ามือยักษ์กวาดเข้ามา หวังหลินอ้าแขน ทะเลเพลิงปะทุจากร่างกายในทันที
ทะเลเพลิงเริ่มกวาดผ่านบริเวณพร้อมกับพลังดั้งเดิมหวังหลินพรั่งพรูออกมา พริบตานั้นมันก็เต็มไปทั่วท้องฟ้าและเกิดเสียงดังสนั่น!
ฉากเหตุการณ์นี้น่าตกตะลึงยิ่ง ท้องฟ้าถูกปกคลุมอยู่ในทะเลเพลิง เบื้องล่างคือยักษ์ทะเล!
หวังหลินร้องคำรามอยู่ในทะเลเพลิง ความต้องการของหวังหลินผสานเข้ากับเปลวเพลิง ทั้งทะลเพลิงจึงพลันตกลงมาจากฟากฟ้าเข้าใส่ยักษ์
ทะเลเพลิงตกลงมาดุจสายฝน เปลวเพลิงปลดปล่อยความร้อนสูงก่อนจะเข้าใกล้เจ้ายักษ์ ปิศาจวายุเห็นเหตุการณ์นี้จากระยะไกลจึงอ้าปากค้าง ตอนนี้หวาดกลัวหวังหลินยิ่งกว่าเดิม
ในเสี้ยววินาทีนั้นทะเลเพลิงรวมกันจากทุกทิศทางรอบยักษ์ทะเล หยดน้ำจำนวนมากแพร่กระจายออกไปก่อเกิดเป็นหมอกสีขาวรูปวงแหวน
ยักษ์ทะเลร้องคำรามอีกครั้งราวกับน้ำในร่างกำลังเดือด จากนั้นมันก็แตกสลายออกไปทุกทิศทางทันที
ช่างคล้ายกับทะเลอยากจะกลืนกินท้องฟ้า มองไกลๆคงบอกไม่ได้ว่าหวังหลินกำลังสู้กับอะไรเพราะดูเหมือนท้องฟ้าและมหาสมุทรกำลังต่อสู้กันอยู่!
มหาสมุทรทรงอำนาจและพุ่งตรงเข้าใส่ทะเลเพลิงในท้องฟ้า พริบตานั้นคลื่นมหึมาดุจกำแพงจึงเชื่อมกับท้องฟ้า มันก่อเกิดวงแหวนและกำลังหุบเข้าหาจุดศูนย์กลาง
ขณะที่กำแพงทะเลเข้ามาใกล้ เพลิงทั้งหมดจึงมอดดับทันที กำแพงหดเล็กลงจนกระทั่งห่างจากหวังหลินไปพันฟุต เปลวเพลิงทั้งหมดที่เข้าสัมผัสพลันสลายตัว
ยามที่ห่างจากหวังหลินหนึ่งพันฟุต ใบหน้ายักษ์ปรากฏขึ้นภายในกำแพงทะเล
มันร้องคำรามและอ้าปาก จากนั้นพุ่งเข้าใส่หวังหลินหมายจะกลืนกินเขา!
เปลวเพลิงในแววตาหวังหลินเผาไหม้ส่องสว่าง รอยสักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายผ่านเสื้อผ้า เพียงแค่คิดเสียงร้องวิหคเพลิงก็ดังออกมาภายในร่าง
เสียงร้องวิหคเพลิงทรงพลังบารมี ทั้งร่างหวังหลินเริ่มเผาไหม้ วิหคเพลิงสีแดงพุ่งออกมาและสยายปีก ชั่วขณะนั้นทะเลเพลิงมิอาจบรรยายออกมาได้พลันปรากฏ!
ในจังหวะที่ปากของยักษ์ทะเลมาถึง ในแววตาหวังหลินกระพริบจิตสังหารและเอ่ยเสียงเบา “เปลวเพลิงวิหคศักดิ์สิทธิ์!”
สิ้นคำพูด วิหคเพลิงด้านบนจึงขยายปีกระเบิดเปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุดและกระจายไปทั่วทุกทิศ!
เหล่าเปลวเพลิงนี้ไร้ขอบเขตและเมื่อมันกระจายออกไป เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากยักษ์ทะเลราวกับมันถูกบังคับให้ล่าถอย
แม้แต่คลื่นดุจกำแพงที่อยู่ภายในระยะหวังหลินยังเหือดแห้งเมื่อสัมผัสกับเปลวเพลิง สายน้ำเปลี่ยนเป็นสายหมอกและถูกผลักกลับไป!
มันถอยหลังรวดเร็วยิ่งกว่าตอนที่เข้ามาใกล้เสียอีก ทว่าเปลวเพลิงก็ไล่ตามอย่างกระชั้นชิด ณ ตอนนี้กพแพงสายน้ำหายไปและควบแน่นกลับเป็นยักษ์ทะเล
แต่ว่าขนาดของยักษ์ทะเลเปลี่ยนไปมหาศาล ตอนนี้มันสูงน้อยกว่าหมื่นฟุตแล้วและไม่ได้นั่งอยู่ทว่ากำลังยืน
จังหวะยักษ์ทะเลก่อเกิดขึ้นมาใหม่ เปลวเพลิงของวิหคศักดิ์สิทธิ์ก็ตกลงมาล้อมรอบเจ้ายักษ์ ดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้นและชี้ไปข้างหน้า
วิหคเพลิงร้องอีกครา เปลี่ยนกลายเป็นกองเพลิงพุ่งออกไปดุจอุกกาบาตเข้าหายักษ์ทะเล มันทะลวงผ่านสายน้ำและเข้าไปในตัวยักษ์ทะเล
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาอย่างต่อเนื่อง มันถูกเปลวเพลิงล้อมรอบอยู่แล้วและเมื่อวิหคเพลิงพุ่งเข้ามา ข้างในก็ยิ่งเผาไหม้ขึ้นไปอีก!
ขณะที่ยักษ์ทะเลกำลังถูกเผาไหม้จากทั้งข้างในและข้างนอก มันส่ายแขนไปมาราวกับกำลังดิ้นรน ทว่ามันไม่อาจหยุดน้ำจากร่างกายไม่ให้เปลี่ยนเป็นควันเต็มท้องฟ้าไปได้
เหตุการณ์นี้ทำให้ปิศาจวายุเผยสีหน้าขมขื่นยิ่งนัก ในที่สุดก็เข้าใจช่องว่างระหว่างนางและหวังหลิน และทำให้นางขบคิดเงียบๆ
อย่างไรมีแสงกระพริบความชั่วร้ายจากสายตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ยักษ์ทะเลดิ้นรนไปก็เท่านั้น ร่างกายสลายกลายเป็นหมอกอย่างต่อเนื่อง ลดขนาดเล็กลงและเล็กลงเรื่อยๆ จนเมื่อมันกำลังสูญหายไปอย่างสมบูรณ์ ยักษ์ทะเลร้องคำรามสนั่น ทั้งร่างเริ่มหอจนเหลือเพียงน้ำหนึ่งหยด จากนั้นทะลวงผ่านเปลวเพลิงโดยไม่คาดคิดและพุ่งตรงใส่หวังหลิน
วิหคเพลิงร้องอีกครั้งและไล่ตามหลังหยดน้ำไปอย่างกระชั้นชิด
หยดน้ำเร็วมากจนเข้าใกล้หวังหลินได้ในพริบตา เป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนตาย! แต่หวังหลินไม่ได้ตื่นตระหนก ดวงตาขวากระพริบแสงสีฟ้า โล่ห์ฟ้าครามปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทันที!
มันปะทะเข้ากับโล่ห์ฟ้าครามจนเกิดแรงกระทบอันทรงพลัง ถูกผลักถอยกลับไปหลายนิ้วแต่ไม่ได้แตกร้าว ห้องกันการโจมตีของหยดน้ำไว้ได้หมด
ขณะเดียวกันวิหคเพลิงเข้ามาใกล้และล้อมรอบหยดน้ำด้วยความร้อนสูง มันยิ่งเล็กลงเรื่อยๆจนในที่สุดก็หายไปหลังเสียงคำรามสุดท้าย
เสียงคำรามของยักษ์ทะเลยังคงดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ทว่าเมื่อหยดน้ำสุดท้ายหายไป ทั้งท้องฟ้าก็สั่นสะเทือนราวกับกำลังแตกสลาย วินาทีนั้นท้องฟ้าดูเหมือนจะฉีกขาดและก้นทะเลแตกออกทีละนิ้ว
การล่มสลายนี้คงอยู่เพียงไม่กี่ลมหายใจก่อนที่ท้องฟ้าจะแตกกระจาย ก้นทะเลแตกกระจายไปด้วยและเผยให้เห็นสีเขียวด้านล่าง
ทั้งโลกนี้เป้นเพียงหยดน้ำค้างบนใบไม้ของดอกไม้ หวังหลินรู้สึกวิสัยทัศน์พร่ามัวและเมื่อปรากฏตัวอีกครั้งเขาก็อยู่ในพื้นที่ดอกไม้ที่ตกลงมาก่อนหน้านี้!
เมื่อโลกแห่งทะเลแตกสลาย ปิศาจวายุพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงสุด เป้าหมายของมันคือพุ่งไปอีกกฏเกณฑ์หนึ่งเพื่อหลบหนี
ทว่าขณะที่นางเคลื่อนไหว หวังหลินปรากฏร่างออกมา ปิศาจวายุหวาดกลัวยิ่งจนต้องล่าถอยแต่กลับได้ยินเสียงเย็นเยียบเข้าสู่สองหู
“หยุด!”
ร่างปิศาจวายุพลันหยุดลง แม้นางจะฟื้นตัวได้ในชั่วพริบตาแต่แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับหวังหลินแล้ว หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่รอยแผลบนใบหน้าปิสาจวายุ
เกิดเสียงดังซี่ๆ รอยแผลบนใบหน้าปิศาจวายุหายไป เผยให้เห็นผิวหนังสีขาวด้านใน
“เหยาซีเชว่ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ข้าจะช่วยเจ้า…นี่เป็นการชำระเวรกรรมของเราและให้เจ้าเจอพ่อของเจ้า หลังจากนั้นเราจะไปในทางของตนเองและไม่มีวันเจอกันอีก”
แขนขวาหวังหลินไม่หยุดอยู่แค่นั้น ทุกครั้งที่เขากดลงไป หนึ่งในรอยแผลของปิศาจวายุจะหายไป ฝ่ามือรวดเร็วยิ่งทิ้งภาพติดตามากมาย
ก่อนที่วิชายับยั้งจะหยุดทำงาน วิชายับยั้งก็ถูกใช้ออกมาอีก ในแววตาปิศาจวายุเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางเดาได้แล้วว่าหวังหลินกำลังจะทำอะไร
แขนขวาขยับเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง รอยแผลเป้นค่อยหายไปจนกระทั่งไม่มีเหลืออยู่สักรอย วินาทีนี้ปิศาจวายุจึงกลับคืนสู่รูปลักษณ์สวยงามดังเดิมของตัวเอง
ผิวกายสีขาวละเอียดดุจหยกคล้ายจะแตกกระจายเพียงแค่หายใจ สีสันผลึกสดใสปลดปล่อยเสน่ห์แบบพิเศษ
พริบตานั้นหวังหลินคิดว่าเขาเห็นเหยาชีเชว่คนก่อน…
สุดท้ายหวังหลินชี้จุดระหว่างคิ้วของปิศาจวายุ ร่างปิศาจวายุสั่นเทาทันที นางจำได้ว่าหวังหลินเคยใช้วิชาเคลื่อนย้ายประหลาดตอนที่เริ่มการต่อสู้ เขาสามารถทำให้นางบาดเจ็บสาหัสแต่กลับเลือกจะชี้ใส่ระหว่างคิ้วนางอย่างง่ายๆ
ในช่วงวิกฤตินั้นนางไม่คิดอะไรมาก แต่เมื่อหวังหลินชี้ใส่ระหว่างคิ้วอีกครั้ง ปิศาจวายุจึงคล้ายจะเข้าใจบางอย่าง
“ครั้งแรกเพื่อทำให้ความทรงจำของเจ้าและเหยาซีเชว่รวมเข้าด้วยกันและสร้างรอยเปิด จากนั้นจึงจะมีโอกาสช่วยเหลือ…” หวังหลินคล้ายจะพูดอยู่กับตัวเองพลางชี้ใส่ปิศาจวายุครั้งสุดท้าย ดวงตาเผยแสงประหลาด
เมื่อปิศาจวายุเห็นสายตานั้น ความหนาวเย็นกวาดผ่านในใจ
“หากเจ้าทำตามที่สัญญาไว้จริงๆคือการช่วยเหยาซีเชว่แก้แค้น เช่นนั้นเจ้าก็คงเป็นส่วนหนึ่งของเวรกรรมมากกว่าจะเป็นการแทรกแซง…หากเป็นเช่นนั้นข้าจะไม่เข้าไปก้าวก่าย”
“แต่เจ้าไม่ได้ทำเช่นนั้น ข้าไม่สนว่าเรื่องที่เจ้าหลอกเหยาซีเชว่แต่เจ้ากลับทำลายโอกาสการพัฒนาเขตแดนแห่งเวรกรรมของข้า…ยิ่งไปกว่านั้นการสืบทอดของเจ้าเป็นแค่ความทรงจำและตัวจริงเจ้าตายไปแล้ว…แม้จะเรียกตัวเองว่าปิศาจ เจ้าเป็นแค่เหยาซีเชว่ เจ้าไม่ได้ตายเพราะเจ้าเป็นแค่ความทรงจำ”
แสงลึกลับในตาหวังหลินยิ่งรุนแรงมากขึ้น จากนั้นเขาอ้าปากและสูดหายใจเข้าลึกๆ!
หวังหลินได้รับวิชากลืนกินที่ส่งต่อมาจากฉิงชุ่ย! สิ่งที่เขากลืนกินคือพลังปิศาจข้างในเหยาซีเชว่!
แววตาหวาดกลัวของปิศาจวายุพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดตอนที่พลังดึงดูดนี้ปรากฏขึ้นมา นางรู้สึกว่าพลังปิศาจทั้งหมดในร่างกำลังโดนดูดเข้าไปในปากเซียนผู้นี้
พลังปิศาจผุดออกมาจากปิศาจโบราณและโดนหวังหลินกลืนกินเข้าไป ท้ายที่สุดแม้แต่ความทรงจำที่สลักไว้ในวิญญาณเหยาซีเชว่ก็ยังถูกหวังหลินกลืนกิน
“เจ้าไม่ควรทิ้งความทรงจำไว้ในเหยาซีเชว่ ไม่มีความเกลียดชังระหว่างเรา ดังนั้นข้าจะหาภาชนะอื่นให้..”
ความกลัวในแววตาเหยาซีเชว่หายไป ร่างกายสั่นเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและนางอ่อนแอยิ่งนัก เมื่อได้สตินางก็ถอยหลังทันที ดวงตาสับสนยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าคือ…” เหยาซีเชว่จ้องหวังหลินแต่ความคิดว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าพยายามอย่างไรก็ไม่มีความทรงจำอันใด ความกลัวที่ไม่มีความทรงจำปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ตอนนี้นางทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าหวาดกลัวมาจากสายตาที่หวังหลินมองมา
“เจ้าชื่อเหยาซีเชว่…และข้าเป็นสหายของเจ้า…”
“เหยาซีเชว่…” เหยาซีเชว่พึมพำเบาๆแต่สายตายังสับสน ทว่ายังแฝงความระมัดระวัง
หวังหลินถอนหายใจ จากนั้นอ้าปากพ่นลำแสงชั่วร้ายหนึ่งออกมา สิ่งนี้ทำให้เหยาซีเชว่ตกตะลึง นางอุทานและถอยไปอีกครั้ง สายตาไม่ระมัดระวังอีกแล้วแต่เป็นความหวาดกลัว
หลังจากสูญเสียความทรงจำทั้งหมด นางจึงเหมือนคนธรรมดาที่กำลังเห็นเซียนใช้วิชาเป็นครั้งแรก!
ตราประทับผนึกเทพปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน หลังขบคิดอยู่ชั่วครู่เขาก็ชี้ไปที่ชั้นสิบสี่หนึ่งมีวิญญาณอยู่ในนั้นดวงเดียว! วิญญาณดวงนี้ห่อหุ้มด้วยหมอกโลหิตและปลดปล่อยความแค้นมหาศาล มันคือบรรพชนโลหิต!