Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1035

Cover Renegade Immortal 1

1035. ชั่วอายุคน

ร่างมนุษย์ที่ถูกควบแน่นจากน้ำคล้ายจะหลับใหล แต่มันก็แสดงอาการว่ากำลังจะตื่น

ปิศาจวายุท่าทางโหดเหี้ยม นางไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมหาสมุทร แขนขวาสร้างผนึกและร่ายเสียงสวดประหลาดเป็นภาษาของบัญชาโบราณ ตอนที่เสียงนี้ดังออกมาจากปากเทพโบราณมันแฝงบารมีและสัมผัสแห่งยุคเอาไว้ ยามที่มันเอ่ยออกมาจากปิศาจวายุ แม้จะมีสัมผัสแห่งอายุแต่กลับแหลมคมและน่าขนลุก

ปิศาจวายุชี้ไปข้างหน้า ธงเล็กๆสามผืนเริ่มหมุนรอบตัว ควันสีเขียวหนาแน่นโผล่ออกมาจากธงจากนั้นปรากฏเงามืดขนาดใหญ่สูงหมื่นฟุตดูไร้เทียมทาน ราวกับโลกไม่อาจประคองตัวตนของมันได้

ตรงกลางคิ้วเงามืดตัวนี้มีดาวหกดวงกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว

สองร่างดุร้ายปรากฏข้างปิศาจโบราณ พวกมันสูงเพียงพันฟุตแต่กลับมีพลังปิศาจมหึมาปะทุออกราวกับต้องการทำลายโซ่ตรวนจากควันสีเขียว

ร่างดุร้ายทั้งสองมีดาวหกดวงกำลังหมุนอยู่ในตาขวา

เมื่อหวังหลินเห็นร่างเงาทั้งสาม รูม่านตาพลันหรี่แคบลง

ปิศาจวายุยืนอยู่เบื้องหน้าร่างเงาสามตน ฝ่ามือสร้างผนึกพลางชี้ใส่หวังหลินและร้องตะโกน “ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นเทพโบราณ เจ้าจะกลายเป็นหนึ่งในธงหลักของสมบัติศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าปิศาจโบราณ!”

ในดวงตากระพริบจิตสังหาร แขนขวาชี้ออกไป ร่างเงามืดสามตนด้านหลังเคลื่อนไหว เทพโบราณหกดาวก้าวไปข้างหน้าและโยนกำปั้นใส่หวังหลิน

สองเงามารโบราณพุ่งใส่หวังหลินด้วยกลิ่นอายกระหายเลือดราวกับต้องการจะกลืนกินเขา

แม้เป้ยหลัวจะไม่ใช่ปิศาจโบราณสายเลือดราชวงศ์ แต่ตำแหน่งในเผ่าปิศาจโบราณไม่ใช่ตำแหน่งธรรมดา ธงผนึกวิญญาณนี้ได้รับมอบมาจากปิศาจโบราณสายเลือดราชวงศ์ แม้จะไม่ทรงพลังเท่าสมบัติราชวงศ์มันก็ยังมีพลังอำนาจมหาศาล

ก่อนที่เป้ยหลัวจะถูกแบ่งจิตวิญญาณออกไป เขาก็มีธงผนึกวิญญาณ ตอนที่อัญเชิญมันจะมีธงทั้งหมด 49 ผืนลอยออกมา ข้างในธงไม่ได้มีเฉพาะคนที่เขาฆ่า พวกมันถูกผนึกไว้ข้างในตั้งแต่คนที่เป็นเจ้าของคนก่อน

เป้ยหลัวเป็นเพียงเจ้าของรุ่นที่เจ็ดเท่านั้น ข่าวลือว่าเจ้าของคนแรกทรงพลังยิ่งและแข็งแกร่งพอจะเผชิญหน้ากับเหล่าเทพโบราณรุ่นหลังได้ตรงๆ เขาคือปิศาจโบราณรุ่นที่สี่!

บัญชาโบราณเป็นเผ่าที่ฝืนลิขิตสวรรค์และแบ่งออกเป็นสามเผ่าที่แตกต่างกัน รุ่นแรกคือเทพโบราณ ปิศาจโบราณและมารโบราณซึ่งมีสายเลือดบัญชาโบราณอันเข้มข้นและมรดกสืบทอด

หลังจากพวกเขาก็เป็นเหล่าเทพโบราณ ปิศาจโบราณและมารโบราณรุ่นที่สอง แม้จะอ่อนแอกว่ารุ่นแรกพวกเขาก็ยังมีสายเลือดบัญชาโบราณเข้มข้น

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป สายเลือดบัญชาโบราณและการสืบทอดยิ่งขาดแคลนในทั้งสามเผ่า ท้ายที่สุดจึงมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เผ่าราชวงศ์ที่เรียกกันคือกลุ่มที่มีสายเลือดบัญชาโบราณหลงเหลืออยู่มากที่สุด พวกเขาทั้งยังเป็นลูกหลานสายตรงของสามเผ่าพันธุ์รุ่นแรก

เป้ยหลัวเป็นปิศาจโบราณรุ่นที่ 79 แต่สมบัติเขามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงโด่งดัง

อย่างไรก็ตามปิศาจวายุสละตัวตนการเป็นปิศาจโบราณ ดังนั้นร่างจึงสูญสลายและไม่สามารถใช้สมบัติของจริงได้อีกแล้ว ตอนนี้ธงสามผืนจึงถูกสร้างขึ้นมาจากการควบแน่นพลังปิศาจให้กลายเป็นเงามืด เหมือนกับหวังหลินอัญเชิญหอกสังหารเทพเจ้า

ปิศาจวายุชี้ไปข้างหน้า เหล่าเงามืดจากธงพุ่งเข้าใส่หวังหลิน หวังหลินมองทะลุธงทั้งสามผืนได้ทันที ฝ่ามือขวายื่นออกไปใส่อากาศธาตุ ปรากฏรอยร้าวขึ้นพร้อมกับเสียงดังสนั่น

ดุจลำห้วยขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในท้องฟ้า ลำแสงโค้งไปตามขอบลำห้วยและเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง

ขณะเดียวกันแขนขวาหวังหลินที่คว้าออกไป พลันเกิดแรงกดดันสั่นสะเทือนสวรรค์ผุดออกมา

แรงกดดันนี้ทรงพลังยิ่งยวดและทำให้สีหน้าปิศาจวายุต้องเปลี่ยนไปในทันที!

เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลกพร้อมกับลำแสงสีดำลอยเข้าสู่ฝ่ามือหวังหลิน มันคือหอกสังหารเทพเจ้า!

‘สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์!!’ ปิศาจวายุจำได้ ตอนที่เขาเห็นหอกสังหารเทพเจ้า รูม่านตาหรี่แคบและแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เจ้าเป็นเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์!”

หวังหลินกระชับหอกสังหารเทพเจ้าและกวาดไปข้างหน้า ร่างเทพโบราณหกดาวตรงหน้าสั่นเทาพลางจ้องมองหอก ดวงตาที่มืดมัวพลันส่องสว่าง

เขาเป็นแค่เทพโบราณหกดาวทั่วไป ดังนั้นในแง่ของรุ่นอายุจึงห่างไกลกว่าของเป้ยหลัว ตอนนี้เมื่อมาเห็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าตนเอง ร่างกายสั่นเทาและหยุดชะงัก

หากธงผนึกวิญญาณอยู่ที่นี่จริงๆเขาคงไม่ทำแบบนี้ แต่สิ่งที่ปิศาจวายุอัญเชิญมาเป็นแค่ร่างเงามืด อ่อนแอมากกว่าของจริงและวิญญาณที่ผนึกไว้ข้างในก็ยังอ่อนด้อยไร้พิษสง

ปิศาจวายุลอบสาปแช่งและเกลียดเหยาซีเชว่ที่ไปตอแยกับตัวตนน่าหวาดกลัวเช่นนี้ หากนางรู้ว่าไปขัดใจกับคนเช่นหวังหลิน คงไม่คิดจะหลอมรวมกับเหยาซีเชว่ตั้งแต่แรก

‘บัดซบเอ้ย ในความทรงจำของเหยาซีเชว่ เขาอ่อนแอมากจนสามารถฆ่าได้เพียงแค่กระดิกนิ้ว แต่กลับกลายมาเป็นเทพโบราณและยังเป็นสายเลือดราชวงศ์ได้อย่างไร?!’

ปิศาจวายุรู้อยู่ในใจว่าสายเลือดราชวงศ์นั้นหายากยิ่งจนถึงจุดสูญพันธุ์ในทั้งสามเผ่า การเจอสักคนเป็นเรื่องยากมาก เป้ยหลัวเคยเจอปิโสาจโบราณสายเลือดราชวงศ์แค่ครั้งเดียวเอง

ความจริงด้วยความแข็งแกร่งของปิศาจวายุ ตราบใดที่ไม่ไปเผชิญหน้าหวังหลิน นางก็สามารถเอาชนะได้ด้วยวิชาอันหลากหลายและความเร็วไร้ที่เปรียบ

แต่เมื่อเผชิญหน้าหวังหลิน วิธีทั้งหมดจึงไร้ประโยชน์ ความเร็วก็เร็วไม่พอ วิชาก็แข็งแกร่งไม่เท่า กระทั่งสมบัติก็ไม่มีประโยชน์ แม้สมบัติทั้งคู่จะไม่ใช่ของจริง นางก็ไม่สามารถเอาชนะสมบัติราชวงศ์ของหวังหลินได้

ขณะนี้เมื่อหอกของหวังหลินกวาดผ่านมาข้างหน้า โลกพลนเปลี่ยนสีราวกับทุกอย่างกำลังสั่นสะท้าน หอกสังหารเทพเจ้ากวาดตรงเข้ามาหาสองมารโบราณที่กำลังสั่น

สองมารโบราณนี้เป็นแค่ร่างเงามืดที่ไม่มีพลังอำนาจอันใดของธงผนึกวิญญาณของจริง หากพวกมันเผชิญหน้ากับเซียนทั่วไปคงพอจะต่อสู้ได้ แต่มันไม่คู่ควรเผชิญหน้ากับหอกสังหารเทพเจ้าของหวังหลิน!

หอกสังหารเทพเจ้าหวีดหวิว ความเร็วเกินกว่าจะตามทัน ร่างมารโบราณหนึ่งตัวถูกหอกแทงทะลุในทันที มันเปลี่ยนกลายเป็นพลังปิศาจมหาศาลที่คล้ายจะถูกหอกกวาดไป

พริบตานั้นร่างมารโบราณก็หายไป

ปิศาจวายุหรี่ดวงตาแคบลง ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย นางพ่นโลหิตออกมาโดยไม่ลังเล จากนั้นแขนขวารีบสร้างสัญลักษณ์ประหลาดชี้ออกไปและตะโกน “ธงทำลายล้าง!”

ควันสีเขียวที่ก่อตัวเป็นร่างเงามืดสามตัวพลันหมุนวนและแตกสลายภายใต้คำสั่ง ผลกระทบรุนแรงเปลี่ยนกลายเป็นมังกรเขียวสามตัวพุ่งเข้าหาหอกสังหารเทพเจ้า

เมื่อธงเล็กๆพังทลาย เทพโบราณและปิศาจโบราณที่เหลืออยู่ก็สลายไปด้วย พวกมันเข้าไปในมังกรเขียวและทำให้ทรงพลังยิ่งขึ้น!

หอกสังหารเทพเจ้าและมังกรเขียวเข้าปะทะกันด้วยความเร็วสูงสุด วินาทีที่สัมผัสจึงเกิดทรงกลมกว้างพันฟุตขึ้นระหว่างสมบัติทั้งสอง

ก้อนทรงกลมนี้บรรจุควันสีเขียวและดำต่อสู้กันและกันอย่างต่อเนื่อง ทรงกลมยังกระพริบวูบวาบไปตามขอบ เกิดเสียงปะทุดังออกมาจากข้างใน

แรงกดดันทำลายล้างน่าหวาดหวั่นเข้าล้อมรอบพื้นที่ในพริบตา

นี่คือการต่อสู้ระหว่างสมบัติของเทพโบราณและปิศาจโบราณ หนึ่งนั้นคือหอกสังหารเทพเจ้าสายเลือดราชวงศ์อีกฝ่ายคือหนึ่งในสี่สมบัติปิศาจโบราณรุ่นแรก

ทั้งสองเป็นแค่ภาพมายาแต่ทรงพลังยิ่งยวด! ควันสีดำข้างในทรงพลังเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองราวกับทุกอย่างเบื้องหน้าต้องถูกทำลาย ควันสีเขียวดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่สามารถหลบหนีโชคชะตาได้จึงโดนบังคับให้ล่าถอย

เมื่อควันสีเขียวล่าถอย ทรงกลมทั้งก้อนจึงเป็นสีดำ ขณะนั้นมันก็แบ่งตัว!

เสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือนสวรรค์ หมุนปั่นก้อนเมฆและฉีกกระชากท้องฟ้า ท้องทะเลก่อเกิดคลื่นขึ้นอีกครั้ง

ภายใต้ผลกระทบของการต่อสู้ มังกรเขียวแตกสลายและเลือนหายไป หอกสังหารเทพเจ้าแทงทะลุผ่านและตรงเข้าใส่ปิศาจวายุ

ปิศาจวายุกระอักโลหิต สมบัติถูกทำลายและถึงแม้จะเป็นแค่ของมายามันก็เชื่อมต่อเข้ากับพลังปิศาจของนางจนบาดเจ็บสาหัส นางเห็นหอกสังหารเทพเจ้าใกล้เข้ามา ใบหน้าซีดเผือดและรีบถอยหนี

หวังหลินสีหน้าเย็นเยียบและรีบไล่ตามไป

ปิศาจวายุโกรธเกรี้ยวมากและสาปแช่ง “ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องระหว่างเจ้าและเหยาซีเชว่เลย เจ้าอ้างว่ามันเป็นเวรกรรมอยู่นั่น ข้าคือปิศาจวายุ ไม่ใช่เวรกรรมบัดซบ!”

“เดิมทีเจ้าอยู่นอกเหนือเวรกรรมนี้ แต่เจ้าบังคับตัวเองเข้ามา หากเจ้ายอมทิ้งร่างของเหยาซีเชว่ไป ข้าจะปล่อยเจ้าไป!”

“บัดซบ ข้าเป็นแค่ความทรงจำ ข้าจะออกไปได้อย่างไร!?” ปิศาจวายุขบฟันแน่น เกิดความเสียใจที่มาผสานเข้ากับเหยาซีเชว่

แม้ปิศาจวายุไม่เข้าใจเวรกรรม นางก็มีความรู้สึกเลือนลางว่าได้เข้าไปในสถานการณ์ที่ไม่อาจหนีรอดไปได้

หอกสังหารเทพเข้ามาใกล้และกำลังจะไล่ทันปิศาจวายุแต่ทันใดนั้นหวังหลินดวงตาส่องสว่าง

ชั่วขณะนั้นสีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไป แขนยักษ์สร้างจากน้ำผุดออกมาจากมหาสมุทรและกวาดผ่านที่ที่หวังหลินอยู่ คว้าเข้าใส่หอกสังหารเทพเจ้า

แขนนั้นบีบหอกสังหารเทพเจ้าอย่างโหดเหี้ยมทำให้หอกเรืองแสงสีดำทรงพลัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version