Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1077

Cover Renegade Immortal 1

1077. ต่อสู้ระหว่างอาจารย์และศิษย์

ทุกครั้งที่หวังหลินใช้วิชาไสยเวทย์ มักจะชื่นชมป๋ายฟ่านในการสามารถสร้างวิชาแบบนี้ขึ้นมาได้ มันเป็นวิชาที่กักขังดวงวิญญาณของคนที่ตนเองฆ่าเอาไว้เพื่อใช้เป็นประโยชน์ ดวงวิญญาณพวกนั้นไม่สามารถเกิดใหม่หรือหายไปจากโลกได้

วิชานี้ฝืนลิขิตสวรรค์อยู่แล้วและแทบจะเป็นการก้าวเข้าไปตัดสินแทนที่สวรรค์!

นาทีนี้ดวงวิญญาณของปรมาจารย์ชีกงพุ่งออกมา คลุมตนเองด้วยจิตสังหาร แม้กระทั่งร่างไร้หัวยังขาวซีดเมื่อเทียบกับจิตสังหารอีกฝ่าย ชีกงตายไปด้วยความแค้นสั่งสมจำนวนมากทั้งยังกำลังจะดำเนินการทลายสวรรค์แรกของเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับสูงสุด พลังอำนาจของวิญญาณจึงน่าตื่นตะลึง!

หลังโผล่ออกไปจึงเริ่มต่อสู้กับร่างไร้หัว มีดวงวิญญาณอีกจำนวนมากมายเข้าช่วยเหลือดังนั้นจึงเปลี่ยนสถานการณ์โดยรอบ

อย่างไรก็ตามหวังหลินก็จ่ายราคาไปอย่างหนักหน่วง วิชาของจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านใช้พลังต้นกำเนิดเทพที่เหลืออยู่น้อยนิด หากไม่ใช่เพราะมีวิญญาณดั้งเดิมของซวนเป่ามอบพลังต้นกำเนิดเทพให้ หวังหลินคงหมดไปนานแล้ว

แม้จะมีวิญญาณของซวนเป่า หวังหลินกำลังใช้วิชานี้ด้วยพลังต้นกำเนิดเทพไปเรื่อยๆ หากไม่หาวิญญาณเทพต้นกำเนิดอีก เมื่อหมดลงเขาจะไม่สามารถใช้วิชาของป๋ายฟ่านได้อีกเลย หวังหลินอาจจะใช้วิชาเรียกขานสายลมได้ แต่มันก็อ่อนแอมากกว่าการใช้พลังเทพต้นกำเนิด

เทียนหยุนขมวดคิ้วห่างออกไปไกล ไม่คาดคิดว่าหวังหลินยังมีไพ่ตายอีก! ดวงตาเย็นเยียบ แขนขวาสร้างผนึกและชี้ใส่ท้องฟ้า

ครานี้ความโกลาหลสีขาวดำหมุนปั่นยิ่งขึ้น อสรพิษยักษ์โผล่ศีราะขึ้นมาดุจสายฟ้า มันมีหนึ่งเขาและมีเกล็ดสีดำขลับ ทั้งยังมีรอยสักบางส่วนจนดูดุร้ายยิ่งกว่าเดิม

มันใช้สายตาเย็นเยียบจ้องมองหวังหลินและพุ่งตรงเข้าหาเขา

ไม่ใช่แค่อสรพิษที่พุ่งออกมา อย่างอื่นก็โผล่ออกมาด้วย มีเจ้ากิเลนดำเน่าเปื่อยครึ่งตัว มันส่งกลิ่นเหม็น ดวงตาเรืองแสงสีดำ ร้องคำรามพุ่งใส่หวังหลินเช่นเดียวกัน

ต่อจากเจ้ากิเลนดำก็มีร่างไร้หัวโผล่ออกมาอีกห้าคน ราวกับมีสิ่งมีชีวิตมากมายอยู่ในความโกลาหลนี้

ร่างไร้หัวทั้งห้าติดตามหลังกิเลนไปอย่างกระชั้นชิด พวกมันหมุนเป็นวงกลมรอบปรมาจารย์ชีกงและเริ่มโจมตี

หวังหลินต้องการอัญเชิญร่างอวตารของเทียนหยุนที่อยู่ในนรกชั้นสิบแปด แต่ความคิดนึงปรากฏขึ้นมาพลางจ้องเทียนหยุนและแสยะยิ้ม

เหตุผลที่เทียนหยุนค่อยๆอัญเชิญอสูรเข้ามาโจมตีเขาอาจจะเป็นเพราะต้องการให้หวังหลินอัญเชิญอวตารทั้งสองนั้น!

หวังหลินไม่สนใจว่าตนเองคาดเดาผิดหรือไม่ มันแค่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจจนต้องอัญเชิญดวงวิญญาณร่างอวตารของเทียนหยุนเบื้องหน้าร่างที่แท้จริง

อสรพิษสีดำเคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมกลิ่นเหม็น หวังหลินหลับตา จากนั้นชุดเกราะบนร่างเรืองแสงสว่าง วิหคเพลิงสีขาวบินเหินพุ่งเข้าหาอสรพิษ เสียงคำรามอสรพิษและเสียงร้องวิหคเพลิงจึงเริ่มกึกก้อง

เทียนหยุนดวงตาส่องสว่างและเผยรอยยิ้ม สิ่งที่เขากำลังรออยู่นอกจากร่างอวตารทั้งสองก็คือวิหคเพลิงตัวนี้ วินาทีที่วิหคเพลิงปรากฏขึ้น เทียนหยุนยืนและก้าวออกไป

เขาเข้าประชิดหวังหลินเพียงก้าวเดียว ไม่สนใจหวังหลินและยื่นแขนเข้าหาวิหคเพลิงสีขาวอย่างรุนแรง!

‘สี่จิตวิญญาณชะตาสวรรค์ของข้าขาดเพียงแค่จิตวิญญาณวิหคเพลิงเท่านั้น หากข้าได้มาวันนี้จะเป็นโอกาสที่มีความสุขยิ่งนัก’

วิหคเพลิงสีขาวส่งเสียงร้อง เปลวเพลิงมหึมาระเบิดออกจากร่างกาย ทว่าแขนของเทียนหยุนทะลุเปลวเพลิงเข้าไปยื่นหาวิหค ส่วนอสรพิษดำหลบหลีกวิหคเพลิงและพุ่งตรงใส่หวังหลิน

มันอ้าปากหมายจะกลืนกินหวังหลิน

ณ ช่วงวิกฤตินี้แม้หวังหลินจะหน้าซีดแต่แววตาไร้ความหวาดกลัว กลางหน้าผากปรากฏวังวน วิญญาณดั้งเดิมที่อ่อนแอของเขาพลันลอยออกมา วิญญาณเขาคือมังกรสายฟ้าโบราณ!

กรรร!

เสียงคำรามครั้งนี้ทำให้วิญญาณหวังหลินอ่อนแอยิ่งกว่าเดิมแต่เจ้าอสรพิษที่กำลังเข้ามาพลันกรีดร้องโหยหวน ประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนข้ามผ่านร่างมันเป็นเส้นโค้ง ดวงตาหวาดกลัว มันล้มเลิกการกลืนกินและกำลังจะถอย

วินาทีนั้นจุดโกลาหลรอบพื้นที่ห้าสิบลี้เริ่มหมุนปั่น เสียงสายฟ้าคำรามดังออกมาจากข้างนอก

แม้กระทั่งเทียนหยุนยังตกตะลึง!

สายฟ้าแทงทะลุผ่านจุดโกลาหลและพุ่งเข้าใส่เจ้าอสรพิษโดยตรงจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง

ไม่ใช่แค่สายฟ้าเส้นเดียวแต่มีจำนวนมากนับไม่ถ้วน เข้าล้อมรอบอสรพิษรวมถึงเทียนหยุนด้วย

เจ้าอสรพิษส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างกายแตกสลาย เทียนหยุนเผยแววตาจิตสังหาร ไม่คิดว่าหวังหลินยังมีวิชาเช่นนี้เหลืออยู่

แขนขวายื่นเข้าจับวิหคเพลิงสีขาวโดยไม่หยุดชะงัก ขณะเดียวกันแขนซ้ายยกขึ้นไปและสะบั้นลงใส่หวังหลินอย่างโหดเหี้ยม

“ไม่มีใครจะช่วยเจ้าได้แล้ว!”

หกผู้อาวุโสจากสำนักวิหคเพลิงต่างร้องคำรามและต้องการเข้าช่วย แต่ต้าเจียแข็งแกร่งเกินไป ทั้งหกคนไม่เพียงพออยู่แล้ว แม้กระทั่งยักษ์เพลิงก็ยังพ่ายแพ้ สามในหกอาวุโศกระอักโลหิตและซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัส

พวกเขาไม่ได้อยู่ไกลแต่การช่วยหวังหลินเป็นเรื่องยากเกินไป!

ฝ่ามือนี้คือกระบวนท่าสังหารของเทียนหยุน ดวงตาหวังหลินกระพริบสีฟ้าปรากฏโล่ห์ฟ้าครามขึ้นมา แต่ในจังหวะที่มันสัมผัสกับฝ่ามือ มันแตกออกเป็นสองส่วนและกลับเข้าไปในตาหวังหลิน

หวังหลินใช้จังหวะที่โล่ห์ฟ้าครามยืดชีวิตเขาไว้ ยื่นแขนเข้าหาอากาศเปล่า ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง ปรากฏรอยร้าวขึ้นเบื้องหน้าและหอกสังหารเทพเจ้าโผล่ออกมา หวังหลินโยนมันเข้าใส่ฝ่ามือของเทียนหยุนทันที

ปัง!

หอกสังหารเทพเจ้าแตกสลายกลายเป็นละอองแสง ไม่ใช่ว่าหอกสังหารเทพเจ้าอ่อนแอเกินไปแต่หวังหลินสามารถอัญเชิญได้เพียงภาพมายาเท่านั้น อีกทั้งเขาก็บาดเจ็บสาหัสจึงไม่สามารถแสดงพลังอำนาจเต็มที่ของมันได้ มันสลายไปทันทีเบื้องหน้าฝ่ามือของเทียนหยุน

เทียนหยุนรู้สึกแขนด้านชา จิตสังหารรุนแรงยิ่งขึ้น วันนี้ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าการฆ่าหวังหลินยากเย็นแค่ไหน! เขามุ่งมั่นจะฆ่าเจ้าเด็กนี่อย่างที่สุด!

แม้หอกสังหารเทพเจ้าจะหายไป มันก็ซื้อเวลาอันมีค่าให้หวังหลินเช่นเดียวกัน หวังหลินร้องคำราม “หากเจ้าต้องการสังหารข้า คงต้องจ่ายราคาสูงที่สุด!”

เทียนหยุนร้องคำราม กลางหน้าผากหวังหลินปรากฏดวงตาที่สามและมันเปิดขึ้นเข้าหาเทียนหยุน!

อดีตอาจารย์และลูกศิษย์เริ่มการต่อสู้ครั้งที่สอง! คนหนึ่งต้องการสังหาร ขณะที่อีกคนต้องการดิ้นรนเอาตัวรอด! พวกเขาเป็นเหมือนน้ำกับไฟ ไม่อาจผสมเข้าด้วยกันได้!

วินาทีที่ดวงตาเปิดออก แสงสีแดงกระพริบวาบ พลังต้นตอดั้งเดิมซึ่งเหลืออยู่น้อยนิดพุ่งออกไป แสงสีแดงห่อหุ้มฝ่ามือเทียนหยุนและเข้าล้อมรอบเขา

แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งแบบเทียนหยุนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา เขาร้องออกมา “ต้นตอดั้งเดิม!!” ร่างกายสูญสลายภายใต้พลังต้นตอดั้งเดิม ด้านล่างเขามีเทียนหยุนหลายพันคนปรากฏขึ้น ทั้งหมดกำลังดิ้นรนและส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยว

ราวกับสมดุลถูกต้นตอดั้งเดิมเข้าทำลาย!

ขณะที่เทียนหยุนถูกบังคับให้หยุด ผู้อาวุโสหนึ่งในหกของสำนักวิหคเพลิงเผยแววตาบ้าคลั่ง ภารกิจของเขาคือการรับประกันความปลอดภัยของหวังหลินแต่หวังหลินกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย หากหวังหลินตายต่อหน้าต่อตา คงเหมือนกับการทำลายความหวังทั้งหมดของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

คนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีวันเข้าใจความเศร้าโศกที่พวกเขาสั่งสมมากว่าหลายหมื่นปี นาทีนี้เขาเผยรอยยิ้มเจ็บปวด อ้าแขนออกและเริ่มระเบิดวิญญาณดั้งเดิม!

เป็นการทำลายตนเองของเซียนขั้นทลายสวรรค์!

การทำลายตนเองนี้สั่นสะเทือนสวรรค์และสร้างกลิ่นอายทำลายล้างขึ้นมา ชายชรายอมมอบทุกสิ่งทุกอย่าง แม้หวังหลินจะไม่รู้ชื่อเขาก็ตาม แต่เพื่อความหวังของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงยอมเลือกทำลายตนเอง!

ร่างกายฉีกขาดพร้อมกับเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง ดวงวิญญาณดั้งเดิมนำผลกระทบเหนือจินตนาการและกวาดผ่านออกไป เทียนหยุนดวงตาส่องสว่าง แขนขวายื่นเข้าใส่กลางหน้าผาก อักขระสามรอยปรากฏขึ้นตรงนั้น!

หนึ่งในอักขระนั้นฉีดขาดออกจากกัน ระดับบ่มเพาะของเทียนหยุนเพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พลังสายนี้ก่อเกิดพายุ ขัดขวางต้นตอดั้งเดิมของหวังหลิน หยุดยั้งผลกระทบจากการทำลายตนเองของเซียนขั้นทลายสวรรค์ด้วย

หวังหลินใช้โอกาสนี้รีบล่าถอยและในที่สุดก็สร้างระยะห่างระหว่างเขากับเทียนหยุนได้!

เทียนหยุนผมสีขาวพริ้วไหว หลังจากอักขระถูกทำลาย ใบหน้าแก่ชรากลายเป็นอ่อนเยาว์ เขาดูเหมือนชายวัยกลางคนอายุห้าสิบปี

กลิ่นอายจากร่างกายเขาทำให้ทุกคนต้องสูดหายใจหนาวเหน็บเข้าไป แม้แต่มารโบราณต้าเจียยังต้องหรี่ตา

“ตั้งแต่ข้าเปิดผนึกแรกก็เกือบสองหมื่นปีมาแล้ว…หวังหลิน เจ้าสามารถบังคับให้ข้าเปิดผนึกแรกและปลดปล่อยพลังเต็มที่ของทลายสวรรค์แรก ข้าไม่ถือว่าเจ้าเป็นศิษย์ที่ไร้ค่าอีก!”

วินาทีนี้ กองทัพเซียนมากกว่าหมื่นคนปรากฏในอวกาศนอกอนุภาคฝุ่น ผู้นำเป็นชายชราชุดขาวเต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ เขาส่งกลิ่นอายของเทพออกมา ด้านหลังคือเหล่าเทพเกือบร้อยคน

พวกเขาคือคนจำนวนน้อยนิดของแดนสวรรค์พิรุณ ผู้อาวุโสชุดขาวคือขุนนางเทพคนที่สองนอกจากขุนนางเทพฉิงซวง ขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้อาวุโสของพันธมิตรเซียน มีพลังเพียงด้อยกว่าจงซวนเท่านั้น!

อีกด้านหนึ่ง ร่างมายาเคลื่อนตัวผ่านดวงดาว แม้จะดูเชื่องช้าแต่ความจริงข้ามผ่านระยะทางที่มิอาจวัดได้เพียงก้าวเดียว เขาคือวิญญาณดั้งเดิมของจักรพรรดิวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

มีอีกสองคนกำลังเข้ามาหาดินแดนวิญญาณปิศาจ! สองคนนี้คือชายชราจากดินแดนฟ้ากระจ่างและ…มู่ปิงเหมย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version