Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1108

Cover Renegade Immortal 1

1108. กลิ่นอายแห่งแดนสวรรค์โบราณ

มองดูไกลๆจึงเหมือนหวังหลินถูกสายหมอกโลหิตกลืนกินเข้าไป ทุกอย่างสงบนิ่งลง อสูรยุงยินไปรอบๆพร้อมกับพรรคพวกอย่างใจจดใจจ่อ มันมองก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป เนื่องจากไม่ใช่สิ่งที่มันจะต้านทานได้ตอนนี้

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เหล่ายุงกระวนกระวายใจจนพุ่งเข้าหาก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ แต่เสียงคำรามคะนองโผล่ออกมาจากข้างในหมอกสีแดง!

สายฟ้าแปลบปลาบ ทะเลเพลิงโหมกระหน่ำ ร่างสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากหมอกโลหิต มันคือหวังหลิน!

หวังหลินหน้าซีดแต่ก็พุ่งออกมาพร้อมด้วยจิตสังหาร และมุ่งตรงไปหาก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ ก้าวข้ามผ่านระยะหมื่นฟุตในพริบตา พุ่งเข้าใส่ก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์!

วินาทีนั้นหวังหลินสัมผัสถึงอำนาจแห่งสวรรค์ ผลักสองแขนไปเบื้องหน้า เปลวเพลิงและสายฟ้าไขว้กันนก่อเกิดเป็นกลิ่นอายทำลายล้างสะเทือนสวรรค์

สายฟ้าและเปลวเพลิงปะทะเข้าด้วยกันปรากฏเสียงดังคะนอง ก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ไร้ขอบเขตหดเล็กลงในทันที

เปลวเพลิงสายฟ้าเต็มไปทั่วก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ ผลกระทบอันรุนแรงได้ทำให้ก้อนเมฆหดเล็กลงอย่างรวดเร็วและส่งเสียงคำรามออกมาจากภายใน

เพียงเสี้ยววินาที หมู่มวลก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์เริ่มแตกสลายเนื่องจากเสียงดังกึกก้องรุนแรง ราวกับมีมือยักษ์คู่นึงฉีกกระชากก้อนเมฆขึ้นไป หวังหลินสัมผัสถึงแรงกระชากได้อย่างชัดเจนดุจกำลังฉีกร่างเนื้อให้กลายเป็นเศษละอองจนหวังหลินต้องหรี่ตาแคบ

หวังหลินถูกก้อนเมฆห่อหุ้มเอาไว้แต่เขากลับเห็นรอยแยกอวกาศขนาดร้อยฟุตห่างออกไปไม่ไกล!

หมอกหนาแน่นผุดออกมาจากรอยแยกราวกับรอยแยกนี้คือต้นตอของทัณฑ์สวรรค์

หวังหลินลังเลเล็กน้อย มองเข้าไปในรอยแยกอวกาศนั้นและพุ่งเข้าหา วินาทีต่อมาหวังหลินก็ปรากฏตัวอยู่ด้านข้าง เรื่องน่าประหลาดก็คือเขาไม่รู้สึกถึงพลังฉีกกระชากยามที่อยู่ใกล้รอยแยกเลย นี่ยิ่งทำให้หวังหลินระมัดระวังขึ้น

หวังหลินกัดฟันแน่น ส่งเสี้ยวสัมผัสวิญญาณเข้าไปในรอยร้าวแห่งนั้น เมื่อสัมผัสวิญญาณเข้าไป ร่างกายหวังหลินสั่นสะท้านรุนแรง

เขาได้เห็นโลกใบใหม่ข้างในรอยร้าว!

สถานที่ที่มีท้องฟ้าสีคราม ท้องทะเลที่เต็มไปด้วยปราณสวรรค์ พื้นดินไร้ขอบเขตสุดลูกหูลูกตาแต่หวังหลินพลันเห็นรูปปั้นยักษ์ตนหนึ่งนพื้น

รูปปั้นยักษ์ตนนี้คือเทพโบราณ! เป็นเทพโบราณแปดดาว สองในแปดถูกผนึกเอาไว้แต่เขาก็ยืนอยู่ที่นี่ไร้การเคลื่อนไหวราวกับตายไปแล้ว

ทว่าหวังหลินพลันสัมผัสถึงพลังชีวิตอันทรงพลังออกมาจากเทพโบราณตนนั้นได้

หากแค่นั้นมันคงไม่ทำให้หวังหลินตกตะลึงพอนัก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เห็นแค่เทพโบราณตนเดียว บนพื้นมีเทพโบราณไม่น้อยกว่าสิบตน ทั้งยังพวกมารโบราณและปิศาจโบราณเกือบๆร้อยตนด้วย!!

บนยอดของหมู่มวลปิศาจโบราณตนหนึ่งมีชายหนุ่มนั่งอยู่ ในมือมีกระจก ขมวดคิ้วและคาดคำนวณ

“ทางเข้าทัณฑ์สวรรค์ที่อาจารย์ลุงหม่ากล่าวถึงน่าจะอยู่ตรงนี้…”

ชั่วขณะนี้เองชายหนุ่มพลันเงยศีรษะมองขึ้นไป ดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขามองท้องฟ้าและพบกับสัมผัสวิญญาณของหวังหลินเข้าโดยบังเอิญ ดวงตาส่องสว่างขึ้น ลำแสงสีดำยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า

หวังหลินตัดเสี้ยวสัมผัสวิญญาณออกไปโดยไม่ลังเล พลันพุ่งออกมาเคลื่อนผ่านเปลวเพลิงและสายฟ้าภายในก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ในทันที ทั้งยังพุ่งออกไปจากก้อนเมฆมุ่งหน้าหาพวกอสูรยุง

ตอนที่เขาก้าวออกมาจากก้อนเมฆสัมผัสวิญญาณ หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนไปและรู้สึกว่าร่องรอยสัมผัสวิญญาณของเขาถูกทำลาย หวังหลินไม่มีเวลาคิดอะไรมากก่อนจะโบกแขนดึงอสูรยุงทั้งหมดกลับเข้าไปในมิติเก็บของ อีกทั้งนำยันต์เซียนสีเหลืองออกมาจากแผ่นหลังเจ้ายุง

หวังหลินทำทั้งหมดนี้โดยไม่มีหยุดชะงัก จากนั้นวางยันต์เซียนสีเหลืองบนร่างกายตนเอง สายลมห่อหุ้มรอบตัวเขา เพิ่มความเร็วขึ้นมหาศาลและลอยออกไป

หลังจากนั้นไม่นานหวังหลินก็ทิ้งก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ให้ส่งเสียงดังคะนอง ก้อนเมฆหดตัวลงจนกระทั่งดูเหมือนจะหายวับไปแล้ว

แต่หากมองดูใกล้ๆก็จะเห็นได้ว่าก้อนเมฆนั้นไม่ได้หายไป มันควบแน่นกลายเป็นลำแสงสีดำแกมเขียว

ชั่วขณะแสงสีเขียวแกมดำปรากฏ กลิ่นอายหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นของโลกนี้พลันปรากฏขึ้นมา เกิดความโดดเดี่ยวเนื่องจากทัณฑ์สวรรค์ได้หายไปแล้ว

“…ข้าบังเอิญไปช่วยสลายทัณฑ์สวรรค์รูปแบบที่สี่อันทรงพลัง…ช่างเถอะ ในที่สุดข้าก็สามารถหนีจากสถานที่บัดซบนั่นได้เสียดี การช่วยเขาก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว” น้ำเสียงตื่นเต้นดังออกมาจากแสงสีดำแกมเขียว จากนั้นมันก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

ณ จังหวะนั้นในพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของดาราจักรพันธมิตรเซียน ชายชราผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนทุ่งหญ้าธรรมดาบนดาวเคราะห์เซียน เขาสวมชุดสีดำท่าทีสงบนิ่งราวกับไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนแปลงความสงบนิ่งลงได้

หากหวังหลินอยู่ที่นี่คงจำได้ทันทีว่าชายชราคนนี้เป็นคนที่หยุดการต่อสู้ระหว่างฉิงชุ่ยและบรรพชนตระกูลเหยาแห่งฝ่ายทุกชั้นฟ้า!

เขามองทุ่งหญ้าสีเขียวด้านข้างด้วยสายตาสงบนิ่ง ภายใต้สายตานั้นทุ่งหญ้าเริ่มเรืองแสงประหลาด มันเปลี่ยนกลายเป็นหญ้าแห้งเหี่ยวในพริบตา จากนั้นเปลี่ยนกลับเป็นบานสะพรั่ง โคจรแบบนี้ไปไม่มีที่สิ้นสุด

เขายกแขนขวาขึ้นมาและกำลังจะหยิบใบหญ้า ทว่าแขนขวาพลันสั่นเทา ไม่เชื่อสายตาตัวเอง

หากปรมาจารย์จงเฉินมาเห็นท่าทางของชายชราเขาก็คงตกตะลึงมากมาย คนที่เขาเคารพผู้นี้มักจะสงบนิ่งมาเสมอและไม่เคยเผยท่าทีเช่นนี้มาก่อน

ชายชราโบกแขนเสื้อ ร่างกายโปร่งแสงก่อนจะหายวับไป ไม่มีใครรู้ว่าเขาระดับบ่มเพาะเช่นไรหรือใช้วิชาอะไร แต่เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้งพลันอยู่ตรงตำแหน่งที่หวังหลินเจอกับทัณฑ์สวรรค์!

ระยะทางที่เขาข้ามผ่านถือว่ากว้างใหญ่ไพศาล แม้แต่บิดมิติก็ไม่สามารถเคลื่อนมาได้ขนาดนี้ในครั้งเดียว!

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับชายชราอย่างยิ่ง เขาขมวดคิ้วมองไปรอบๆจนกระทั่งสายตามองเข้าไปในความว่างเปล่าห่างออกไปพันฟุต

ซึ่งเคยเป็นที่ที่แสงสีดำแกมเขียวปรากฏ!

‘เศษเสี้ยวกลิ่นอายแดนสวรรค์โบราณ…’ ชายชราขบคิดเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาและจากไป

ส่วนหวังหลินพลันกลับเข้าไปในพื้นที่ที่สำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ควบคุมอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงชะลอตัวลงได้ เขานึกถึงฉากเหตุการณ์ที่พึ่งเห็นโดยเฉพาะชายหนุ่มที่ทำให้เขาตกตะลึงมหาศาล

‘เขาเป็นใคร…’ หวังหลินเผยแววตาหวาดกลัวพร้อมกับมองไปบนท้องฟ้ามืดด้านหลัง พลางยกเท้าปรากฏระลอกคลื่นก่อนจะหายตัวไป หวังหลินปรากฏตัวอีกครั้งด้านนอกสำนักวิหคเพลิงเรียบร้อย

เขาไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ดวงดาวที่กำลังเผาไหม้แต่เลือกดาวเคราะห์ร้างดวงนึง ชี้ใส่ภูเขาบนดาวนั้นและนั่งลง

หลังจากนั่งลงจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกลัว ผ่านไปสักพักหวังหลินจึงระงับอารมณ์มากมายของตนเองเอาไว้ แขนขวายื่นเข้าหาความว่างเปล่าปรากฏรอยแรก้าวขึ้นมาทันที วิญญาณดั้งเดิมของหนึ่งในผู้อาวุโสชุดม่วงปรากฏขึ้นในมือ

หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณออกไปเข้าหาศีรษะที่ไร้สติของวิญญาณดวงนั้น ในไม่นานความทรงจำนวนมากมายก็ถูกแยกออกมา

‘ดาราจักรทะเลเมฆาแห่งแดนสวรรค์วายุ!!!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ขบคิดเล็กน้อยพลันปรากฏความสุขขึ้น!

‘ดาราจักรทะเลเมฆา…’ ขบคิดอีกครั้งพลางสำรวจความทรงจำของวิญญาณนั้นให้มากขึ้นเพื่อหาเส้นทางในการเข้าสู่ดาราจักรทะเลเมฆา

ผ่านไปสิบห้านาทีหวังหลินจึงถอนสัมผัสวิญญาณออกมาและเผยรอยยิ้ม

‘โครงสร้างของดาราจักรทะเลเมฆานั้นแตกต่างจากพันธมิตรเซียนและทุกชั้นฟ้า ทั้งยังเหมาะสมกับข้าเป็นอย่างดี…รวมไปถึงแดนสวรรค์วายุนั้นเต็มไปด้วยพวกอสูรยุงเสียด้วย…ข้าไม่คิดว่าม่านพลังรอบทะเลเมฆาจะอ่อนแอที่สุดในสี่ดาราจักร เพียงแค่ค่ายกลพิเศษก็ทะลวงผ่านไปได้แล้ว’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างพร้อมกับมองวิญญาณดั้งเดิมในมือและเก็บใส่มิติเก็บของอย่างระมัดระวัง

‘ข้าสามารถใช้วิญญาณดั้งเดิมดวงนี้เป็นตัวนำทางด้วยวิชาของศิษย์พี่ฉิงชุ่ย ตอนนี้ข้าขาดเพียงค่ายกล น่าเสียดายที่วัตถุดิบจำเป็นสำหรับค่ายกลนี้หายากเกินไป ข้าจำเป็นต้องเข้าใจค่ายกลจนสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ หากทุกอย่างที่ข้าเตรียมการไว้สำหรับต้าเสินมีไม่เพียงพอ ดาราจักรทะเลเมฆาคือตัวเลือกสุดท้ายของข้า!’

หวังหลินขบคิดก่อนจะยืนขึ้นสูดหายใจลึก มองสำนักวิหคเพลิงและพึมพำ “ตอนนี้ข้าแค่รอให้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนเก่ากลับมาพร้อมกับผลึกแดนสวรรค์พิรุณ…ฝ่ายทุกชั้นฟ้า สำนักซากศพและกองกำลังพันธมิตรเซียนทั้งหมดต่างก็คาดเดาว่าที่ข้าส่งหินหยกออกไปเพื่อหาผลประโยชน์ในความวุ่นวาย…”

“ความจริงทั้งหมดนั้นคาดเดาถูกเพียงครึ่งเดียว เป้าหมายอีกอย่างของข้าคือนำพวกเขาทั้งหมดไปสู่ดินแดนเทพโบราณจนไม่มีใครมาก่อกวนแผนการช่วยเหลือจักรพรรดิมังกรฟ้าของข้าในแดนสวรรค์พิรุณได้!”

“สงสัยจริงว่าจะมีกี่คนที่มองแผนการข้าออก!” หวังหลินเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ พลางเคลื่อนเข้าหาสำนักวิหคเพลิง

เขากำลังจะไปเจอหวังเว่ยและฮู่จวน รวมไปถึงมารโบราณต้าเจียที่ถูกสมบัติศักดิ์สิทธิ์ผนึกเอาไว้

วินาทีนั้นเกิดเรื่องสั่นสะเทือนฟ้าดินขึ้นในกองบัญชาการพันธมิตรเซียนที่อยู่ใจกลางดาราจักร แม้กระทั่งค่ายกลด้านนอกยังสั่นสะเทือนรุนแรงราวกับกำลังล่มสลาย!

ขณะเดียวกัน ลึกเข้าไปภายในพื้นที่ดวงดาวบนก้อนหินสีขาวที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนเก่านั่งอยู่ เขาพลันลืมตาขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาก็ระเบิดกลายเป็นน้ำพุโลหิต

“หวังหลิน รีบมาเจอข้าเร็ว!!”

——-

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version