Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1158

Cover Renegade Immortal 1

1158. ผลัดเปลี่ยนกระดูก

หนึ่งในสองผู้อาวุโสเอ่ยอย่างกังวล “หากเป็นแค่อสูรระดับเจ็ดตัวเดียวก็คงดี…ข้ากลัวว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อสูรระดับแปดที่สามารถต่อสู้กับเซียนขั้นชำระสวรรค์ระดับสูงได้อาจจะปรากฏขึ้น และหากเป็นอสูรระดับเก้าคงไม่ต่างอะไรกับเซียนขั้นทลายสวรรค์…เมื่อนั้นแผ่นดินโม่หลัวของเราคงตกอยู่ในความโกลาหลแน่!”

ลี่เซียงตงขบคิดและเอ่ยขึ้น “ข้าไม่คิดเช่นนั้น แผ่นดินแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนเขตระดับสี่ มันไม่น่าจะมีอสูรทรงพลังใดอยู่รอบๆ…”

“ข้าก็หวังแบบนั้น…” ชายชราส่ายศีรษะและเผยใบหน้าขมขื่นก่อนจะมองหลิวหยานเฟย ตอนนี้ทั้งสามคนไม่รู้ว่าทำไมหลิวหยานเฟยถึงหยุดไม่ให้ไปตรวรจสอบ

หลิวหยานเฟยไม่ได้อธิบาย นางเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและพุ่งลงไป ทั้งสามคนมองหน้ากันเองพลางติดตามไปติดๆ เมื่อเข้ามาใกล้พื้นดินพลันมีแสงกะพริบและพวกเขาเจาะเข้าไปในพื้น

ใต้พื้นดินนั้นขณะที่ทั้งสี่คนค่อยๆลงไป เสียงคำรามก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เนื่องด้วยอยู่ใกล้เสียงมากขึ้นไม่เพียงแต่จิตใจจะสั่นเทา ร่างกายก็สั่นไปด้วย

ความผันผวนอันน่าหวาดกลัวออกมาจากส่วนลึกทำให้เกิดแรงกดดันถึงในวิญญาณ ราวกับมันคือตัวตนอันน่าหวาดกลัวสั่นสะเทือนโลกและเบื้องหน้ามันพวกเขาสามคนเป็นแค่มดแมลง!

ความรู้สึกชัดเจนนี้ทำให้พวกเขาหยุดและเผยสีหน้าเคร่งเครียดทันที มีเพียงหลิวหยานเฟยดวงตาส่องสว่าง กัดริมฝีปากแต่ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่

“นี่มันตัวบัดซบอะไรกัน? ถึงกับส่งแรงกดดันแบบนี้!”

“ความผันผวนนี้ไม่น่าจะเป็นสมบัติ!”

ทั้งสามคนระมัดระวังตัวมากที่สุด หลังจากลังเลเล็กน้อยลี่เซียงตงกัดฟันแน่นและนำทาง เขาต้องการเห็นว่าข้างล่างนั่นคืออะไรกันแน่!

ยิ่งลงไปลึกขึ้นก็ยิ่งมีแรงกดดันมากขึ้น เสียงคำรามอึกทึกจนพวกเขาสั่นสะท้าน แรงกดดันนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับจุดจบของโลก

ทั้งสี่คนเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อยๆ แรงกดดันโผล่ออกมาจากใต้ดินไม่มีที่สิ้นสุดทั้งยังแฝงความบ้าคลั่ง วินาทีที่พวกเขารู้สึกมันจึงสั่นสะท้านทันที

“ข้าขอแนะว่าเราจากไปกันเถอะ” หลิวหยานเฟยที่เงียบมาตลอดมา เป็นครั้งแรกที่นางส่งข้อความให้พวกเขา

ที่เหลือสามคนคิดอยู่เงียบๆ ลี่เซียงตงดวงตาส่องสว่าง “ข้าขอปฏิเสธการจากไปหากไม่รู้ว่าข้างล่างมันคืออะไร!” เช่นนั้นเขาก็ลงไปลึกขึ้นทันที

สองผู้อาวุโสลังเลเล็กน้อยก่อนจะติดตาม หลิวหยานเฟยถอนหายใจและตามไปด้วย ขณะที่ทั้งสี่คนลงไปลึกขึ้น ต้นตอของเสียงก็ยิ่งใกล้ขึ้น

วินาทีนั้นเสียงคำรามแข็งแกร่งยิ่งกว่าสายฟ้า จากตำแหน่งปัจจุบันของแต่ละคนได้ยินต้นกำเนิดเสียงอย่างชัดเจน เสียงแตกร้าวสั่นสะเทือนสรวงสวรรค์

เสียงนี้คือเสียงกระดูกแตกหัก ซึ่งทำให้ทั้งหมดรู้สึกเสียวกระดูกในร่างตัวเอง

อย่างไรก็ตามขณะที่ทั้งสี่คนเข้าไปใกล้และกำลังจะเข้าไปถึงต้นตอ สัมผัสวิญญาณบ้าคลั่งกวาดผ่านมา

“ออกไปจากที่นี่ซะ!!!”

สัมผัสวิญญาณทรงพลังยิ่งและกระแทกเข้าหาพวกเขาดุจพายุ ลี่เซียงตงอยู่ใกล้ที่สุดจึงกระเด็นกระดอนออกมาโดยตรง ร่างกายสั่นเทาและกระอักโลหิตเกิดเสียงปะทุขึ้นในร่าง เขาถอยไปโดยไม่ลังเล แววตาหวาดกลัวถึงขีดสุด

ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่ผู้อาวุโสอีกสองคนร่างกายสั่นเทาพลางกระอักโลหิตและถอยทันที ความคิดแต่ละคนสั่นไหว แววตาหวาดกลัวและสุดสยอง

แม้แต่ร่างหลิวหยานเฟยยังสั่นเทา โลหิตผุดออกมาจากมุมปาก ทว่าแววตานางส่องประกายเพราะเสียงนี้ยืนยันข้อสงสัยในใจนาง

“ผู้อาวุโสคนใดบ่มเพาะที่นี่ ผู้น้อยคือศิษย์แห่งสำนักต้นกำเนิด ลี่…” ลี่เซียงตงคำนับฝ่ามือพลางถอยและพยายามเอ่ยปาก

“ไปซะ!!” สัมผัสวิญญาณแพร่กระจายออกไปอีกครั้งแต่รุนแรงและบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า สัมผัสวิญญาณก่อเกิดพายุจนแผ่นดินโม่หลัวต้องสั่นเทา

พลังอำนาจโผล่ออกมาจากส่วนลึกและพุ่งเข้าหาทั้งสี่คน ร่างลี่เซียงตงสั่นเทาและกระอักโลหิตอีก ภายใต้ผลกระทบของพลังสายนี้พวกเขาถูกผลักกลับไปเป็นเส้นตรงราวกับมีพลังเหนือจินตนาการกำลังผลักดัน พื้นดินสั่นคลอนก่อนที่ทั้งสี่จะถูกโยนออกมาจากพื้น

ขณะที่ทะลุขึ้นมาบนพื้นดินและลอยอยู่ในอากาศ พลันเกิดเสียงคำรามอีกครา สองผู้อาวุโสถูกโยนออกมาจากพื้นดิน ทั้งคู่กระอักโลหิตและตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ หลิวหยานเฟยก็เช่นเดียวกัน

สี่คนยืนอยู่กลางอากาศด้วยสายตาหวาดกลัว มองหน้ากันด้วยจิตใจสั่นเทา หลิวหยานเฟยสูดหายใจลึก นางปาดโลหิตจากมุมปากแล้วค่อยๆเอ่ยขึ้นมา “ข้าบอกพวกท่านแล้วไม่ให้เข้าไป! โชคดีที่ถึงแม้ท่านอาจารย์ลุงจะโกรธเกรี้ยวเขาก็ไม่ได้ทำร้ายเราสาหัสนัก”

“อาจารย์ลุง?” ทั้งสามคนซีดเผือด สัมผัสวิญญาณอันบ้าคลั่งนั้นยังคงประทับตราตรึงในจิตใจ ขณะที่กำลังคิดว่าเหตุการณ์เมื่อครู่น่าตระหนกแค่ไหนแต่คำพูดของหลิวหยานเฟยก็ทำให้ตกตะลึงไปด้วย

หลิวหยานเฟยขบคิดและเอ่ยขึ้นเบาๆ “อาจารย์ลุงหลิวจื่อฮ่าว พวกท่านควรจะต้องได้ยินชื่อเขา”

ลึกลงไปใต้ผืนดินตอนนี้ ร่างสูงสามพันฟุตของหวังหลิน กระดูกเกือบทั้งหมดแตกสลายไปแล้ว เหลือแต่เศษขี้เถ้ารูปร่างคนผู้หนึ่งแต่ยังมีเสียงคำรามดังลั่นออกมา

กะโหลกส่วนใหญ่แตกสลายไปและกำลังพังทลายอย่างต่อเนื่อง ความเจ็บปวดแบบนี้ไม่อาจอธิบายออกมาได้ มันกำลังเผาไหม้ความคิดจิตใจของทั้งร่างดั้งเดิมและร่างอวตาร

วินาทีนั้นเสียงแตกดังออกมาจากซีกครึ่งกะโหลกที่เหลือและแตกออกไปมากขึ้นอีก มันพังทลายอย่างต่อเนื่อง กะโหลกหดเล็กลงจนเหลือเพียงแค่ฝ่ามือมนุษย์เท่านั้น

มันคือเศษกระดูกที่เล็กน้อยจริงๆสำหรับเทพโบราณขนาดสามพันฟุตแต่หวังหลินยังคงอดทนถึงแม้ทุกข์นี้จะทำให้เขาบ้าคลั่งไปก็ตาม!

เสียงดังสนั่นดำเนินต่อไป

กระดูกขนาดเท่าฝ่ามือเริ่มแตกสลาย เล็กลงเรื่อยๆจนเหลือขนาดเพียงแค่เล็บก้อย แต่ถึงจะเป็นผลของการแตกสลาย มันถือว่าสลายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

ช่วงเวลาดูเหมือนถูกหยุด กระดูกแตกหักเปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าและเริ่มสลาย วินาทีนั้นร่างอวตารของหวังหลินพลันลืมตาขึ้นมาและยกแขนขวา!

“หยุด!”

เพียงเอ่ยคำเดียว ร่างอวตารสั่นเทาทันที เสียงดังสนั่นออกมาจากร่างกายพลางกระอักโลหิตและถูกกระเด็นกลับไป ขณะเดียวกันขี้เถ้าที่แตกสลายหยุดไว้ได้ชั่วพริบตา!

หลังจากนั้นกลิ่นอายเทพโบราณจึงแพร่กระจายอย่างรุนแรง พลังดั้งเดิมด้านนอกแผ่นดินโม่หลัวพุ่งเข้ามาเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้ทันที

เสียงคำรามเงียบเจาะถึงวิญญาณดังสะท้อนอยู่ใต้ดิน มันรั่วไหลและสะท้อนเข้าสู่หูของคนธรรมดา เซียนและสิ่งมีชีวิตบนแผ่นดิน

เสียงคำรามแฝงความต้องการฝืนลิขิต ร่างอวตารหวังหลินทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสกับผลสะท้อนกลับของวิชายับยั้งเพื่อสร้างโอกาสให้ร่างดั้งเดิมอยู่รอด!

ขี้เถ้าที่กำลังแตกสลายเริ่มควบแน่นด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ ก่อตัวเป็นเศษกระดูกขนาดเท่าเล็บก้อย!

เนื่องด้วยกระบวนการย้อนทวนนี้ พลังดั้งเดิมของแผ่นดินจึงผสมผสานภายในกระดูกด้วย กระดูกที่สร้างขึ้นมาใหม่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากระดูกของร่างดั้งเดิมก่อนหน้านี้!

กระดูกขนาดเท่าเล็บก้อยเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนมียาวเจ็ดนิ้ว มันมีพลังดั้งเดิมของแผ่นดินโม่หลัวเก็บไว้ได้เป็นอย่างดี

กระดูกยังคงเติบโตขึ้นและก่อตัวเป็นกะโหลกทรงโค้งขนาดประมาณห้าฟุต บนกระดูกมีแสงสีดำปะทุออกมาซึ่งมันคือหายนะกระดูกที่กำลังบดขยี้กระดูกเทพโบราณ หายนะกระดูกนั้นทำลายกระดูกอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันร่างดั้งเดิมก็สร้างกระดูกขึ้นมาใหม่ วงโคจรนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งการสร้างกระดูกของร่างดั้งเดิมบรรลุถึงขีดสูงสุด

เสียงคำรามเงียบระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับกะโหลกขนาดห้าฟุตเริ่มเติบโต กระทั่งในที่สุดพลังดั้งเดิมทั้งหมดบนแผ่นดินโม่หลัวถูกดูดซับไม่เหลืออะไรไว้เลย

นาทีนี้กระดูกของหวังหลินจึงสร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ แสงสีแดงส่องประกายออกมาจากเบ้าตาเผยเป็นความต้องการไม่ยอมแพ้!

“ข้าคือเทพโบราณที่กล้าต่อสู้สวรรค์ แค่หายนะกระดูกไม่สามารถทำลายข้าได้!” แสงสีแดงจากดวงตาร่างดั้งเดิมส่องประกาย ลำคอเริ่มก่อตัว ขณะเดียวกันพลังดั้งเดิมถูกรวบรวมมาจากด้านนอกแผ่นดินโม่หลัวเข้าหาม่านพลังป้องกัน

ม่านพลังป้องกันแตกสลายดุจกระดาษบางๆ

พลังดั้งเดิมทรงพลังเข้ามาเปลี่ยนกลายเป็นพายุพุ่งใส่สำนักต้นกำเนิด เซียนทั้งหมดในสำนักอพยพไปกันแล้ว พวกเขากำลังจ้องมองพายุพลังดั้งเดิมที่กำลังพุ่งใส่ใต้พื้นดิน

ม่านพลังที่แตกสลายและพลังดั้งเดิมอันพรั่งพรูได้ทำให้อสูรดุร้ายด้านนอกเข้ามา อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกมันจะได้กระจายตัวไปไหนกลับถูกดึงเข้าไปในสำนักต้นกำเนิดด้วยพลังดึงดูด

ท้องฟ้าถูกห่อหุ้มด้วยสายหมอกดุจคลื่นน้ำเข้าไปในพื้นดิน

อสูรดุร้ายด้านนอกคล้ายหวาดกลัว ทั้งหมดถอยร่นและไม่กล้าเข้าใกล้

พลังดั้งเดิมมหาศาลและสายหมอกถูกหวังหลินดูดซับอย่างรวดเร็ว เสียงดังสนั่นดำเนินต่อไปพร้อมกับกระดูกหวังหลินสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ กระดูกที่ก่อขึ้นมาใหม่เผชิญหน้ากับหายนะกระดูกไปด้วย

ไม่เพียงแค่กะโหลกและลำคอปรากฏขึ้นมา ร่างกายส่วนบนหวังหลินถูกสร้างขึ้นมาใหม่แล้ว!

แม้หายนะกระดูกจะแข็งแกร่ง มันได้ถูกบังคับให้ถอยร่นจากความต้องการฝืนลิขิตของหวังหลินและการดิ้นรนแบบไม่กลัวตาย หายนะกระดูกไม่สามารถหยุดการฟื้นฟูกระดูกได้เลย!

พลังดั้งเดิมและสายหมอกทั้งหมดภายในระยะห้าสิบลี้ของแผ่นดินโม่หลัวถูกดึงดูดเข้าไป มองไกลๆมันเหมือนวังวนขนาดยักษ์และมีสำนักต้นกำเนิดอยู่ใจกลางวังวน

แม้กระทั่งเจ้าอสูรคล้ายสิงโตตัวยักษ์คลุมร่างด้วยหนามยังเคลื่อนหาแผ่นดินโม่หลัวด้วยสายตาโลภมาก ไม่มีอสูรดุร้ายตัวไหนกล้าเข้าใกล้มันในเมื่อมันมีกลิ่นอายของอสูรระดับแปดแพร่กระจายออกมา

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version