Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1215

Cover Renegade Immortal 1

1215. รสชาติและความคาดหมายอันสวยงาม

ขณะที่โลกล่มสลาย หวังหลินยังคงคุกเข่าอยู่ตรงนั้นราวกับว่าการล่มสลายไม่ได้ทำให้เขาสนใจอะไรเลย เสียงดังกึกก้องอยู่นานก่อนที่หวังหลินจะยกศีรษะขึ้นมา หยาดน้ำตายังคงไหลลงสองแก้มแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความชัดเจน

“ที่นี่คือดินแดนเจ็ดสี…เจ้าบังคับข้าให้นึกถึงอดีตอันเจ็บปวด ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!” หวังหลินเอ่ยเสียงต่ำ แต่ละคำแฝงจิตสังหารอันแรงกล้า

น้ำเสียงกึกก้องสั่นสะเทือนรุนแรง ท้องฟ้าฉีกขาดและไม่มีฟ้าสีครามอยู่ตรงนั้นอีกแล้วแต่กลับเป็นดินแดนเจ็ดสีแทน!

พื้นดินสั่นสะเทือนและพังทลายทีละชั้น ในที่สุดมันก็กลายเป็นซากปรักหักพังที่ถูกเพลิงเผาไหม้ กลายเป็นพื้นดินของดินแดนเจ็ดสี!

หน้าอกชายชราผมขาวถูกย้อมด้วยโลหิตและยังมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก ดวงตาเขาพร่ามัวและไม่เชื่อสายตาตัวเอง! ความจริงตอนที่เขาเห็นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าในความทรงจำของหวังหลิน วิชาเต๋าของเขาก็พังทลาย พลังชีวิตแตกดับไปแล้ว สิ่งที่เขารู้สึกเหมือนสายฟ้านับล้านสายระเบิดอยู่ในหู เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

จากนั้นตอนที่วิชาเต๋ากำลังพังทลาย เขาเห็นขอบเขตจวี่ของหวังหลินกำลังถือกำเนิดขึ้นมา นี่ทำให้เขากระอักโลหิตและอ่อนแอยิ่งยวด เขาแทบหมดความคิดในจังหวะนั้น นี่มันกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างวิชาเต๋าของเขาและขอบเขตจวี่ วิชาเต๋ากับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เขาไม่มีโอกาสชนะ!

หวังหลินเงยศีรษะขึ้น และวินาทีที่เขาเอ่ยวาจาเต็มไปด้วยจิตสังหารออกไป เขาก็พุ่งออกมาดุจสายฟ้าเข้าหาชายชรา ดัชนีทำเป็นรูปกระบี่และชี้ตรงไปยังกลางหน้าผากอีกฝ่าย!

ร่างชายชราสั่นเทา โลหิตสาดกระเซ็นจากหลังศีรษะพร้อมกับกะโหลกแตกกระจาย หวังหลินไม่หยุดแค่นั้นและชี้ใส่ทีเดียวหกครั้งรวด!

พื้นดินสั่นสะเทือนพร้อมกับเสียงดังปะทุ สองแขนชายชราแตกสลาย สองขาย่อยยับ และพริบตาเดียวร่างกายเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นหมอกโลหิต

ข้างในสายหมอก วิญญาณดั้งเดิมของชายชราส่งเสียงกรีดร้อง แสงเจ็ดสีล้อมรอบพร้อมกับหลบหนีออกไปไกล

หวังหลินไล่ตามหลังด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม เขาชี้ใส่ชายชราไปด้วย ทุกครั้งจะทำให้แสงเจ็ดสีสั่นเทา วิญญาณชายชราส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนและอ่อนแอลงเรื่อยๆ

เขาไล่ตามด้านหลังจนเข้าประชิดได้ นานมากแล้วที่เขาต้องการจะฆ่าใครสักคนมากขนาดนี้ คนที่ทำให้เขานึกถึงความทรงจำที่เลยเส้นกั้นไปจะต้องตาย!

ชายชราห่อหุ้มด้วยแสงเจ็ดสีพุ่งไปหาภูเขา เขาตื่นตระหนกและกรีดร้องอยู่ในใจ

“ท่านราชันย์ช่วยข้าด้วย!! ท่านราชันย์ช่วยข้าด้วย!!”

“จงหยุดซะ!” แววตาหวังหลินบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม เขาสะบัดแขนขวาทันใดนั้นแสงเจ็ดสีหยุดกึก หวังหลินพุ่งเข้ามาหา สองนิ้วแทงทะลุผ่านแสงเจ็ดสีร่อนลงบนวิญญาณของชายชรา

ปัง!

วิญญาณชายชรากำลังแตกสลาย แต่เพราะเขาเป็นเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับปลาย เขาบาดเจ็บสาหัสแต่ไม่ตายพร้อมกับดิ้นรนหลบหนีอย่างรวดเร็ว

หวังหลินส่งเสียงคำรามใส่ท้องฟ้าพร้อมกับไล่ล่า เปลวเพลิงในตาซ้ายปรากฏขึ้นมา ผนึกสั่นเทาในที่สุดมันก็พังทลายเบื้องหน้าเพลิงสีฟ้า!

ผนึกสลายไปและหวังหลินถูกห่อหุ้มอยู่ในทะเลเพลิง เขาชี้ใส่และส่งเพลิงมหึมาพุ่งใส่แสงเจ็ดสีที่กำลังล้อมรอบวิญญาณอีกฝ่าย

เสียงกรีดร้องดังก้อง คราวนี้วิญญาณของชายชราอ่อนแอขั้นสุด แสงสี่ในเจ็ดสีรอบตัวเขาสูญหายไป

ทั้งสองคนเคลื่อนไหวเร็วมาก แต่ระยะห่างกำลังใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ!

ขณะนั้นเองอักขระสายฟ้าปรากฏขึ้นในตาขวา มันมีผนึกอยู่ด้วยแต่ดิ้นรนอยู่เพียงไม่กี่ลมหายใจก่อนที่จะพังทลายไป เมื่อไร้ผนึกแล้วสายฟ้าพลันพุ่งออกมาและเต้นระบำอยู่ในเปลวเพลิง!

ฟ้าคะนองสั่นสะเทือนฟ้าดิน ประกายสายฟ้าหวีดหวิวผ่านเปลวเพลิง ทั้งหมดพุ่งเข้าหาชายชราภายใต้คำสั่งของหวังหลิน!

พร้อมกันนั้นแสงที่เหลืออีกสามสีรอบชายชราจึงสลายกลายเป็นละอองแสง พอไร้แสงเจ็ดสีปกป้องแล้ว วิญญาณของชายชราจึงเผยตัวตนต่อเพลิงสีฟ้าและสายฟ้า!

“ไม่นะ!! ท่านราชันย์ช่วยข้าด้วย!!” ชายชราเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อความตาย เขาร่ำร้องออกมา!

ตอนนี้เขามาถึงภูเขาส่วนลึกภายในดินแดนเจ็ดสีแล้ว ทว่าขณะที่เขาเข้าไปใกล้ หวังหลินร้องคำรามยิงเพลิงสีฟ้าออกไปล้อมรอบวิญญาณเขาทันที

หากมองไกลๆไม่อาจมองเห็นร่างของชายชราได้และเห็นแต่เพียงทะเลเพลิงสีฟ้าเท่านั้น ส่วนสายฟ้ารวมตัวกันจากทุกทิศทางราวกับสายฟ้าทั้งหมดในโลกกำลังเข้ามารวมกันใส่วิญญาณเขา

เปลวเพลิงในโลกทั้งหมดรวมเข้าหาชายชราที่ถูกกักขังด้วยเช่นเดียวกัน

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา รวดเร็วเกินหยั่งถึง เพลิงทั้งหมดในโลกรวมกันที่จุดเดียวและสายฟ้าก็เช่นกัน ก่อตัวเป็นการโจมตีผสานของสายฟ้าและเปลวเพลิง

ทั้งสองโคจรเชื่อมต่อกัน หนึ่งคือทะเลเพลิงสีฟ้าและอีกหนึ่งคือสายฟ้าทั้งหมดในโลกหล้า วินาทีที่สองวงโคจรทับซ้อนกับเป็นจุดเดียว โลกถึงกับสั่นสะท้าน!

เสียงสั่นสะเทือนแห่งสวรรค์แทนที่ทุกเสียงในโลก ทำให้ดินแดนเจ็ดสีพังทลายมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม!

เสียงกรีดร้องแหลมและโหยหวนดังอยู่ภายใน เสาเพลิงสีฟ้าพุ่งตรงเข้าสู่ท้องฟ้าราวกับกำลังแทงใส่สรวงสวรรค์! สายฟ้านับไม่ถ้วนเติมเต็มอยู่ทั้งข้างในและข้างนอกเสาเพลิง ก่อตัวเป็นเสาสายฟ้าที่ทับซ้อนกับเสาเพลิงและยังทิ่มแทงสวรรค์อีกด้วย!

ฉากเหตุการณ์นี้สามารถมองเห็นได้จากทุกที่ภายในดินแดนเจ็ดสี!

ข้างในดินแดนเจ็ดสี เฉินเทียนจุนรู้สึกว่าสองหูตนเองกำลังจะพิการ ร่างกายสั่นเทา ดวงวิญญาณสั่นสะท้าน แรงสั่นผสมความหวาดกลัวเต็มไปทั่วร่าง ความรู้สึกนี้คงอยู่และไม่หายไปไหน

เขาจ้องมองเสาเพลิงและสายฟ้าไกลด้วยความตกตะลึง ลำคอแห้งผาก ใบหน้าซีดเซียว

‘สังหารเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับปลาย…ชื่อเขาจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในทะเลเมฆา ข้าเฉินเทียนจุนยินดีที่ได้เป็นพยานวิชาของเขาตอนนี้!’

หญิงชราชุดเขียวหน้าซีดอยู่ไกลๆ นางจ้องมองเสาสายฟ้าและเปลวเพลิงด้วยความหวาดกลัว รู้สึกได้ชัดเจนว่าไม่ว่าจะเป็นใครหนึ่งในสองคนนี้ นางคงตายโดยไม่ต้องสงสัย!

ความคิดสั่นสะท้านและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว โดยเฉพาะตอนที่นางคิดถึงเรื่องที่พวกเขาเป็นศัตรูได้อย่างไร นั่นยิ่งทำให้นางหวาดหวั่นมากไปอีก ไม่มีเซียนคนใดที่ไม่หวงแหนชีวิตตนเองและนางก็เช่นกัน

‘ข้าต้องทำดีกับเขาและขจัดข้อขัดแย้งที่มีมาก่อน ไม่เช่นนั้นเมื่อเขาเป็นศัตรูข้า จะไม่มีที่ทางให้ข้าอยู่ในทะเลเมฆา โชคดีที่ความขัดแย้งของเราไม่ได้ลึกล้ำนักและไม่ได้อาฆาตกันตรงๆ…’ นางสูดลมหายใจลึกและคิดขึ้นในใจ

ห่างออกไปไกล จ้าววิญญาณเมฆาเต็มไปด้วยความขมขื่น เขาสัมผัสการต่อสู้ได้เป็นอย่างดีและเกิดความรู้สึกซับซ้อนและตื่นตระหนกยิ่งขึ้น ความตื่นตระหนกนี้เหมือนเพลิงที่กำลังจะเผาไหม้จิตใจเขา

‘เขา…เขาแข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร?!’ แม้กระทั่งตอนนี้เองจ้าววิญญาณเมฆาก็ไม่อาจเชื่อได้และเกิดความกลัวเต็มไปทั่วจิตใจ ตั้งแต่ที่ถูกเคลื่อนย้ายมานี่เขาก็มีชีวิตอยู่ในความหวาดกลัว เขาเกลียดหวังหลินและต้องการกลืนกินเลือดเนื้อหวังหลินทั้งเป็น

แต่หลังจากเฝ้าดูการต่อสู้ เขาตกตะลึงและไม่อาจยอมรับความจริงข้อนี้ได้ ผ่านไปสักพักจ้าววิญญาณเมฆาจึงยิ้มอย่างทนทุกข์ แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารบ้าคลั่ง

‘เขาคงไม่ยอมปล่อยข้าไปแน่และต้องบาดเจ็บสาหัสหลังจากต่อสู้กับเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับปลายคนนั้น ข้าอาจจะยังมีโอกาส! หากเขาฟื้นฟูขึ้นมาได้ เมื่อนั้นข้าคงจะตายโดยไม่ต้องสงสัย แต่ถึงเขาจะบาดเจ็บสาหัส ข้าอาจจะยังมีโอกาสในการทุ่มสุดตัวต่อสู้กับเขา!’

‘เมื่อข้าฆ่าเขาได้ ทุกอย่างในดินแดนแห่งนี้จะกลายเป็นของข้า!’ จ้าววิญญาณเมฆาเกิดความคิดสั่นไหว ก่อนที่เขาจะเข้ามาดินแดนเจ็ดสี เขามั่นใจในการสังหารหวังหลิน ทว่าตอนนี้ถึงจะคิดว่าหวังหลินบาดเจ็บสาหัส เขายังรู้สึกเคร่งเครียดเหมือนกับเป็นคนธรรมดาที่อยากจะสังหารเทพเจ้า

แค่โอกาสนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้จ้าววิญญาณเมฆาหวาดกลัวหวังหลินโดยไม่รู้ตัวแล้ว เขากัดฟันแน่นและพุ่งไปข้างหน้า

เสาเพลิงและสายฟ้าค่อยๆหายไป วิญญาณของชายชราหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์ แม้หลังจากตายไป ราชันย์ที่เขาเรียกมาตลอดก็ไม่เคยปรากฏขึ้น

หวังหลินขบคิดมองภูเขาข้างหน้า หลังจากสายฟ้าและเปลวเพลิงหายไป เสียงทั้งหมดจึงหายวับ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากยอดเขา

เสียงร้องเจ็บปวดเหมือนเสียงคำรามของคนที่ไม่ยินยอมก่อนตาย แต่ยังไม่สามารถหนีพ้นโชคชะตาท้ายที่สุดไปได้

หวังหลินสัมผัสถึงอักขระต่อสู้ในร่างที่กำลังสั่นเทา ราวกับมีบางอย่างบนภูเขาที่ทำให้มันตื่นเต้น…ผ่านไปสักพัก หวังหลินยกเท้าและก้าวไปข้างหน้า

เขาไม่ได้เร็วนัก เดินไปบนภูเขาอย่างช้าๆจนกระทั่งมาถึงด้านนอกถ้ำ ยืนอยู่ตรงนี้ราวกับกำลังยืนอยู่เหนือสุดดินแดนเจ็ดสี เพียงแค่ชำเลืองก็ดูเหมือนจะเห็นทั้งดินแดนได้

จากตำแหน่งนี้ เสียงร่ำร้องดังออกมาจากถ้ำชัดเจนยิ่งขึ้น ราวกับมีคนนับไม่ถ้วนอยู่ข้างใน ทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด

ตอนนี้ในดาราจักรโบราณ ข้างในพระราชวัง เปลวเพลิงบนเทียนได้เผาไหม้ส่องสว่าง แขนเหี่ยวย่นค่อยๆถอนออกมา

“ความร้อนเพิ่มถึงอุณหภูมิที่พอเหมาะ…แต่เพลิงนี้ยังไม่ใช่แบบที่ถูกต้อง…เพราะมันยังไม่ได้เดือดถึงวิญญาณ…” น้ำเสียงเก่าแก่ค่อยๆดังออกมาจากด้านหลังเทียน

“สมาชิกเผ่าทำลายผนึกตายไปหนึ่ง เจ้ามีข้อสงสัยเรื่องการตายของเขาไหม?” น้ำเสียงไม่แยแสดังขึ้น

“ทำไมข้าจะต้องสงสัย…ข้าจะรู้คำตอบหลังจากบ่มเพาะเต๋าไปแล้ว นี่ยิ่งน่าสนใจขึ้น…สิ่งที่ไม่รู้เป็นรสชาติที่อัศจรรย์ที่สุด…การรอคอยคือความหวังอันยาวนาน เช่นนั้นจงปล่อยให้เปลวเพลิงโหมกระหน่ำไปเถิด…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version