1259. ประณามสำนักอมตะ ห้วงเวลา
ชายชราผมขาวถอยอย่างต่อเนื่องแต่แววตาเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้อันแรงกล้า สองฝ่ามือสร้างผนึกชี้ไปข้างหน้า ทุกครั้งที่ชี้จะมีเสียงดังสนั่นออกมาจากร่างกายและเริ่มต่อต้านพลังอำนาจของแยกราตรี
พลังอำนาจของชายชราช่างน่าตกตะลึงยิ่ง และแยกราตรีของหวังหลินก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ หลังจากชายชราถอยไปได้หมื่นฟุต พลังวิชาแยกราตรีจึงสลายไป
รัศมีสีแดงรอบตัวเขาดุจสีโลหิต ภาพรัศมีมายาสีแดงปรากฏขึ้นรอบตัวเขาและกลายเป็นขนาดยักษ์ส่องออกมารอบๆบริเวณ
“ในเมื่อเจ้ารับวิชาของข้าได้ ข้าก็จะรับวิชาของเจ้า!” ชายชราผมขาวใบหน้าเคร่งขรึม เขาไม่ปลดปล่อยกลิ่นอายเก่าแก่อีกแล้วแต่ปลดปล่อยระดับบ่มเพาะสั่นสะเทือน รัศมีสีแดงยิ่งแดงเถือกมากกว่าโลหิต พลันพุ่งออกไปข้างหน้าข้ามผ่านระยะหมื่นฟุตเข้าหาหวังหลินในพริบตา
หวังหลินมีท่าทางสงบนิ่ง หลังจากใช้แยกราตรีไปเขาไม่ได้มีพลังดั้งเดิมเหลืออยู่มาก ทว่าแววตาปลดปล่อยเจตนาต่อสู้รุนแรง ดวงดาวแห่งกฎตรงกลางหน้าผากกะพริบวูบวาบอย่างบ้าคลั่งและหมุนเร็วไว พลังดั้งเดิมของโลกเริ่มควบแน่นเข้าหาหวังหลิน
การที่เขาจะฆ่าคนในขั้นทะลวงสวรรค์ระดับแรกได้ถือเป็นเรื่องยากมาก มีเพียงการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บและปลดปล่อยผนึกระดับบ่มเพาะจนบรรลุขั้นทลายสวรรค์ออกมาเท่านั้นจึงจะพอมีโอกาส!
แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีสิ่งไหนจะเป็นไปได้
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง วินาทีที่ชายชราผมขาวประชิดเข้ามา เขาพลันยกแขนสะบัดขึ้น พลังแห่งอำนาจสายหนึ่งพรั่งพรูออกมาจากทะเลข้างใต้เขา
ขณะเดียวกันภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในใจหวังหลิน ในภาพนั้นคือประตูหินบานยักษ์บนมหาสมุทรไร้ขอบเขต มันตั้งตระหง่านปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณราวกับคงอยู่มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม!
ภาพนี้คือประตูในแดนสวรรค์วายุ!
ยามที่ภาพปรากฏขึ้นในใจเขา มันทับกับความคิดทั้งหมด เพียงแค่หวังหลินสะบัดแขน เขาก็ได้แสดงภาพนั้นสู่โลกภายนอกด้วยกรรมวิธีอันพิสดาร!
คลื่นทะเลโหมกระหน่ำ วังวนยักษ์ปรากฏขึ้นมา พื้นดินสั่นไหวกึกก้องพร้อมกับค่อยๆมีประตูหินยักษ์ผุดขึ้นจากทะเล วินาทีนั้นฉากนี้เป็นที่จดจำในใจเขา!
จังหวะที่ประตูหินยักษ์ปรากฏขึ้น แรงกดดันที่ไม่อาจอธิบายได้เข้าห่อหุ้มโลกทั้งใบ เหล่าเซียนทั้งหมดที่ยังอยู่ในภวังค์ของแยกราตรีพลันถูกปลุกขึ้นมาอย่างน่าตกใจ ทว่าวินาทีต่อมาพวกเขาก็ตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเห็นประตูหินยักษ์เหนือท้องทะเล สัมผัสเวลาแต่ละช่วงเต็มไปทั่วจิตใจแต่ละคน
ชายชราผมขาวที่กำลังพุ่งเข้ามาพลันหยุดชะงักและอ้าปากค้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ตอนที่เขาเห็นวิชาแยกราตรีเขาคิดว่านั่นเป็นขีดจำกัดของวิชาหวังหลินแล้ว ทว่าพอเห็นประตูหินเขาถึงกับสั่นสะท้าน ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาจึงสัมผัสถึงพลังแห่งกาลเวลาได้ชัดเจนและเกิดความรู้สึกแย่ๆ
‘เขามีวิชามากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?! ตั้งแต่เขามาที่นี่ยังไม่ได้นำสมบัติชิ้นใดออกมาเลยด้วยซ้ำ เขาแค่พึ่งใช้วิชาเองเท่านั้น การแข็งแกร่งได้เพียงแค่วิชาเซียน ไม่ใช่ว่าเขาทรงพลังเกินไปหรอกหรือ?’ ชายชราสูดหายใจลึก เจตนาต่อสู้ในแววตายิ่งเพิ่มพูน ด้วยตำแหน่งในสำนักอมตะ เขาไม่อาจถอยได้!
ระดับบ่มเพาะของเขาเองก็ไม่อนุญาตให้ถอยโดยไม่ได้ต่อสู้ แม้จะคิดว่ามีความรู้สึกอันคลุมเครือต่อโลกหลังประตูก็ตามที
ยามที่ประตูหินทะลวงผ่านท้องทะเลขึ้นมา หวังหลินไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่ประตูหินยกเขาขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับเขากำลังเฝ้าดูชีวิตทั้งหมด!
แววตาหวังหลินสงบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่ก็แฝงกลิ่นอายความโดดเดี่ยวไปด้วย กลิ่นอายนี้เหมือนกับแดนสวรรค์วายุ มันเข้มข้นจนไม่จางหายไปเลย ขณะเดียวกับที่ประตูหินปรากฏ สายลมกรรโชกพัดผ่านท้องทะเล ผ่านประตูและวนอยู่ในโลก
ร่างของหวังหลินบนประตูหินให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง เขายืนอยู่ที่นั่นราวกับอยู่บนจุดสูงสุดของโลก แต่ด้านข้างเขามีแค่ท้องฟ้า เป็นตัวตนที่โดดเดี่ยวยิ่ง
ความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวเช่นนี้รุนแรงยิ่งราวกับมันอยู่กับเขามานานหลายพันปี
ชายชราผมขาวเข้ามาใกล้ แสงสีแดงรอบตัวส่องสว่างเจิดจ้า รัศมีสีแดงด้านหลังกดเข้าหาหวังหลินด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง!
ขณะที่ชายชราเคลื่อนไหว ท้องทะเลร้องคำราม คลื่นซัดโหมกระหน่ำ สนามรบเริ่มพังทลายย่อยยับ
สนามรบเป็นแค่ส่วนเล็กของดวงดาวที่แตกสลาย มันเปลี่ยนกลายเป็นเศษดินเศษหิน แม้กระทั่งท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวราวกับมันกำลังถูกชายชราที่พุ่งมาฉีกเป็นชิ้นๆ!
สิ่งที่ตกตะลึงยิ่งก็คือในวินาทีนั้น จุดแสงสีแดงสว่างปรากฏขึ้นตรงกลางหน้าผากของคนเกือบทุกคน จุดเหล่านี้เป็นสีแดงโลหิตราวกับมีแก่นแท้โลหิตอยู่ในร่าง
มีเพียงแค่เซียนไม่กี่คนที่สามารถกระตุ้นพลังดั้งเดิมของตนเองเพื่อบังคับต่อต้านจุดแสงนี้ไม่ให้ปรากฏขึ้นมาได้เท่านั้น!
จุดโลหิตคือกฎของชายชราผมขาว ชั่วขณะนี้เองระดับบ่มเพาะของเขาระเบิดขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่มันสร้างความปั่นป่วน มันยังสร้างผลกระทบให้กับเซียนรอบๆไปด้วย!
ชายชราร้องคำรามพุ่งเข้าหาหวังหลิน ทว่ายามที่เขาเข้าไปใกล้ หวังหลินลืมตาขึ้นมาราวกับตื่นจากการหลับใหลมานานหลายปี สายตาจรดลงบนชายชราผมขาว
เมื่อสายตาหวังหลินร่อนลงไป ความคิดชายชราสั่นไหว ตอนนี้เขารู้สึกชัดเจนยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงขนาดเล็กต่อโลกนี้ไม่คาดคิดว่าจะเป็นกาลเวลา!
“ห้วงเวลา…” หวังหลินเอ่ยน้ำเสียงต่ำและสงบนิ่ง วินาทีนั้นพอคำพูดเข้าถึงจิตใจของชายชรามันก็ส่งผลกระทบต่อความทรงจำ ทำให้ชายชราหยุดชะงัก แววตาเต็มไปด้วยความสับสนและดิ้นรน
วิชาห้วงเวลาไม่ได้โจมตีร่างกายหรือวิญญาณ แต่เป็นความทรงจำ!
ระหว่างการเดินทางมาที่สำนักอมตะ หวังหลินค้นพบว่าวิชาห้วงเวลานั้นมีผลลัพธ์คล้ายคลึงกับวิชากระจายเต๋าที่ชายชราในดินแดนเจ็ดสีใช้ออกมา!
หนึ่งลมหายใจคือหนึ่งร้อยปี!
โลกดูกลายเป็นนิรันดร์ ห้วงเวลาเงียบสงัดและผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว หนึ่งลมหายใจ หนึ่งลมหายใจ…พริบตาเดียวได้ผ่านไปสิบลมหายใจ
รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าชายชราผมขาวหายไปจำนวนมาก แววตาดิ้นรนยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีก วินาทีนี้เขาจมดิ่งไปในความทรงจำของพันปีที่ผ่านมาเหมือนหนังสือกำลังพลิกกลับ…
สิ่งที่เคลื่อนตามไปด้วยไม่ใช่เพียงระดับบ่มเพาะของชายชราเท่านั้นแต่เป็นความทรงจำของเหล่าเซียนรอบด้านเกือบแสนคน ความทรงจำหนึ่งพันปีถูกย้อนกลับไปในเวลาเพียงแค่สิบลมหายใจ
กาลเวลาอันนิรันดร์ปรากฏขึ้นในโลกราวกับเป็นมือยักษ์ปลดปล่อยความยุ่งเหยิง
เวลาหนึ่งลมหายใจผ่านเลยไป พริบตาเดียวอีกสิบลมหายใจก็ผ่านไปแล้ว…
ความทรงจำสองพันปีถูกพลิกกลับโดยไม่รู้ตัว ชายชราผมขาวดิ้นรนพลางโดนย้อนความทรงจำกลับไปสองพันปีในชั่วระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่ยี่สิบลมหายใจ
ระดับบ่มเพาะของเขาค่อยๆถูกหยุดเอาไว้ ความมีชีวิตชีวาที่น้อยลงค่อยๆหายไปด้วย ชายชราเห็นศิษย์รักของตัวเองตายไปในรอยแยกอวกาศเมื่อสามพันปีก่อน เขาต่อสู้กับกองทัพอสูรที่สำนักมาร ไม่เหลือแม้แต่เศษซากและถูกส่งกลับมาเพียงแค่กระบี่หักเล่มเดียว
พอเขาเห็นกระบี่หัก ความเศร้าเมื่อตอนนั้นเข้าสู่จิตใจเขาอีกครั้ง เขานึกย้อนไปถึงสี่พันปีก่อนและห้าพันปีก่อน ก่อนที่จะบรรลุขั้นสูงสุดของทะลวงสวรรค์ระดับแรก เขาดิ้นรนปิดด่านฝึกตนพลางต่อต้านการเน่าเปื่อยของขั้นทะลวงสวรรค์ระดับแรกที่เกิดต่อร่างกาย
ขณะที่ความทรงจำไหลผ่าน ดูเหมือนเขาจะกลับไปยังอดีต ความเจ็บปวดเต็มไปทั่วทั้งร่างกำลังโจมตีใส่เขา ระดับบ่มเพาะเขากลับไปสู่จุดเดิมเมื่อห้าพันปีก่อนและค่อยๆหายไป
เขาเห็นตัวเองร้องคำรามอย่างเจ็บปวดและปล่อยเสียงคำรามไม่ยินยอม เสียงคำรามดังกึกก้องในใจทำให้แววตาเขาโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น
“ข้าบ่มเพาะมาหมื่นเก้าพันปี ข้าไม่ยอมก้มหน้าต่อทะลวงสวรรค์แรก! ข้าฆ่าผู้คนไปจำนวนมากและรู้แจ้งกฎแห่งโลหิต ข้าไม่ยอมให้ตัวเองตายแบบนี้!!!”
ขณะที่ชายชราผมขาวร้องคำราม เสียงแตกร้าวดังขึ้นมารอบตัว เขากระอักโลหิตและรีบล่าถอย ทะลวงเป็นอิสระจากวิชาห้วงเวลาได้!
ขณะที่ล่าถอย แสงสีแดงทั้งหมดบนเหล่าเซียนรอบๆพลันกะพริบและลอยเข้าหาชายชรา ทว่าเขาถอยร่นพลางใบหน้าซีดเซียว มองดูหวังหลินด้วยความตกใจและตื่นกลัว!
“นี่มันวิชาแบบไหนกัน?!” เขาไม่เคยเจอวิชาพิสดารเช่นนี้มาก่อนในชีวิต วิชานี้มันเหนือล้ำเกินจินตนาการ หากไม่ใช่ว่าเขาทะลวงเป็นอิสระได้ในช่วงวิกฤตและป้องกันการย้อนทวนเวลาหมื่นปีได้ เขาคิดถึงผลที่ตามมาอย่างหวาดกลัว!
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าหวังหลินนั้นลึกล้ำเกินจะหยั่งถึง เขาไม่มีเจตนาอันใดจะสั่งสอนบทเรียนให้หวังหลินอีกแล้ว เขารู้สึกแต่เพียงความหวาดกลัวไร้ที่สิ้นสุดเท่านั้น!
หวังหลินแววตาสงบนิ่งแต่ถอนหายใจ เขาพึ่งจะรู้แจ้งวิชาห้วงเวลาและยังไม่สามารถทำให้มันสมบูรณ์แบบ เขาไม่มีพลังดั้งเดิมเหลืออยู่มากนักและอีกฝ่ายก็แข็งแกร่งเกินไป การย้อนเวลาได้ห้าพันปีถือเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถกักขังชายชราผมขาวเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตามหวังหลินมั่นใจว่าวิชานี้ได้ทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวไปแล้วแน่นอน!
……………………………….