Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1284

Cover Renegade Immortal 1

1284. ต้นกำเนิดของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

หวังหลินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น…

วินาทีที่เขาก้าวเข้าสู่ประตูในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เพียงหนึ่งก้าวเขาก็เข้าสู่โลกอีกใบ! สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดวงดาวไร้ก้นบึ้ง ไม่มีสายหมอก มีแต่เพียงดวงดาวสุกสกาวดูสวยงามยิ่ง

ดวงดาวแพรวพราวนี้ช่างเงียบ เงียบมาก…

เป็นที่ที่หวังหลินไม่คุ้นเคยเช่นกัน

“เจ้าเป็นคนที่สาม…ที่เข้ามาในประตูนี้…” เสียงพึมพำดังกึกก้องในท้องฟ้าแพรวพราว เหล่าดวงดาวเริ่มจะส่องสว่างและมีแสงปะทุขึ้นมาจากพวกมัน แสงควบแน่นเบื้องหน้าหวังหลินจนก่อเกิดเป็นวังวนแจ่มจรัส

“เข้ามาสิ…คนที่สามที่มีโชคชะตากับข้า…”

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ขบคิดเล็กน้อยและจึงก้าวเข้าไปในวังวน พอเข้าไปวิญญาณเขาก็หายไปและปรากฏตัวอีกครั้งอยู่ในท้องฟ้าสีคราม พื้นดินสีดำ!

ในประตูมีดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง พื้นดินสีดำมีใบหญ้าพลิ้วไหวไปตามสายลม

ท้องฟ้าสีครามไร้เมฆหมอก ราวกับทะเลกลับหัวที่อยู่ในอากาศ

เบื้องหน้าเขามีต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่งสูงเทียมสวรรค์และมีแสงสีเขียวโผล่ออกมาจากต้นไม้ แต่มันไม่อาจซ่อนความเสียหายที่ต้นไม้เผชิญไปได้

ต้นไม้ยักษ์นี้ดูเหมือนจะสูญเสียพลังชีวิตทั้งหมดและกำลังตายลงอย่างช้าๆ

หวังหลินมองต้นไม้ยักษ์ด้านหน้าและสูดลมหายใจหนาวเหน็บเข้าปอด

เสียงพึมพำดังออกมาจากต้นไม้ยักษ์และดังกึกก้องทั่วโลก “ต้นไม้นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากสมบัติขอบเขตดับสูญของชีวิตข้า มันคือเหตุผลที่ข้ามีชีวิตรอดได้กระทั่งถึงตอนนี้…”

หวังหลินความคิดสั่นเทาพลางมองต้นไม้ยักษ์ มันใหญ่มากพอจะแข่งขันกับเหล่าเทพโบราณได้ทีเดียว

“ข้ามาจากแดนสวรรค์โบราณ ข้าลืมชื่อตัวเองไปนานแล้ว หลังจากมาถึง ผู้คนก็เรียกข้าว่า ‘จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก’ หรือ ‘ผู้ปกครองดินแดนปิดผนึก…’ มีสองคนมาที่นี่ก่อนเจ้า ข้าไม่รู้ชื่อเขาแต่การมาที่นี่ได้นั่นหมายถึงมีโชคชะตากับข้า ข้ามอบวิชาเต๋าชั้นยอดให้กับคนแรกและความเข้าใจแห่งโลกของข้า…”

“คนที่สองที่เข้ามา ข้ามอบร่างแห่งกฎไปครึ่งส่วน ทำให้เขามีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม!”

“เจ้าเป็นเซียนคนที่สามที่เข้ามาที่นี่ เจ้าต้องการสิ่งใด…”

หวังหลินขบคิดเงียบๆอยู่สักพัก เขามองต้นไม้ยักษ์และถามขึ้นมา “ท่านบังคับให้ฉุยต้าวถอยไปใช่ไหม?”

“หากเจ้าไม่พบหินหยกของข้า ข้าคงไม่สามารถช่วยเจ้าได้ แต่เจ้าพบหินหยกข้า ดังนั้นข้าจึงใช้มันช่วยเจ้าได้เล็กน้อย…ขี้ข้านั่นทรยศข้า แต่ข้าให้เครื่องรางเขาไว้เพื่อปกป้องตัวเองได้สามครั้ง ครั้งสุดท้ายได้ใช้ไปแล้ว นั่นทำไมข้าถึงได้โจมตีออกไป…”

หวังหลินระงับความตกตะลึงในใจและเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น “ทำไมท่านถึงข่วยข้า?”

คำพูดของหวังหลินทำให้ต้นไม้ยักษ์เงียบเสียง หลังจากนั้นสักพักก็มีเสียงกระซิบดังออกมาจากต้นไม้

“นานมากแล้วตั้งแต่ยังไม่มีเขตแดนชั้นในและเขตแดนชั้นนอกของดาราจักรโบราณ ในดาราจักรดวงดาวอันไร้ขอบเขตแห่งนี้มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งเรียกกันว่าแดนสวรรค์โบราณ แดนสวรรค์โบราณนั้นปกครองดาราจักรดวงดาวโบราณและเป็นที่สนใจของทุกคน ทุกสิ่งมีชีวิต หลังจากบรรลุระดับบ่มเพาะสูงส่งเพียงพอจนเปิดมิติของตนเองได้ ก็จะสามารถเข้าสู่แดนสวรรค์โบราณได้และกลายเป็นสมาชิกของแดนสวรรค์โบราณ…

“ทุกอย่างเคลื่อนไหวตามที่มันควรจะเป็น แต่มีสมบัติหนึ่งที่โผล่ออกมาจากดาราจักรดวงดาวแห่งอื่นที่ทำให้เกิดกลียุค!”

“กลียุคครั้งนี้ทำให้แดนสวรรค์โบราณแบ่งออกเป็นสองส่วนและสลายไป เส้นทางสู่แดนสวรรค์ถูกปิดเอาไว้และทางเดินทั้งหมดถูกตัดขาด…”

“ด้วยเหตุนี้ดาราจักรโบราณจึงแบ่งออกเป็นเขตชั้นนอกและเขตชั้นในและมีค่ายกลดินแดนปิดผนึกถูกสร้างขึ้นเอาไว้ ส่วนของแดนสวรรค์โบราณด้านนอกกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนชั้นนอก…และส่วนพื้นที่ชั้นในเป็นอีกส่วนของแดนสวรรค์โบราณ ข้ามาจากที่นั่น…”

ขณะที่หวังหลินฟังเสียงเก่าแก่โบราณ คลื่นกระแทกแพร่กระจายไปในความคิด ความลับนี้รู้กันอยู่ไม่กี่คน เขาไม่เคยคิดว่าดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นในจะเชื่อมกันเช่นนี้!

แดนสวรรค์โบราณแบ่งออกเป็นสองส่วนและทำให้ดาราจักรโบราณแบ่งออกเป็นเขตชั้นนอกและเขตชั้นใน!

“แดนสวรรค์โบราณได้รับความเสียหายอย่างหนักในกลียุคครั้งนั้น ผู้คนตายกันไปนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์ซึ่งอยู่มาตั้งแต่เริ่มต้นยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสมบัตินั้น เขาเข้าไปปิดด่านฝึกตนและไม่ถามเรื่องราวภายนอกอีก อย่างไรก็ตามคนของแดนสวรรค์โบราณที่เข้าไปในดินแดนชั้นนอกมักจะสอดส่องมาที่ดินแดนชั้นในภายใต้การนำของนางสนมเทพทั้งเก้า สิ่งที่พวกเขาต้องการคือสมบัตินั้นและเส้นทางสู่แดนสวรรค์โบราณ!”

“ส่วนข้าที่เป็นเทพเต๋าโบราณ ลงมาจากแดนสวรรค์โบราณเพื่อปกครองดินแดนชั้นในให้ต่อต้านกับการรุกรานของดินแดนชั้นนอกและต่อสู้กับพวกเขา! แต่ก่อนที่ข้าจะทำงานได้สำเร็จ ข้าถูกทาสเต๋าของข้าทรยศ ข้าบาดเจ็บสาหัสจากคนของดินแดนชั้นนอกรวมถึงพวกเทพโบราณจากดินแดนชั้นนอกด้วย ท้ายที่สุดนางสนมเทพคนหนึ่งโจมตีทำลายร่างกายข้า ข้าถูกบังคับให้เข้าไปในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าและคงอยู่เป็นจิตวิญญาณสมบัติ…”

ความคิดหวังหลินสั่นสะท้าน และรีบถามขึ้นมา “เช่นนั้นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคืออะไร?”

“มันคือสิ่งที่ทำให้เกิดกลียุคครั้งใหญ่ในแดนสวรรค์โบราณ สมบัติที่มาจากดาราจักรดวงดาวแห่งอื่นนั่นก็คือลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า แต่สมบัติจริงๆคือเข็มทิศ มีสมบัติสวรรค์ทั้งเก้าชิ้นอยู่บนเข็มทิศนี้ ตอนที่เราได้เข็มทิศมามันเหลืออยู่เพียงสามชิ้นเท่านั้นและลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าถูกวางไว้ตรงกลาง แดนสวรรค์โบราณของเขตชั้นในได้สองชิ้นที่เหลือ ข้าถูกตั้งให้เป็นผู้ปกครองดินแดนชั้นในและชั้นนอก ดังนั้นจักรพรรดิเทพจึงมอบลูกปัดนี้ให้ข้า…”

“แต่ว่าข้าไม่ใช่เจ้าของคนแรกของลูกปัด ในการศึกษาตลอดชั่วอายุคนของข้า ข้าพบว่ามีเจ้าของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอีกสองคน แต่ละคนทรงพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้า…พวกเขาต้องเป็นเซียนจากดาราจักรดวงดาวแห่งอื่น!”

“แล้วก็ ข้าเดาว่าลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคือส่วนสำคัญที่สุดของเข็มทิศ! น่าเสียดายที่จักรพรรดิเทพปิดด่านบ่มเพาะ ไม่เช่นนั้นเขาคงก้าวหน้าและค้นหาความลับสุดท้ายของลูกปัดเจอได้ ซึ่งก็คือตำแหน่งของดินแดนเทพโบราณ!”

‘ดินแดนเทพโบราณ!’ หวังหลินได้รับความลับที่ตกตะลึงยิ่งกว่า แต่ละอันน่าตกตะลึงจนมาถึงอันสุดท้าย เขาพึ่งได้ยินต้นกำเนิดของแดนสวรรค์โบราณและลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ตอนนี้เขากำลังได้ยินเรื่องดินแดนเทพโบราณ!

“ดินแดนเทพโบราณน่าจะมีอยู่…ข้าไม่รู้เรื่องนั้นมากนัก…ปัจจุบันข้าควรตายไปแล้ว แต่ภารกิจข้าไม่เสร็จสิ้น จักรพรรดิเทพยังปิดด่านบ่มเพาะและแดนสวรรค์โบราณยังปิดผนึก เราต้องไม่ปล่อยให้คนของเขตชั้นนอกเข้าไป ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาจะคาดไม่ถึง!”

“อีกสองคนที่เข้ามาที่นี่ไม่ได้กลายเป็นเจ้าของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า พวกเขาเป็นแค่หมากของข้าเท่านั้น แต่เจ้านั้นต่างกัน เจ้าทำให้ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้ายอมรับเจ้าเป็นเจ้านายของมัน ดังนั้นข้าจึงต้องการช่วยเจ้า ข้าต้องการให้เจ้ากลายเป็นจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกและคุ้มกันดินแดนปิดผนึกให้ข้า ต่อต้านผู้รุกรานของดินแดนชั้นนอกจนกระทั่งจักรพรรดิเทพออกมาจากการปิดด่านบ่มเพาะ จนกระทั่งผนึกสู่แดนสวรรค์โบราณเปิดออก!”

“หลังจากข้าช่วยเจ้า ข้าจะสลายไปอย่างสมบูรณ์ ข้าจะเปลี่ยนกลายเป็นสมบัติขอบเขตสวรรค์และผสานเข้ากับหัวใจแห่งค่ายกลดินแดนปิดผนึกเพื่อทำให้มันแข็งแกร่งและทำให้เจ้ามีเวลาเติบโต!”

“หากเจ้าสามารถทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ให้สำเร็จและส่งลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าให้จักรพรรดิเทพตอนที่เขาตื่นขึ้น เจ้าจะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ ความต้องการทั้งหมดของเจ้าจะกลายเป็นจริง แม้แต่การที่เจ้าอยากให้สตรีในโลงศพฟื้นคืนมาก็ตาม!”

หวังหลินพลันเงยศีรษะขึ้นมาจ้องมองต้นไม้ยักษ์

‘คนผู้นี้เฝ้าดูข้ามานานและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้า เขารู้ว่าข้าต้องการชุบชีวิตหวานเอ๋อร์ เขาจึงใช้วิธีนี้เพื่อให้ข้ายอมจำนนแก่คนที่เรียกว่าจักรพรรดิเทพ!’

‘เขาต้องการให้ข้าส่งลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าตอนที่จักรพรรดิเทพตื่น เมื่อข้าเชื่อฟัง ข้าจะตกอยู่ในการควบคุมของจักรพรรดิเทพอย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างจะอยู่ในการควบคุมของเขา หากเขายินดี เขาสามารถคืนชีพหวานเอ๋อร์ได้ และหากไม่ เขาก็ฆ่าเราทั้งคู่ ข้าจะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร? หากข้าต้องการจะไปก็ต้องเจรจากับเขาอยู่ดี เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อข้า เขาเป็นแค่คนหัวโบราณคร่ำครึ หลังจากฉุยต้าวทรยศเขา เขาก็ยังรักษาคำพูดที่จะปกป้องฉุยต้าวไว้สามครั้ง พลาดโอกาสฆ่าคนทรยศจนกระทั่งตอนนี้!’

หวังหลินขบคิดชั่วครู่และถามขึ้นมา “ท่านให้อะไรกับข้าได้บ้าง?”

ขณะเอ่ยออกไป ต้นไม้ยักษ์สั่นเทาและผุดแรงกดดันน่าตกตะลึงออกมา กลิ่นอายนี้เป็นเหมือนพายุและพุ่งตรงหาหวังหลิน หลังจากล้อมรอบเขามันจึงดึงหวังหลินตรงเข้าสู่ต้นไม้ยักษ์

“ข้าศึกษาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้ามานานหลายปี มีความลับหลายอย่างที่นี่และข้าไม่อาจค้นพบได้หมด แต่ข้าค้นพบความสามารถในการแยกพลังจากดาราจักรโบราณชั้นนอกและประทับมันไว้บนวิญญาณเจ้า มันจะไม่ทำให้เจ้าก้าวเข้าสู่สวรรค์ แต่จะทำให้เจ้าเข้าสู่ขอบเขตเต๋า ส่วนเจ้าจะได้อะไรนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า” เสียงเก่าแก่ดังสะท้อนออกมาสั่นสะเทือนโลกก่อนจะค่อยๆหายไป

วันเวลาย้อนคืนกลับมาและเผยกงล้อแห่งเวลา ฤดูใบไม้ร่วงจากไปและฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง ดวงตะวันและจันทราสลับเปลี่ยนหมุนเวียน เวลาอีกสองปีผ่านไป บนแผ่นดินป่าในเขตระดับสอง หลี่เฉียนเหมยอยู่ข้างๆรูปปั้นหวังหลินมาเกือบหกปีแล้ว

หกปีถือว่าช้ามากสำหรับคนธรรมดาแต่ก็เป็นเหมือนคำว่า “สิบปีในพริบตาเดียว” หกปีไม่ได้มากนักแต่ก็ไม่น้อยไป

สำหรับเซียนนั้น หกปีเหมือนกระดิกนิ้วและมันคงผ่านไปในเสี้ยวนาที อย่างไรก็ตามหลี่เฉียนเหมยใช้เวลาทั้งหกปีเพื่อย้อมรูปปั้นหินด้วยเลือด หกปีนี้เหมือนกับหกร้อยปี…

แม้นางจะยังสวยงามแต่นางดูป่วยไข้และบอบบางขึ้นมาก อย่างไรก็ตามดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ

ตอนนี้นางพักน้อยกว่าสองชั่วโมงต่อวัน นางใช้เวลาสองชั่วโมงนี้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อบ่มเพาะให้ฟื้นคืนชีวิตมาให้มากก่อนจะชโลมรูปปั้นอีกครั้ง

รูปลักษณ์ของนางเป็นเหมือนดอกไม้ร่วงโรย ใครก็ตามที่เห็นนางคงรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version