Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1382

Cover Renegade Immortal 1

1382. สหายเก่า

“จักรพรรดิน้อย!” เมื่อหัวหน้าเผ่าได้ยินเช่นนี้ ราวกับค้อนทุบใส่หน้าอก สีหน้าซีดเผือดมองดูหวังหลิน แววตาขมขื่นและตกตะลึง

ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ปรมาจารย์น้อยแห่งเผ่ามังกรหุ้มเกราะก็ซีดเผือดเช่นกัน ความคิดสั่นคลอนและตกตะลึงไม่เชื่อที่ได้ยิน

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง สีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนไป สายตากวาดไปทางผู้ส่งสาส์น

“จักรพรรดิน้อย?”

ผู้ส่งสาส์นยังคงมีรอยยิ้มเคารพอยู่บนใบหน้าและรีบเอ่ยขึ้น “ท่านจักรพรรดิมีคำสั่งลงมาที่ดินแดนตกสวรรค์แล้ว ตอนนี้ท่านคือจักรพรรดิน้อยที่ท่านจักรพรรดิแต่งตั้งและอยู่เหนือเหล่าผู้อาวุโสตกสวรรค์ทั้งสิบสาม!”

หวังหลินมีท่าทีเป็นปกติและไม่ได้กล่าวอันใด

ตอนนี้หัวหน้าผู้อาวุโสกุมเม็ดยา มองดูอย่างขมขื่น หลังจากเงียบไปสักพักจึงเอ่ยต่อผู้ส่งสาส์น “ผู้ส่งสาส์น…ท่าน ไว้ชีวิตลูกชายข้าได้หรือไม่…”

รอยยิ้มของผู้ส่งสาส์นหายไป สีหน้าเย็นชาอีกครั้ง “ข้ามาที่นี่เพื่อส่งมอบเม็ดยาและส่งต่อข้อความของท่านจักรพรรดิเท่านั้น ชะตาของคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับข้า”

แววตาหัวหน้าเผ่าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขามองดูลูกชายที่ยังตกตะลึง จากนั้นมองหวังหลินด้วยความเคารพและเอ่ยกระซิบอย่างขมขื่น “ท่าน…ท่านจักรพรรดิน้อย เป็นความผิดข้าที่ไปล่วงเกินท่าน ได้โปรดปล่อยลูกชายข้าไป ข้ารับผิดชอบทุกอย่าง ท่านจักรพรรดิน้อย โปรดเมตตา…”

ขณะเอ่ยขึ้นมานั้น พลันเงยศีรษะขึ้นและยื่นมือไปทางลูกชายที่กำลังตกตะลึง จากนั้นส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน พ่อเขากุมร่างตัวเองและใส่พลังดั้งเดิมเข้าไป เส้นชีพจรถูกทำลายไปพร้อมกับวิญญาณดั้งเดิม ระดับบ่มเพาะสูญสิ้นและกลับคืนเป็นคนธรรมดา!

ความเจ็บปวดรุนแรงออกมาจากร่างปรมาจารย์น้อยแห่งเผ่ามังกรหุ้มเกราะ เขากระอักโลหิต ใบหน้าซีดขาว โลกรอบตัวบิดเบี้ยวเนื่องจากพลังทั้งหมดออกมาจากร่างกายและเขาสลบไปเนื่องจากความเจ็บปวดรุนแรง

หัวหน้าเผ่าถึงกับคุกเข่าลงและอ้อนวอนอย่างเจ็บปวด “ท่านจักรพรรดิน้อย ลูกชายข้าสูญเสียระดับบ่มเพาะและไม่สามารถฝึกฝนได้อีก เขาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อท่านจักรพรรดิ ข้าขอร้องให้ท่านโปรดเมตตาและไว้ชีวิตเขา!”

หวังหลินขบคิดเล็กน้อยและพยักหน้า

หัวหน้าเผ่าเผยใบหน้าขอบคุณ สะบัดแขนขวาเพื่อให้ลูกชายที่ไร้สติไปยังที่ปลอดภัย จากนั้นสูดหายใจลึกและกลืนกินเม็ดยาโดยไม่ลังเล

เม็ดยาหลอมละลายในปาก เปลี่ยนกลายเป็นเพลิงสีดำพุ่งเข้าไปในร่าง เพลิงสีดำปลดปล่อยความรู้สึกชั่วร้ายและเริ่มเผาไหม้ร่างกายอย่างบ้าคลั่ง แม้กระทั่งวิญญาณดั้งเดิมก็เผาไหม้ มองจากภายนอก ร่างกายหัวหน้าเผ่าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่เพลิงสีดำผุดออกมาจากรูขุมขน เขาเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเพลิงสีดำ หลังจากนั้นเพลิงก็หายไป ไม่เหลือร่องรอย!

‘นี่…นี่มันเพลิงอะไรกัน?’ หวังหลินหรี่ตาแคบทันที

ทั่วทั้งดาวเคราะห์เซียนเงียบกริบ หลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ถึงกับตกตะลึง จักรพรรดิเป็นเหมือนเทพเจ้าของที่นี่ ไม่มีใครกล้าท้าทายคำสั่งเขา!

ผู้คนของเผ่ามังกรหุ้มเกราะยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและก้มศีรษะตัวเอง

‘เซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่สี่ในดินแดนชั้นในถือว่าอยู่บนยอดและแม้กระทั่งในดินแดนชั้นนอกยังสามารถเป็นหัวหน้าในเผ่าขนาดใหญ่ได้! แต่ในดินแดนตกสวรรค์แห่งนี้ยังต้องกลืนยาพิษและตายโดยไม่ลังเล…นี่แสดงให้เห็นว่าจักรพรรดิแข็งแกร่งขนาดไหน…เหตุผลที่เขาส่งเม็ดยานี้มาให้หัวหน้าเผ่ามังกรหุ้มเกราะก็เพื่อแสดงให้ข้าเห็นและเตือนอย่างอ้อมๆ ’

การตายของหัวหน้าเผ่ามังกรหุ้มเกราะหมายความว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว ชายวัยกลางคนยิ้มและคำนับฝ่ามือให้กับหวังหลิน “เผ่ามังกรหุ้มเกราะไม่อาจไร้ผู้นำได้ ข้าขอให้ท่านจักรพรรดิน้อยแต่งตั้งผู้นำคนใหม่”

หวังหลินดวงตาส่องสว่างแต่สีหน้าไม่เปลี่ยน แขนขวาชี้ไปสุ่มๆ โดนผู้เยาว์ขั้นส่องสวรรค์อยู่ไกลๆ และเอ่ยขึ้นมา “คนนั้นก็ได้”

ชายหนุ่มยังคงสั่นเทาเนื่องจากการตายของหัวหน้าเผ่าและคำพูดของผู้ส่งสาส์น เขาตะลึงงันไปตอนที่หวังหลินชี้มาแต่จากนั้นเขาเป็นเหมือนคนที่ตกนรกแล้วขึ้นสู่สวรรค์!

การเปลี่ยนแปลงรุนแรงเกินไปจนเขาไม่สามารถตอบสนองได้เลย เขาไม่ได้มีระดับบ่มเพาะสูงที่สุดในเผ่า หากในชีวิตไม่มีเหตุบังเอิญ เขาคงไม่มีวันกลายเป็นหัวหน้าและอย่างมากก็คงเป็นได้แค่ผู้อาวุโส

แต่ตอนนี้หลังจากโดนหวังหลินแต่งตั้ง คลื่นขนาดใหญ่พัดขึ้นมาภายในใจชายหนุ่ม ร่างกายสั่นเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี เขายืนขึ้นอย่างตื่นเต้น ก้าวเท้าออกไปข้างหน้าและคำนับฝ่ามือด้วยความเคารพ “ขอบ…ขอบคุณท่านจักรพรรดิน้อย ตั้งแต่วันนี้ต่อไป เผ่ามังกรหุ้มเกราะจะทำตามคำสั่งท่านทั้งหมด แม้ท่านจะขอให้ทำลาย ผู้น้อย…”

หวังหลินโบกแขนขัดขวางคำพูดของชายหนุ่ม เอ่ยขึ้นเบาๆ “นำเม็ดยามังกรทำลาย ผลึกเพลิงอัคคีและหุ่นเชิดออกมา ข้าต้องการทั้งหมด”

ชายหนุ่มรีบพยักหน้า ลืมเรื่องสามสมบัตินี้ไปได้เลย แม้หวังหลินต้องการวิญญาณดั้งเดิมของสมาชิกเผ่ามังกรหุ้มเกราะ เขาก็คงไม่ลังเลไปเอาให้ การกลายเป็นหัวหน้าเผ่าถือเป็นโชคลาภมหาศาลแก่ชายหนุ่มคนนี้แล้ว!

วินาทีนี้เขาลืมเรื่องการตายของหัวหน้าเผ่าคนก่อนไปเสียสนิท เขาจมไปกับความตื่นเต้นและตั้งใจประจบหวังหลิน

ชายวัยกลางคนคำนับฝ่ามือให้หวังหลินและยิ้มออกมา “ท่านจักรพรรดิน้อย ข้าต้องกลับไปรายงานให้แก่ท่านจักรพรรดิ” เช่นนั้นเขาสะบัดแขนนำหินหยกออกมายื่นส่งให้หวังหลินด้วยความเคารพ

“ท่านจักรพรรดิน้อย มหาจักรพรรดิมอบหินหยกนี้ให้ท่าน มันเป็นตัวแทนที่เทียบเท่ามหาจักรพรรดิลงมาด้วยตัวเอง จะไม่มีใครกล้าเอาเปรียบท่านในดินแดนตกสวรรค์”

“มหาจักรพรรดิยังบอกด้วยว่าท่านจำเป็นต้องมาคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์ในอีกสามเดือน” หลังจากผู้ส่งสาส์นส่งมอบหินหยกให้ เขาคำนับฝ่ามือและหายวับออกไปไกล

หวังหลินถือหินหยกขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด เครื่องหยกนี้สร้างขึ้นจากวัตถุดิบธรรมดามากและมีคำว่า “จักรพรรดิ” อยู่ด้านบน ตัวอักษรเขียนขึ้นมาในคราเดียวและปลดปล่อยกลิ่นอายเก่าแก่ แต่เห็นได้ชัดว่ามีพลังประหลาดโผล่ออกมาจากคำเหล่านั้น

ณ ดาราจักรโบราณภายนอกดินแดนตกสวรรค์ เมื่ออวตารของปรมาจารย์ซือโม่ตายไป ลึกเข้าไปภายในรอยแยกอวกาศที่ปรมาจารย์ซือโม่อยู่ ร่างดั้งเดิมลืมตาขึ้นมา

แสงสว่างเจิดจ้าดุจลำแสงกระพริบผ่านอวกาศ เสียงดังสนั่นกึกก้องราวกับมิติกำลังจะพังทลาย!

กลิ่นอายรุนแรงปะทุออกมา ก่อเกิดเป็นพายุแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

เสื้อผ้าของปรมาจารย์ซือโม่พัดพริ้ว เส้นผมยาวโบกพัด ดวงตามืดมน แสงจากแววตาค่อยๆ หายไปเหลือเพียงความหนาวเย็นและจิตสังหาร

การตายของร่างอวตารไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะมากนัก เขาหลอมร่างอวตารนั้นขึ้นมาเพื่อช่วยทะลวงผ่านตอนที่การบ่มเพาะหยุดนิ่ง ทว่าการตายของร่างอวตารได้ทำลายแผนที่วางเอาไว้มาเนิ่นนาน

เท่ากับการทำลายความพยายามที่ทำมาตั้งแต่อดีต

‘มหาจักรพรรดิแห่งดินแดนตกสวรรค์!!!’ ปรมาจารย์ซือโม่ขบฟันแน่น สีหน้าท่าทางดุดัน

‘มีไอ้เซียนสายฟ้านั่นอีก นอกจากแก่นแท้สายฟาแล้วยังแฝงแก่นแท้เพลิงด้วย!! และมันไปรู้จักชื่อในอดีตของข้าได้อย่างไร?! หรือมันจะมาจากดินแดนชั้นใน!?’ ปรมาจารย์ซือโม่ดวงตาส่องสว่างพลางยกแขนขึ้นและฉีกลง มิติส่งเสียงดังรุนแรงและมีช่องว่างถูกเปิดออก

ปรมาจารย์ซือโม่ยืนขึ้นและก้าวเดินไปพร้อมกับกดแขนขวาลง ส่งเสียงคำราม “ลิ่มเทพเจ็ดสี ปรากฏ!”

แสงเจ็ดสีโผล่ออกมาจากช่องว่าง วินาทีนั้นแสงส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณทำให้ทั่วทั้งมิติห่อหุ้มอยู่ในแสงเจ็ดสี

ลิ่มเจ็ดสีลอยออกมาจากช่องว่างและล้อมรอบปรมาจารย์ซือโม่ ครู่ต่อมาลิ่มเจ็ดสีทั้งหมด 29 ชิ้นกำลังลอยอยู่รอบตัวเขาดุจวงแหวน แสงเจ็ดสีรุนแรงจนไม่อาจเห็นร่างเขาไปแล้ว

‘ลิ่มเทพเจ็ดสีจากราชันย์สามารถฆ่าเซียนขั้นที่สามได้ ข้าไม่อาจเทียบได้กับมหาจักรพรรดิ แต่หากสภาราชันย์รวบรวมเซียนขั้นที่สามทั้งหมดเาน่าจะสามารถฆ่าคนผู้นั้นได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสภาราชันย์!’ ปรมาจารย์ซือโม่สะบัดแขน ลิ่มเจ็ดสีหายไป จากนั้นก้าวเท้าไปข้างหน้าและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เซียนกลุ่มหนึ่งกำลังทะยานผ่านดินแดนตกสวรรค์ พวกเขามีเกือบพันคนและมีระดับบ่มเพาะต่างกันช่วงใหญ่ ใจกลางมีเซียนขั้นที่สองอยู่สิบคนล้อมรอบคนเพียงคนเดียว

เขาสวมเสื้อผ้างดงามมีสง่าราศีและยังเป็นชายชรา รูปร่างหน้าตาดูธรรมดาแต่สีหน้าท่าทางมืดมนยิ่ง

“ท่านกรีด ดาวเคราะห์ของเผ่าแมงป่องทมิฬอยู่ตรงไม่ไกลจากตรงหน้า! เราพบว่าร่างศพแมงป่องหมื่นปีที่ท่านกำลังหาอาจจะอยู่ที่นั่น!”

ชายชราที่อยู่ใจกลางดูท่าทีโอหังและพยักหน้า เอ่ยอย่างภูมิใจ “เยี่ยมมาก หากคราวนี้เป็นจริง พวกเจ้าจะได้ประโยชน์แน่นอน!”

สิ้นคำพูด เซียนรอบด้านทั้งหมดเผยความสุข หากเป็นคนอื่นพูดแบบนี้พวกเขาคงไม่มีความสุขนัก แต่คนที่พูดในตอนนี้คือกรีด!

ผ่านมาเนิ่นนานหลายปี ใครจะไม่รู้จักกรีด?

กรีดไม่เคยไปไหนที่ไม่มีสมบัติ คำพูดนี้ได้รับการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าจากเหล่าเซียน และเขาไม่เคยผิดคำสัญญา!

……………………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version