1393. เจ็ดสีอีกครั้ง 1
เสียงกรีดร้องของนางรุนแรงและโหยหวน ความหวาดกลัวมีมากมายมหาศาล ราวกับชายคนนี้ทำร้ายนางมากถึงแม้ความทรงจำจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ นางได้แต่กรีดร้องโหยหวน
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของสตรีชุดเงินไม่ใช่สิ่งที่หวังหลินจะคาดคิดและเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นจากนางมาก่อน หวังหลินรีบลุกขึ้นและเก็บรูปแกะสลักกลับไป
ส่วนนางถอยไปที่ขอบถ้ำแล้ว ร่างกายเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือล้นและสั่นเทาอย่างรุนแรง ใบหน้าขาวซีด เพียงแค่ชำเลืองสายตามองดูเหมือนนางเป็นเรือโดดเดี่ยวในมหาสมุทรโหมกระหน่ำและน่าสงสารยิ่ง
หวังหลินกำลังจะเคลื่อนร่างเข้าไปแต่นางเงยหน้าขึ้น แผดเสียงด้วยควาดกลัวรุนแรงถึงขีดสุด “อย่าเข้ามา!”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสูญเสียและทำอะไรไม่ถูก แฝงความไม่ไว้ใจทุกอย่างในโลกใบนี้ ตอนนี้นางกระทั่งไม่เชื่อใจหวังหลิน
หวังหลินยืนสำนึกผิดอยู่เงียบๆ เขาต้องการรู้ตัวตนของรูปแกะสลักแต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้นางแสดงความหวาดกลัวขนาดนี้
เสียงร้องไห้ดังออกมาและหยาดน้ำตาสองสายไหลลงบนแก้ม หยาดน้ำตาหยดเป็นเสียงเบาๆ ลงบนพื้น
หยดน้ำตาเจิ่งนองอยู่บนพื้นจนเกิดเป็นรอยเปียก
“อย่าเข้ามา…อย่าเข้ามา…ข้าไม่ได้ทำผิดพลาด…ข้าไม่ได้เปิดประตู…ข้าไม่ได้…” นางกัดริมฝีปาก แผ่นหลังต้านกับผนังถ้ำและค่อยๆ กอดเข่า หยาดน้ำตาไหลไม่หยุดพร้อมกับไหล่ที่สั่นเทา ใครที่เห็นคงรู้สึกถึงความน่าสงสาร
หวังหลินขบคิดสักพักจึงเอ่ยกระซิบกระซาบ “ข้าขอโทษ…”
นางยังคงร้องกระซิก เสียงร้องไห้ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวรุนแรง
หวังหลินค่อยๆ เข้าไปอย่างช้าๆ มาถึงข้างๆ นาง จากนั้นค่อยๆ คุกเข่าลงและสัมผัสกับปลายผม เอ่ยเสียงเบา “อย่ากลัวไปเลย ตอนนี้เรื่องทั้งหมดผ่านมาแล้ว…ไม่ต้องคิดถึงมัน ในเมื่อเจ้าลืมไปแล้วก็แค่ลืมมันไปเถอะ”
น้ำเสียงของหวังหลินอ่อนโยน นางค่อยๆ สงบนิ่งลงและสั่นเทาเล็กน้อย หลังจากผ่านไปสักพักจึงค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมาแต่แววตายังมีความหวาดกลัวลึกๆ กัดริมฝีปากรุนแรงจนมีโลหิตซึมออกมา
“ข้าไม่ได้เปิดประตู…มันไม่ใช่ข้าจริงๆ …” นางพึมพำพลางมองหวังหลินไปด้วย นอกจากความกลัวแล้วยังมีความสับสนปะปนอยู่ในสายตา
“ข้ารู้ ข้ารู้…” หวังหลินกระซิบแต่แววตาเผยประกายแสงประหลาด เห็นชัดว่านางรู้จักคนในรูปแกะสลักและดูเหมือนจะเคยติดต่อกันมาก่อนด้วย!
คนผู้นี้เป็นใครกัน? หวังหลินดวงตาส่องสว่าง!
หวังหลินเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าไม่ใช่เจ้าที่เปิดประตู อย่าคิดถึงมันอีกเลย”
นางดูเหมือนไม่ได้ยินคำพูดหวังหลิน แววตาเปลี่ยนไปมาระหว่างความสับสนและหวาดกลัว พลางเอ่ยพึมพำต่อไป “ตายกันหมด…ถูกสังหารกันหมด…”
“เถาหยุนก็ตาย…ซื่อลั่วเยว่ก็ตาย…ตายกันหมด…”
“เขามั่นใจให้เราเปิดประตู…ตายกันหมด ข้าก็ตาย…”
หวังหลินขบคิดชั่วครู่จากนั้นมองนางที่สั่นเทา ขบคิดอยู่นานพลันเอ่ยถาม “เขาเป็นใคร?”
“เขาคือ…” สตรีชุดเงินตัวสั่นและหวาดกลัวถึงขีดสุด ขณะเดียวกันสีหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยวพร้อมกับความเจ็บปวดเสียดแทงไปทั่วร่าง
ภายใต้ความเจ็บปวดรุนแรง นางเริ่มกรีดร้องออกมาอีกครั้ง ราวกับนางไม่ต้องการจำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น
ภายใต้ความเจ็บปวดรุนแรง ควันสีเขียวผุดขึ้นมาบนใบหน้าราวกับมันกำลังเคลื่อนอยู่ใต้ผิวหนังอักขระแปลกประหลาดปกคลุมใบหน้าทั้งใบ ใบหน้าที่สวยงามก่อนหน้านี้พลันกลายเป็นเหมือนปีศาจ
นางเงยศีรษะขึ้นทันที ความหวาดกลัวและสับสนหายไปแล้วแต่กลับมีความเฉยชาและไร้เยื่อใยเข้าแทนที่ พลังมหาศาลปะทุออกมาจากร่างกายนางราวกับพายุ
ความคิดหวังหลินสั่นเทาและสัมผัสถึงอันตรายรุนแรงได้ทันที เขาล่าถอยโดยไม่ลังเล ทันใดนั้นนางยกแขนขวาขึ้นมากดลงไปหน้าหวังหลินอย่างรุนแรง
ฝ่ามือนี้ไม่ได้ใช้พลังดั้งเดิมอันใดแต่กลับทำให้ดาวเคราะห์ทั้งดวงสั่นไหว ท้องฟ้าเดิมทีส่องสว่างและแจ่มชัดแต่วินาทีนี้มันกลับมืดดำราวกับย้อมด้วยน้ำหมึก!
ความมืดมิดปกคลุมดวงอาทิตย์และปัดป้องท้องฟ้า ทั้งดาวเคราะห์มืดมิดในชั่วพริบตา! เสียงดังสนั่นกึกก้อง ไม่ใช่สายฟ้าแต่เป็นเสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่าสายฟ้า รอยแยกขนาดใหญ่มหึมาเปิดขึ้น!
รอยแยกนี้แตกต่างจากรอยแยกอวกาศตามปกติ มันลึกล้ำเกินหยั่งถึงจนไม่อาจอธิบาย ราวกับรอยแยกนี้นำทางไปสู่อวกาศอันลึกลับภายในดาราจักรดวงดาว!
วินาทีที่รอยแยกปรากฏขึ้นมา ควันสีเขียวพุ่งเข้าไปในถ้ำของหวังหลิน เขตอาคมไม่สามารถหยุดยั้งควันสีเขียวได้เลย มันพุ่งผ่านและหมุนวนรอบฝ่ามือขวาของนาง
ฟังดูทั้งหมดเชื่องช้าแต่กลับเกิดขึ้นในชั่วพริบตา วินาทีที่นางยกแขนขวาขึ้นมา ควันสีเขียวก็มาถึงแล้ว!
‘นี่มันไม่ใช่พลังปราณ ไม่ใช่ปราณสวรรค์ ไม่ใช่พลังดั้งเดิม ไม่ใช่พลังเทพโบราณ มารโบราณ หรือปีศาจโบราณทั้งสิ้น!!!’ หวังหลินหรี่ตาแคบพลางถอยร่นอย่างรวดเร็ว
แขนขวาของนางสะบัดลงไป ควันสีเขียวรวมตัวกันเป็นฝ่ามือสีเขียวไล่ตามหลังหวังหลิน!
เพียงกะพริบตาฝ่ามือก็เข้าประชิด หวังหลินใช้แขนขวาสร้างผนึกให้พลังดั้งเดิมในร่างกายพรั่งพรูขึ้นมาก่อตัวเป็นวังวนยักษ์เข้าปะทะกับฝ่ามือ
เสียงดังปังรุนแรงและวังวนแตกสลาย ฝ่ามือไม่ได้รับความเสียหายเลยและโดนแทงทะลุผ่านไป
หวังหลินยังคงล่าถอย ใช้การพังทลายของวังวนเพื่อออกจากถ้ำ ดวงตาขวากะพริบสายฟ้าและพุ่งออกไปก่อตัวเป็นอักขระสายฟ้าขนาดยักษ์
สายฟ้าเสริมเก้ารูปแบบหมุนวนอยู่รอบแก่นแท้สายฟ้าทำให้อักขระสายฟ้าเปล่งเสียงดังสนั่นสะเทือนสวรรค์ เหล่าสายฟ้าเสริมหมุนวนและขัดขวางประทับฝ่ามือ
เป็นผลให้เสียงดังสนั่นรุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อนหลายเท่า อักขระสายฟ้าถูกดันกลับไป ส่วนประทับฝ่ามือนั้นควันสีเขียวหายไปจำนวนมากก่อนจะไล่ตามหลังหวังหลินอีกครั้ง
ดวงตาหวังหลินเป็นประกายเยือกเย็น เท้าขวาก้าวถอยหลัง หยุดตัวลงและไม่ถอยอีก แขนขวายื่นออกไปสู่ความว่างเปล่า ปรากฏแสงโลหิตกะพริบวาบและเกิดเป็นกระบี่โลหิตในมือ
ชั่วขณะที่ฝ่ามือเจาะทะลวงอักขระสายฟ้าเข้ามา เขาพ่นลมหายใจเย็นและสะบัดลงไปอย่างรุนแรง!
แสงโลหิตส่องประกายเจิดจ้าราวกับทะเลโลหิตกระหน่ำใส่ประทับฝ่ามือ กระบี่เข้าปะทะกับฝ่ามือจนหยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะก่อนที่จะฟันมันออกเป็นสองส่วน!
ประทับฝ่ามือพลันแตกสลายแต่ควันสีเขียวไม่หายไปด้วย มันควบแน่นเป็นก้อนทรงกลมและกลับคืนสู่รอยแยกในท้องฟ้า
หวังหลินพลันลืมตา รสชาติขมฝาดผุดขึ้นในลำคอพร้อมกับมีโลหิตไหลออกทั้งปากและดวงตา แต่เขาก็รั้งมันกลับไป เหาะเหินขึ้นไปพร้อมกระบี่โลหิตในมือ ขณะที่ควันสีเขียวลอยเข้าหารอยแยก หวังหลินยื่นมือเข้าใส่ทันที!
“ลงมา!”
โลกสั่นไหว ภาพฝ่ามือยักษ์ปรากฏขึ้นมาและคว้าก้อนควันสีเขียว!
เมื่อควันสีเขียวถูกหวังหลินจับเอาไว้ รอยแยกในท้องฟ้าพลันปิดลงทันทีและหายไป ความมืดมิดหายไป แสงกลับคืนมาดังเดิม
หวังหลินปรากฏตัวในถ้ำพร้อมกับถือก้อนควันสีเขียวในมือ สิ่งที่เขาเห็นทำให้ต้องขมวดคิ้ว
สตรีชุดเงินสลบไปแล้ว ใบหน้าถอดสี ร่างกายสั่นเทาโดยไม่รู้ตัวและยังพึมพำ
“มันไม่ใช่ข้า…ข้าไม่ได้เปิดประตู…นั่นไม่ใช่ข้า…”
หวังหลินมาอยู่ข้างๆ นางด้วยท่าทีมืดมน แขนซ้ายสร้างเขตอาคมหลายอย่างเข้าใส่นาง
หลังจากนั้นยังคงขมวดคิ้วมองควันสีเขียวในมือ!
‘นี่คือพลังอีกแบบหนึ่งนอกจากพลังดั้งเดิม! นี่ไม่ใช่พลังของเพลิงนรกานต์หรือแก่นแท้ แต่มันคล้ายคลึงกับแก่นแท้มาก! มันคืออะไรกัน…หรือมันจะเกี่ยวข้องกับรูปแกะสลักนั่นด้วย…สตรีชุดเงินมีความลับมากเกินไป…นางเป็นใครกันแน่!?’
‘หนึ่งในแปดนางสนมจักรพรรดิโบราณ…’ หวังหลินเดาไม่ออก
‘นางบอกว่าเพลิงนรกานต์เป็นพิษ ตอนแรกข้าคิดว่านางบ่มเพาะเพลิงนรกานต์และจบชีวิตลงเช่นนั้น…แต่ตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว!’
‘เป็นไปได้ไหมว่านางจะรู้ว่าเพลิงนรกานต์มีพิษก่อนจะบ่มเพาะมัน?’
ในแววตาหวังหลินกะพริบเย็นเยียบพลางจ้องมองสตรีที่ไร้สติตรงหน้า หลังจากผ่านไปสักพักจึงยกแขนขึ้นมากดลงไปบนหน้าผากนาง ใช้วิชาค้นวิญญาณที่ยังไม่เคยใช้กับนาง!
‘ระหว่างเราไม่มีความเกลียดชังอะไรกันและข้าไม่ได้ต้องการทำร้ายเจ้า แต่เจ้ามีความลับที่สำคัญกับข้ามากเกินไป ด้วยระดับบ่มเพาะของข้าตอนนี้ ตราบใดที่ข้าระมัดระวัง ข้าจะไม่ทำร้ายจิตใจเจ้าระหว่างการค้นวิญญาณ!’
หวังหลินหลับตาลงพลางส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปในหน้าผากนางผ่านมือขวา
………………………………………….