Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1424

Cover Renegade Immortal 1

1424. เต๋าความฝันปลูกฝังปีศาจ

หวังหลินสร้างสามวิชานี้ขึ้นมาในระยะเวลาการฝึกเซียนสองพันปี วิชาแยกราตรีนั้นทรงพลังที่สุดแต่กฎแห่งต้นกำเนิดช่างหายากเกินไป มีเพียงแค่ตอนรุ่งสางเท่านั้นถึงจะสามารถใช้วิชาได้โดยไม่ต้องใช้พลังดั้งเดิมของตนเอง

แม้ด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลินตอนนี้ หากเขาต้องการบังคับใช้แยกราตรี คงต้องเปลี่ยนแปลงอวกาศและดวงดาวรอบตัวให้ถึงเวลาอันเหมาะสม เขาต้องระมัดระวังอย่างมากในการทำสิ่งเหล่านี้

ส่วนห้วงเวลานั้นแม้ในด้านพลังอำนาจจะด้อยกว่าแยกราตรี แต่กฎแห่งกาลเวลาไม่ใช่สิ่งที่สามารถต้านทานได้ การเวลาเป็นทุกอย่างและมองไม่เห็น เทียบเคียงได้กับสรวงสวรรค์

วิชาที่สามของหวังหลินได้มาจากการรู้แจ้งหลังบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับฉุยต้าว บนปากเหวแห่งความตายนั้นหวังหลินเข้าสู่ดินแดนแห่งเต๋าอันลึกลับในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า แม้กระทั่งตอนนี้เขาก็ไม่มั่นใจว่าดินแดนแห่งเต๋าคืออะไรแน่!

ภายในดินแดนแห่งเต๋า มีสองวิชาผุดขึ้นในใจหวังหลิน วิชาแรกคือวิชาที่ทำให้เทียนหยุนบาดเจ็บสาหัสและเป็นวิชาช่วยชีวิตของเทพโบราณแปดดาว ความฝันบรรพกาล!

วิชาที่สองคือวิชาเต๋าวิชาแรกที่เขาเจอ วิชาเต๋ากระจายที่ชายชราแห่งดินแดนเจ็ดสีใช้!

สองวิชานี้ช่างทรงพลังยิ่งและสลักไว้ในความทรงจำส่วนลึกของหวังหลิน!

หวังหลินใช้เวลาอยู่ในดินแดนแห่งเต๋าเป็นเวลาสิบปี เกิดความเข้าใจพลังอันยิ่งใหญ่แห่งวิชาความฝันบรรพกาลและเต๋ากระจาย!

วิชาความฝันบรรพกาลคือวิชาเทพโบราณ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ได้เหมือนวิชาเซียน แม้หวังหลินจะเป็นเทพโบราณแต่ในชีวิตหวังหลินมีอันตรายและวาสนาอยู่ร่วมกันตลอด วิชาเต๋ากระจายที่ชายชราในดินแดนเจ็ดสีใช้ขึ้นมานั้นได้เปิดประตูสู่วิชาเต๋าให้แก่หวังหลิน

อย่างไรก็ตามวิชานี้มันค่อนข้างสูงส่งเกินไป ปกติหวังหลินคงไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ด้วยดินแดนแห่งเต๋า หวังหลินจึงใช้ความมุมานะบากบั่นและความไม่ย่อท้อเพื่อผสานสองวิชาให้กลายเป็นเต๋าความฝัน!

ย้อนกลับไปในทะเลเมฆา ด้านนอกสำนักมาร หวังหลินแค่ทดสอบวิชาใส่ผู้อาวุโสสำนักทะลวงสวรรค์ หากหวังหลินไม่เฉลยให้ จิตใจแห่งเต๋าของผู้อาวุโสคงแตกสลายและตายไปแล้ว!

เต๋าความฝัน แม้ฟังดูซับซ้อนแต่ความจริงคือปีศาจข้างใน!

มันจะเปลี่ยนเจตจำนงแห่งเต๋าของอีกฝ่ายให้กลายเป็นปีศาจภายในและใช้ทำลายจิตใจแห่งเต๋า แม้แต่เซียนที่ไม่ได้บ่มเพาะเต๋าก็ยังมีปิศาจในใจ ซึ่งปิศาจในใจนั้นคือหวังหลิน!

วิชาเต๋าเป็นวิชาที่ลึกลับยิ่ง แม้แต่เซียนขั้นที่สามก็ไม่ได้มีมากนัก แค่มีหนึ่งวิชาก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว แม้แต่คนที่แข็งแกร่งเช่นปรมาจารย์เต๋าความฝันยังมีแค่ไม่กี่วิชาเท่านั้น

วิชาเต๋าความฝันสามารถนำคนผู้นั้นกลับสู่อดีตได้!! แม้มันไม่สามารถกระจายเต๋าให้เหมือนวิชาของชายชราในดินแดนเจ็ดสี หวังหลินสามารถปลูกฝังความทรงจำเท็จเข้าไปได้!

ความทรงจำเท็จนี้จะคงอยู่ตลอดไปในใจและกลายเป็นจริงขึ้นมา! นี่คือการปลูกฝังปีศาจในใจ!

ลมหายใจจากปากหวังหลินคือแก่นแท้แห่งเต๋าของหวังหลินซึ่งเข้าไปสู่เตาหลอมจักรพรรดิ…ปรมาจารย์ซือโม่มองดูเงาด้านหลังตนเองและตกตะลึง เงานี้อยู่กับเขามานานหลายหมื่นปีและคือส่วนหนึ่งของชีวิต ทว่าร่างนี้ไม่เคยพูดสิ่งใดสักคำ!

นาง…นางควรตายไปแล้ว มันคือความเจ็บปวดในใจ…ม้วนแพรสีขาวคือสิ่งที่นางถือไว้ คราบโลหิตนั้นมาจากปรมาจารย์ซือโม่ที่เศร้าโศกและผิดหวัง…ร่างปรมาจารย์ซือโม่สั่นเทา สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาตกตะลึงจนถึงจุดที่ลืมเรื่องกระดูกในมือไปเลย เขาลืมไปแล้วว่าจะวางฝ่ามือลงไป

เปลวเพลิงกลางหน้าผากขนาดเท่าเล็บก้อยส่องประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้น!

“น้องสาว…นั่นเจ้าใช่หรือไม่…เจ้ากำลังพูดใช่หรือไม่…” ปรมาจารย์ซือโม่จ้องมองร่างเงาหญิงสาว ภาพทัศนวิสัยค่อยๆพร่ามัว

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ รีบออกมาเจอข้า พวงกล้วยไม้ม่วงเติบโตที่นี่…”

“พี่ใหญ่ อย่าเพิ่งหลับ วันนี้ท่านสัญญาว่าจะเล่นกับข้า…”

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่…”

ในดาราจักรทะเลเมฆา ในหมู่บ้านคนธรรมดาบนแผ่นดินแห่งหนึ่ง เด็กหญิงอายุประมาณเจ็ดถึงแปดปีกำลังบุ้ยปากพร้อมกับผลักเด็กหนุ่มที่กำลังหลับข้างๆนาง

“หลันน้อย ขอข้าหลับอีกนิด เมื่อคืนข้าไปกับพวกพยัคฆ์น้อยเข้าไปขโมยไข่ ข้าเหนื่อยมาก…” เด็กชายแก่กว่าเล็กน้อย หลังจากลืมตาบ่นพึมพำเขาก็กลับไปหลับ

วันเวลาดูเหมือนจะผ่านไปอีกหลายปี… “พี่ใหญ่ วันนี้เจ้าพยัคฆ์แกล้งข้า ….เขา…เขาลอบจุมพิศข้า!” บนทางเดินของหมู่บ้าน หนึ่งหนุ่มและหนึ่งสาวเดินเคียงข้างกันใต้แสงตะวันที่กำลังตกดิน

หนุ่มผู้เยาว์มีตระกร้ายาแบกอยู่ด้านหลัง เดินและหาวไปด้วย

หญิงด้านข้างสวมชุดดอกไม้และดูอายุราวๆสิบสามสิบสี่ปี นางกุมหญ้าไว้หนึ่ง กำมือ เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับดึงหญ้าเล่นไปด้วย

นางจ้องมองชายหนุ่มและกล่าวเสียงดัง “พี่ใหญ่ ท่านฟังข้าอยู่หรือไม่?!”

“ข้าฟังอยู่ ข้าฟังอยู่ หลันน้อย พ่อและแม่ไม่อยู่แถวนี้ ลุงของเจ้าพยัคฆ์ทำดีกับเรา เจ้าพยัคฆ์ไม่ใช่คนเลวและเจ้าก็ไม่ใช่ผู้เยาว์แล้ว เจ้าแต่งงานกับเขาดีหรือไม่?” ชายหนุ่มผู้เยาว์หาวขึ้นมาพลางมองน้องสาวข้างๆกัน

“ท่าน!! เป็นพี่ประสาอะไร?! ท่านชอบพี่สาวฮงฮงนี่ ท่านอยากให้ข้าแต่งงานกับน้องชายนางเพื่อที่ท่านจะได้มีโอกาสเอาชนะใจนาง! ข้าไม่อยากมีพี่แบบท่านเลย!” หญิงสาวกระทืบเท้าและมองกลับมา

ชายหนุ่มหน้าแดงและหัวเราะพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็หัวเราะพลางเดินไปด้วยกัน

วันเวลาผ่านไปอีกครั้งและผ่านความเยาว์วัย…”พี่ใหญ่ พี่สาวฮงฮงมีคนที่นางชอบแล้ว ท่าน…” หญิงสาวตอนนี้อายุสิบหกและสวยงามดุจดอกไม้บานสะพรั่ง

หญิงสาวตอนนี้มองชายหนุ่มอ่อนแอเบื้องหน้านางและเอ่ยเบาๆ

ชายหนุ่มร่างผอม เขาไม่ได้สูงและมีผิวคล้ำเล็กน้อยราวกับป่วย อย่างไรก็ตามดวงตาส่องสว่างดุจประกายแสงในหัวใจ

ตลอดปลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวรู้ว่าแม้พี่ชายไม่อยากพูดแต่เขาก็ทำดีอย่างยิ่งกับนาง ตราบใดที่นางชอบสิ่งใด พี่ชายก็จะทำทุกอย่างเพื่อเอามันมาให้นาง

ชายหนุ่มยิ้มยิงฟันสีขาว จิตใจดูเหมือนจะดีขึ้นมาก หลังจากได้ยินคำพูดนาง แขนขวาของเขาแตะเส้นผมน้องสาวและเอ่ยเบาๆ “อย่าคิดมาก พี่เจ้าไม่ใช่คนอ่อนแอ ความฝันของพี่คือได้กลายเป็นเซียน หลังจากเจ้าและพยัคฆ์แต่งงานกัน พี่ใหญ่จะออกสำนักมาร่วมงาน!”

นางใบหน้าขึ้นสีและเอ่ยกระซิบ “พยัคฆ์เป็นคนน่าเบื่อมาก ข้าบอกเขาแล้วว่าหากพี่สาวฮงฮงไม่แต่งงานกับท่านพี่ ข้าจะไม่แต่งงานกับเขา!”

ชายหนุ่มยิ้มและเผยสายตาอ่อนโยน เอ่ยกระซิบ “เจ้าเติบโตขึ้นมากและอีกไม่นานก็จะเป็นหญิงสาว อย่าทำอารมณ์เหมือนเด็กๆ ความฝันของพี่ใหญ่คือการเป็นเซียนจริงๆ ข้าไม่ต้องการมีชีวิตที่เหลืออยู่ในสถานที่น่าเบื่อนี่…” ชายหนุ่มเงยศีรษะและมองไปยังท้องฟ้ามืดมิด

“ข้าซือหม่าโม่ จะมีชีวิตที่ไม่ธรรมดา…หลันน้อย รอพี่ใหญ่เจ้าก่อน เมื่อข้าสำเร็จ ข้าจะกลับมาช่วยเจ้าและพยัคฆ์ให้มีชีวิตอยู่ตลอดไป บางทีตอนนั้นข้าคงมีหลาน มีเหลนไปแล้ว ฮ่าฮ่า” ชายหนุ่มดูมีความสุข

หญิงสาวมองชายหนุ่มเบื้องหน้า หลังจากครอบครัวตาย พี่ใหญ่ก็กลายเป็นท้องฟ้าเข้าปกป้องนาง ดวงตาของนางแดงระเรื่อพร้อมกับก้มศีรษะลงและเอ่ยเสียงเบา “พี่ทำสำเร็จได้แน่ หลันน้อยจะรอพี่กลับมา”

“ตกลง เมื่อใดที่เจ้าแต่งงาน พี่ใหญ่จะเตรียมสินสอดจำนวนมากให้เจ้าเลย” ชายหนุ่มส่งสายตาให้น้องสาว เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ไม่กี่วันต่อมาเสียงเพลงแห่งชีวิตชีวาดังสนั่นไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวกำลังสวมชุดแต่งงานและถูกแบกหามอยู่บนเกี้ยวไม้ นางมองไปที่มุมหน้าต่างด้วยสายตากังวล

‘พี่ใหญ่ไปไหน…ทำไมท่านไม่กลับมา…’

เพื่อนบ้านทั้งหมดต่างเข้ามาร่วมงานแต่ง ทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวายิ่ง เหล่าเด็กๆกำลังวิ่งเล่นอยู่รอบๆเกี้ยวไม้ ส่งเสียงเพลงดังขับขาน

คนแก่รอบๆต่างมองดูพิธีด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข

ไม่มีใครสังเกตว่ามีม้ามากกว่าสิบตัวกำลังมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นชายร่างกำยำนับสิบคนท่าทางดุร้าย สนทนากันอย่างออกรส

เสียงควบม้าเหมือนมังกรปฐพีกำลังกู่ร้อง แรงสั่นสะเทือนแพร่กระจายไปสู่หมู่บ้านไกลๆ…ห่างออกไปไม่ไกลมีภูเขาลูกหนึ่งที่ถูกปกคลุมด้วยก้อนเมฆตลอดทั้งปี ลือกันว่าบนภูเขานี้มีกลุ่มเซียนอยู่ ตอนนี้มีชายหนุ่มยิ้มกว้างกำลังเดินลงภูเขาอย่างรวดเร็ว

บนหลังมีตะกร้ายาที่มีสมุนไพรจำนวนมากรวมถึงโสม! โสมนี้ขนาดใหญ่เท่าแขนเด็ก รากของมันยาวเหยียดและเปล่งพลังปราณเล็กน้อย

‘ราชาโสมน่าจะมีอายุสักร้อยปี การได้มาข้าต้องใช้เวลาไปหลายวัน น่าจะเพียงพอเป็นสินสอดให้หลันน้อย’ ชายหนุ่มยิ้งกว้างขึ้น เขาลงภูเขามาได้ครึ่งทาง ทว่าสิ่งที่เห็นทำให้ร่างกายต้องสั่นเทาและยืนนิ่งไม่ไหวติง

เปลวเพลิงมหึมากำลังโหมกระหน่ำอยู่ในหมู่บ้าน!

…………………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version